Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Wednesday, September 10, 2014

13 The decision 7



**********7*************

สิ่งที่ตามมาหลังจากการเลื่อนชั้นสูงขึ้นก็คือวิชาเรียนที่ยากและหนักขึ้นกว่าเดิม ตลอดหนึ่งสัปดาห์แรกดูผ่านไปอย่าง
เชื่องช้าในความรู้สึกของเด็กหลายคน แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่รวมทั้งเด็กบ้านกริฟฟินดอร์พบว่าพวกเขาเกลียด
วันอังคารมากขึ้นทุกขณะเพราะนอกจากพวกเขาต้องเรียนเต็มวันแล้ว คาบสุดท้ายที่ควรจะเป็นวิชาสบาย ๆ ที่รอเวลาเลิก
กลับเป็นคาบวิชาปรุงยาพร้อมกับบ้านสลิธีรินติดต่อกันถึงสองคาบเต็ม ๆ!

ศาสตราจารย์เซเวอร์รัส สเนปยังคงเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เป็นมา จนพวกเขาคิดว่าสเนปเป็นอาจารย์เพียงคนเดียวที่วาง
ตัวเป็นปกติได้มากที่สุดหลังจากผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ เมื่อปีที่แล้วมา และเขาก็ไม่รอช้าที่จะเล่นงานเนวิลล์ ลองบัตท่อม
ที่ยังคงมีข้อผิดพลาดให้เขาเล่นงานได้เหมือนเดิม
วันนี้ก็อีกวันหนึ่ง...

“นี่ไม่ได้แสดงว่าสมองเธอมันโตขึ้นเหมือนตัวเธอเลยใช่ไหม” สเนปพูดด้วยดวงตาถคุณทึงเมื่อน้ำยาของเนวิลล์ยังคง
มีสีต่างกับเด็กคนอื่น ๆ (สีเขียวกลายเป็นสีม่วงเข้ม)

“เขายูนิคอร์น - - ขนหางยูนิคอร์น เธอยังแยกไม่ออกอีกหรือไง สักวันเธอคงใช้มือเดินต่างเท้า เอาหน้านั่งบนเก้าอี้”
เนวิลล์หน้าเป็นสีชมพูพร้อมกับเสียงหัวเราะของเด็กบ้านสลิธีรินดังขึ้น

“เฮ้ ลองบัตท่อม ถ้านายอยากสาธิตให้พวกเราดูก็ก่อนก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งนะ” เด็กชายที่มีฟันคู่หน้าใหญ่ผิดปกติคนหนึ่ง
ของบ้านสลิธีรินพูดให้ทุกคนได้ยิน เสียงหัวเราะดังขึ้นอีก

“นายก็เตรียมแทะลูกวอลนัตโชว์เราด้วย! เจ้าหน้าหนู!” รอนตะคอกสวนทันควัน
“แกลองพูดอีกทีซิ! ไอ้หัวแดง!” เด็กคนนั้นหน้าแดงก่ำ

“ห้ามทะเลาะกันในชั่วโมงเรียนของฉัน! - - หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน!” สเนปตะโกนก้องจนฝุ่นบนเพดานร่วงลงมาก่อนที่การ
โต้เถียงจะรุนแรงกว่านี้
“แล้วทำไมอาจารย์ไม่หักคะแนนนเขาด้วยล่ะครับ เขาเริ่มก่อน!” รอนพูดเสียงดัง
“หรือสิบคะแนนมันน้อยไป วิสลีย์” สเนปยื่นหน้ามาหารอนแล้วพูดเสียงเย็นเยียบ

“ฉันจะกักบริเวณเธอด้วยดีไหม เอาเป็นว่า...ไปขัดกระโถนในห้องพยาบาลสักคืนอาจจะทำให้ปากของเธอมันสงบเสงี่ยมลงกว่านี้ได้บ้าง”
รอนเม้มปากหน้าเป็นสีชมพูเข้ม เสียงหัวเราะคิกคักของเด็กบ้านสลิธีรินยังคงดังมา สเนปแค่นเสียงในลำคออย่างสะใจ
แล้วเดินกลับไปยังหน้าชั้นเรียน

