Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 17: ความวุ่นวายในคุกใต้ดิน

หลังจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในคุกใต้ดินได้จบลงไปนั้น  เสนปก็เริ่มสอนวิชาปรุงยาที่นักเรียนกริฟฟินดอร์คิดว่ามันเป็นวิชาที่พวกเขาชอบน้อยที่สุดในทันที  เสนปเดินผ่าฝูงนักเรียนที่ไม่ยอมนั่งตามที่ของตัวเองมาหยุดอยู่ตรงชั้นวางโหลดองที่เพิ่งพังพินาศลงมาเมื่อครู่ เศษแก้วและเครื่องในสัตว์ชนิดต่าง ๆ นั้นลงมากองรวมกันที่พื้น  ทำให้มันเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยซักนิด  แต่เสนปไม่ใส่ใจมันเขาเพียงสะบัดไม้กายสิทธิ์ครั้งหนึ่ง  และซากความเสียหายเหล่านั้นก็หายวับไปทันตา

“กลับไปนั่งที่สิ  พวกเธอคิดจะยืนเรียนกันรึไง!” เสนปตะคอกและเมื่อสิ้นเสียงของเขานักเรียนทั้งชั้นก็ต่างรีบกลับไปที่นั่งของตนเองโดยทันที ( โดยเฉพาะเด็กกริฟฟินดอร์ )

“เอาล่ะ  วันนี้เราจะปรุงน้ำยาระงับความฝันกัน  น้ำยาตัวนี้มีประสิทธิภาพอย่างดีในการรักษาอาการนอนไม่หลับ  และช่วยให้เราไม่ฝันเพื่อจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่” เสนปร่ายยาว “โดยทั่วไปแล้วจะใช้กับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงพักฟื้นและกำลังรักษาตัว  หรืออาจจะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการป่วยทางความฝันก็ได้”

“ส่วนประกอบของน้ำยาตัวนี้ค่อนข้างซับซ้อน  ถ้าเธอผสมน้ำยาผิดเพียงหยดเดียวล่ะก็  น้ำยาระงับความฝันของเธอก็อาจจะเปลี่ยนเป็นยาพิษได้เช่นกัน” เสนปพูดมองเด็กกริฟฟินดอร์แต่ละคนด้วยสีหน้าเย็นชา

“และฉันก็หวังว่าพวกเธอทุกคนคงจะใช้ความพยายามในการปรุงมันอย่างสุดความสามารถล่ะ  สำหรับส่วนผสมอยู่บนกระดานเรียบร้อยแล้ว” เสนปพูดพลางโบกไม้กายสิทธิ์ทีนึง  ตัวหนังสือยาวเหยียดกว่าสิบบรรทัดก็ปรากฏขึ้นบนกระดานในทันที

“พอหมดเวลาฉันจะมาดูผลงานของพวกเธอนะ  และที่ฉันต้องการคือน้ำยาสีฟ้าใส  ใส่แล้วสีฟ้าใสเท่านั้นนะลองบัตท่อม  ไม่ใช่สีเขียวขุ่นหรือสีเหลืองข้นคลั่กหรอกนะ” เสนปพูดเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเนวิลล์ที่ตอนนี้ตัวสั่นราวกับจ้าวเข้า

“ฉันให้เวลาแค่หมดชั่วโมงนะ  แล้วจำไว้ด้วยว่าอย่างสร้างความวุ่นวายหรือพยายามจะพังห้องเรียนของฉันอีก” เสนปทิ้งท้ายไว้พร้อม ๆ กับหันมามอง แฮร์รี่  เฮอร์ไมโอนี่  และรอน  ก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง

    หลังจากที่เสนปไป  เด็กนักเรียนที่เหลือก็พยายามปรุงยากันอย่างขมักเขม้น  แต่น้ำยาระงับความฝันนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะปรุงกันง่าย ๆ เลย  เพราะสูตรขอน้ำยานั้นซับซ้อนเกินกว่าจะมาเอามาสอนในปีห้าด้วยซ้ำ  เฮอร์ไมโอนี่ต้องคอยเตือนเนวิลล์ไม่ให้ใส่ส่วนผสมผิดเป็นครั้งที่สาม  แต่เธอก็รู้สึกแปลกใจมากที่วันนี้เสนปไม่คอยมาจับผิดพวกเขาอย่างเคย  แต่มันก็ดีตรงที่เฮอร์ไมโอนี่จะสามารถช่วยเหลือเนวิลล์ได้ง่ายขึ้น แต่เธอก็อดเหลือบไปมองทางห้องทำงานของเสนปไม่ได้  เพราะว่าเธอกลัวว่าเขากำลังแอบมองพวกเธออยู่จากมุมหนึ่งของห้อง

