Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Wednesday, September 10, 2014

Chapter 3: นักเรียนคนใหม่ของฮอกวอตส์



ที่ห้องสมุดโรงเรียนฮอกวอตส์. ..

"เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า! มัลฟอย!" แพนซี่ พาร์คินสันกระแทกหนังสือที่กางอยู่ตรงหน้าโดยแรง
 เธอเห็นมัลฟอยเท้าคางและเหม่อมองไปที่หน้าต่างอยู่นาน แต่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงใด ๆ 
"เธอไม่ฟังฉันเลย! เราต้องทำรายงานเรื่องนี้ด้วยกันนะ!" 
"แล้วแต่เธอเถอะ" มัลฟอยตอบทั้งที่ยังไม่หันมา แล้วเขาก็เผลอเอามือที่เท้าคางนั้นลูบริมฝีปากของตัวเอง 
แพนซี่หมดความอดทน เธอลุกพรวดรวบหนังสือกองโตไว้แนบอก แล้วพูดด้วยเสียงอันดัง 
"เธอจะลูบให้มันได้อะไรขึ้นมา! เธอรู้ไหม ตั้งแต่เธอนั่งกับฉัน เธอลูบปากตัวเองกี่ครั้งแล้ว!" 
พูดจบเธอก็ตั้งท่าจะเดินออกไป แต่ก่อนจะเดินออกไปนั้นเธอหันมาพูดกับเขาอีกครั้ง 
"ฉันพยายามคิดว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนไป แต่มันไม่ใช่เลย...คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ฉันรู้!..." 
แล้วเธอก็เดินปัง ๆ ออกไป ปล่อยให้มัลฟอยนั่งอึ้งกับคำพูดของเธอ เขาทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างแรง 
โยกเก้าอี้สองขา เงยหน้าขึ้นมองเพดานของห้องสมุดพลางถอนหายใจ 
จริงสินะ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ในสมองของเขาสับสนมานาน ทั้งที่ตลอดมาเขาพยายามต่อสู้กับความรู้สึกส่วนนั้น 
เขาทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เขาแกล้งแฮร์รี่ พอตเตอร์ ให้ยายริตาร์เขียนข่าวเละเทะไม่เป็นความจริงให้แฮร์รี่ขายหน้า
 ดูถูกรอน วิสลีย์เรื่องครอบครัวพ่อแม่ เยาะเย้ยถากถางเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เรื่องสายเลือดของเธอตลอดเวลา 
"ยายเลือดสีโคลน มือสกปรก!" มัลฟอยคราง 
เขาอยากให้ตัวเองเป็นคนหูตึงขึ้นมากะทันหันตอนที่เขาโดนแมดอายมูดดี้ สาบให้เป็นตัวเฟเร็ดแล้วถูก
เล่นงานเสียสะบักสะบอมนั้น ถ้าเขาหูตึงซะ เขาก็จะไม่ได้ยินคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ 
"ที่จริงเขาทำมัลฟอยเจ็บมากเลยนะ..ดีที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลมาห้ามไว้.." 
คำพูดของเฮอร์ไมโอนี่เหมือนจะย้อนเข้ามาในโสตประสาทของเขาอีกครั้ง เธอบอกว่าฉันคงเจ็บ..เธอ..เป็นห่วงฉันเหรอ
... มัลฟอยอยากจะถามเธอนัก แต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดดี ๆ กับเธอเลย เพราะนับตั้งแต่ขึ้นปีสี่มาเขาพูดจาเลว
ร้ายกับเธอสารพัด เพราะหวังว่าเขาจะได้ลืมเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด.. 
มัลฟอยทิ้งเก้าอี้ลงสี่ขาตามเดิมเสียงดังโครม เด็กในห้องสมุดบางคนหันมามองเขา แต่พอเห็นว่าเขาคือเดรกโก
 มัลฟอย ก็พากันมองไปทางอื่นอย่างลุกลี้ลุกลน มัลฟอยก้มหน้าเอามือกุมศรีษะตัวเอง 
"ทำไม่ตอนนั้นเธอถึงพูดอย่างนั้น!" เขาพึมพำอย่างเจ็บปวด 
"ถ้าเธอไม่พูด ฉันคงจะลืมเธอได้..." 
มัลฟอยนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา เรื่องที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับ"ยายเลือดสีโคลน"ที่เขารังเกียจนักหนา 
ไม่มีใครรู้เรื่องน้ำยาฝันร้าย ไม่มีใครรู้ว่าเขากับเฮอร์ไมโอนี่เคยเข้าไปในหนังสือเกมผจญภัยด้วยกัน 
ไม่มีใครรู้อะไรทั้งนั้น... 
มัลฟอยเหม่อมองไปที่หน้าต่างอีกครั้ง สายฝนที่พร่างพรมลงมากระทบกระจกเหมือนจะดึงดูดให้เขาลุก
จากเก้าอี้ไปเปิดหน้าต่าง แล้วรับเอาน้ำฝนเย็นชื่นนั้นไว้ในมือ 
มัลฟอยทำตามที่ใจคิด เขาเปิดหน้าต่างออกไปมองสนามหญ้าเขียวที่ชื้นไปด้วยฝน ไม่มีใครเดินอยู่เลย....แน่ล่ะ 
ก็ฝนกำลังตกอยู่นี่นา แต่แล้วสายตาของเขาก็ไปหยุดที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินชิดกับตัวตึกอยู่ข้างล่าง
 เส้นผมยาวสีดำสนิทของเธอเป็นประกายสวยงามราวกับไม่ได้เปียกฝนใด ๆ เลย เธอสวมเสื้อคลุมสีดำ
ที่เป็นเครื่องแบบของโรงเรียนด้วย มัลฟอยนึกอยากเห็นหน้าเธอขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วเธอก็หยุด.
..หยุดเดินตรงตำแหน่งที่มัลฟอยมองลงมาพอดี แล้วเธอก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา 
ทั้งสองคนสบตากันนิ่ง ดวงตาสีดำของเธอราวกับส่งประกายได้เช่นเดียวกับเส้นผมยาวสยาย 
ริมฝีปากสีแดงราวกับถูกอากาศหนาวจัดนั้นกำลังส่งยิ้มบาง ๆ ให้มัลฟอยที่กำลังตกตะลึง 
แล้วเธอก็หายไป เมื่อมัลฟอยกระพริบตาแค่ครั้งเดียว... 

