Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 16: การเดินทางกลับและจดหมายลึกลับ

มัลฟอยอุ้มเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปในลิฟต์เพื่อจะกลับไปยังห้องสวีทที่อยู่บนชั้นสามสิบสองของพวกเขา  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงน้อย ๆ เมื่อชายหนุ่มจัดแจงวางเธอลงบนเตียงพร้อมกับจูบเธอที่แก้มเบา ๆ มัลฟอยมองดูเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่ในชุดที่เขาเลือกให้  ผิวสีแทนอ่อน ๆ สวยงามนั้นดูเข้ากับชุดสีเงินอย่างแปลกประหลาด

“ฉันบอกเธอหรือยังว่าคืนนี้เธอสวยมากเลย” มัลฟอยกระซิบเธอเบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเอียงอาย

“ก็เพราะชุดที่เธอเลือกให้ฉันด้วยแหละ  เดรโก  เธอไปหาของพวกนี้มาจากไหนกัน” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“ฉันก็ใช้บริการของทางโรงแรมนิดหน่อย  ให้เขาติดต่อห้องเสื้อให้ก็เท่านั้นแหละ  ส่วนเครื่องประดับพวกนี้” มัลฟอยพูด มือของเขาสัมผัสสร้อยเพชรที่กำลังประดับอยู่บนรำคอเรียวระหงส์ของเธอเบา ๆ

“เป็นของที่มีอยู่แล้ว ความจริงก็เป็นของเธอนั่นแหละ”

“เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางก้มลงสำรวจเครื่องประดับต่าง ๆ ของตัวเอง  เครื่องเพชรพวกนี้คงมีราคาแพงมากเป็นแน่

“ฉันชอบชุดนี้จังเลย  เธอเข้าใจเลือกจริง ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยรอยยิ้มราวกับเด็ก ๆ

“ถึงเธอจะชอบมันแค่ไหนก็เถอะ  แต่ฉันก็ชอบให้เธอไม่ใส่อะไรเลยมากกว่า” มัลฟอยก้มลงมากระซิบที่หูของเธอเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นทันที  เธอตีมัลฟอยเบา ๆ ด้วยความอาย  แต่ชายหนุ่มกลับรั้งร่างเธอไว้ในอ้อมแขนเสียก่อน

มัลฟอยค่อย ๆ จูบเฮอร์ไมโอนี่อย่างแผ่วเบา  มือของเขาลูบไล้ไปตามเรือนร่างของหญิงสาว  ในขณะที่เธอยกแขนทั้งสองขึ้นโอบรอบคอของเขา  มัลฟอยค่อย ๆ ไล้มือแข็งแรงของเขาไปสัมผัสแผ่นหลังของเธอเบา ๆ ก่อนที่จะรูดซิปออก  ในไม่ช้าชุดสีเงินสวยนั้นก็ลงไปกองอยู่ที่พื้นพร้อม ๆ กับชุดสูทของมัลฟอย  ชายหนุ่มค่อย ๆ เคลื่อนมือไปเพื่อจะปลดตะขอเสื้อในของเธอออกแต่เฮอร์ไมโอนี่กลับห้ามมือของเขาไว้

“ดับไฟก่อนดีไหม” เฮอร์ไมโอนี่พูด  ใบหน้าสวยนั้นขึ้นสีด้วยความอายบวกกับความรุ่มร้อนเพราะสัมผัสที่ได้รับ  มัลฟอยยิ้มที่มุมปาก

“แล้วถ้าฉับอกว่าไม่ล่ะ” ชายหนุ่มพูด  เฮอร์ไมโอนี่นิ่วหน้า

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะขอให้รูมเซอร์วิสเปิดห้องนอนให้ฉันใหม่อีกห้องหนึ่ง และทิ้งเธอไว้ที่นี่” หญิงสาวพูดอย่างเป็นต่อ  มัลฟอยทำหน้าไม่พอใจ

