Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Monday, July 20, 2015

Love Concerto II: I Belong With You



เคยมีใครบางคนกล่าวไว้ว่า ‘ความรัก’ มักเติบโตรวดเร็วเมื่อแรกพบ เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดทำให้ตัวเราเอง
ไม่ใช่ตัวของเราอีกต่อไป เป็นความรู้สึกที่มีอิทธิพลต่อร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก
 มักเริ่มต้นด้วยดวงตาและไปฝังรากลึกลงที่ดวงใจ แต่ก็มีบางคนที่กล่าวว่าความรักมักเริ่มต้นที่
ใบหูต่างหากและประทับติดตรึงที่ดวงใจ - - น่าแปลกเหลือเกินที่ทฤษฎีเหล่านั้นมันใช้ไม่ได้กับฉันเลย...

เด็กสาวผมเป็นลอนฟูคนหนึ่งนั่งท้าวคางเหม่อมองที่ริมหน้าต่าง ตกอยู่ในห้วงความนึกคิดอย่างใจลอย - -
หากความรักเริ่ม
ต้นที่ดวงตาใยสามปีที่อยู่ที่ฮอกวอตส์นี่เธอไม่เคย‘รู้สึกแปลกๆ’ หรือเพียงแค่‘สนใจ’เขาเลยสักครั้งเดียว
 หรือหากความรักเริ่มต้นที่ใบหู...อันนี้ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เขาไม่เคยพูดจาดีๆกับเธอเลย
มีแต่ต้องทะเลาะกันอยู่ร่ำไป...เด็กสาวถอนใจน้อยๆ..ความรักช่างเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและเข้าใจยากเหลือเกิน.
..หรือบางทีความรู้สึกนี้อาจจะไม่ใช่ความรัก - - คงเป็นเพียงแค่ความรู้สึกหนึ่งที่เธอยังหาคำตอบมาอธิบายไม่ได้
เท่านั้นเอง - - ใช่..มันคงเป็นเช่นนั้น เธอตัดสินใจที่จะหยุดความวุ่นวายใจทั้งหมด
โดยให้คำตอบของเรื่องราว ความรู้สึกต่างๆเป็นสมการที่ติดค่าตัวแปรx เอาไว้ก่อน

เฮอร์ไมโอนี่ผงกศีรษะขึ้นจากมือที่ท้าวอยู่บนขอบหน้าต่าง เธอเหลือบดูนาฬิกาแล้วก็ตกใจ รีบร้อนลุกออกไปทันที

“อ..อรุณสวัสดิ์..ขอโทษนะ แฮร์รี่ รอน” เธอหอบหายใจฮักรีบขอโทษขอโพยเพื่อนทั้งสองทันทีที่ลง
มาถึงห้องนั่งเล่นรวมบ้านกริฟฟินดอร์ แฮร์รี่ยิ้มรับเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

“อรุณสวัสดิ์ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่กล่าวทักทายตอบ

“เธอทำอะไรอยู่น่ะ เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะทำให้เรากินมื้อเช้าไม่ทันนะ” รอนขมวดคิ้วพูดพลางสำรวจตัวของเธอ
เด็กสาวนิ่วหน้ามองเขาอย่างไม่ค่อยพอใจเล็กๆ - - เธอตัดสินใจที่จะไม่ปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนรักทั้งสอง
  ความจริงเธอเองก็ไม่อยากมีความลับ แต่ว่าเรื่องนี้เธอยังไม่แน่ใจว่าเพื่อนทั้งสองจะเข้าใจรึว่ายอมรับมัน
ได้รึเปล่าที่เธอไปมี‘ความรู้สึกแปลกๆ’ กับศัตรูคู่อาฆาตอย่างมัลฟอย

“ฉันตื่นสาย รอน เธอมองฉันอย่างนี้ทำไมน่ะ”

“เปล่า...ฉันก็แค่ลองดู นึกว่าเธอมัวแต่แต่งตัวสวยรอรับพวกเด็กจากโบซ์บาตงกับเดิร์มสแตรงก์น่ะสิ”
รอนพูดพลางส่ายศีรษะน้อยๆ  เฮอร์ไมโอนี่ถลึงตาใส่เขา อ้าปากเตรียมจะพูดโต้ตอบแต่แฮร์รี่ก็พูดแทรก
ขึ้นเพื่อสงบศึกดังเช่นทุกครั้ง

