เฮอร์ไมโอนี่ได้พบแฮร์รี่กับรอนอีกครั้งเมื่อเวลาอาหารเย็น ทั้งสองมอมแมมมาก เสื้อคลุมของพวกเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและโคลน ท่าทางของแฮร์รี่และรอนนั้นเหมือนคนกำลังจะหมดแรงมากที่สุด เฮอร์ไมโอนี่พนันได้เลยว่าถ้ามีหมอนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแทนจานข้าวล่ะก็ทั้งสองคนคงหลับไปก่อนที่ ศ.ดัมเบิลดอร์จะพูดจบซะอีก สำหรับรอนนั้นเธอคิดว่าเขาคงต้องเขมือบอาหารจนหมดทั้งโต๊ะก่อนแล้วจึงค่อยนอน
“ทำไมพวกเธอไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่มองเสื้อคลุมควิดดิชที่แสนมอมแมมของพวกเขา และก็รู้สาเหตุว่าทำไมวันนี้ลาเวนเดอร์กับปาราวตีถึงไม่ยอมมานั่งใกล้พวกเขา
“พวกเรามีเวลาที่ไหนล่ะเฮอร์ไมโอนี่ แองเจลิน่าแทบจะไม่ให้ฉันลงจากไม้กวาดอยู่แล้ว” รอนพูดออกมาขณะกำลังตักสตูใส่จานเขาจนเต็ม
“นี่เฮอร์ไมโอนี่เธอจัดการกับไอ้ประกาศพวกนั้นแล้วเหรอ” แฮร์รี่ถาม
“อืมเรียบร้อยแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดเธอยังอดไม่ได้ที่จะมองไปทางโต๊ะสลิธีริน
“ทำยังไงล่ะถึงเอามันออกได้” แฮร์รี่สงสัยว่าทำไมเฟร็ดกับจอร์จถึงเอาประกาศพวกนั้นออกได้ ทั้ง ๆ ที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามอยู่ตั้งนานก็ไม่ได้ผล
“มันถูกติดด้วยกาวติดทนนานของร้านซองโก้น่ะ” เธอบอก “ต้องใช้น้ำยาแก้ที่เฟร็ดกับจอร์จซื้อมา แต่กว่าจะเอามันออกได้ก็เล่นเอาซะเหนื่อย ดีนะที่ได้พวกด็อบบี้ช่วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว
“เหรอ งั้นก็ดีเหมือนกันนะ”
ตลอดเวลาของการกินอาหารเฮอร์ไมโอนี่ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่มองไปทางมัลฟอย แต่ความพยายามของเธอนั้นก็จบลงด้วยการแอบส่งสายตาไปยังโต๊ะสลิธีรินทุกครั้งไป และเมื่อเธอมองไปที่เขาอีกครั้ง ( ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ) มัลฟอยก็มองมาทางเธอพอดี สายตาของทั้งคู่สบกันได้ไม่นานนักมัลฟอยก็หลบตาเธอไปมองอย่างอื่นซะก่อน
“แฮร์รี่ รอน เจอกันที่ห้องนั่งเล่นรวมนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดและเดินกลับหอกริฟฟินดอร์อย่างรวดเร็ว
เมื่อแฮร์รี่และรอนกินอาหารเสร็จ ( รอนเขมือบไปซะเต็มท้องเพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไปกับการซ้อมควิดดิช ) ขณะที่ทั้งสองกำลังจะกลับห้องนั่งเล่นรวม ก็มีร่าง ๆ นึงมาดึงตัวเขาไว้ ด็อบบี้นั่นเอง
“แฮร์รี่ พอตเตอร์!” มันทักด้วยเสียงแหลมสูงเช่นเคย
“เอ่อ หวัดดีด็อบบี้ มีอะไรเหรอ” แฮร์รี่ถามด็อบบี้ที่กำลังมองหน้ารอนอยู่
“เพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ล่ะ” ด็อบบ้ำท่าทางเหมือนกำลังมองหาอะไรซักอย่าง
“เอ่อ นายหมายถึงเฮอร์ไมโอนี่งั้นเหรอ” แฮร์รี่ถามมัน
“ด็อบบี้อยากพบเพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์” มันร้องเสียงแหลมดวงตาเบิกกว้าง
“เฮอร์ไมโอนี่กลับหอนอนไปแล้ว นายมีอะไรรึเปล่าล่ะ” แฮร์รี่ถาม