************** 

มัลฟอยได้กลิ่นหอมประหลาดลอยมาพร้อมกับสายลมวูบหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนร่างกายลอยละล่อง
 สายตาของนักเรียนคนอื่น ๆ ในห้องสมุดที่กำลังหันมามองท่าทางของเขาอย่างสนใจทำให้มัลฟอยรู้สึกตัว
 เขารีบปิดหน้าต่างให้เหมือนเดิมแล้วคว้ากระเป๋าเดินออกไปจากห้องสมุดทันที 
. . . . . . . . . . . . . . . .  

เวลาอาหารเย็นที่โต๊ะอาหารรวมของโรงเรียน เมื่อนักเรียนมานั่งรวมกันครบทุกคนแล้ว
 ก่อนลงมือรับประทานอาหาร ศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของอาจารย์ด้านหน้า
 ปรบมือสองครั้งเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบและฟัง เฟร็ดกับจอร์จถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ
 แต่ไม่ยอมปล่อยช้อนกับส้อมในมือ นักเรียนบางคนรีบคว้าอาหารเข้าปากก่อน (รอนอมขนมปังไว้ในปากทัน) 
"วันนี้ครูมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนทราบ..." ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเริ่มเรื่อง 
"เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โรงเรียนของเราจะไม่มีการรับนักเรียนเข้าในช่วงกลางปีการศึกษา..." 
"อำไอไอ้อู้ดอ้าโองเอียนอ่ออั้งอึ้นเอื้อไอ่เอยอ่ะ!(ทำไมไม่พูดว่าโรงเรียนก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่เลยล่ะ!)" รอนงึมงำ
 พยายามประคองขนมปังไว้ในปาก 
"แต่ครูอยากจะให้พวกเธอต้อนรับนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาเรียนเป็นกรณีพิเศษ
 ถึงแม้ว่าเธออาจจะอยู่กับเราไม่นาน แต่ครูก็ขอร้องให้ทุกคนจงเป็นเพื่อนกับเธอ..." 
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลหันไปมองเด็กที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นเชิงให้เธอเดินขึ้นมาแนะนำตัว 
"นี่คือมิสโอวีล่า เพียวร์บลัด" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลหลบทางให้เธอเดินมาข้างหน้าแทน 
เด็กผู้หญิงผมสีดำคนนั้นนั่นเอง! 
ช้อนกับส้อมในมือของเฟร็ดกับจอร์จตกลงกระทบจาน รอนแทบจะกลืนขนมปังในปากลงไปในคำเดียว 
แม้แต่ไก่ที่กอยล์คาบไว้ก็หล่นลงจากปากของเขา 
"สวยเหลือเกิน" เนวิลล์คราง 
นักเรียนคนอื่น ๆ เริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลต้องปรบมืออีกครั้งเพื่อให้ทุกคนเงียบ 
"มิสเพียวร์บลัดได้สวมหมวกคัดสรรแล้ว และบ้านที่เธอจะได้ไปอยู่ก็คือ..." 
รอนห้ามตัวเองไม่ให้ภาวนาว่าขอให้เธอมาอยู่ที่บ้านกริฟฟินดอร์ไม่ได้ 
"สลิธีริน..." 
เฟร็ดกับจอร์จที่กำลังลุ้นตัวโก่งถอนใจเฮือกด้วยความเสียดาย รอนเองก็เผลอถอนหายใจไปด้วย
 แต่ที่โต๊ะของบ้านสลิธีริน มัลฟอยยังคงจ้องมองเธอคนนั้นราวกับถูกสะกด 
เมื่อศาสตราจารย์มักกอนนากัลส่งสัญญาณให้รับประทานอาหารได้ นักเรียนคนอื่น ๆ ก็พากันลงมือกันทันที 
โอวีล่าเดินลงไปที่โต๊ะอาหารของบ้านสลิธีริน นักเรียนบางคนยังคงจ้องมองเธอไม่วางตา เมื่อเธอเดินมาถึงโต๊ะ
 แครบเผลอลุกขึ้นจากเก้าอี้ ราวกับรู้สึกว่าเขาต้องลุก เพื่อให้เธอได้นั่งข้าง ๆ มัลฟอย 
โอวีล่ายิ้มแล้วนั่งลงแทนแครบ เธอก็หันไปมองมัลฟอยที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นเดียวกัน 
ใบหน้าที่ยังคงยิ้มอยู่ของเธอนั้นมองมัลฟอยแล้วพูด 
"ในที่สุดฉันก็เจอเธอ" 
มัลฟอยจ้องเธอนิ่ง แล้วเขาก็ได้กลิ่นหอมนั้นอีกครั้ง... 