“ฉันว่า....ไปกินมื้อเช้ากันเถอะ ไม่งั้นคงได้สายจริงๆแน่” แฮร์รี่ที่ยืนคั่นกลางคนทั้งสองอยู่ยิ้มกว้าง
พลางดันให้ทั้งคู่เริ่มเดินได้แล้ว  เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้ารอนอย่างเคืองๆแล้วสะบัดหน้าไปอีกทางก่อนจะเดินนำออกไป
  รอนหันมาหาแฮร์รี่พลางยักไหล่ทำนองว่า‘พวกผู้หญิง’ แล้วก้าวตามเด็กสาวไป

แฮร์รี่ส่ายศีรษะน้อยๆ “พวกมีความรัก” เขาบ่นพึมพำแล้วเริ่มออกเดินบ้าง

ความจริงแฮร์รี่สังเกตถึงความผิดปกติของรอนมาได้สักพักหนึ่งแล้ว รอนมักจะแอบมองยามเฮอร์ไมโอนี่ไม่
รู้ตัวเสมอและดูเป็นห่วงเป็นใยมากขึ้นอีกด้วย - - แฮร์รี่ยิ้มนิดๆมองเพื่อนรักทั้งสองเดินเคียงคู่กันอยู่ข้างหน้า
 เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหากทั้งคู่จะรักกัน แต่นั่นก็อยู่ที่เฮอร์ไมโอนี่ด้วยล่ะว่าจะคิดยังไงกับรอน ไม่ว่าอะไรจะเกิด
ขึ้นทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนรักของเขาเสมอ แฮร์รี่คิด แล้วรีบเดินให้ทันเพื่อนทั้งสองโดยไปแทรกระหว่างกลาง

เมื่อทั้งสามเดินไปถึงห้องโถงใหญ่ก็ต้องตะลึงเล็กน้อยเมื่อพบว่าห้องโถงถูกตกแต่งเป็นสถานที่รับรอง
ในเพียงชั่วข้ามคืน ป้ายผ้าไหมขนาดใหญ่รูปสัญลักษณ์ของบ้านต่างๆห้อยลงมาจากผนังดูโดดเด่นและสวยงามยิ่งนัก

เฮอร์ไมโอนี่กวาดสายตามองป้ายบ้านต่างๆจนหยุดอยู่ที่ป้ายผ้าไหมสีเขียวมีรูปงูสีเงินของสลิธีริน - -
 เด็กหนุ่มผมบลอนด์คนหนึ่งก็อยู่ที่บ้านนั้น - -  เธอคิดพลันรู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองอยู่
เมื่อมองตามไปก็สบกับดวงตาสีซีดที่คุ้นตา - - เขาเองก็จ้องมองเธออยู่นานแล้ว

หลังจากเหตุการณ์ตอนนั้นที่ทั้งคู่ได้ร่วมมือกันช่วยเหลือความรักของนาฬิกาคู่หนึ่ง
 ทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยกันแบบวันนั้นอีกเลย...อาจมีบ้างที่มัลฟอยเข้ามาหาเรื่องแฮร์รี่ แต่ก็ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อน
- - เขาเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน

เด็กสาวไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่ว่าพักนี้เธอสบตากับมัลฟอยบ่อยเหลือเกิน

เฮอร์ไมโอนี่สบตากับมัลฟอยวูบหนึ่งก็ต้องหลบตา...มีบางอย่างที่สื่ออยู่ในแววตาคู่
นั้นทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบไปทั้งตัว เด็กสาวเลี่ยงเดินตามเพื่อนทั้งสองไปโต๊ะอาหารบ้านกริฟฟินดอร์
โดยไม่หันไปมองทางฟากของสลิธีรินอีกเลย