    เมื่อนักเรียนทั้งหมดนั้นใช้ความพยายามที่จะปรุงยาที่แสนจะยากเย็นตัวนี้ได้เพียง 15 นาที  ก็มีอุปสรรคมาเพิ่มให้พวกเขาอีกนอกจากความยากของการปรุงยา  เพราะนกฮูกจำนวนมากต่างบินเข้ามาในห้องเรียนและตรงไปที่ห้องทำงานของเสนป  นกฮูกทุกตัวต่างฉลาดพอที่จะเข้ามาทางประตูคุกใต้ดิน  เพราะว่าในห้องทำงานของเสนปนั้นไม่มีหน้าต่างเลยแม้แต่บานเดียว  และพวกมันคงรู้ดีเลยเลือกที่จะบินเข้ามาทางประตูแทน  แต่การที่พวกมันทำอย่างนั้นกลับกลายเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กับนักเรียนในชั้นเรียนกันยกใหญ่  เพราะแฮร์รี่นั้นต้องรีบจับขวดน้ำทับทิมของเขาไว้ก่อนที่นกฮูกตัวหนึ่งจะบินชนมันจนตกโต๊ะ ส่วนรอนนั้นต้องรีบคว้านกฮูกป้ำเป๋อตัวหนึ่งที่มีอาการคล้าย ๆ กับ ‘ แอรัล ‘ นกฮูกแก่ของเขาเมื่อมันกำลังจะบินดิ่งลงในหม้อปรุงยาของรอน

    “ฉันไม่อยากจะกินนกฮูกตุ๋นยาจีนซักเท่าไหร่หรอกนะ”  รอนบ่นพลางวางมันลงกับพื้นโต๊ะ  เจ้านกฮูกตัวนั้นลุกขึ้นมาอย่างเกียจคร้านและส่งเสียงฮูกเบา ๆ เหมือนจะพูดว่า ’ ขอบคุณ ‘ ก่อนจะบินเอียง ๆ ไปที่ห้องทำงานของเสนป  ส่วนรอนนั้นมองตามมันไปโดยหวังว่ามันจะบินไปถึงที่หมายโดยไม่ร่วงลงไปในหม้อใหญ่ของใครอีก  แต่ความวุ่นวายนี้ไม่ได้เกิดแค่กับพวกเขาทั้งสองคนเท่านั้น  นักเรียนคนอื่น ๆ แม้แต่พวกสลิธีรินก็พลอยโดนไปด้วย  รอนมองดูสภาพห้องเรียนที่เต็มไปด้วยนกฮูกพลางคิดว่าถ้าใครเคยมาที่ฮอกวอตส์มาก่อนต้องคิดแน่ ๆ ว่า พวกเขามาเรียนปรุงยากันในโรงนกฮูกทำไมกัน

และก็เหมือนว่าเสนปจะรับรู้ถึงความภายนอกห้องทำงานของเขา  เขาเดินออกมาที่ห้องเรียนอย่างหัวเสีย “พวกเธอจะทำงานกันอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้หรือไง  หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน” เสนปตะโกน  พอพูดจบเขาก็หายเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้งพร้อม ๆ กับเสียงประตูที่ปิดดังปัง  โดยทิ้งเด็กกริฟฟินดอร์ที่ทำสีหน้าเหมือนโดนบังคับให้กินยาพิษไว้เบื้องหลัง

“หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน!” รอนพูดล้อเลียนเสนปพลางทำหน้าขยะแขยง “ถ้าคะแนนที่เขาหักจากบ้านกริฟฟินดอร์ไปเพิ่มในเซฟของเขาที่กริงกอตส์ได้ล่ะก็  ฉันจะไม่แปลกใจเลยที่เสนปจะเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก  ก็มีครั้งไหนที่เขาเจอหน้าพวกเราโดยไม่หักคะแนนบ้างล่ะ” รอนบ่นอุบ

