มัลฟอยตื่นนอนขึ้นมาเร็วเกินควร เขานอนพลิกตัวไปมาพยายามข่มตาให้หลับ ( ยังเหลือเวลานอนอีกเยอะ ) แต่มันไม่ได้ผลในหัวของเขากลับไปคิดเรื่องเฮอร์ไมโอนี่เข้า
เขาพูดกับเธอแรงไปรึเปล่านะที่ห้องพยาบาลนั่น มัลฟอยคิดถึงเรื่องที่เขาเรียกเธอว่าเลือดสีโคลนทั้ง ๆ ที่สัญญากับเธอไว้แล้ว ( แม้จะถูกหลอกให้สัญญาก็เถอะ )
“ยัยนั่นจะร้องไห้ไหมนะ” มัลฟอยคิดในใจ ถ้าตอนนี้มีใครสักคนมาถามเขาว่าเขาแพ้อะไร ก็คงเป็นแพ้น้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่เป็นแน่
มัลฟอยพลิกตัวอีกครั้ง คราวนี้เขาคิดถึงเรื่องแฮร์รี่เข้า “ทำไมต้องยอมให้มันอุ้มง่าย ๆ อย่างนั้นด้วย” มัลฟอยคิด ตอนนี้ความหึงกำลังเข้าครอบงำเขา แต่พอนึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เขาทำไว้กับเธอแล้ว เรื่องที่แฮร์รี่อุ้มเธอนั่นถือว่าเป็นเรื่องเล็ก
“แล้วฉันจะไปคิดถึงยัยนั่นทำไม (วะ)” มัลฟอยคิด แต่ก็สลัดเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่ออกจากหัวไม่ได้อยู่ดี
“ช่วยไม่ได้แฮะ อย่างงี้ใครจะไปนอนหลับ” มัลฟอยพึมพำพลางเดินลงจากเตียง
“ยังไม่เช้าเหรอเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่สะลืมสะลือ มองไปนอกหน้าต่างซึ่งเธอก็รู้ว่าตอนนี้ใกล้เช้าแล้ว เพราะว่าดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้น เธอมองไปรอบ ๆ และก็เห็นแฮร์รี่นอนฟุบอยู่กับเตียงของเธอ
“นอนเฝ้าฉันถึงเช้าเลยเหรอเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่คิดพลางมองดูเขา
แฮร์รี่ดูโตขึ้นมากจากวันที่เธอพบเขาครั้งแรกเขายังเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่เลย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เขาดูสูงขึ้นมาก จนตอนนี้เขาแทบจะกลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัวแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นแฮร์รี่คนเดิมในสายตาของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เอามือลูบผมสีดำของแฮร์รี่
“ทำไมเธอต้องดีกับฉันขนาดนี้ด้วย แฮร์รี่” เธอพึมพำ
“ถ้ามัลฟอยดีกับฉันได้ซักครึ่งของเธอก็ดีสินะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่คิด
ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วแสงแดดสาดส่องเขามาในห้องพยาบาลเฮอร์ไมโอนี่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง “วันใหม่อีกแล้วสินะ” เธอคิด เธอต้องรอดวงอาทิตย์ขึ้น รอวันใหม่อีกกี่ครั้งกันจนกว่าเธอจะลืมมัลฟอยได้
มัลฟอยเดินลงจากหอนอนมาในที่สุด ถึงแม้เขาจะพยายามไม่คิดเพียงไร แต่เมื่อเขาเผลอใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ก็ผุดขึ้นมาในสมองเขาอยู่เรื่อยไป
“เพราะยัยฟูนั่นแท้ ๆ ” มัลฟอยพูดรอดไรฟันและเดินไปตามระเบียงที่ไม่มีคน ตรงไปยังห้องพยาบาล
มัลฟอยเข้ามาในห้องพยาบาลอย่างเงียบเชียบ เขากลัวว่าหากเฮอร์ไมโอนี่ตื่นมาเห็นเขาจะโวยวายขึ้นมาอีก เขาเดินตรงไปที่เตียงที่เธอนอนอยู่แต่เขากลับได้ยินเสียงคนคุยกันในห้องพยาบาล ที่เตียงของเฮอร์ไมโอนี่
“เธอตื่นแล้วเหรอ” แฮร์รี่พูดขึ้น ( เพิ่งตื่น )
เฮอร์ไมโอนี่หันไปดูเขา ( ตอนแรกเหม่ออยู่ ) “ตื่นนานหรือยัง” แฮร์รี่ถาม
“ไม่นานหรอก ซักพักเอง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบมองหน้าเขา “เธอนอนเฝ้าฉันทั้งคืนเลยเหรอ”