“ตามใจเธอ” เขาว่าด้วยท่าทีงอน ๆ

และเมื่อไฟทั้งห้องดับลง  ชายหนุ่มก็คว้าร่างของเธอมาจูบอีกครั้ง  คราวนี้การกระทำของนั้นหนักแน่นและรุนแรงกว่าเมื่อครู่  ทั้งสองแลกจูบกันเนิ่นนาน  ริมฝีปากสัมผัสกัน  มือของทั้งสองต่างลูบไล้ร่างกายอีกฝ่าย  ทรวงอกอวบอิ่มเบียดกับแผ่นอกแข็งแรง  ขาของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันราวกับไม่ต้องการแยกจาก

เสียงครางของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้นเมื่อมัลฟอยขึ้นมาคร่อมร่างของหญิงสาวไว้  ทั้งสองกอดกันแน่น  เล็บของเฮอร์ไมโอนี่จิกลงบนแผ่นหลังของมัลฟอยที่กำลังหอบหายใจอย่างเป็นจังหวะ  หญิงสาวกอดเขาแน่นขึ้นและส่งเสียงร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามเสียงหอบหายใจของชายหนุ่มที่กำลังอยู่บนร่างเธอนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เสียงร้องของพวกเขาจะดังขึ้นพร้อมกันพร้อมกับวงแขนที่กอดกระหวัดกันแน่นกว่าครั้งไหน  เมื่อร่างของพวกเขาได้หลอมรวมกันอีกครั้ง  แต่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในตลอดค่ำคืนนี้



*************************************************

เฮอร์ไมโอนี่ตื่นนอนมาด้วยความเหนื่อยอ่อนและรู้สึกว่าเธอไม่ต้องการลุกจากที่นอนเสียเลย  และสาเหตุที่เธอเป็นอย่างนี้เนื่องจากเมื่อคืนนั้นเธอกับมัลฟอยนั้นได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันหลายต่อหลายครั้งจนเฮอร์ไมโอนี่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่  แต่เท่าที่เธอรู้มัลฟอยนั้นไม่ยอมปล่อยให้เธอออกไปจากอ้อมแขนของเขาอย่าง

ที่เขาว่าจริง ๆ แต่นั่นก็ทำให้เธอมีสภาพราวกับอดนอนมาสามวันสามคืนในเช้าวันนี้  ในขณะที่ตัวต้นเหตุนั้นกำลังนอนหลับอย่างมีความสุข

เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ผละกายออกจากอ้อมแขนของมัลฟอยที่กำลังกอดเธอไว้แน่น  ถ้าเป็นปรกติเขาคงรู้ตัวไปแล้วแต่เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนคงทำให้เขาเหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าได้ไหว

เฮอร์ไมโอนี่ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว  เมื่อเธอกลับมาที่ห้องนอนมัลฟอยก็ยังคงหลับอยู่  เธอไม่อยากจะปลุกเขาเพราะดูแล้วเขานั้นเหนื่อยมากทีเดียว  หญิงสาวจึงโทรไปสั่งรูมเซอร์วิสให้ขึ้นมาเสิร์ฟอาหารเช้าบนห้อง  พอเวลามัลฟอยตื่นขึ้นมาเขาจะได้ทานอาหารได้เลย

หลังจากที่โทรศัพท์ไปสั่งอาหารแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่ก็ออกไปเดินเล่นที่ระเบียง  สายลมกับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าทำให้เธอสดชื่นขึ้นเยอะทีเดียว  เฮอร์ไมโอนี่ทอดสายตาลงไปยังท้องทะเลเบื้องล่าง  ภาพทิวทัศน์ที่แสนสวยงามของมัลดีฟส์นั้นปรากฏสู่สายตาของเธอ  ภาพความทรงจำดี ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่วนเวียนเข้ามาในหัวสมองของเธอช้า ๆ  เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจ

เธอไม่อยากกลับไปเลยจริง ๆ   เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างเสียดายที่วันเวลาอันแสนสุขผ่านไปรวดเร็วนัก  และในขณะที่เธอกำลังเหม่อมองอยู่นั้น  ภาพนกฮูกสีขาวตัวหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาของเธอ

เป็นไปไม่ได้ที่จะมีนกฮูกในตอนกลางวันและยิ่งเป็นนกฮูกหิมะในเขตร้อนอย่างนี้ด้วยแล้ว  นอกเสียจาก



เฮ็ดวิกบินมาส่งจดหมายให้เฮอร์ไมโอนี่ตามหน้าที่ของมัน  หญิงสาวสังเกตได้ว่ามันดูเหนื่อยอ่อนที่ต้องเดินทางเป็นระยะทางไกล ๆ เฮอร์ไมโอนี่จึงรินน้ำใส่แก้วให้มันกิน  นกฮูกสาวส่งเสียง ‘ ฮูก ’ ราวกับจะขอบใจก่อนจะลงมือกินน้ำอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เอาซองจดหมายนั้นมาดู  จดหมายที่ใครจะเป็นผู้ส่งไม่ได้นอกจากแฮร์รี่  

เฮอร์ไมโอนี่เปิดซองจดหมายออกอ่าน  ซึ่งมีข้อความว่า



ถึง  เฮอร์ไมโอนี่

ฉันรู้สึกเป็นห่วงเธอก็เลยส่งจดหมายมาหา  หวังว่าที่เธอกลับดึกในวันนั้นคงไม่ทำให้เกิดปัญหาอะไรกับเธอและมัลฟอยนะ  ฉันเห็นเธอเงียบไปนานและไม่ติดต่อพวกเราอีกเลย  แต่ฉันกับรอนก็ไม่ว่างที่จะไปหาเธอที่บ้าน  เพราะตอนนี้ที่กระทรวงมีงานยุ่งมาก  ถ้าได้เธอมาอยู่ตรงเหมือนก่อนก็คงจะดี  

อีกอย่างฉันก็อยากจะเตือนเธอ  เฮอร์ไมโอนี่  ตอนนี้ฉันเพิ่งได้รับรายงานว่าผู้เสพความตายจำนวนหนึ่งที่เธอ  ฉัน  และรอนเข้าจับกุมในวันที่เธอได้รับอุบัติเหตุจนสูญเสียความทรงจำไป  ได้หลบหนีไประหว่างที่จะถูกส่งตัวไปอัซคาบัน  และหนึ่งในนั้นมีแพนซี่  พาร์กินสันที่เป็นคนสาปเธอด้วย  จึงอยากให้เธอระวังตัวมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อเธออยู่ใกล้มัลฟอย  เพราะฉันได้ยินมาว่าผู้เสพความตายจำนวนหนึ่งเคียดแค้นที่เขาไม่ยอมเข้าร่วมด้วยทั้ง ๆ ที่เป็นลูกชายของลูเซียส  มัลฟอย  ฉันจึงอยากให้เธอระวังตัว  บางทีพวกมันอาจจะอยู่รอบ ๆ กายเธอก็ได้  อย่าได้ไว้ใจคนที่อยู่ใกล้ตัวให้มากนัก

รักและเป็นห่วง

จาก  แฮร์รี่  เพื่อนของเธอเสมอไป



เฮอร์ไมโอนี่อ่านจดหมายของแฮร์รี่จบลงด้วยความกังวล  เธอพับมันใส่กระเป๋าเสื้อคลุม  รู้สึกใจหายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น  และเมื่อเธอได้รู้ว่าแพนซี่หลบหนีออกมาเธอก็ยิ่งกังวล  เพราะเธอก็พอรู้อยู่แล้วว่าแพนซี่นั้นรักมัลฟอย  และสำหรับแพนซี่นั้นเธอก็เปรียบเสมือนก้างขวางคอชิ้นใหญ่ที่จำเป็นต้องกำจัดทิ้งเสีย