* * * * * * * * * *

“ฉันว่าพักนี้มัลฟอยทำตัวแปลกๆ” แฮร์รี่เปิดประเด็นขึ้นระหว่างกำลังคอยสเนปเข้ามาในห้อง
  เด็กสาวนัยน์ตาสีน้ำตาลสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังไว้เชิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“นายก็คิดอย่างนั้นหรอ พักนี้ไอ้บ้านั่นชอบจ้องมาทางพวกเราล่ะ มันต้องคิดแผนชั่วอะไรอยู่แน่ๆ”
 รอนทำหน้ายุ่งหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนนิ่งอยู่ ใบหน้าของเธอเป็นสีชมพูจางๆ

“เป็นอะไรน่ะ...” เขาพูดพลางถือวิสาสะยกหลังมือไปแตะหน้าผากของเธอ อีกมือหนึ่งแตะที่หน้าผากของตัวเขาเอง
“...เธอไม่สังเกตบ้างหรอ” เขายังคงพูดต่อไปขณะวัดอุณหภูมิของเด็กสาวไปด้วย

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแห้งๆพลางรู้สึกเสียวสันหลังวาบ  ไม่จำเป็นต้องหันไปดูก็พอรู้ว่าเจ้าของสายตาเย็นชา
ร้ายกาจนี้เป็นใคร “ฉัน...”

ปึง!!!!

สิ้นเสียงประตูเปิดออกเสียงคุยจอแจของเหล่านักเรียนก็หายวับไปเหลือ
ไว้เพียงความเงียบที่น่าอึดอัดเข้ามาแทนที่  เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงกับผมมันเยิ้มเดินวางอำนาจไปที่หน้าห้อง
พลางกวาดสายตามุ่งร้ายมาทางฟากของเด็กกริฟฟินดอร์ น่าเสียดายที่ต้นชั่วโมงนี้เขายังไม่มีเรื่องที่จะ
หักคะแนนได้จึงต้องเริ่มการสอนไปอย่างไม่เต็มใจนัก

ภายในคุกใต้ดินที่ดูมืดมนและน่ากลัวเสมอในยามที่ต้องย่างกรายเข้ามาเรียนกับสเนป
ในวันนี้ช่างแตกต่างจากทุกครั้ง  ถึงแม้บรรยากาศในห้องจะตึงเครียดเพียงใดหรือสเนปจะ
หาเรื่องหักคะแนนมากเท่าไร แต่เวลาที่จะได้กลับสู่อิสรภาพเร็วกว่าเดิมถึงครึ่งชั่วโมงทำ
ให้เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ทุกคนรู้สึกดีขึ้นและตั้งหน้าตั้งตารอช่วงเวลาแสนวิเศษนั้น

* *

ในที่สุดเสียงสวรรค์สำหรับเด็กกริฟฟินดอร์ก็บรรเลงขึ้น เด็กนักเรียนทุกคนรีบวิ่งไปเก็บกระเป๋า
และหนังสือที่หอของตนตามคำสั่งของอาจารย์อย่างกระตือรือร้น
ช่วงเวลาแห่งการรอคอยที่น่าตื่นเต้นใกล้เข้ามาทุกที  สำหรับนักเรียนฮอกวอตส์รุ่นนี้
แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่จะมีคณะจากโรงเรียนอื่นมาที่โรงเรียน บางคนนั้นพึ่งรู้ด้วยซ้ำ
ว่ามีโรงเรียนสอนเวทมนต์แห่งอื่นนอกจากที่ฮอกวอตส์ ทุกคนจึงดูตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่จะ
ได้พบเจอผู้คนที่มาจากดินแดนที่แตกต่างออกไป  แต่คงไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้นที่รู้สึกแบบนี้
บรรดาอาจารย์หลายๆท่านก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน ทุกท่านพยายามทำทุกอย่างให้ดูดีที่สุดเพื่อที่จะ
ได้ไม่ขายหน้าให้กับคณาจารย์และนักเรียนต่างโรงเรียน  บางครั้งเรื่องแบบนี้ก็เป็นการประชันกัน
ระหว่างหน้าตาของโรงเรียนมากไปกว่าการสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน

ความมืดเริ่มโรยตัวและอากาศก็หนาวเย็นพอสมควร เหล่าเด็กนักเรียนยืนเรียงเป็นแถวอยู่หน้าปราสาท
 ต่างใจจดใจจ่อรอการมาถึงของมิตรต่างแดน หัวข้อการสนทนาก็คงไม่พ้นเรื่องของสองโรงเรียนที่จะมาถึง
บ้างพูดถึงคนรู้จักที่เรียนอยู่สองโรงเรียนนี้ บ้างก็พูดเดาถึงสถานที่ตั้ง ภูมิประเทศ
 รวมถึงการเดาวิธีการเดินทางของทั้งสองโรงเรียนที่จะมาในไม่กี่นาทีนี้ด้วย

* * * * * * * *

หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปเรื่อยๆระหว่างรอ นักเรียนหญิงบ้านเลเวนคลอสองสามคนก็เริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วเช่นกัน

“อะไรหรอ” เด็กสาวคนหนึ่งกระซิบ

“เธอดูนั่นสิ” เพื่อนสาวตอบพร้อมกับพยักเพยิดให้ดูเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นทำให้ผิวสีซีดของเด็กหนุ่มยิ่งดูขาวซีดยิ่งขึ้นกว่าเดิม ร่างกายบอบบางสูงโปร่ง
แต่กลับแฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่งและรูปร่างที่เริ่มกำยำใกล้เข้าสู่วัยหนุ่มทำให้เขาดูดีมากทีเดียว
  เด็กหนุ่มกระชับเสื้อคลุมแน่นขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย  สายตาเหม่อมองไปบนท้องฟ้า
เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ หากแต่ความคิดของเขากลับต่างออกไป  การมาของคณะต่างโรงเรียนเป็นเรื่อง
ที่น่ายินดีแต่ก็ไม่เกี่ยวกับเขา ในเมื่อไม่สามารถเข้าแข่งประลองไตรภาคีได้ก็คงทำได้แค่ให้กำลังใจคนอื่น
 ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาไม่ค่อยชอบใจนัก  มัลฟอยถอนใจน้อยๆ พลันรับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องมาที่เขา
 เด็กหนุ่มมองไปรอบๆก็สบตากับเด็กสาวรอบตัวหลายๆคน  เขาคงคิดไม่ถึงหรอกว่าท่าทางเมื่อ
ครู่มันกระชากใจบรรดาเด็กสาวเพียงใด (>///<) เขาหันกลับ ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ คนตระกูลมัลฟอยย่อม
เป็นที่สนใจของเพศตรงข้ามเสมอ

แต่คงไม่ใช่เฉพาะผู้คนรอบตัวเขาเท่านั้น ห่างออกไปไม่ไกลนักท่ามกลางความตื่นเต้นกับการปรากฏ
ของพาหนะเดินทางของโบซ์บาตง  เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลก็แอบมองมาที่เขาเหมือนกัน
ตอนนี้ดวงตาคู่นี้ขุ่นเล็กน้อยจากอารมณ์หมั่นไส้เล็กๆ

“เชอะ!..คนหลงตัวเอง” เธอพึมพำ

* * * * * * * * * *

การมาถึงของเหล่าคณะจากโบซ์บาตงกับเดิร์มสแตรงก์เมื่อวานนี้สร้างความฮือฮายิ่งขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งปรากฏกายขึ้น
- - วิกเตอร์ ครัม - -  เขาเป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กหนุ่มและเด็กสาวกับฝีมือการเล่นควิชดิชระดับชาติของเขา
 - - แต่ถึงเขาจะดังหรือเก่งอย่างไรก็มีอยู่คนนึงล่ะที่ไม่สนใจ

เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเก็บของลุกหาที่นั่งใหม่ที่เงียบสงบกว่าตรงนี้
 วิกเตอร์ ครัมนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่เธอนั่งนัก แล้วก็มีบรรดาพวกสาวๆแฟนคลับของเขารายล้อมอยู่ด้วยเต็มไปหมด
 เด็กสาวเดินไปที่นั่งประจำที่ไกลจากผู้คน ถึงจะอยู่ไกลจากชั้นหนังสือที่เธอต้องค้นคว้าแต่ความเงียบ
สงบย่อมสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด  เธอนั่งลง เปิดหนังสือและเริ่มลากปากกาขนนกเสียงแกรกกราก
ไปอย่างไม่มีช่องว่างให้ความเงียบเข้าปกคลุม