“ด็อบบี้มีเรื่องสำคัญจะบอกเพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่องงานที่เพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ใช้ให้ด็อบบี้ทำ” มันพูดเสียงแหลมสูงกว่าเดิมจนคนข้าง ๆ หันมามอง
“งาน นายหมายถึงเรื่องที่นายช่วยเฮอร์ไมโอนี่เก็บประกาศพวกนั้นน่ะเหรอ” แฮร์รี่พูด
“ใช่ครับ ด็อบบี้ทำผิดพลาด ด็อบบี้สมควรโดนลงโทษ” และแล้วด็อบบี้ก็พุ่งเข้าใส่กำแพงทันที แต่แฮร์รี่รู้ทันเขาดึงตัวมันไว้ได้ก่อนที่มันจะเอาหัวโขกผนัง
“นี่มันเรื่องอะไรหน่ะด็อบบี้ นายทำผิดอะไร” แฮร์รี่ถามแต่ด็อบบี้มีกลับร้องไห้โฮ
“ด็อบบี้ผิดไปแล้ว ด็อบบี้ขอโทษ ด็อบบี้มันเลว”
“ตกลงจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย” รอนบ่นอย่างหน่าย ๆ ในเวลาแบบนี้เขาอยากกลับหอนอนเป็นกำลัง
“เกิดอะไรขึ้น ด็อบบี้ นายทำอะไรผิด” แฮร์รี่ถาม
ด็อบบี้ไม่ตอบเขาเลยมัวแต่ร้องไห้โฮและพูดพร่ำคำว่า “ด็อบบี้ผิด ด็อบบี้สมควรลงโทษ” อยู่ตลอด
“ฉันว่านายพามันไปหาเฮอร์ไมโอนี่ดีกว่านะ” รอนพูดขึ้นหลังจากยืนดูด็อบบี้ร้องไห้มานาน “เธอคงรู้ว่ามันพูดถึงอะไรมากกว่าเรา”
ที่ห้องนั่งเล่นรวม แฮร์รี่พาด็อบบี้ไปพบเฮอร์ไมโอนี่และปล่อยให้สองคนนั้นคุยกันตามสบาย ส่วนเขาและรอนขอตัวไปอาบน้ำเพราะว่าทนกลิ่นตัว ( เอง ) ไม่ไหวแล้ว และเมื่อแฮร์รี่อาบน้ำเสร็จและกำลังจะลงมาทำการบ้านเขาก็ได้ยินเสียงเฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องขึ้นมา ( ส่วนรอนน่ะหลับไปตั้งแต่ก่อนหัวถึงหมอนแล้ว )
“ว่าไงนะด็อบบี้!!!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง “ทำไมเป็นงี้ล่ะ”
“ด็อบบี้ขอโทษครับ ด็อบบี้เลว” ด็อบบี้พยายามจะหยิบหนังสือของมาเฮอร์ไมโอนี่มาทุบหัวตัวเองแต่เธอห้ามไว้ทัน ( หรือเพราะหนังสือที่เธออ่านหนักจนด็อบบี้ยกไม่ไหวก็ไม่รู้ )
“มีอะไรกันเหรอ” แฮร์รี่ถามเขาเพิ่งเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ได้ไม่นาน
“ก็เรื่องประกาศนั่นน่ะสิ ฉันลืมไปเลยให้ด็อบบี้เอาไปทิ้ง” เฮอร์ไมโอนี่พูดท่าทางกระวนกระวาย
“เอาไปทิ้ง แล้วทำไมล่ะ” แฮร์รี่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด
“ก็ประกาศนั่นน่ะ พอเราลอกออกมา เราต้องจับมันไว้ให้ครบครึ่งชั่วโมง ไม่งั้นมันจะบินหนีเราไป ป่านนี้คงไม่ใช่แค่คนในโรงเรียนเท่านั้นหรอกที่ได้อ่านมัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเดินวนไปเวียนมา
“ด็อบบี้ขอโทษครับ ด็อบบี้สมควรตาย” แล้วแล้วมันก็พยายามจะเอาหัวโขกกำแพงอีกครั้งและคราวนี้แฮรี่ก็คว้ามันไว้เช่นเดิม
“เธอไม่เห็นจะต้องกระวนกระวายไปเลยนี่เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดเรียบ ๆ เฮอร์ไมโอนี่ เงยหน้ามองเขา
“ก็ในเมื่อเรื่องที่อยู่ในประกาศนั่นเป็นความจริง”
“แฮร์รี่แต่มัน” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก มันจริงก็ใช่แต่เธอก็ไม่ต้องการให้มีคนรู้เรื่องนี้อยู่ดีนั่นแหละ