เมื่อคิดมาถึงตรงนั้นแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เกิดการปวดหัวอย่างแรง  จนหญิงสาวต้องเกาะราวระเบียงไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงไปกับพื้น  ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เธอไม่รู้ว่ามันเกิดเมื่อไหร่ผุดเข้ามาในศีรษะอย่างรวดเร็ว



“ใช่  คนอย่างฉันมาเป็นผู้เสพความตายมันอาจจะไม่แปลกซักเท่าไหร่นะ  แต่คนอย่างเธอมาเป็นคุณนายมัลฟอยนี่สิ  ฉันว่ามันพิสดารเลยล่ะ!” เสียงของแพนซี่ดังอยู่ในหัวของเธอพร้อมกับภาพของหล่อนที่ผุดขึ้นในสมอง

“แต่ถึงยังไงแกก็จะไม่ได้พบเดรโกอีกต่อไปแล้วล่ะ  ลาก่อนนะยัยเลือดสีโคลน”



เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนเธอแทบทนไม่ไหว  และเมื่อร่างของเธอกำลังจะล้มลงกับพื้น

“เฮอร์ไมโอนี่!” มัลฟอยอุทานอย่างตกใจเมื่อเขาเห็นว่าอาการของหญิงสาวเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของเธอทันที

“เธอเป็นอะไร  เฮอร์ไมโอนี่” ชายหนุ่มพูดอย่างร้อนรน  ในขณะที่หญิงสาวนั้นแทบหมดแรงอยู่ในอ้อมแขนของเขา

“เดรโก  ฉันปวดหัว” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ  ใบหน้าของเธอขาวซีดเหมือนคนเป็นลมจนมัลฟอยตกใจ

“จะไปหาหมอไหม” มัลฟอยถามพลางประคองร่างของเธอให้นั่งลงกับเตียงอาบแดด  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

“ไม่เป็นไร  ค่อยยังชั่วแล้ว” เธอพูด  มัลฟอยมองด้วยท่าทีไม่อยากเชื่อ

“แต่ฉันว่าไปหาหมอหน่อยดีไหม” มัลฟอยพูด  เฮอร์ไมโอนี่ยกมือห้าม

“ไม่เป็นไรเดรโก  ฉันไม่เป็นไร” เฮอร์ไมโอนี่พูด  ฝืนยิ้มให้เขา “คงแค่อ่อนเพลียน่ะ”

“จริงเธอ  หน้าเธอซีดมากเลยนะ” เขาพูดมองเธอด้วยแววตาเป็นห่วง  หญิงสาวยิ้มฝืน ๆ

“ไม่เป็นไร  ฉันดีขึ้นแล้ว  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” เธอพูดเบา ๆ

“แน่ใจนะ” มัลฟอยถามเธอ  พยักหน้าน้อย ๆ ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป



*************************************************



หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว  ทั้งสองก็เก็บของเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางกลับอังกฤษ  ทั้งคู่เช็คเอาท์ตอนเวลาเที่ยงตรง  หลังจากที่มัลฟอยชำระค่าใช้จ่ายแสนแพงที่เขาไม่ยอมบอกว่าเป็นเงินเท่าไหร่เสร็จแล้วพวกเขาก็นั่งรอของโรงแรมไปที่สนามบิน

เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยมาถึงสนามบินเวลาบ่ายโมงตรง  เครื่องบินออกตอนบ่านสองโมงตามเวลาท้องถิ่น  ทั้งสองต่างก็ไม่อยากให้การฮันนีมูนที่แสนสุขนี้จบลงรวดเร็วเช่นนี้เลย  แต่ต่างก็รู้ดีว่าไม่สามารถจะต่อช่วงเวลาเช่นนี้ออกไปได้อีกแล้ว