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เด็กสาวรู้เพียงเธอเริ่มปวดตาจึงหยุดแล้ววางปากกาขนนกลงบนโต๊ะ
เธอละสายตาจากงานตรงหน้าแล้วก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่ามุมที่เธอนั่งอยู่เพียงลำพังในตอนแรกนั้นไ
ม่ใช่เธอคนเดียวอีกต่อไป

“มัลฟอย” เธอไม่รู้จะพูดอะไรทำได้แต่เรียกชื่อเขาออกมา

เด็กหนุ่มนั่งท้าวคางถัดไปอีกสองโต๊ะ เขาหรี่ตาลงมองเธอแล้วลุกขึ้น...

“ครับ”

ไม่น่าเชื่อว่าการรับคำด้วยคำสุภาพแบบนี้จะทำให้เธอหน้าแดง  เด็กสาวมองเขาอย่างอึ้งๆ มัลฟอยมองหน้า
เธอแล้วก็ขำกับใบหน้าเหวอแสดงถึงความแปลกใจเต็มที่

“เป็นอะไร เกรนเจอร์” เขาเลื่อนเก้าอี้ตัวตรงหน้าเธอแล้วนั่งลงอย่างไม่ต้องมีใครเชิญ

“นายนั่นแหล่ะเป็นอะไร‘ครับ’บ้าอะไรของนาย”

“หึหึ อะไรกัน ฉันก็แค่เห็นว่าเราไม่ได้คุยกันนานก็เลยอยากพูดกันดีๆเท่านั้นเอง” เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ
ทำให้ใจเธอเต้นระรัว  เฮอร์ไมโอนี่พอจะรู้แล้วว่าเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นแน่ๆ
เด็กสาวพยายามระงับสติอารมณ์ไม่ให้ตื่นเต้นมากนัก

“มีธุระอะไร” เธอถามเขาเสียงเย็น หน้าบึ้งตึง

“เหอะ...ทำเสียงงี๊หมายความว่าไง คนพูดด้วยดีๆแล้วนะ อย่าหาเรื่องน่ะเกรนเจอร์”
เขาพูดเสียงยานคางพลางหยิบแผ่นกระดาษที่เธอเขียนค้างไว้มาดูเล่นแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ทั้งคู่นั่งเงียบๆกันอยู่ครู่หนึ่งจนเฮอร์ไมโอนี่เริ่มอึดอัด เด็กสาวเริ่มเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเขาก็พูดทำลายความเงียบขึ้น...

“ทำไมเธอต้องหลบตาฉันด้วย” มัลฟอยพูดเสียงเบาแต่เธอก็ได้ยินมันทุกถ้อยคำ

“หา..”

“ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน ฉันไม่พูดซ้ำหรอกนะ”เขาพูดแล้วหันไปอีกทางด้วยใบหน้าสีชมพูระเรื่อ

“หืมมม”  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแล้วจ้องหน้าเขา คำถามนี้มันทำให้เธอรู้ว่าเขาเองก็แคร์เธอเหมือนกัน

“ทำไมล่ะ นายจะให้เราเล่นจ้องตากันรึไง” เธอถาม ชักรู้สึกเป็นต่อขึ้นมาบ้าง

“นี่..ฉันจริงจังนะ” เขาตอบแล้วหันมาจ้องตาของเธอ เด็กสาวชะงัก

“จ..จริง..จังอะไรของนาย” เธอหลบตาลง

มัลฟอยถอนใจน้อยๆ “ฉันไม่เข้าใจเธอเลย”

“ก็นั่นแหล่ะที่ฉันไม่ชอบ” เด็กสาวเว้นจังหวะ สีหน้าอึดอัด คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน

“ปกติฉันต้องรู้เรื่องทุกเรื่อง ไม่มีอะไรที่หาคำตอบไม่ได้ แต่นี่ความรู้สึกของฉันเองฉันยังไม่เข้าใจเลย
 ทุกอย่างมันสับสนไปหมดจนไม่รู้ว่าความรู้สึกอันไหนที่เป็นความจริงกันแน่
 ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะนายนั่นแหล่ะนายสมการเจ้าปัญหา” เธอพูดจบก็หอบหายใจฮัก จ้องหน้าเขาใบหน้าเป็นสีชมพู

“ไม่รู้สินะ..ฉันมักจะให้อะไรที่คิดไม่ออกติดตัวแปรxเอาไว้ก่อน...มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น..”