“หวังว่าพวกเธอคงรู้เกี่ยวกับยาที่ปรุงกันอยู่บ้างนะว่ามันคือยาทำลายราก มีไว้สำหรับทำลายพืชผิดกฏหมาย 
สำหรับคนที่ไม่ฟังฉันว่าห้ามเอามือแตะตัวยา ก็เตรียมมือเปื่อยกันได้”

เด็กหลายคนครางฮือแล้วรีบเช็ดมือกับเสื้อคลุมของตัวเองทันที ขณะที่เนวิลล์รู้สึกว่ามือทั้งสองข้างของเขาคันยิบ ๆ 
และดูเปื่อยเหมือนถูกยางของพืชกัด - - อาจจะเป็นเรื่องดีตรงที่น้ำยาของเขามีสรรพคุณใกล้เคียงกับที่สเนปบอกแม้ว่าจะสีต่างกัน
 แต่ก็เป็นเรื่องโชคร้ายที่เขาเผลอจับไม้คนหม้อเปียก ๆ เต็มมือไปแล้ว

“เขาพูดตั้งแต่เมื่อไหร่” แฮร์รี่พูดแล้วกำหมัด เป็นไปได้ยากที่น้ำยาซึ่งปรุงในแต่ละครั้งจะไม่สัมผัสมือเลย
“เยี่ยม เราผิดเองที่ไม่ฟังเรื่องที่เขาไม่ได้บอก!” รอนกัดฟันอย่างแค้นเคือง

“พวกเธอเช็ดมือให้สะอาดก่อนล้างนะ ยานี่ถ้าโดนน้ำมันยิ่งแผ่ฤทธิ์กว้าง มืออาจจะเปื่อยทั้งมือได้”
เฮอร์ไมโอนี่เตือนเพื่อนทั้งสอง

“เธอรู้เรื่องยานี้แล้วทำไมไม่บอกเราก่อนล่ะ!” รอนถามเสียงขุ่น ปลายนิ้วของเขาเริ่มเป็นสีแดง
“ขอโทษที ก็คิดว่าพวกเธอจะอ่านหนังสือมาก่อนเองได้นี่” เด็กหญิงประชดแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาถูมือให้รอน 

อีกฝั่งหนึ่งของบ้านสลิธีริน มัลฟอย แครบและกอยล์เองก็กำลังเช็ดมือตัวเอง มัลฟอยนั้นหนักกว่าใครเพราะหมู่นี้เขาควบ
คุมอารมณ์ของตัวเองได้ยากจนเผลอทำอะไรไปโดยไม่ได้ดูให้ดี
แครบกับกอยล์ชำเลืองมองไปที่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่อย่างหมั่นไส้

“เจ้าวิสลีย์คงไม่เหลือใครให้อ้อนจนต้องไปอ้อนยายชิปมังก์หัวหยิก” แครบเช็ดมือตัวเองเพราะเขาก็เผลอทำน้ำยากระเด็นใส่
มือตอนคนหม้อ

มัลฟอยโยนเขายูนิคอร์นชิ้นโตลงไปในหม้อจนน้ำยาแตกกระจายออกมาถูกแครบที่กำลังจะอ้าปากพูดต่อ
 เจ้าตัวร้องจ๊ากวิ่งไปที่อ่างน้ำด้านหลังแล้วบ้วนปากเป็นการใหญ่

“ฉันกำลังเซ็ง แกอย่าพูดกวนใจฉันนักได้ไหม!” มัลฟอยพูดกับแครบเสียงดังขณะถูมือแดง ๆ ของตัวเองแล้วหันไปมองรอนและ
เฮอร์ไมโอนี่ เขารู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองเต้นตุบ ๆ อยากจะชกหน้ารอนให้เต็มหมัดเดี๋ยวนี้