เฮอร์ไมโอนี่มองภาพของมัลดีฟส์ที่ค่อย ๆ ไกลออกไปจากทางหน้าต่างเครื่องบิน  จนเมื่อพวกเขาบินสูงขึ้นจนถึงเมฆหญิงสาวก็ละสายตาจากมันอย่างเสียดาย

“ไม่ต้องห่วงหรอก คราวหน้าฉันจะพาเธอมาเที่ยวที่นี่อีกถ้าเธอต้องการ” มัลฟอยพูด

“อือ  แต่ฉันก็ยังเสียดายอยู่ดี” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“ไม่เป็นไรหรอก  เพราะถ้ากลับไปที่บ้านฉันก็จะอยู่กับเธอตลอดเวลา” มัลฟอยพูดพลางหอมแก้มหญิงสาว “ไม่ให้เธอต้องเหงาเลย” เขาว่า  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มรับก่อนที่จะซบศีรษะลงบนไหล่เขาเบา ๆ แววตาเต็มไปด้วยความกังวล

ตลอดการเดินทางกลับอังกฤษนั้น  เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องจดหมายที่แฮร์รี่ส่งมาให้เธอกับมัลฟอยเลย  แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่พยายามจะเล่าให้มัลฟอยฟังหลายต่อหลายครั้งแต่สุดท้ายแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดมันออกไป  เพราะเธอกลัวว่าเมื่อมัลฟอยรู้เรื่อง  มันจะกลายเป็นการทะเลาะกันใหญ่โตอย่างคราวที่ก่อน  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อยากเสี่ยงให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง  เธอไม่ต้องการจะสูญเสียความรู้สึกดี ๆ นี้ไป



เมื่อเดินทางมาถึงลอนดอน  คนขับรถของมัลฟอยก็เอารถมารอรับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว  ก่อนทางที่จะแวะกลับคฤหาสน์นั้นมัลฟอยเสนอให้เฮอร์ไมโอนี่แวะไปที่เซนต์มังโกส์เสียก่อน

“ฉันอยากให้ผู้บำบัดตรวจดูอาการของเธอดูหน่อยน่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  เผื่อว่าจะมีอะไร” มัลฟอยอธิบาย  เฮอร์ไมโอนี่รีบปฏิเสธ

“ฉันไม่เป็นไร  เดรโก  ไม่เห็นต้องเข้าโรงพยาบาลหรอก” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง

“แต่เธอปวดหัวนี่  แล้วฉันก็อยากจะให้ผู้บำบัดเช็คให้แน่ใจเฉย ๆ ” มัลฟอยพยายามทำให้เปลี่ยนใจ  แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับส่ายหน้า

“ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ฉันคงจะนอนไม่พอเท่านั้น” เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย “อีกอย่างฉันก็อยากจะกลับไปพักผ่อนแล้ว  เราเดินทางกันมาตั้งนานแล้วนะ” เธอพูด  และในที่สุดมัลฟอยก็ยอมคล้อยตามเธอและสั่งให้คนขับรถขับรถกลับคฤหาสน์โดยดี



เมื่อทั้งคู่กลับมาถึงบ้าน  มิสเตอร์คลิฟฟอร์ดก็ออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างดี

“โอ้  นายน้อยกลับมาแล้วหรือครับ” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม  พลางสั่งให้เอล์ฟประจำบ้านมาขนของ ๆ มัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไป  เฮอร์ไมโอนี่มองพ่อบ้านชราอย่างไม่พอใจนิด ๆ

“ผมเตรียมทำความสะอาดห้องนอนให้นายน้อยแล้วครับ” พ่อบ้านชราพูด  มัลฟอยพยักหน้ารับ

“เดี๋ยวของพวกนี้น่ะขนไปที่ห้องนอนใหญ่ให้หมดเลยนะ  ส่วนห้องนอนสำรองน่ะปิดไปเลยก็ได้  เพราะตอนนี้ฉันจะย้ายไปนอนที่ห้องนอนใหญ่แล้ว” มัลฟอยพูด  มิสเตอร์คลิฟฟอร์ดมองที่มัลฟอยก่อนที่จะมาจบลงที่เฮอร์ไมโอนี่  และซักครู่เขาก็ยิ้มขึ้นราวกับเพิ่งนึกได้