“หรือถ้าเธอไม่อยากที่จะโดนเข้าใจผิดอยู่อย่างนี้ ฉันก็จะไปชี้แจงให้คนอื่นเข้าใจ” แฮร์รี่พูดเสียงเศร้า ๆ บัดนี้เขาพอจะเดาออกแล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่คิดกับเขาอย่างไร
“คือแฮร์รี่มันไม่ใช่อย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก “โอ๊ย ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย”
“เรื่องประกาศนั่นไม่ต้องห่วงครับ ด็อบบี้กับเพื่อน ๆ ช่วยกันเก็บไว้ให้มากที่สุดแล้วครับ” ด็อบบี้ตอบ ตอนนี้มันหยุดร้องไห้แล้ว
“เหรอ งั้นขอบใจนะด็อบบี้ คือ” เธอหันมามองแฮร์รี่ “ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอกแฮร์รี่ อย่างที่เธอพูดก็จริง ช่างมันดีกว่า” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างปลง ๆ
“ขอบใจมากนะด็อบบี้ ฉันว่าฉันไปนอนดีกว่า” เธอพูดและหันมาทางเขา “ราตรีสวัสดิ์นะ” พอเฮอร์ไมโอนี่พูดจบเธอก็เดินขึ้นหอนอนไป โดยทิ้งแฮร์รี่ไว้กับความรู้สึกสับสนเนื่องมาจากความคิดของเธอเอง
ที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องประกาศพวกนั้น เป็นเพราะเธอกลัวคนจะเข้าใจผิดงั้นเหรอ หรือเพราะว่าเธอไม่อยากที่จะยอมรับเรื่องของแฮร์รี่ เรื่องที่เขารักเธอ อีกอย่างหนึ่งที่เขาสงสัยคือ ใครกันเป็นตัวการเรื่องนี้ เขาทำไปเพื่ออะไร นี่ถ้าเขาย้อนเวลาได้คงดีสินะ
“ย้อนเวลางั้นเหรอ” เขาคิดได้และเรียกด็อบบี้ไว้ก่อนที่มันจะหายตัวกลับไปที่ห้องครัว
“ฉันมีอะไรให้นายช่วยหน่อย” แฮร์รี่พูด
แฮร์รี่สั่งให้ด็อบบี้ไปแอบเอาของสิ่งหนึ่งมาจากห้องพักครู ( ขโมยนั่นแหละ ) ส่วนตัวเขาก็ขึ้นห้องไปหยิบผ้าคลุมล่องหนแล้วมารอมันที่ห้องนั่งเล่นรวม ไม่นานแฮร์รี่ก็ได้ยินเสียงป็อปดังขึ้นพร้องการปรากฏตัวของด็อบบี้ มันถือของสิ่งหนึ่งไว้ในมือ ใช่มันคือนาฬิกาที่เขาใช้ย้อนเวลากลับไปช่วยซีเรียสเมื่อตอนเขาอยู่ปี 3 ซึ่งด็อบบี้ขโมยมันมาจากห้องของ ศ. มักกอนนากัล
แฮร์รี่ต้องการย้อนเวลากลับไปในคืนวันอาทิตย์เพื่อหาตัวการเรื่องนี้
“ด็อบบี้นายอยู่รอฉันที่นี่จนกว่าจะกลับมานะ” เขาบอกด็อบบี้เพราะเขาต้องให้มันช่วยเอานาฬิกานี้ไปเก็บที่เดิมเมื่อเขาใช้มันเสร็จ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแฮร์รี่ก็สวมผ้าคลุมล่องหนและย้อนเวลาไปเมื่อตอนกลางคืนวันอาทิตย์
เขาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมเหมือนเดิม แต่เวลานั้นไม่ใช่เวลาเดิมอีกแล้ว เขาเดินออกไปจากหอกริฟฟินดอร์ทันที และเริ่มเดินสำรวจรอบ ๆ ปราสาท
แฮร์รี่เดินวนรอบปราสาทอยู่นานมาก จนเขาคิดว่าเวลาน่าจะล่วงเข้าช่วงดึกแล้ว แต่เขาก็ไม่เจอใครน่าสงสัยเลยสักคน ( ความจริงจะว่าไม่เจอใครเลยก็ได้ นอกจากฟิลซ์ที่เดินตรวจรอบโรงเรียนอยู่ ) แฮร์รี่ฉุกคิดขึ้นได้กันว่าถ้ามีคนเอาประกาศนั่นมาติดตอนกลางคืนจริง ๆ ล่ะก็ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไม่โดนฟิลซ์จับได้ ( ยกเว้นแต่ว่าคน ๆ นั้นจะมีผ้าคลุมล่องหนเหมือนเขาก็เท่านั้นเอง )