“อืม ฉันเป็นห่วงเธอน่ะ” แฮร์รี่มองตาเธอ ในยามเช้าแบบนี้มันทำให้เขาได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลคู่นี้ชัดขึ้นกว่าเดิม
มัลฟอยค่อย ๆ ย่องมาหลบอยู่หลังม่าน เขามองไปที่เตียงของเฮอร์ไมโอนี่ และก็เข้าใจแล้วว่าเสียงที่เขาได้ยินเป็นของใคร
“เธอไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพลางก้มหน้าลง
“ทำไมฉันจะทำไม่ได้ล่ะ ก็เธอเป็นคนที่ฉันรักนี่” นี่เป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่พูดคำว่ารักออกมาจากปาก เขาไม่ได้หลบตาเธอแต่อย่างใด แต่กลับจ้องมองเธอด้วยแววตาสีเขียวใสของเขา
เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าหลบสายตาเขา หน้าของเธอเป็นสีชมพูระเรื่อ นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่มีคนมาบอกเธอว่ารัก เธอย่อมเขินอายเป็นธรรมดา แม้ว่าคน ๆ นั้นจะไม่ใช่มัลฟอยก็ตาม
แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้หรอกว่ามัลฟอยตัวจริงนั้นอยู่ห่างจากเธอกับไม่เกินสามเมตร และเขากำลังโกรธจนแทบจะฆ่าแฮร์รี่ได้อยู่แล้ว แต่มัลฟอยก็ได้เพียงแต่กำผ้าม่านไว้ในมือและพยายามที่จะไม่กระชากมันออก
แต่เมื่อเขาชะโงกหน้าไปดูอีกครั้ง สิ่งที่เขาเห็นมันทำให้เขาถึงกับตะลึง
แฮร์รี่จูบเฮอร์ไมโอนี่ ริมฝีปากของเขาทั้งสองสัมผัสกันอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา
แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวเธอก็รีบถอนริมฝีปากของเธอออกมาอย่างรวดเร็ว
“เฮอร์ไมโอนี่ฉันขอโทษ ฉันห้ามใจไม่อยู่จริง ๆ ” แฮร์รี่ตอบ เขารู้สึกผิดอย่างมาก
ในขณะนั้นมัลฟอยแทบคลั่ง “พอตเตอร์ ฉันจะฆ่าแก!!!” เขาคำรามในใจ
“เธอจะโกรธฉันก็ได้นะเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่อึกอัก ทั้งสองไม่ได้สบตากันแล้ว
“ฉันไม่โกรธเธอหรอกแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมา คำพูดนั้นสร้างความประหลาดใจอย่างมหาศาลให้
กับแฮร์รี่รวมทั้งมัลฟอยด้วย “เธอยอมให้มันจูบงั้นเหรอ!!!” มัลฟอยคำรามอีกครั้ง ( ในใจ )ตอนนั้นเขาสาบานไว้เลยว่าถ้าชาตินี้ไม่ได้ฆ่าแฮร์รี่ล่ะก็ เขาขอไปอยู่กับพวกมักเกิ้ลให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ทีกับฉัน….” มัลฟอยพูดรอดไรฟันออกมา ( ตะโกนไม่ได้เพราะเป็นแค่คนแอบดู ) แต่เขาชะงักเพราะคำพูดนี้ นั่นสิทีตอนที่เขาจูบเธอมันไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย
“ทำไมล่ะเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่โกรธฉันเลยเหรอ” แฮร์รี่ถามราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดออกมา
“ฉันไม่โกรธหรอก ถ้าเธอสัญญาว่าจะไม่ทำอีก” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงเรียบ ๆ และมองตาเขา
แฮร์รี่ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจกับสิ่งที่เธอพูดกันแน่ ถึงเฮอร์ไมโอนี่จะไม่โกรธเขาแต่สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นก็เหมือนกับว่าเธอไม่ได้คิดอย่างเดียวกับเขาน่ะสิ
ส่วนมัลฟอยของเรานั้นก็ยืนแข็งค้างเป็นหินอยู่อย่างไม่ไหวติง แล้วเขาก็ตัดสินใจเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบที่สุด ( สรุปว่าทั้งแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามีคนมา )
“ฉันว่าเรากลับหอนอนกันดีกว่า”