****************** 

"ดูนั่นสิเด็กนักเรียนใหม่" 
"คนไหน คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ มัลฟอยใช่ไหม" 
"สวยมากเลยนะ" 
มัลฟอยสาวเท้าเร็ว ๆ เดินฝ่าเสียงซุบซิบของนักเรียนคนอื่น ๆ ที่พากันชี้ชวนกันดูโอวีล่าที่เดินอยู่ข้าง ๆ เขา
 มัลฟอยเคยสมเพชรอนที่ใคร ๆ พากันสนใจแฮร์รี่จนรอนเหมือนมนุษย์ล่องหน แต่ตอนนี้เขากำลังตก
อยู่ในสถานการณ์เดียวกับรอน โดยมีโอวีล่าเป็นแฮร์รี่แทน! 
เมื่อกลุ่มของมัลฟอยและนักเรียนของบ้านสลิธีรินเดินผ่านห้องเรียนของบ้านกริฟฟินดอร์
 เสียงซุบซิบที่ดังมาตามทางทำให้รอนที่กำลังจดบทเรียนลงกระดาษอดเงยหน้าขึ้นมองตามโอวีล่าไปไม่ได้ 
"เธอน่าจะมีเลือดผสมวีล่านะ" รอนพูด เขานึกถึงตอนที่ไปดูควิดดิชเวิร์ดคัพกับแฮร์รี่ และชื่อโอวีล่าก็แสดง
ออกมาอย่างชีดเจนอยู่แล้ว 
"แต่ฉันว่าเธอน่าจะสืบสายเลือดโดยตรงมาเหมือนมัลฟอยมากกว่า ดูนามสกุลเธอสิ(เลือดบริสุทธิ์)" แฮร์รี่พูด
 พยายามไม่หันไปมองโอวีล่า เขาไม่อยากมีสภาพเหมือนถูกทำสเน่ห์เหมือนรอน 
"ผมเธอสวยมากเลยนะ" รอนยังคงทำหน้าเคลิ้มฝัน ถึงแม้โอวีล่าจะเดินผ่านไปแล้ว 
"นั่นเธอจะแขวะฉันล่ะสิ" เฮอร์ไมโอนี่ที่ทำท่าไม่สนใจพวกเขาสองคนมาตั้งแต่แรกพูดขึ้นอย่างฉุน ๆ
 เธอนึกถึงผมฟูของตัวเอง 
"เปล๊า!" รอนพูด แล้วกลับไปสนใจม้วนกระดาษตรงหน้าตามเดิม 


 ............................ 

คนที่หมดความอดทนกับโอวีล่าคนแรกกลับเป็นมัลฟอย เขาทนสภาพแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป
 เขาตัดสินใจจะพูดกับเธอให้รู้เรื่องว่าห้ามเธอเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด ทั้งที่เขารู้อยู่เต็มอกว่าโอวีล่าไม่ได้มี
ท่าทีที่จะเข้ามาใกล้ชิดอะไรเขาเลยสักนิด แต่มันก็มีเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินกับเธอ กินข้าวใกล้กัน 
นั่งเรียนใกล้กันอยู่ตลอดเวลา จนวันนี้หลังจากคาบเรียนวิชาปรุงยาเลิก 
"โอวีล่า ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอ" มัลฟอยตัดสินใจจะพูดกับโอวีล่าให้เด็ดขาดถึงแม้มันจะดูไร้เหตุผลเต็มที 
แต่ว่าตอนนี้แม้แต่อาจารย์สเนปก็ดูเหมือนว่าจะชอบเธอมากกว่าเขาเสียแล้ว 
"ได้สิ" โอวีล่าพูดพลางยิ้ม แล้วมองข้ามไหล่มัลฟอย ดูนักเรียนคนอื่น ๆ พากันเดินออกไปจากห้องเรียนเกือบ
หมดแล้ว แครบกับกอยล์ก็เดินออกไปข้างนอกด้วย 
"ฉัน..." มัลฟอยตั้งใจจะพูดให้รุนแรงออกไป แต่แล้วก็มีสายลมแผ่ว ๆ พัดมาปะทะกับใบหน้าขอ
งเขาพร้อมกับกลิ่นหอมที่เขาเคยได้กลิ่นมาก่อน มัลฟอยชะงักทันที โอวีล่ายิ้มเหมือนพอใจ
 เธอเดินช้า ๆ เขามาชิดตัวมัลฟอย แล้วก็กระซิบที่หูของเขา 
"มาหาฉันสิ ที่สนามควิดดิช ตอนสองทุ่ม..." เธอพูดจบก็เดินออกไปทิ้งให้มัลฟอยยืนอยู่ด้วยความมึนงงในตัวเอ' 


