Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 17: กับดักและแผนการของแพนซี่

ตลอดวันนั้นทั้งวันเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อาจที่จะหยุดคิดเรื่องจดหมายที่ส่งมาให้เธอได้เลย  แม้ว่าเธอจะพยายามเพียงเท่าไร  แต่ความสงสัยที่เธอมีนั้นมากเกินกว่าที่เธอจะมองข้ามมันไปได้  เวลาเริ่มผ่านไปเรื่อย ๆ จากเที่ยงไปจนบ่าย  จากบ่ายไปถึงเย็น  ใกล้เวลานัดที่เขียนไว้ในจดหมายเข้ามาทุกทีแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่กำลังตัดสินใจอย่างหนักว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีระหว่างทำเป็นไม่สนใจมันกับไปตามนัดนั้นเพื่อทราบความจริง

ก่อนหกโมงเล็กน้อยเฮอร์ไมโอนี่ลงมาที่ห้องโถงและเธอก็พบกับมิสเตอร์คลิฟฟอร์ดที่กำลังถือนกฮูกตัวหนึ่งอยู่  เฮอร์ไมโอนี่จำได้ทันทีว่ามันเป็นนกฮูกของมัลฟอย  นกฮูกเหยี่ยวสีน้ำตาลท่าทางสง่างามนั้นบินมาส่งจดหมายให้พ่อบ้านชราก่อนที่จะบินกลับไปที่กรงของมัน

“มีจดหมายมาหรือคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  พ่อบ้านชราสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมามองทางเธอ  

“อ้อ  ครับ  มีจดหมายจากนายน้อย” คุณคลิฟฟอร์ดพูด

“เหรอคะ  แล้วเขาว่ายังไงบ้างเหรอคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  ชายชรามองเธอเนิ่นนานก่อนที่จะตอบคำถามออกไปว่า

“นายน้อยบอกว่าจะกลับดึกสักหน่อย  เพราะวันนี้มีนัดกับลูกค้า” พ่อบ้านประจำตระกูลมัลฟอยบอก  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น

กลับดึกอีกแล้วรึนี่

“นายน้อยบอกให้คุณทานอาหารค่ำไปก่อนโดยไม่ต้องรอ” เขาพูด  พลางเก็บจดหมายนั้นลงในกระเป๋า  เฮอร์ไมโอนี่ไม่พูดอะไร  เธอเดินกลับไปที่ห้องนอนทันที

  เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดปนน้อยใจ  กี่ครั้งแล้วนะที่มัลฟอยพูดอย่างนี้  กี่ครั้งกันที่เขางานยุ่งเสียจนไม่มีเวลาให้เธอ  หญิงสาวคิดพลางถอนใจ  สายตาของเธอเหม่อมองไปบนโต๊ะ  และซองจดหมายสีเข้มนั้นก็ปรากฏสู่สายตาของเธอ  ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง  นาฬิกาวางอยู่บนเตาผิงบอกเวลาห้าโมงห้าสิบนาที

เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากอย่างกำลังชั่งใจ  เธอรู้ว่าการไปตามนัดปริศนานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำและอาจนำอันตรายมาสู่ตัวเธอ  แต่ความอยากรู้ของเธอนั้นมันแทบจะล้นอยู่ในอกของเธอแล้วในขณะนี้  เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เตาผิงกระถางใส่ผงฟลูตั้งอยู่บนนั้น  เธอมองมันด้วยดวงตาวาววับ  และเฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดสินใจเดินไปหยิบมันมาไว้ในมือ  เธอก้าวเข้าไปในเตาผิง  และโยนผงฟลูลงพร้อมกับพูดเสียงดังว่า

“ร้านหม้อใหญ่รั่ว!”