มัลฟอยจ้องหน้าเด็กสาวทึ่งๆ แน่นอนว่าเขารู้ว่าตัวแปรxหมายถึงอะไร แต่สิ่งที่เขาทึ่งก็คือความคิดของเธอ
ที่มักจะนำทุกอย่างไปพัวพันกับความรู้ไปซะหมด - - ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของความรู้สึก..
.เขาคิดพลันนึกไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับมักเกิ้ลเรื่องหนึ่งที่เคยรู้มาตอนไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับมักเกิ้ลในวิชามักเกิ้ลศึกษา
 (ไม่รู้ทำไมหลังจากตอนนั้นแล้วเขาถึงได้เปิดใจรับและสนใจข้อมูลของพวกมักเกิ้ลมากขึ้น)

“แล้ว...xตัวนี้มันแทนอะไรล่ะ...ความรู้สึกของเธอรึไง...” เขาค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

เฮอร์ไมโอนี่หลุบสายตาลงต่ำ หน้าแดงระเรื่อ เธอไม่อยากเป็นแบบนี้เลย...ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เธออึดอัด...

“ก็ไม่เห็นจะยากนี่” มัลฟอยตอบพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเด็กหนุ่มเป็นเชิงถาม เขาขยับนิ้ว
เรียกให้เธอเขามาใกล้ๆ เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างไม่ไว้ใจแต่ก็ขยับเข้าไปใกล้แต่โดยดี  มัลฟอยวางมือบน
ไหล่ของเธอกันไม่ให้เธอหลบเลี่ยงไปทางอื่น  ทั้งสองสบสายตากัน...เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้...

เฮอร์ไมโอนี่ใช้สองมือดันเขาออกเต็มแรงแต่ก็ไม่เป็นค่อยผล มือที่ยึดไหล่ทั้งสองอยู่ช่างมั่นคงนัก

“จะ..จะทำอะไรของนาย”เธอถามหน้าตาแดงก่ำ

“เธออยากเจอฉันรึเปล่า” เขาไม่ตอบแต่กลับตั้งคำถามเสียงเบา

“....” เด็กสาวหน้าแดงยิ่งขึ้นอีก เธออายเกินกว่าจะตอบออกไปว่าเธออยากเจอเขามากเหลือเกิน

“ตอบสิ” น้ำเสียงคาดคั้นแต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล

“ไม่รู้..” ความจริงใบหน้าของเธอตอนนี้ก็เป็นคำตอบให้เขาได้ดี

“แล้วเธอ...รังเกียจฉันมั๊ย..”

“ฉัน...ไม่ได้รังเกียจเธอ..” เธอตอบเสียงเบา

“งั้นคำถามสุดท้าย...” แล้วเขาก็เงียบไป เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเขา มัลฟอยยิ้มนิดๆ

“ฉันจะไม่ถามเธอตอนนี้...แต่สักวันหนึ่ง ฉันจะถามเมื่อฉันเองก็แน่ใจกับคำตอบแล้วเหมือนกัน”

เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วนิดๆ เธอชักงงๆกับคำตอบของเขาซะแล้วสิ

“คิ้วอย่าขมวดให้บ่อยนัก” เขาเอานิ้วชี้จิ้มระหว่างคิ้วทั้งสองให้คลายออก

“ฟังนะ  คำตอบของตัวแปรที่เธอหาอยู่ก็คือ... X = xxx” พูดจบมัลฟอยก็โน้มตัวลงมาใกล้พลางบรรจงจูบแผ่วเบา
เฮอร์ไมโอนี่ตะลึง ขืนตัวเล็กน้อยในตอนแรกแต่แล้วก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามการเรียกร้อง
ภายในส่วนลึกของหัวใจ


TBC

No comments:

Post a Comment