************************ 

คืนนั้น มัลฟอยแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเดินลงที่มาสนามควิดดิชตามที่โอวีล่าบอกได้อย่างไร
 แต่ก็มาตรงเวลาพอดี เขาเดินเรื่อยเปื่อยไปหยุดตรงกลางสนามหญ้าสีเขียวเพียงลำพัง 
ที่สนามไม่มีใครอยู่ทั้งนั้น ท้องฟ้ามืดสนิท ในสนามมีดวงไฟที่พอให้แสงสลัวอยู่ไม่กี่ดวง สายลมพัดแรง
 เสียงต้นไม้เสียดสีกันทำให้บรรยาการรอบตัววังเวงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ 
หรือเราจะถูกหลอก... มัลฟอยคิด นั่นสินะ เราคงถูกหลอกจริง ๆ 
มัลฟอยหันหลังจะเดินกลับ เขาก็สะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นโอวีล่ากำลังยืนยิ้มให้เขา เธอยืนห่างเขาไปแค่ไม่กี่ก้าว
 เธอสวมชุดกระโปรงยาวติดกันสีดำทั้งชุด แสงไฟทั้งสนามเหมือนจะส่องมารวมกันที่ตัวเธอ 
มัลฟอยไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเดินมาข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 
สายลมพัดมาอีกระลอก... 
กลิ่นหอมนั่นอีกแล้ว...ไม่ชอบเลย มัลฟอยนึก กลิ่นนั้นเหมือนทำให้เขาสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 
แต่เขาก็กลั้นใจถามออกไป 
"เธอมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า" 
"ฉันเหรอ" โอวีล่าเลิกคิ้ว แล้วพูดยิ้ม ๆ 
"เธอต่างหากที่มีเรื่องจะพูดกับฉัน" 
"ฉัน..." มัลฟอยจะพูด แต่แล้วเขาก็ไม่สามารถจะเปล่งคำพูดใด ๆ ออกมาได้ เหมือนริมฝีปากถูกบังคับให้ปิดสนิท 
ไม่! ไม่ใช่แค่ริมฝีปาก แต่เขาขยับตัวไม่ได้เลยต่างหาก! 
โอวีล่าเดินเข้ามาชิดร่างแข็งทื่อของมัลฟอย แล้วยกแขนขึ้นโอบรอบคอของเขาไว้ 
"ฉันรักเธอ" เสียงนั้นไม่ดังไปกว่ากระซิบ เธอโน้มศรีษะพิงกับอกของมัลฟอยอย่างทะนุถนอม 
"ฉันตามหาเธอมานานเหลือเกิน สุดที่รัก" โอวีล่ายังคงพูดเหมือนเพ้อ มัลฟอยกลัวเธอขึ้นมาจับใจ
 ถึงตัวจะขยับไม่ได้ แต่ความรู้สึกของเขาก็ยังครบถ้วนทุกประการ! 
"เธอไม่พูดอะไรเลย...เธอมีใครอยู่ในใจแล้วหรือ" โอวีล่าเงยหน้าขึ้น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีซีดของเขา 
"ให้ฉันดูหน่อย" 
มัลฟอยพยายามขยับตัว เขาไม่รู้ว่าโอวีล่าจะทำอะไรแต่เขารู้สึกว่าเธอทำได้อย่างที่พูด
 ดวงตาสีดำของเธอเหมือนจะมองใจของเขาได้ทะลุปรุโปร่ง มัลฟอยทำได้แค่เพียงส่งสายตาขัดขืนออกไป 
"เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์.. เธอชอบมักเกิ้ลหรือ" โอวีล่าพูดหลังจากจ้องดวงตาของเขาอยู่สักครู่ 
เธอเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง เห็นแม้กระทั่งภาพที่มัลฟอยจูบกับเฮอร์ไมโอนี่ครั้งแล้วครั้งเล่า! 
"ริมฝีปากของเธอเปื้อนโคลน สุดที่รัก" เธอมองมัลฟอยด้วยแววตาโศก 
"ฉันจะถอนพิษให้" โอวีล่าล้วงเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง หยิบขวดยาสีแดงกุหลาบขึ้นมาดื่ม
 มัลฟอยมองด้วยแววตาตระหนก 
ไม่!! 
มัลฟอยพยายามขยับตัวอีกครั้ง แต่...เขาทำไม่ได้! 
"เธอจะกลับเป็นคนเดิม เราจะไปอยู่ด้วยกัน" 
โอวีล่าเขย่งเท้าขึ้นจูบมัลฟอย เขารู้สึกถึงรสหวานประหลาดที่ค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ริมฝีปากอย่างช้า ๆ
 พร้อมกับได้กลิ่นหอมกระจายไปทั่ว 


****************************** 

เฮอร์ไมโอนี่โมโหตัวเองเป็นอย่างมากที่ลืมหนังสือที่ขอยืมมาจากห้องสมุดไว้ที่เรือนกระจกในคาบวิชา
สมุนไพรศาสตร์ เธอขอยืมผ้าคลุมล่องหนมาจากแฮร์รี่แล้วแอบย่องลงมาข้างล่างเพียงลำพัง 

ระหว่างทางที่ต้องผ่านสนามควิดดิช เฮอร์ไมโอนี่สังเกตว่าวันนี้แสงไฟจากสนามที่คอยส่องให้คนที่เดินผ่าน
ไปมาตอนกลางคืนนั้น กลับหมุนไปส่องรวมกันอยู่กลางสนาม เฮอร์ไมโอนี่อดเดินไปดูสาเหตุไม่ได้
 พอเดินไปถึงประตูทางเข้าสนาม เธอก็เห็นคนสองคนกำลังยืนแนบชิดกันอยู่.... 
มัลฟอยกับโอวีล่า!! 
เฮอร์ไมโอนี่ชะงักเท้าทันที แล้วรีบหลบที่หลังต้นไม้ใหญ่ (ถึงจะไม่มีใครมองเห็นเธอ แต่เสียงฝีเท้าที่ย่ำไปบน
หญ้าซ่อนไม่ได้) 
โอวีล่าค่อย ๆ คลายวงแขนจากร่างแข็งทื่อของมัลฟอย เธอปิดฝาขวดน้ำยาสีกุหลาบก่อนจะเอามันใส่กระเป๋าลง
ไปตามเดิม 
“ตัวแข็งทื่อเชียวนะมัลฟอย คงดีใจมากล่ะสิ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างหมั่นไส้ พยายามบอกตัวเองว่าทั้ง
สองคนทำประเจิดประเจ้อเธอจึงไม่พอใจ ไม่ใช่ว่าเธอกำลังน้อยใจ! 