*************************************************



แรงดึงดูดมหาศาลดูดเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปในเตาผิง  และเมื่อเธอรู้สึกตัวเธอก็มาอยู่ในร้านเสียแล้ว  ภายในร้านนั้นมีผู้คนคลาคล่ำอาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้นั้นเลยเวลาเลิกงานมาแล้ว  พ่อมดแม่มดกลุ่มใหญ่พูดคุยกันเสียงดังจอกแจกจอแจ  ทอมเจ้าของร้านเดินเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ช้า ๆ

“นัดใครไว้หรือเปล่า  คุณผู้หญิง” เขากล่าวเสียงแหบ  เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเล็กน้อย

“เปล่าค่ะ  ฉันมาคนเดียว” เธอพูดพลางนั่งลงที่โต๊ะที่อยู่ใกล้ที่สุด  “เอ่อ  ขอบัตเตอร์เบียร์ค่ะ” เธอพูดมองไปรอบ ๆ ร้านที่ดูวุ่นวาย  และเธอก็เริ่มมองหาคนที่นัดเธอมาพบที่นี่

คนส่วนมากนั้นเป็นคนในวัยผู้ใหญ่  และวัยกลางคน เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่สังเกตุเห็นเด็ก ๆ เข้ามาที่นี่มากนัก  และพวกเขาก็มักจะนั่งกันเป็นกลุ่ม  เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบร้าน  นาฬิกาที่แขวนไว้ที่ผนังบอกเวลาหกโมงเย็น  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่ทราบเลยว่าใครที่นัดเธอมาพบที่นี่  และทันใดนั้นเองสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ก็ไปสะดุดเข้ากับร่าง ๆ หนึ่งที่กำลังนั่งจบเครื่องดื่มอยู่คนเดียวในมุมมืดของร้าน  ร่างนั้นสวมผ้าชุดคลุมสีดำที่ยาวกรอมพื้น  รวมทั้งศีรษะที่ถูกปกปิดไว้ด้วยฮู้ดทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถเห็นหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจน  แต่ดูถ้าดูจากภายนอกแล้วมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงผู้เสพความตาย

เฮอร์ไมโอนี่จ้องร่างนั้นอยู่นานพอสมควร  และเมื่อผู้ถูกมองรู้ตัวเขาก็เดินออกจากร้านหลังจากทิ้งเงินค่าเครื่องดื่มไว้ที่โต๊ะ  เฮอร์ไมโอนี่รีบตามเขาไปทันที

ร่าง ๆ นั้นเดินไปทางหลังร้าน  ซึ่งหญิงสาวใช้เวลานานกว่าจะผ่าฝูงชนที่เบียดเสียดกันอยู่ในร้านมาได้  และเมื่อมาถึงหลังร้าน  เฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่ามันว่างเปล่า  เธอควักไม้กายสิทธิ์ออกมาทันที

”แนวตั้งสาม  แนวนอนสอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเคาะไม้กายสิทธิ์เบา ๆ และกำแพงตรงหน้าเธอก็เปลี่ยนมาเป็นซุ้มประตูให้เธอลอด  เผยให้เห็นตรอกไดแอกอนที่เต็มไปด้วยผู้คนคับคั่ง  และเฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่างที่สวมชุดคลุมกำลังเดินอยู่ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น  เธอจึงรีบตามเขาไปทันที

ร่าง ๆ นั้นเดินผ่านร้านรวงต่าง ๆ ภายในตรอกไดแอกอนอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่คิดจะแวะดูมัน  ราวกับว่าเขาปรารถนาที่จะเดินผ่านมันไปไว ๆ เสียมากกว่า  เฮอร์ไมโอนี่เดินตามร่างนั้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงแถบที่มีผู้คนบางตา  ร่างนั้นก็เลี้ยวเข้าไปในตรอกที่แคบชื้น  และสกปรก  ตรอกนอร์กเทิร์นนั่นเอง

เฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่หน้าตรอกนอร์กเทิร์นอย่างลังเล  แต่ความรู้สึกอยากรู้ของเธอก็ทำให้เธอกัดฟันเดินตามร่างนั้นไป  ภายในตรอกนอร์กเทิร์นดูเงียบสงบและวังเวงมากกว่าตรอกไดแอกอนหลายเท่านัก  เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุว่านอกจากเธอกับร่างของพ่อมดที่นอนแผ่อยู่ตรงพื้นเพราะเมาวิสกี้ไฟแล้ว  ในตรอกนี้ก็ไม่มีบุคคลอื่นอีกเลย  หญิงสาวเห็นร่างสวมชุดคลุมนั้นไว ๆ ตรงหัวมุมหนึ่งเธอรีบเร่งฝีเท้าตามทันที  และเมื่อเธอตามมันทัน

“หยุดนะ” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน  ร่าง ๆ นั้นหยุดชะงัก

“เธอใช่ไหมที่เป็นคนนัดฉันออกมาที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดแต่ร่างในชุดคลุมนั้นไม่ตอบ  มันค่อย ๆ หันหน้าเข้ามาหาเธอช้า ๆ มือของเฮอร์ไมโอนี่กำไม้กายสิทธิ์ในกระเป๋าไว้แน่นเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น  จนเมื่อร่างลึกลับนั้นยืนประจันหน้ากับเธอมันก็ค่อย ๆ ถอดผ้าคลุมศีรษะออกมาช้า ๆ



*************************************************



ร่างลึกลับตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ถอดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของมัน ถึงแม้ว่าใบหน้านั้นจะดูมีอายุขึ้น  และดูโตขึ้นกว่าภาพในความทรงจำของเฮอร์ไมโอนี่  แต่หญิงสาวก็จำเธอได้ดี

แพนซี่  พาร์กินสันนั่นเอง!

“ว่าไง  ยายเลือดสีโคลน” แพนซี่ทักเธออย่างร้ายกาจ  เฮอร์ไมโอนี่มองเธออย่างตกใจ  เธอไม่คิดว่าเธอจะเดินมาติดกับแพนซี่อย่างง่ายดายเช่นนี้  แต่ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะไปคิดอะไรไปมากกว่านั้น  ร่างที่สวมชุดคลุมดำมืดอีกไม่ต่ำกว่าห้าร่างก็รายล้อมเธอเข้ามา

“เธอนัดฉันมาต้องการอะไร” เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูด  มือที่จับไม่กายสิทธิ์ชื้นไปด้วยเหงื่อ  ในขณะที่แพนซี่กรีดเสียงหัวเราะอย่างร่าเริง

“เธอไม่รู้เลยรึว่าฉันต้องการอะไร” แพนซี่พูด  แววตาสีดำทอประกายชั่วร้าย

“คนพวกนี้เป็นใครกัน  เพื่อน ๆ ผู้เสพความตายของเธอเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนถาม

“นับว่ายังฉลาดอยู่บ้าง” เธอพูด “สมแล้วที่เป็นเธอ  นี่ขนาดฉันทำให้เธอความจำเสื่อมไปแล้วนะนี่” แพนซี่พูดอย่างอารมณ์ดี

“แล้วคราวนี้เธอต้องการอะไร  ลบความจำของฉันอีกรอบรึไง” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างท้าทาย  แพนซี่เหยียดยิ้มพลางส่ายหน้าช้า ๆ

“ไม่หรอก  เกรนเจอร์” เธอพูด “จากครั้งก่อนเธอรู้ไหมว่าฉันได้บทเรียนชั้นดีมาที่ฉันต้องจำจนขึ้นใจทีเดียวล่ะ” แพนซี่ว่า  รอยยิ้มน่ารังเกียจปรากฏบนใบหน้าหงิกงอของเธอ

“และบทเรียนนั้นก็คืออะไรรู้ไหม” เธอพึมพำพลางเดินเข้ามาใกล้เฮอร์ไมโอนี่เสียจนร่างของทั้งสองห่างกันไม่ถึงครึ่งเมตร