“แล้วเราจะทำให้นายหายเซ็งเอง” กอยล์แอบตักน้ำยาใส่ลงไปในขวดเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างตัวพร้อมกับยิ้มให้อย่างมีเลศนัย
 ส่วนแครบเดินกลับมาพร้อมกับลิ้นไหม้เป็นรู
เสียงระฆังดังขึ้นเป็นสัญญาณหมดคาบเรียน สเนปสั่งการบ้านเป็นรายงานสองม้วนกระดาษกำหนดส่งภายในวันศุกร์นี้
เด็กหลายคนพยายามไม่โอดโอยอะไรออกมาเพราะกลัวว่าจะโดนเพิ่มเป็นสามม้วน ส่วนรอนนั้นประสาทเสียหนักกว่า
ใครเพื่อนเพราะเขามีเวลาน้อยกว่าทุกคนหนึ่งคืนเพราะถูกกักบริเวณวันนี้และที่สำคัญคือตอนนี้มือของเขาบวมแดง
เสียจนกลัวว่าจะจับผ้าขี้ริ้วเช็ดกระโถนตอนกักบริเวณไม่ได้

“นรกส่งมาเกิดแท้ ๆ” รอนครางอย่างแค้นเคืองขณะเดินจากห้องเรียนและคล้อยหลังสเนปไปแล้ว
“ไปห้องพยาบาลดีไหม” แฮร์รี่ถาม รอนสะบัดมือ 
“ไม่เป็นไร แค่มือมันเหี่ยว ๆ เหมือนจุ่มน้ำมานานแค่นั้น - - เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ”
“ช่วยพาเนวิลล์ไปห้องพยาบาล เห็นว่าเผลอจับไม้คนหม้อผิดด้านไปเต็มสองมือเลย”
รอนทำหน้าเซ็งแทน

“นายจะว่าอะไรไหมแฮร์รี่ถ้าฉันจะบอกว่าสเนปพูดถูกนิด ๆ เรื่องเนวิลล์น่ะ” 
อีกด้านหนึ่งที่ห้องพยาบาล เฮอร์ไมโอนี่พาเนวิลล์มาหามาดามพอมฟรีย์ที่วันนี้ดูเหมือนว่าเธอมีงานทำตั้งแต่เช้าจดเย็นอยู่
แล้วแต่พวกนักเรียนก็บาดเจ็บกันเยอะจนเธอระอา

“น้ำยานี่อีกแล้ว ฉันต้องรักษาเด็กมือเปื่อยวันนี้กี่คนรู้ไหม” มาดามพอมฟรีย์เอาโถทรงสูงใส่ยาสีเหมือนน้ำนมมา
ให้เนวิลล์จุ่มมือลงไปครู่หนึ่งก่อนจะยกมือเขาขึ้นมาเช็ด เด็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพยาบาลพร้อมกับบอกว่าศาสตราจารย์
มักกอนนากัลเรียกพบเธอหลายครั้งแล้ว
มาดามพอมฟรีย์ถอนใจ

“เอาล่ะ ๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ - - เสร็จแล้วนะพ่อหนุ่ม กลับไปที่ห้องได้แล้ว บอกเพื่อนเธอด้วยว่าถ้าโดนแค่นิดหน่อยก็ให้
ใครคนใดคนหนึ่งมารับยาไปทาก็พอ ไม่ต้องแห่มาจุ่มมือที่นี่กันหมด” พูดจบเธอก็เดินไปหยิบตั้งเอกสารบนโต๊ะ
“ผมช่วยครับ” เนวิลล์รีบกุลีกุจออาสาอย่างสำนึกบุญคุณ

“ขอบใจนะ ช่วยรีบเดินหน่อยก็แล้วกันฉันเองก็ยุ่งจะแย่อยู่แล้ว เอาล่ะรีบไป” เธอยกเอกสารตั้งสูงเกือบสองฟุตวาง
ลงบนแขนของเนวิลล์ที่ตั้งท่ารอรับอยู่ เด็กชายถึงกับเซไปข้างก่อนจะทรงตัวได้
“หนูอยากจะขอยาทาไปให้เพื่อนค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงรอนกับแฮร์รี่

“ขวดสีขาวอยู่บนรถเข็นข้างเตียงนั่นนะ...ไปเร็วพ่อหนุ่ม” มาดามพอมฟรีย์ชี้แล้วเดินนำออกจากห้องพยาบาลโดยมีเนวิลล์เดินเซ
ไปมาตามหลังไป