แล้วโอวีล่าก็จูงมือมัลฟอยเดินออกไปจากสนามด้วยกัน มัลฟอยเดินตามไปอย่างไร้วิญญาณ 
เฮอร์ไมโอนี่มองทั้งสองคนเดินไปจนลับตา เธอสะบัดศรีษะไล่ความรู้สึกที่ประดังเข้ามา
 แล้วก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป เมื่อถึงเรือนกระจก ถึงแม้เธอจะเจอหนังสือที่ลืมแล้วก็ตาม
 แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่อยากกลับเข้าหอนอน เธอทรุดตัวลงนั่งท่ามกลางพืชหน้าตาประหลาดในเรือนกระจกอย่าง
เงียบ ๆ 
ภาพของมัลฟอยกับโอวีล่ายังคงติดตาอยู่อย่างนั้น... 
“เธอไม่ควรจะมานั่งที่นี่ตอนกลางคืนนะ” 
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งโหยง 
“เมอร์เทิล” เฮอร์ไมโอนี่เรียกชื่อเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เมอร์เทิลเป็นผีเด็กผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในห้องน้ำ 
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่ถาม 
“ฉันไหลมาตามสายยาง ก็…ฉันเหงานี่นา” เมอร์เทิลพูดเสียงเศร้าสร้อย ดวงตาที่อยู่หลังแว่นตานั้นมีน้ำตาเอ่อคลอ 
“เธอไหลมาตามสายยางอย่างนี้ประจำเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่รีบถามต่อ เธอไม่อยากฟังเสียงสะอึกสะอื้นและเรื่องเศร้า
ซ้ำซากที่ดูเหมือนกำลังจะตามมาอีกไม่ช้า 
“ก็เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ฉันจะได้ลุ้นบ้างว่าจะไปโผล่ที่ไหน อย่างเมื่อตะกี้ฉันก็โผล่ไปที่สายยางรดน้ำหญ้า
ของสนามควิดดิช” เมอร์เทิลเว้นระยะ เหมือนจะเร้าความสนใจให้เฮอร์ไมโอนี่ถามว่าเมื่อกี้เธอไปเจออะไรมา 
“เธอเจอโอวีล่ากับมัลฟอยล่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่เฉลยแทน แล้วเธอก็เบือนหน้าไปทางอื่นพลางถอนหายใจโดยไม่รู้ตัว 
“ฉันเจอยายนั่นประจำ เธอชอบแอบไปใช้ห้องอาบน้ำของพรีเฟ็ค” เมอร์เทิลพูดเหมือนฟ้อง 
แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจพูดเสียงเรียบ ๆ 
“เธออาจจะเป็นคนรักสวยรักงามมั้ง เลยอยากใช้ห้องน้ำดี ๆ “ 
“รักสวยรักงาม เฮอะ!” เมอร์เทิลสะบัดมือปฏิเสธความคิดของเฮอร์ไมโอนี่ 
“ฉันว่ายายนั่นน่าขยะแขยงออก” 


******************** 

"น่าขยะแขยงหรือ” เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว 
“ถ้ายายนั่นเข้าไปอาบน้ำเฉย ๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เธอเที่ยวเอาน้ำยาประหลาด ๆ ใส่ลงไปในอ่าง
 แล้วน้ำก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงมั่ง สีฟ้ามั่ง…” เมอร์เทิลพูดพลางทำท่าขนลุกขนพองไปด้วย 
แต่เฮอร์ไมโอนี่กำลังฟังอย่างสนใจ เธอจึงพูดต่อไปเรื่อย ๆ 
“แล้วครั้งสุดท้ายนะ พอน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอก็หัวเราะดังจนแก้วหูฉันแทบแตก
 พูดแต่ว่า เขาจะได้ไปอยู่กับฉัน…เขาจะได้ไปอยู่กับฉันเสียที” เมอร์เทิลเลียนแบบเสียงโอวีล่า 
“เขาน่ะใคร” เฮอร์ไมโอนี่ถาม 
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง” เมอร์เทิลพูดจบก็ลอยกลับไปที่ปลายสายยางรดน้ำของเรือนกระจก แล้วเธอก็ไหลย้อนกลับเข้าไป 


…………………….. 