“อ้อ  ได้ครับ  ได้  เดี๋ยวผมจะสั่งให้เอล์ฟจัดการให้  ตอนนี้เชิญนายน้อยขึ้นไปพักเถอะครับ” พ่อบ้านชราพูดพลางฝายมือเชื้อเชิญ  ในขณะที่มัลฟอยพาเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปที่ห้องนอน



เมื่อถึงห้องนอนเฮอร์ไมโอนี่ก็จัดแจงถอดเสื้อคลุมออกและแขวนมันไว้ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน  ในขณะที่มัลฟอยเลือกที่จะไปอาบน้ำ  ล้างหน้าก่อนมากกว่า

“จะอาบน้ำเหรอ  เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่ถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเอาผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่า

“ใช่  อาบด้วยกันไหม” เขาถาม  เฮอร์ไมโอนี่ใบหน้าเป็นสีแดงก่อนที่จะตะโกนออกไปว่า

“บ้า!” มัลฟอยหัวเราะน้อย ๆ ก่อนที่จะหายเข้าไปในห้องน้ำ

เฮอร์ไมโอนี่นอนอยู่บนเตียงสี่เสา  แววตาของเธอเหม่อมองขึ้นไปบนเพดานครุ่นคิดเรื่องจดหมายอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน



*************************************************



หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตามเดิม  แต่ก็ดูไม่เหมือนเดิมสักเท่าไหร่นักเมื่อตอนนี้ทั้งสองนั้นได้อยู่ร่วมกันอย่างที่คนเป็นสามีภรรยาสมควรทำจริง ๆ แม้ว่าตอนนี้เธอกับมัลฟอยจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาอย่างตอนที่ไปฮันนีมูนก็ตาม  แต่หลังจากที่เลิกงานมัลฟอยก็จะใช้เวลาที่เหลือกับเธอที่บ้าน  ทั้งสองทานข้าวด้วยกัน  ทำกิจวัตรประจำวันด้วยกัน  และที่สำคัญก็คือทั้งสองได้อยู่ในอ้อมกอดกันและกันทุกค่ำคืน

เพียงแต่หลังจากที่มัลฟอยและเธอกลับมาจากมัลดีฟส์นั้นมัลฟอยก็ดูเหมือนจะมีงานหนักขึ้นทุกวัน  อาจจะเป็นเพราะเขาต้องทำงานชดเชยในช่วงที่เขาได้ไปเที่ยวมาก็เป็นได้  ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก  มัลฟอยมักจะมีนัดกับลูกค้าเป็นประจำ  และบ่อยครั้งที่เขาปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ทานข้าวคนเดียว  ตอนแรก ๆ นั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่ามัลฟอยคงงานยุ่งจนปลีกตัวมาไม่ได้  และเธอก็สมควรที่จะเข้าใจเขา  แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่วมเดือนและมัลฟอยก็ยังคงเป็นอย่างเดิมนั้นมันก็ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อดน้อยใจไม่ได้ที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้เธอดังเดิมเลย

เช้าวันหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนทุก ๆ วัน  มัลฟอยต้องออกไปทำงานแต่เช้าและปล่อยให้เธออยู่บ้าน  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็พยายามตื่นเช้าเพื่อมาส่งเขาไปทำงาน

“ฉันไปนะ” มัลฟอยพูดพลางจูบเธอที่แก้มเบา ๆ อย่างรักใคร่

“กลับมาเร็ว ๆ ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงเง้างอน  มัลฟอยยิ้มและขยี้หัวเธอเบา ๆ