เมื่อทั้งสองเดินพ้นห้องพยาบาลไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็เดินไปหาขวดยาที่อยู่บนรถเข็นตามที่ต้องการ 
เธอพยายามมองหาขวดยาสีขาวที่อยู่ปนกับยาชนิดอื่นอย่างระมัดระวัง
“มาดามพอมฟรีย์ไม่อยู่รึไง”

เสียงยานคางดังขึ้นข้างหลัง เฮอร์ไมโอนี่หันหลังไปก็เห็นเด็กชายผมสีบลอนด์ที่เธอคุ้นตาและไม่ต้องการพบที่สุดยืนอยู่
 เขาเดินมาใกล้มากขึ้นพร้อมกับยกมือข้างที่มีผ้าสีขาวพันไว้หลวม ๆ ให้เธอดู

“ว่าไงล่ะ” มัลฟอยถามซ้ำ เด็กหญิงสูดลมหายใจเต็มปอดก่อนจะตอบเขาไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาเท่าที่จะทำได้
“ไม่อยู่ รอจนกว่าเธอจะมาก็แล้วกัน” พูดจบเธอก็ก้มหน้าหาขวดยาที่ต้องการต่อ เด็กชายหรี่ตา

“จะไม่ช่วยฉันหน่อยเหรอ” มัลฟอยดึงมือเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปถือ เด็กหญิงอุทานในลำคอเมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็เห็นตาสีซีด
ของเขามองมาที่เธอราวกับต้องการจะรู้ไปถึงภายในใจ - - ถึงสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ไปเกี่ยวข้องอะไรกับเธออีก
 แต่ในเวลาที่มีเพียงแค่สองคนเขาก็ไม่สามารถทำเฉยกับเธอได้อย่างที่ตั้งใจ

เด็กหญิงเม้มริมฝีปากควบคุมตัวเองไม่ให้เขาเห็นแววหวั่นไหวอะไรจากเธอ คิดได้เพียงเท่านี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ดึงมือพรวดออก
จากเขาแล้วหันไปหาของบนรถเข็นต่อ - - เด็กชายกำหมัดแน่น ความโกรธเหมือนจะพุ่งจี๊ดเข้าสมองจนไม่สามารถควบคุมได้!
เพียงเสี้ยววินาทีมัลฟอยก็คว้าแขนเฮอร์ไมโอนี่แล้วเหวี่ยงร่างบอบบางนั้นไปชนกับที่นอนในห้องพยาบาล เด็กหญิงหวีด
ร้องเสียงดังและหงายหลังล้มลงบนเตียงผ้าลินินสีขาว มัลฟอยเดินตรงมาหาเธอ เขาชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ประตูห้องพยาบาลทั้งที่
ตายังคงมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างคนเหนือกว่า
เสียงกุญแจประตูลั่นดังกริ๊ก!

“อย่านะ! ฉันสู้นายแน่!” เฮอร์ไมโอนี่คว้าไม้กายสิทธิ์ออกมาชี้หน้าอีกฝ่ายทันทีที่ตั้งตัวได้และก่อนที่เขาจะกระโจนเข้าใส่
 มัลฟอยชะงักเมื่อเห็นท่าเอาจริงของเธอ เขามองปลายไม้ของอีกฝ่ายก่อนจะกัดฟันพูดอย่างเจ็บปวด

“อ้อ...มีคนปลอบใจแล้วสิ ใคร? เจ้าพอตเตอร์หรือวิสลีย์”

“ไม่เกี่ยวกับนาย!” เฮอร์ไมโอนี่แผดเสียงใส่ทั้งที่ในใจหวั่น ๆ  - - ไม่รู้ว่าลำพังที่ต่างฝ่ายต่างมีไม้กายสิทธิ์แบบนี้เธอจะ
เอาชนะเขาได้หรือเปล่า
ตาสีซีดของมัลฟอยเหมือนมีไฟลุกขึ้น เขาตัวสั่นสะท้านแล้วก้าวเข้ามาหาเธออีก เฮอร์ไมโอนี่รีบชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่
ประตูห้องพยาบาลแล้วตะโกนคาถาปลดล็อค กุญแจห้องพยาบาลหลุดกระเด็นหล่นลงที่พื้น เด็กหญิงพรวดพราดลุก
จากที่นอนแล้ววิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย

To be continued!!

No comments:

Post a Comment