วันรุ่งขึ้น หลังจากที่รับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่ก็หมกตัวอยู่ในห้องสมุดทั้งวันเพื่อค้นหา
วิธีช่วยให้เอลฟ์ประจำบ้านได้รับเงินค่าจ้างและวันหยุด (หรือโครงการสรร-สอที่รอนเรียก) 
เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งค้นเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องค้นมากขึ้นเพราะยังไม่มีวี่แววว่าหนังสือเล่มใดจะช่วยได้ เ
ธอจึงต้องจดหนังสืออ้างอิงจากหนังสือเล่มอื่น ๆ จนยาวเกือบสุดม้วนกระดาษ

โครม!! 
กระเป๋าหนังสือใบหนึ่งถูกโยนมาตรงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ เธอสะดุ้ง มัลฟอยนั่นเอง 
เขาเดินมาเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่แล้วนั่งลง จ้องเธอด้วยแววตาดูถูก 
“ไปนั่งที่อื่นซะ ยายเลือดสีโคลน” มัลฟอยสั่ง พิงพนักเก้าอี้ตามสบาย 
“ขอโทษทีเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเย็น 
“ฉันไม่คิดว่าฉันควรจะทำตามที่เธอบอก ในเมื่อฉันนั่งอยู่ก่อน” เฮอร๋ไมโอนี่พูด ในใจเธอนั่นทั้งงงและเจ็บปวด 
“ถ้าอย่างนั้น…” มัลฟอยเอื้อมมือไปหยิบขวดหมึกของเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่กล้าสาบานเลยว่า เธอเห็นดวงตา
สีซีดของมัลฟอยนั้นไร้แววใด ๆ 
เร็วเกินกว่าจะมีใครเห็น มัลฟอยสะบัดน้ำหมึกในขวดใส่เฮอร์ไมโอนี่จนเสื้อของเธอเลอะเป็นด่างดวง! 
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ถึงมัลฟอยจะเคยพูดจาดูถูก แต่เขาไม่เคยทำกับเธอรุนแรงขนาดนี้ 
“ร้องไห้สิ” มัลฟอยวางขวดหมึกลงบนโต๊ะ แล้วพิงเก้าอี้ตามเดิม จ้องมองเฮอร์ไมโอนี่ ท่าทางของเขาเฉยเมย
ราวกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงเลย 
เฮอร์ไมโอนี่น้ำตาเอ่อ เธอกัดริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น เธอไม่ต้องการให้เขาสมใจที่อยากเห็นเธอร้องไห้ 
เฮอร์ไมโอนี่รวบของทั้งหมดใส่ลงกระเป๋าแล้ววิ่งออกไปทันที 


************************** 

"ฉันจะฆ่ามัน!!" 
รอนตะโกนลั่นห้องนั่งเล่นรวมของบ้านกริฟฟินดอร์ หลังจากที่เขารู้สาเหตุที่เสื้อของเฮอร์ไมโอนี่เลอะ
หมีกกลับมาเขาก็พุ่งออกจากเก้าอี้ทันที แฮร์รี่จับชายเสื้อของรอนไว้ทัน 

"แล้วเธอทำยังไง.." แฮร์รี่ถาม มือของเขายังคงยึดเสื้อของรอนไว้ รอนกำลังวิ่งย่ำอยู่กับที่ปากก็ร้องว่า
ฉันจะฆ่ามันอยู่อย่างนั้น 
"ฉัน..." เฮอร์ไมโอนี่พูดได้เพียงเท่านั้นก็ทรุดลงนั่งข้างแฮร์รี่ แล้วเอามือป้องตา 

แฮร์รี่ตบไหล่เฮอร์ไมโอนี่เบา ๆ เพื่อปลอบ (ตอนนี้มือเขาไม่ว่างเลยซักมือ) รอนพอจะคุมสติได้
(หรือเริ่มรู้สึกว่าเสื้อจะขาด) ก็หอบแฮ่ก ๆ มานั่งปลอบเฮอร์ไมโอนี่อีกคน 
"เธอไปทำอะไรเขาก่อนหรือเปล่า" แฮร์รี่ถาม 
"แล้วที่ไอ้...เอ่อ..เจ้านั่น!..ทำกับเราทุกวันนี้เพราะเราไปทำอะไรมันก่อนหรือเปล่าล่ะ!" 
รอนตั้งใจจะตั้งสมญาให้มัลฟอยอย่างดุเดือด แต่เด็กคนอื่น ๆ ในห้องมีเยอะเกินไป เขาจึงไม่กล้า 
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอใช้หลังมือป้ายน้ำตา นั่นยิ่งทำให้รอนโกรธมากยิ่งขึ้น 
"เราต้องฟ้องอาจารย์!" รอนพูดเหมือนตะโกน 

เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าซ้ำ แล้วพูดเสียงสะอื้น 
"ฉันไม่มีพยาน แล้วใครจะไปเชื่อว่ามัลฟอยจะทำเรื่องไร้เหตุผลแบบนี้" เฮอร์ไมโอนี่จับเสื้อของตัวเอง
ขึ้นมาดูรอยด่างดวง 
รอนกับแฮร์รี่มองหน้ากันอย่างหมดหวัง 

คืนนั้น เฮอร์ไมโอนี่ใช้คาถาย้ายที่ ย้ายรอยหมึกออกจากเสื้อ แต่ก็ทำได้แต่เพียงรอยใหญ่ ๆ เท่านั้น
 เธอใช้ไม่กายสิทธิ์แตะไปที่หยดหมึกที่ละหยด ว่าคาถาด้วยเสียงสั่นเครือ 
ไปนั่งที่อื่นซะ ยายเลือดสีโคลน.... 
อย่ากัดลิ้นฉันอีกนะ... 
ร้องไห้สิ.. 
คำพูดที่มัลฟอยเคยพูดกับเธอ วนเวียนอยู่ในโสตประสาท แต่ประโยคสุดท้ายนั้น แววตาเย็นชาไร้แววของเขา 
แจ่มชัดเกินกว่าที่เธอจะทนได้ เฮอร์ไมโอนี่ต้องเอามือปิดหู เธอกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยให้น้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมา 


...............................  