“ฉันว่าวันนี้เสนปท่าทางแปลก ๆ นะ” แฮร์รี่พูด

“แล้วมีวันไหนที่เขาไม่แปลกบ้างล่ะ  แฮร์รี่” รอนประชด “นายพูดอย่างกับเสนปเพิ่งมาแปลกเอาวันนี้งั้นแหละ  ฉันว่าเขาน่ะแปลกมาทั้งชีวิตของเขาแล้วนะ  นายก็รู้”

“แต่ฉันก็คิดเหมือนกับแฮร์รี่นะรอน  วันนี้มีอะไรแปลก ๆ เสนปก็ดู เอ่อ บอกไม่ถูกน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  ส่วนเพื่อนของเธอทั้งสองคนเองก็พอจะรู้เหมือนกันว่าไอ้ที่เฮอร์ไมโอนี่บอกว่า ‘ บอกไม่ถูก ’ น่ะ  คืออาการที่บ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดี  และทำตัวแปลกไปจากเดิมของเสนป

“คือฉันพอรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร” เนวิลล์พูด  พยายามยื่นหน้ากลม ๆ ของเขาเข้ามาเพื่อมีส่วนร่วมในวงสนทนา  และก็ได้ผลตามคาดเพราะเมื่อเนวิลล์พูดจบทั้ง แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่  และรอน  ก็มองเขาอย่างสนอกสนใจ “คือฉันรู้มาว่ามีใครบางคนย่องมาขโมยของจากตู้ในห้องทำงานของเสนปไป  พอเขารู้เรื่อวของก็หายไปเยอะแล้ว  เสนปเลยวุ่นวายกับกับการสั่งของพวกนั้นเข้ามาใหม่  ได้ยินว่าเป็นของที่หาซื้อไม่ได้ง่าย ๆ ด้วย” เนวิลล์พูด  ระหว่างที่เนวิลล์เล่ารอนพึมพำอะไรบางอย่างออกมาซึ่งเฮอร์ไมโอนี่พอเข้าใจได้ว่าเขาพูดว่า ‘ สมน้ำหน้า ’

“ขโมยของในห้องทำงานของเสนป  ไอ้เจ้าหัวขโมยนี่มันเต็มหรือเปล่านะถึงกล้าขนาดนี้  แล้วในห้องทำงานของเสนปจะมีของมีค่าอะไรให้ขโมย” รอนพูดตามความคิดของเขา

“ไม่ใช่ของมีค่า  แต่มันเป็นสมุนไพรและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ในการปรุงยา” เนวิลล์แก้ความเช้าใจผิดของรอน  “รู้สึกว่าเขาจะเข้ามาขโมยในวันที่มีการแข่งควิดดิชนั่นแหละ”

“นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง  เนวิลล์” แฮร์รี่ถาม

“พวกนายก็รู้นี่ว่าฉันน่ะเรียนปรุงยาแย่แค่ไหน” เนวิลล์พูดด้วยท่าทีเศร้าสร้อย “วันนั้นอาจารย์นัดฉันมาเรียนปรุงยาเพิ่ม  และพอฉันมาถึงก็เห็นในห้องทำงานไม่มีใครอยู่  ฉันได้ยินแต่เสียงคุยกันในห้องทำงานอาจารย์  ฉันเลยเดินไปดู  ในห้องมีทั้งเสนปและศาสตราจารย์ฟลิตวิก  และมิสเตอร์ฟิลซ์ด้วย” เนวิลล์อธิบาย

“ตอนแรกฉันไม่กล้าเข้าไปเลยแอบดูอยู่ตรงประตู  และได้ยินเสนปพูดกับศาสตราจารยน์ฟลิตวิกและมิสเตอร์ฟิลซ์ว่าเมื่อวานมีคนเข้ามาขโมยของของเขา  และเขาต้องการให้ทั้งสองช่วยตรวจสอบเพื่อหาตัวคนร้ายให้  ที่เหลือก็อย่างที่ฉันเล่าให้พวกนายฟังนั่นแหละ” เนวิลล์พูด