และแล้วทั้งสองคนก็เดินกลับหอนอนโดยที่ไม่พูดกันเลยซักคำ ( ส่วนสายตาของทั้งสองก็มองมันอยู่ที่พื้นตลอดทางราวกับว่ากล้วจะเหยียบอะไรเข้างั้นแหละ )
มัลฟอยเดินกลับหอนอนไปอย่างไร้สติ ( เขาลงมาหาเฮอร์ไมโอนี่ทั้งชุดนอน ) เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าและทำสิ่งต่าง ๆ ราวกับคนไม่มีวิญญาณ จนแครบชี้ให้กอยล์ดูมัลฟอยเวอร์ชั่นใหม่
“คราวนี้เป็นไรอีกเนี่ย” แครบกระซิบ กลัวเขาจะได้ยินแต่คงยากเพราะตอนนี้มัลฟอยนั้นสติหลุดไปแล้ว
“ไม่รู้ว่ะ นายว่ามัลฟอยจะพอใจเรื่องที่เราทำไหม” กอยล์กระซิบตอบ ถึงมัลฟอยจะเป็นอย่างนี้ก็ตามแต่เขาไม่อยากเสี่ยงโดยสาปให้ตัวแข็งทื่ออีกแล้ว
“แล้วแต่ดวงละกัน” แครบพึมพำอย่างปลง ๆ
แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ และรอน เดินลงไปกินข้าวพร้อมกัน ( แฮร์รี่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงมากกว่าจะลากรอนลงจากเตียงได้ ) แต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าห้องโถงมาทุกคนที่อยู่ในห้องโถงก็มองเขาเป็นตาเดียวกันไปหมด ( แม้แต่เด็กกริฟฟินดอร์ก็เถอะ ) จนพวกเขาอดสงสัยไม่ได้
“มองหาสากกะเบืออะไรกันวะ” รอนบ่นมองไปทางโต๊ะสลิธีริน เมื่อรู้ว่ามีสายตานับร้อยคู่จ้องมองมาที่ ( เพื่อน ) เขา
“ช่างมันเถอะรอน” แฮร์รี่พูดพลางเอาส้อมจิ้มไส้กรอกในจาน แต่ตัวเขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
“เฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้เรื่องหรือยัง!!!” ลาเวนเดอร์เข้ามานั่งข้าง ๆ เธอและพูดอย่างร้อนใจ
“เรื่องอะไรเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ( ก็ไม่รู้อะไรเลยนี่ )
“ก็นี่ไงเฮอร์ไมโอนี่” ปาราวตีตอบเธอ พลางเอากระดาษแผ่นหนึ่งให้พวกเธอดู แต่มันพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของพวกเธออยู่ตลอดเวลา
“นี่มันอะไรกัน!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาเมื่อได้เห็นภาพ มันเป็นภาพที่แฮร์รี่อุ้มเธออยู่ซึ่งน่าจะเป็นเมื่อวานที่เธอหมดสติ แถมมีข้อความต่อท้ายไว้ว่า ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์หลงรักเลือดสีโคลน’
“เธอไปเอามันมาจากไหน ปาราวตี” แฮร์รี่พูด
“ก็มันติดประกาศอยู่ทั่วปราสาทเลยน่ะสิ พวกเธอไม่สังเกตเห็นเลยเหรอ” ลาเวนเดอร์บอก
“ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ไม่รู้สิ เพราะตอนเช้าฉันก็เห็นมันแล้วแหละ” ลาเวนเดอร์ตอบ
“ที่สำคัญคือคนทั้งโรงเรียนที่เขาอ่านนี่เขาจะคิดว่าเธอสองคนเป็นแฟนกันน่ะสิ” ปาราวตีพูด มองหน้าทั้งสอง
“แฮร์รี่แล้วทีนี้นายจะง้อโชไงล่ะเนี่ย มีเรื่องนี้เกิดขึ้นเนี่ย” รอนยังตกข่าว เอ๊ย ยังไม่รู่ว่าแฮร์รี่น่ะเลิกชอบโชแล้ว ( เขายอมเงยหน้าจากสตูในจานเพื่อมาฟังเรื่องนี้ แสดงว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก )
“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก แต่ฉันอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำ และเขาต้องทำไปทำไม” แฮร์รี่พูดสีหน้าเคร่งเครียด
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่โต๊ะสลิธีริน เธอไม่เห็นมัลฟอยอยู่ที่นั่น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันเป็นฝีมือใคร
เฮอร์ไมโอนี่ลุกจากโต๊ะอาหารไปในทันที
TBC
No comments:
Post a Comment