"ดูนั่นสิมัลฟอยกับโอวีล่า" เนวิลล์ชี้ชวนให้แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ดูคู่ของมัลฟอยกับโอวีล่าที่กำลังเดินผ่าน
ห้องเรียนคาบวิชาประวัติศาสตร์เวทมนต์ของพวกเขา 
คาบวิชาประวัติศาสตร์เวทมนต์เป็นคาบที่พอจะชวนกันคุยได้ ยิ่งระยะหลัง ๆ มานี้ ศาสตราจารย์บินส์(ที่เป็นผี)
 ตั้งอกตั้งใจเขียนกระดาน จนถึงขนาดที่ว่า ถ้ากระดานเป็นผู้หญิง เขาก็คงจ้องมันจนจะขอมันแต่งงานได้อยู่แล้ว 
"สมกันล่ะหญิงร้ายกับชายชั่ว!" รอนพึมพำเสียงโกรธ ๆ 
แฮร์รี่ขมวดคิ้วแล้วถามรอน 

"โอวีล่าร้ายตรงไหน" 
"ไม่รู้สี..." รอนอุบอิบ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพู 
"แต่สนิทกับมัลฟอยได้ก็น่าจะนิสัยเดียวกันนี่!" 

แฮร์รี่เข้าใจความรู้สึกของรอน บางทีรอนอาจจะพยายามกลบอาการที่เหมือนอกหักจากโอวีล่าอยู่ก็ได้ 
เฮอร์ไมโฮนี่พยายามไม่มองตามเพื่อน ๆ เธฮตั้งหน้าตั้งตาจดข้อความบนกระดานดำทุกตัวอักษร
 และคิดกับตัวเองเพียงแต่ว่า 
ฉันจะต้องไม่สนใจเขาอีก... 


********************** 

แต่ดูเหมือนว่าหัวใจกับสมองจะทำงานคนละหน้าที่กัน เฮอร์ไมโอนี่จึงยังไม่สามารถตัดมัลฟอยออกจากใจได้โดยง่าย
 ความทรงจำระหว่างเธอกับเขาที่ไม่มีใครรู้นั้น มีมากเกินไป 

จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้สองสามวัน ในเวลาอาหารเย็นของโรงเรียนฮอกวอตส์ นักเรียนมานั่งรับประทานอาหาร
รวมกันเช่นเคย ศาสตราจารย์มักกอนนากัลปรบมือเป็นสัญญาณว่าจะมีเรื่องพูดเช่นทุกครั้ง นักเรียนทุกคนเงียบ 
วางช้อนส้อมที่ถือรอลงบนโต๊ะ (คราวนี้รอนอมขนมคัสตาร์ดไว้ในปาก' มันละลายง่ายดี' รอนบอกแฮร์รี่) 

"ก่อนที่ครูจะพูดถึงเรื่องในวันนี้ ครูอยากจะขอบใจพวกเธอทุกคน ที่เป็นเพื่อนที่ดีกับมิสเพียวร์บลัด..."
 ศาสตราจารย์มักกอนน่ากัลเริ่มเรื่อง 

"แต่เป็นที่น่าเสียใจที่มิสเพียวร์บลัด จำเป็นจะต้องย้ายออกจากโรงเรียนไป ตั้งแต่วันพรุ่งนี้.." 
"เพราะเธอทนมัลฟอยไม่ได้" รอนต่อให้อย่างหมั่นไส้ 

"เพราะพ่อของเธอจะต้องย้ายไปทำงานที่ใหม่ และในโอกาสนี้ ครูอยากจะขอให้เธอขึ้นมากล่าวบางสิ่งแก่เพื่อน ๆ
 ของเธอ" 
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลหลบทางให้โอวีล่าขึ้นมาแทน 
โอวีล่าเดินขึ้นา เธอยิ้มให้กับทุกคน แล้วเริ่มพูด 
"ดิฉันขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคน ที่ทำให้ฉันมีความทรงจำที่ดี มีเพื่อนมากมายที่ให้ความอบอุ่น ช่วยเหลือดิฉัน และ..
" โอวีล่าเว้นระยะนิดหนึ่ง 
"ทำให้ฉันได้พบกับคนสำคัญ.." 
เฮอร์ไมโอนี่เห็นว่าโอวีล่ามองไปทางมัลฟอย แต่นักเรียนคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจว่า"คนสำคัญ" ของโอวีล่านั้นเป็น
ใครจึงไม่มีใครสังเกตเห็น 
"ดิฉันจะจดจำที่นี่ตลอดไป แม้จะจากไปแล้วก็ตาม" 

แล้วเธอก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าจบแค่นี้ นักเรียนคนอื่น ๆ พากันตบมือให้ แล้วศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็
เชิญให้เด็กคนอื่นรับประทานอาหารกันได้ 
โอวีล่าเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารของบ้านสลิธีรินแล้วเลื่อนเก้าอี้ลงนั่ง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเก้าอี้ที่อยู่ข้างมัลฟอย 
มัลฟอยยิ้มให้โอวีล่า แล้วยกแก้วน้ำฟักทองขึ้น โอวีล่าห้ามไว้ แล้วหยิบขวดน้ำยาสีแดงกุหลาบขวดเดิมขึ้นมา
 รินน้ำยาลงไปในแก้วเขาก่อนที่จะให้มัลฟอยดื่ม 