ขาของแฮร์ร์เริ่มเมื่อยจากการเดินมานานอย่างไม่หยุดพักบวกกับอากาศหนาวในตอนกลางคืนอย่างนี้มันทำให้เขาอยากจะกลับไปนอนในที่นอนอุ่น ๆ ซะจริง ๆ และเมื่อเขากำลังจะกลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวมเขาก็เห็นร่าง ๆ นึงเดินออกมาจากรูปสุภาพตรีอ้วน
ในแวบแรกแฮร์รี่คิดว่าร่างนั้นคือคนที่เขาต้องการหา แต่ว่าเขาก็คิดผิดไปเพราะว่าร่าง ๆ นั้นคือเฮอร์ไมโอนี่นั่นเอง เธอเดินออกมาจากหอกริฟฟินดอร์อย่างระแวดระวัง แฮร์รี่คิดว่าเธอกำลังจะกลับไปที่ห้องพยาบาล แต่กลับไม่ใช่ เฮอร์ไมโอนี่เดินไปอีกทางหนึ่งซึ่งไม่ใช่ทางไปห้องพยาบาลแต่อย่างใด แล้วเธอจะไปไหนล่ะ แฮร์รี่จึงตัดสินใจตามเธอไป
เฮอร์ไมโอนี่เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงโรงนกฮูกตอนแรกแฮร์รี่คิดว่าเธอมาที่นี่เพื่อส่งจดหมาย แต่เมื่อเขาตามเธอเข้าไปในนั้น และเขาก็รู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่มาพบมัลฟอย ( เนื่องจากแฮร์รี่ย้อนเวลาผิดไปหนึ่งวัน แทนที่จะกลับไปคืนวันอาทิตย์เขากับย้อนเวลากลับไปคืนวันเสาร์ที่มัลฟอยนัดเฮอร์ไมโอนี่ออกมาพบ )
ตอนแรกแฮร์รี่งงเป็นอย่างมากว่าทำไมมัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ถึงมาเจอกันดึก ๆ ดื่น ๆ อย่างนี้ แต่เขาก็เก็บความสงสัยไว้และยืนดูเขาทั้งสองคนอยู่ตรงนั้น เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเถียงกับมัลฟอยและจบด้วยการที่มัลฟอยกระโจนมารัดตัวเธอไว้ซึ่งตอนนั้นแฮร์รี่อยากจะเข้าไปจับมัลฟอยแแยกออกมาแล้วต่อยซักตั้ง ( ทำไมแฮร์รี่โหดจัง ) แต่เขาก็ชะงักเมื่อเห็นฟิลซ์เดินเข้ามา
และเมื่อฟิลซ์เดินออกไปจากโรงนกฮูก มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ก็เถียงกันอีกครั้งเรื่องกลับหอไม่ได้แฮร์รี่อยากจะดึงตัวเธอมาซ่อนใต้ผ้าคลุมล่องหนแล้วพากลับห้องนั่งเล่นรวมเสียจริง ๆ แต่เขาก็เก็บความรู้สึกไว้และอดทนดูต่อไป
ตอนที่แฮร์รี่เพิ่งเข้ามาที่นี่ เขามีคำถามอยู่ในหัวมากมาย และเขาก็อุตส่าห์อดทนยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่พยายามจะไม่สาปมัลฟอยให้เป็นตัวเฟเร็ต ( ตอนที่เขาเรียกเฮอร์ไมโอนี่ว่า ‘ เลือดสีโคลน ’ ) แต่ผลที่ได้รับนั้นมันทำให้เขาคิดว่าเขาไม่ควรมาอยู่ตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ เมื่อเขารู้ความจริงและเห็นทุกอย่าง ตั้งแต่ที่ทั้งสองทะเลาะกัน กอดกัน และจูบกันโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ขัดขืนมัลฟอยแม้แต่น้อย
ตอนแรกแฮร์รี่คิดว่าสิ่งที่เขาอยากรู้ที่สุดมากกว่าตัวการเรื่องประกาศบ้า ๆ นั่น คือความรู้สึกในใจของเฮอร์ไมโอนี่ แต่เมื่อถึงเวลานี้เขากลับอยากย้อนเวลากลับก่อนที่เขาจะรู้ความจริงซะอีก
นี่คงเป็นเหตุผลของเฮอร์ไมโอนี่สินะที่เธอไม่ต้องการให้ใคร ๆ เข้าใจผิดเรื่องพวกเขา
“และนี่ก็คือคำตอบของเธอสินะ เฮอร์ไมโอนี่ะ” แฮร์รี่พึมพำแต่กลับไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดรอดออกมา และเขาก็ตัดสินใจเดินออกไปจากที่ตรงนั้น
TBC
No comments:
Post a Comment