“ถ้าเธอต้องการได้ของ ๆ ใครแล้วล่ะก็  เธอก็ต้องจัดการเจ้าของ ๆ มันให้พ้นทางเสียก่อน  หรือไม่ก็กำจัดเขาไปจากโลกนี้เลยก็ยิ่งดี  เธอถึงจะได้ครอบครองมันโดยที่ไม่มีใครมาขัดขวาง” แพนซี่พูด  ยิ้มเยือกเย็น  เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากแน่น  เม็ดเหงื่อมากมายผุดขึ้นบนใบหน้า  เธอจำเป็นต้องลงมือตอนนี้เดี๋ยวนี้ก่อนที่แพนซี่จะฆ่าเธอ

“งั้นเธอก็กำลังจะใช้บทเรียนนี้ของเธอสินะ  แพนซี่” หญิงสาวพูด  แพนซี่ยิ้มรับ

“แน่นอน  ฉันใช้มันแน่” เธอพูดก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม  แต่คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ไวกว่า

“สตูเปฟาย” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนก้องชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่แพนซี่ที่เบี่ยงตัวหลบได้ทัน

“โพรเทโก้” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง  เฮอร์ไมโอนี่เอี้ยวตัวหลบ  และเมื่อผู้เสพความตายคนหนึ่งกำลังจะสาปเธอ

“อิมเปดิเมนต้า” เฮอร์ไมโอนี่เสกคาถาสกัดภัยไว้ได้ทัน

“เอ็กซ์เปสลิอาร์มัส” แพนซี่ตะโกน  ไม้กายสิทธิ์ของเธอลอยหวือไปอยู่ในมือของแพนซี่  เธอหมุนมันไว้ในมืออย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะโยนมันทิ้ง  พร้อมกับชี้ไม้กายสิทธ์ของเธอไปที่เฮอร์ไมโอนี่

“จะให้ฉันใช้คาถาไหนก่อนดี” แพนซี่พูดมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาสีดำ  รอยยิ้มที่แสดงความพึงพอใจปรากฏอยู่บนใบหน้าหงิกงอของเธอ

“คาถากรีดแทงดีไหม” เธอพูดพลางเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เฮอร์ไมโอนี่  ไม้กายสิทธิ์ของแพนซี่ชี้ไปที่หน้าอกของเธอ “หรือคาถาพิฆาตดี” เธอพูด

“หรือทั้งสองอย่าง” เสียงของผู้เสพความตายคนหนึ่งดังขึ้น  แพนซี่ยิ้มรับคำพูดนั้น

“แน่นอน  ฉันทำแน่” แพนซี่พูดอย่างอารมณ์ดี  ก่อนที่จะหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่

“มีอะไรจะสั่งเสียก่อนไหม  ยายเลือดสีโคลน” แพนซี่ถาม  เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันแน่น  มองแพนซี่อย่างเคียดแค้น  หญิงสาวหัวเราะออกมา

“ถ้าเธอเงียบฉันก็ถือว่าเธอไม่มีอะไรจะพูดนะ” แพนซี่ว่าก่อนที่จะกดไม้กายสิทธิ์ลงไปที่ลำคอของเฮอร์ไมโอนี่  เธอหลับตาลง  รอรับชะตากรรมของเธอที่กำลังจะเกิดขึ้น

แต่ก่อนที่แพนซี่จะได้ร่ายคาถานั้น  ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ปรากฏกายขึ้นเสียก่อน  และพวกเขาก็คือศัตรูตัวฉกาจของเหล่าผู้เสพความตาย  มือปราบมารนั่นเอง!

แฮร์รี่  รอน  และมือปราบมารคนอื่น ๆ นั้นบุกเข้าจับกุมผู้เสพความตายอย่างรวดเร็ว  และก่อนที่แพนซี่จะร่ายคาถาใส่เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ก็เข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทันท่วงที

“เป็นอะไรรึเปล่า” เขาถามอย่างเป็นห่วง  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

“ระวังข้างหลัง  แฮร์รี่” หญิงสาวหวีดร้อง  เมื่อผู้เสพความตายคนหนึ่งกำลังจะร่ายคาถาใส่เขา