“แล้วพวกเขาเจออะไรไหม” แฮร์รี่ถามเนวิลล์

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  แต่คงจะไม่เพราะฉันไม่ได้ยินอาจารย์พูดถึงเรื่องนี่เลยหลังจากวันนั้น” เนวิลล์ตอบ

“ให้ตายสิเนวิลล์  นายต้องไปเรียนปรุงยาเพิ่มเนี่ยนะ” รอนร้องพลางทำหน้าสยองราวกับว่าเห็นอาราก็อกปรากฏกายในห้องเรียน

“ใช่ อาจารย์บอกว่าฉันต้องเรียนจนกว่าอะไรก็ตามที่เขาสอนจะซึมซับเข้าไปในกะโหลกหนา ๆ ของฉันได้” เนวิลล์พูดเสียงเศร้า  ส่วนแฮร์รี่นั้นกระทุ้งรอนเบา ๆ เพื่อให้เขาหยุดพูดเรื่องที่จะกระทบกระเทียนต่อจิตใจของเนวิลล์ซะที

“งั้นก็หมายความว่ามีใครบางคนเข้าไปขโมยส่วนประกอบในการปรุงยาจากห้องทำงานของเสนปน่ะสิ  เธอรู้รึเปล่าว่ามีอะไรหายไปบ้างเนวิลล์” เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา

“เท่าที่ฉันได้ยินรู้สึกว่าจะมี  คราบงูเขียวปูมชะแลง  ปลิง  เลือดมังกร  เขายูนิคอร์น  กับพิษงูเห่า” เนวิลล์ตอบพลางทำหน้านึกคิด “อาจจะมีอีกแต่ฉันจำไม่ค่อยได้”

เฮอร์ไมโอนี่นั้นถามขึ้นทันทีที่เนวิลล์พูดจบ “แล้วมีเขาไบคอร์นบด  กับปลิง  ด้วยรึเปล่า”

“เอ่อ  มี ๆ ใช่แล้ว  มีเขาไบคอร์นบด  กับปลิง  ด้วย  เธอรู้ได้ยังไงน่ะเฮอร์ไมโอนี่” เนวิลล์ถามเธอด้วยสายตาสงสัย  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบเธอได้แต่ทำหน้าครุ่นคิดพร้อม ๆ กับกัดริมฝีปากตัวเองแน่น

เมื่อหมดชั่วโมงเสนปก็ออกมาจากห้องทำงาน  เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยขนนกฮูกและมีร่องรอยของหมึกสีดำติดอยู่ตรงมือของเขาอย่างชัดเจน  ซึ่งนั่นแสดงว่าเสนปนั้นต้องวุ่นอยู่กับการรับและตอบจดหมายเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาที่ผ่านมาแน่ ๆ  

เสนปบอกให้นักเรียนทุกคนเอาน้ำยาของตัวเองใส่คนโทแล้วนำมาส่ง  เด็กกริฟฟินดอร์พยายามประคองคนโทของตัวเองอย่างระมัดระวังมากที่สุดเพราะกลัวว่าการซุ่มซ่ามเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาอาจจะทำให้เขาได้ศูนย์คะแนนในวิชาปรุงยาได้ ( โดยเฉพาะแฮร์รี่ ) และเมื่อเสนปเห็นน้ำยาของเนวิลล์ที่เอามาส่งเขาเป็นสีฟ้า ( ถึงแม้จะไม่ใช่สีฟ้าใสอย่างเฮอร์ไมโอนี่  แต่มันก็เป็นสีฟ้าไม่ใช่สีเขียวข้นคลั่ก ) เขาก็มองเนวิลล์อย่างประหลาดใจ “สีฟ้ารึลองบัตท่อม” เสนปพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น  ส่วนเนวิลล์นั้นกำลังยืนตัวสั่นด้วยความกลัว