“ฉันจะพยายาม” มัลฟอยพูดก่อนที่จะหายตัวไป  ทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ไว้กับบ้านที่กว้างใหญ่  หากแต่ขาดความอบอุ่น

เฮอร์ไมโอนี่กลับขึ้นไปที่ห้องนอน  เธอนั่งอ่านหนังสือที่หยิบมาจากห้องสมุดไปได้สองสามหน้าหญิงสาวก็วางมันลง  เธอกำลังสับสน  ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเหงามากกว่าอะไรทั้งหมด  เธอรู้สึกหว้าเหว่อย่างน่าใจหาย

น้ำตาของเธอรินไหล  หญิงสาวซบหน้าลงกับผ่ามือ  พยายามจะเก็บมันเอาไว้แต่เธอก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้  เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ออกมา  เธอคว้าหมอนมากอดและปล่อยให้มันซับน้ำตาของเธอไว้

หลังจากนั้นไม่นาน เฮอร์ไมโอนี่ก็ค่อย ๆ เช็ดน้ำตาออกเบา ๆ

มันไร้สาระที่จะมาร้องไห้เพื่อเรื่องแค่นี้

ในขณะที่หญิงสาวกำลังปาดน้ำตาอยู่นั้น  ก็มีเสียงป็อปเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเอล์ฟสาวนามว่ามีน่าและเมื่อมันได้เห็นภาพของเฮอร์ไมโอนี่

“นายหญิงร้องไห้!” มันร้อง  ดวงตาเบิกกว้าง “นายหญิงร้องไห้ทำไมเจ้าคะ  ใครทำให้นายหญิงเป็นอย่างนี้” มีน่าซักไซร้  เฮอร์ไมโอนี่ปาดน้ำตาทิ้ง  และยิ้มให้มันอย่างฝืน ๆ

“เปล่า  ฉัน…..เอ่อ….ฉัน” เฮอร์ไมโอนี่อึกอักพยายามหาข้อแก้ตัว เพราะเธอไม่อยากให้มีน่าทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

“ฉัน  เอ่อ  อ่านหนังสือน่ะ  พอดีหนังสือเล่มนี้มันเศร้าไปหน่อยเท่านั้นเอง” เฮอร์ไมโอนี่โกหก

“เรื่องคาถาต้องห้ามและอันตรายเนี่ยนะเจ้าคะ” มีน่ามองหนังสือเล่มนั้นก่อนที่จะมองหน้าของนายหญิงของเธออย่างงง ๆ

“เอ่อ….ก็…ฉันสงสารพวกพ่อมดแม่มดที่โดนผู้เสพความตายทรมานไงล่ะ  โดยใช้คาถากรีดแทงน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่แก้ตัว  เอล์ฟสาวพยักหน้าช้า ๆ

“อ้อ มีจดหมายถึงนายหญิงเจ้าค่ะ  และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เธอต้องมาที่นี่” มันพูดพร้อมกับส่งจดหมายซองสีเข้มที่ไม่มีชื่อผู้ส่งระบุไว้ให้เธอ  เฮอร์ไมโอนี่รับมาเปิดอ่าน  ในจดหมายนั้นมีข้อความสั้น ๆ เขียนไว้แค่ว่า



ถ้าอยากรู้อดีตของเธอกับเดรโกให้มาที่ร้านหม้อใหญ่รั่วตอน 6 โมงเย็น



เฮอร์ไมโอนี่อ่านจดหมายฉบับนั้นจบ  แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความสงสัย

ใครกันนะที่เป็นคนส่งจดหมายนี่  แล้วเขาต้องการอะไร

เธอครุ่นคิดอย่างด้วยความสับสนบวกกับความอยากรู้

และที่สำคัญทีสุดก็คือ  ‘ อดีตของเธอกับเดรโก ‘ ที่ว่านั้นมันคืออะไรกันแน่

แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้เลยหากเธอไม่ไปตามนัดดังที่จดหมายนั้นระบุไว้

TBC

No comments:

Post a Comment