“อิมเปดิเมนต้า” เสียงของรอนดังขึ้น  เกิดแรงระเบิดมหาศาลระหว่างแฮร์รี่กับผู้เสพความตายนั้น  และก่อนที่มันจะได้โอกาสร่ายคาถาอีกครั้ง  รอนก็สะกดนิ่งมันเสียก่อน

“ไปหาที่หลบก่อน  เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดอย่างรีบเร่ง  และเขาก็หันไปต่อสู้กับผู้เสพความตายอีกคนหนึ่ง  หญิงสาวรีบถอยหลังกรูมองดูพวกเขาสู้กันอย่างดุเดือด  และในขณะนั้นเองก็มีมือ ๆ หนึ่งมาคว้าร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้

“คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับเดรโกอีกเป็นครั้งที่สองน่ะ” แพนซี่กัดฟันพูด  ใบหน้าดูโกรธจัด  เธอชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่เฮอร์ไมโอนี่

“ลาก่อนยัย……..โอ๊ะ” เสียงของแพนซี่ขาดหายไปเนื่องจากตอนที่เธอกำลังจะสาปเฮอร์ไมโอนี่  หญิงสาวก็เอาหัวเธอของโขกกับหัวของแพนซี่อย่างแรง

“ใครยอมให้เธอฆ่าง่าย ๆ ก็โง่แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางพุ่งหมัดเข้าที่ท้องของเธอทันที  แต่แพนซี่เบี่ยงตัวหลบเสียก่อน  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รอช้าหญิงสาวแตะเธอเข้าที่ขาจนเป็นผลทำให้แพนซี่ล้มลงกับพื้น

“เธอน่าจะเรียนรู้การป้องกันตัวของพวกมักเกิ้ลไว้บ้างนะ  มันมีประโยชน์มากทีเดียว” เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนจะมองแพนซี่อย่างสมเพช  แต่ทันใดนั้นเองแพนซี่ก็จับขาของเธอและกระชากมันลงพื้น!    

   เฮอร์ไมโอนี่ล้มลงไปที่พื้น  ในขณะที่แพนซี่ขึ้นมาคร่อมร่างของเธอไว้

“ลูกมักเกิ้ลชั้นต่ำก็ทำได้แค่ใช้การต่อสู้ต่ำ ๆ แบบนั้นนั่นแหละ” แพนซี่พูดอย่างเคียดแค้น  พลางหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธออกมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไหวตัวทันเธอจับข้อมือของแพนซี่บิดทันที  แพนซี่ร้องด้วยความเจ็บปวด และปล่อยไม้กายสิทธิ์ลงพื้น  เฮอร์ไมโอนี่ผลักร่างของแพนซี่ออกและลุกขึ้นยืน

“การต่อสู้ต่ำ ๆ น่ะต้องเหมาะกับคนต่ำ ๆ อย่างเธอแพนซี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางโยนไม้กายสิทธิ์ของแพนซี่ไปไกล ๆ “ถ้าลองมาสู้กันแบบมักเกิ้ลเธอไม่มีทางชนะฉันหรอก” หญิงสาวพูด  แพนซี่มองเธออย่างโกรธแค้น  แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นแพนซี่ก็ร้องขึ้นก่อน

“อ๊ะ  นั่น!!!” เฮอร์ไมโอนี่หันไปตามสัญชาติญาณ  และเมื่อสบโอกาส  แพนซี่ก็ออกแรงผลักเฮอร์ไมโอนี่เข้าหากำแพง  จนศีรษะของเธอกระแทกก้อนอิฐอย่างแรง  เลือดสีแดงไหลซึมไปตามรอยแผลและเปรอะเปื้อนอยู่บนกำแพง

“เฮอร์ไมโอนี่!!!” เสียงของแฮร์รี่และรอนดังขึ้นพร้อมกัน  แต่เมื่อแฮร์รี่จะลงมือเข้าไปจับกุมแพนซี่  เธอก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับผู้เสพความตายสองคนที่เหลือ ( ส่วนอีกสามคนนั้นโดนสะกดนิ่งไปเรียบร้อยแล้ว )

“เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ร้อง  เขาเป็นคนแรกที่ไปถึงตัวเธอ  ร่างของหญิงสาวนอนนิ่งอยู่บนพื้น  เลือดสีแดงไหลจากแผลไม่ยอมหยุด

“เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดพลางก้มดูร่างของเธอที่บัดนี้อยู่ในอ้อมของแฮร์รี่  ซึ่งชายหนุ่มพยายามเรียกเธอหลายต่อหลายครั้ง  แต่เธอก็ไม่รู้สึกตัวเลย

“เราต้องพาเธอไปโรงพยาบาล” รอนพูดลำล่ำละลั่ก

“ใช่รอน  เราจะพาเธอไปโรงพยาบาล” แฮร์รี่พูดพลางกระชับร่างของหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน  และพาร่างที่มีลมหายใจโรยรินของเธอออกไปจากตรงนั้นทันที



*************************************************





มัลฟอยกลับมาที่คฤหาสน์ของเขาด้วยอาการเหนื่อยอ่อน  เขารีบเคลียร์งานให้เสร็จอย่างเร็วที่สุดเพื่อจะกลับมาอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่  แต่ก็กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างนั้นยิ่งยืดยาวเข้าไปใหญ่  จนเมื่อการหารือของเขากับลูกค้าเสร็จสิ้นลงก็ล่วงเลยเวลามานานมากแล้ว

ชายหนุ่มกลับมาที่บ้านของเขาโดยที่หวังว่าจะเห็นเฮอร์ไมโอนี่ออกมาต้อนรับเขาอย่างที่เคยเป็น  แต่วันนี้กลับไม่ใช่  ไม่มีใครสักคนที่มาคอยต้อนรับเขานอกเสียจากเอล์ฟประจำบ้านแก่ ๆ สองสามตัว  แต่มัลฟอยก็คิดว่าเฮอร์ไมโอนี่คงอยู่ที่ห้องนอนหรือไม่ก็ที่ห้องสมุด

แต่มัลฟอยกลับคิดผิดเพราะเมื่อเขาขึ้นไปที่ห้องนอนของเขาและเฮอร์ไมโอนี่  ก็กลับไม่พบวี่แววของเธอ  มัลฟอยเริ่มสงสัยว่าหญิงสาวหายไปไหน  แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าถอดชุดสูทของเขาออกเพื่อที่จะอาบน้ำหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน

“อ้าว….” มัลฟอยอุทานเมื่อมือของเขาที่กำลังจะแขวนชุดสูทไว้ที่ที่แขวนกลับไปปัดเสื้อคลุมซึ่งเป็นของเฮอร์ไมโอนี่หล่นลงมา  ชายหนุ่มจึงก้มลงไปเก็บมัน  ทันใดนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างหล่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเฮอร์ไมโอนี่  ชายหนุ่มหยิบมันมาดูอย่างสงสัย  และเมื่อเขาพบว่ามันคือจดหมาย  มัลฟอยก็คลี่มันออกอ่านทันที

หลังจากที่เขาอ่านข้อความในจดหมายนั้นจบ  มัลฟอยก็ขยำมันทิ้งทันที  ความโกรธพุ่งเข้ามาอย่างอยากที่จะยับยั้งเมื่อเขาได้รู้ว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นจดหมายของแฮร์รี่ที่ส่งมาให้เฮอร์ไมโอนี่  และบางทีจดหมายฉบับนี้อาจจะเกี่ยวกับการที่เฮอร์ไมโอนี่หายตัวไปในครั้งนี้ก็ได้

มัลฟอยเดินลงมาที่ชั้นล่างอย่างรีบร้อน  ปากของเขาก็ตะโกนเรียกหาเอล์ฟประจำบ้าน  เขาต้องการให้ใครซักคนบอกเขาว่าเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่ไหน  แต่เมื่อมัลฟอยเดินลงมาที่ห้องโถง  เขาก็พบกับร่าง ๆ หนึ่งเสียก่อน


TBC

No comments:

Post a Comment