“ฉันนึกว่ามันจะออกมาเป็นน้ำยาอาเจียนสีเหลืองซะอีก  นับว่าครั้งนี้เธอโชคดีมากนะลองบัตท่อม” เสนปพูด “ถ้าเธอเป็นคนปรุงเองทุกอย่าง” เขาทิ้งท้ายพลางหยิบน้ำยาของเนวิลล์มาดูใกล้ ๆ อีกครั้งก่อนที่จะให้คะแนน “ไปได้ลองบัตท่อม” เสนปสั่ง  และหันไปสนใจน้ำยาของกอยล์ที่เป็นสีแดงเหมือนเลือดข้น ๆ แทน  ส่วนเนวิลล์นั้นปาดเหงื่อออกพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก

เมื่อนักเรียนแต่ละคนเอาน้ำยาของตัวเองไปส่งเสร็จก็พากับทยอยออกจากคุกใต้ดินกันเพื่อไปเรียนวิชาต่อไป  ส่วนเด็กกริฟฟินดอร์นั้นรู้สึกว่าจะพยายามพุ่งตัวออกจากคุกใต้ดินอย่างรวดเร็วราวกับขาดอากาศหายใจแน่ถ้าอยู่ในนั้นต่อไป  แฮร์รี่  เฮอร์ไมโอนี่  และรอน  ก็เช่นเดียวกันพวกเขารีบเผ่นออกมาทันทีเมื่อเอาน้ำยาไปส่งเสร็จ  ตลอดทางเดินไปเรียนวิชาสมุนไพรนั้นเฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าเคร่งเครียดมาตลอด

“เธอเป็นอะไรเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ถามเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าครุ่นคิดและไม่ยอมพูดกับใครมาตลอด

“คงเครียดเรื่อง ว.พ.ร.ส. น่ะสิ  โอ๊ย  ฉันจะทำยังไงดี  ฉันยังอ่านหนังสือรอบที่ห้าสิบไม่จบเลย” รอนพูดพลางทำท่าทางล้อเลียนเธอ

“เงียบน่า  รอน!” เฮอร์ไมโอนี่ดุ “ฉันกำลังใช้ความคิดอยู่”

“เธอคิดเรื่องอะไรอยู่น่ะเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูด

“อย่าบอกเรานะว่าเป็นเรื่องโครงการ สรร-สอ อะไรนั่นของเธออีกน่ะ” รอนร้อง

“เปล่ารอน  ฉันไม่ได้คิดเรื่องนั้น” เฮอร์ไมโอนี่เถียงเขาแต่เมื่อรอนทำหน้าไม่เชื่อเธอ  เฮอร์ไมโอนี่จึงตัดสินใจที่จะบอกพวกเขาเรื่องที่เธอคิดอยู่

“ฉันกำลังคิดเรื่องที่มีคนมาขโมยของในห้องทำงานของเสนปต่างหาก  อ้อ  แล้วนายควรจะเรียกชื่อโครงการให้ถูกด้วยนะ  เพราะมันมีชื่อว่า ส.ร.ร.ส.อ. หรือ  สมาคมเรียกร้องสิทธิเอล์ฟ  ไม่ใช่ สรร-สอ!” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“แล้วมันเกี่ยวกันโครงการ สรร-สอ ของเธอยังไงล่ะ  อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าพวกเอล์ฟจะมาขโมยของนั่นน่ะ ” รอนพูด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นถลึงตาใส่เขา

“ไม่ใช่  รอน  ฉันกำลังสงสัยว่าของที่หายไปน่ะ  มันเป็นส่วนประกอบของน้ำยาสรรพรสน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  พยายามลดเสียงลงให้อยู่ในระดับที่ได้ยินกับแค่พวกเขาสามคน

“แล้วไงล่ะ” รอนถาม

“มันก็หมายความว่ามีใครบางคนพยายามที่จะปรุงน้ำยาสรรพรสเหมือนที่พวกเราทำกันตอนปีสองน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเขา  ส่วนรอนนั้นทำหน้าเข้าใจขึ้นมาหน่อยนึง

“แต่เธอแน่ใจเหรอว่าเป็นน้ำยาสรรพรสน่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  ฉันว่าฉันได้ยินเนวิลล์บอกว่ามีเลือดมังกรกับเขายูนิคอร์นที่ไม่ได้ใช้ทำปรุงน้ำยาสรรพรสด้วยนะ” แฮร์รี่ท้วงขึ้นมา

“ฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน  แต่ฉันคิดว่าคนที่ขโมยนั่นน่ะต้องการปรุงยามากกว่าหนึ่งอย่าง  อย่างหนึ่งคือน้ำยาสรรพรส  ส่วนอีกอย่างก็เป็นอะไรฉันไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างจนปัญญา

“แต่มันจะเป็นอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่  ไอ้เจ้าหัวขโมยนั่นมันจะเอาของทั้งหมดในห้องทำงานของเสนปไปต้มยาก็ช่างมันประไล” รอนบ่น

“ถ้าเธอลืมล่ะก็ฉันจะช่วยเตือนเธอให้เองนะรอนว่า  เธอน่ะเป็นพรีเฟ็คนะ  เพราะฉะนั้นเธอมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและรักษากฏระเบียบของโรงเรียน” เฮอร์ไมโอนี่ดุเขา  ส่วนรอนนั้นทำหน้าไม่ใส่ใจกับตำแหน่งที่เขาได้รับ

“โถ่  เฮอร์ไมโอนี่เมื่อตอนปีสองพวกเรายังทำเลย  แล้วตอนนี้เธอจะไปตามจับเด็กคนอื่นที่เขาเจริญรอยตามเราน่ะเหรอ” รอนเถียง

“แต่ว่าตอนนั้นพวกเรามีเหตุผลนี่  แล้วฉันก็คิดว่าไม่น่าจะมีเด็กคนไหนปรุงน้ำยาสรรพรสมาดื่มเล่นหรอกนะรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูด “ฉันแค่ไม่ต้องการให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นก็เท่านั้น”

“แต่มันก็ไม่ร้ายแรงนี่  แค่ปรุงยาเอง” รอนพูดอย่างสบาย  ๆ

“ไม่  มันร้ายแรงมากเลยรอน!” เฮอร์ไมโอนี่เสียงแข็ง “รู้มั้ยว่าฉันนั่งนึกอยู่ตั้งนานว่ามียาชนิดไหนบ้างที่ใช้เลือดมังกร  พิษงูเห่า  กับเขายูนิคอร์น  เป็นส่วนผสมมั่ง” เฮอร์ไมโอนี่ร่ายยาว

“แล้วคำตอบคืออะไรล่ะ” รอนถาม

“ไม่มี  ไม่มีเลยซึ่งนั่นหมายความว่าไงรู้มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแหลม “มันหมายความว่ายาที่เจ้าหัวขโมยนั่นกำลังจะปรุงขึ้นมาต้องเป็นยาต้องห้ามแน่ ๆ  เพราะฉันแน่ใจว่าฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปรุงยาทุกเล่มในห้องสมุดและก็ไม่มีหนังสือเล่มไหนบอกว่ามีน้ำยาที่มีส่วนผสมของเลือดมังกร  เขายูนิคอร์น และพิษงูเห่าอยู่ด้วยกัน ยกเว้นก็แต่ในเขตหวงห้ามเท่านั้นที่ฉันไม่เคยอ่าน” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มร่ายเหตุผลยาวยืดของเธออีกครั้ง

“เพราะฉะนั้นยานั่นต้องเป็นยาต้องห้ามชัวร์ ๆ ฉันพนันได้เลย  บางทีอาจจะเป็นยาพิษด้วยซ้ำ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยท่าทีมั่นใจ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราด้วยล่ะ” รอนพูด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นตั้งหน้าจะบอกเขาด้วยเหตุผลยาวเฟื้อยของเธอที่ว่า ‘ เธอน่ะเป็นพรีเฟ็คนะ  แล้วหน้าที่ของพรีเฟ็คก็คือ ….. ’ แต่แฮร์รี่นั้นรู้ทันจึงออกมาห้ามทัพไว้ก่อน

“ถ้าพวกเธอไม่อยากเข้าเรียนวิชาสมุนไพรสายล่ะก็หยุดเถียงกันซะที” แฮร์รี่พึมพำ  ส่วนรอนกับเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็หยุดการโต้เถียงซึ่งกันและกันได้ ( ซักพักนึงเท่านั้นแหละ ) และเด็กทั้งสามก็รีบเร่งฝีเท้าในการเดินเพื่อไปเรียนวิชาสมุนไพร


TBC

No comments:

Post a Comment