เฮอร์ไมโอนี่มองเขม็งมาที่ทั้งสองด้วยอาการตะลึง โอวีล่าหันไปเห็นพอดี แต่แทนที่เธอจะตกใจหรือรีบแอบซ่อน
ขวดน้ำยา เธอกลับยิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่ ขวดน้ำยาถูกปิดช้า ๆ ก่อนจะถูกเก็บตามเดิม 

เฮอร์ไมโอนี่ยังคงตกตะลึงอยู่อย่างนั้น โอวีล่ายิ้ม แล้วใช้ปลายนิ้วลูบแก้มของมัลฟอยที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอีก 
ท่ามกลางเสียงเอะอะของนักเรียนคนอื่น ๆ เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงของโอวีล่า เหมือนเธอกำลังกระซิบอยู่ที่ข้างหู 
"เขาเกิดมาเพื่อเป็นของฉัน..." 
รอยยิ้มของโอวีล่าเหมือนจะส่งกระแสเย็นเฉียบมาสู่ร่างของเฮอร์ไมโอนี่! 


******************* 

หลังจากที่โอวีล่าย้ายออกไปในวันรุ่งขึ้น รอนก็หายจากสภาพเหมือนถูกเสน่ห์ 
แต่เนวิลล์ผู้อ่อนไหวยังคงเผลอชะเง้อคอมองกลุ่มนักเรียนของบ้านสลิธีรินเหมือนยังหวังว่าจะได้เห็นโอวีล่า
แต่ก็ไม่บ่อยนัก นักเรียนคนอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ 
ยกเว้น มัลฟอย! 
แครบกับกอยล์รู้สึกว่ามัลฟอยเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เขาเหม่อลอย ไร้วิญญาณ เหมือนกับตอนที่โอวีล่าอยู่ไม่มีผิด 
เฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนจะทำใจเรื่องของมัลฟอยได้บ้าง แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้ชีวิตของเธอกลับเป็นเหมือนเดิม
 เธอยอมรับว่าเธอยังอดมองมัลฟอย เวลาที่เขาเดินผ่านห้องเรียนของเธอไปไม่ได้ 
"สงสัยโดนหักอก ดูสิเดินยังกับซอมบี้!" รอนนินทามัลฟอยด้วยประโยคเดิม ๆ ทุกครั้งที่เห็นเขา 
เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองว่าง เธอจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน จึงเลือกที่จะไปช่วยศาสตราจารย์สเปราต์ 
ดูแลต้นไม้ในเรือนกระจกจนเย็นเกือบทุกวัน 
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่ง... 
"พอได้แล้วมิสเกรนเจอร์ ขอบใจเธอมาก ไปล้างมือได้แล้ว" ศาสตราจารย์สเปราต์บอก 
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นจากกระถางต้นเมนเดรก แล้วเดินไปเปิดก๊อกน้ำ 
แต่สิ่งที่ไหลออกมาทำให้เฮอร์ไมโอนี่แทบช๊อค! 

"เมอร์เทิล! เธอทำฉันตกใจนะ!" เธอว่า 
เมอร์เทิลแบะปาก แล้วพูด 
"เธอต้องจัดการให้ฉันนะ" 
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วงง อีกฝ่ายพูดอย่างโกรธ ๆ 

"มีคนไปใช้ห้องน้ำพรีเฟ็คอีกแล้ว! เที่ยวเอาน้ำยาบ้า ๆ สีแดงนั่นผสมลงไปอีกคน น่าขยะแขยง! 
ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ" 
"ใครล่ะ โอวีล่าย้ายออกไปแล้วนี่นา" เฮอร์ไมโอนี่สงสัย 
"ก็เด็กผู้ชายผมสีบล์อนด์ ที่ชื่อ มัลฟอย...เดรกโก มัลฟอย" 

อุปกรณ์ปลูกต้นไม้หล่นจากมือเฮอร์ไมโอนี่ ภาพน้ำยาสีแดงในมือของโอวีล่าปรากฏขึ้นในหัวสมอง
 จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับมัลฟอยแน่ ๆ! 

"มัลฟอย!" เฮอร์ไมโอนี่ออกวิ่งทันที ทิ้งให้เมอร์เทิลตะโกนว่าเธอต้องจัดการให้ฉันนะอยู่ข้างหลัง 
.......................................... 

มัลฟอยยืนอยู่ในห้องอาบน้ำอันหรูหราของพรีเฟ็ค ตรงกลางห้องมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เท่าสระ
ว่ายน้ำฝังอยู่บนพื้น มัลฟอยถอดเสื้อคลุมของโรงเรียนออกแล้ววางไว้ที่พื้น เดินไปใกล้ ๆ อ่างนั้น
 แล้วหยิบขวดน้ำยาสีแดงกุหลาบออกมาจากกระเป๋า 
เขาเปิดฝา แล้วรินน้ำยาลงไปในอ่าง โดยไม่สนใจว่าแขนเสื้อยาว ๆ ของเขาจะเปียกน้ำ เขาเหมือนไม่รู้สึกตัว 
ไม่ช้าน้ำก็ค่อย ๆ เจือสีแดงอ่อน ๆ ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว 
ไอน้ำร้อนเหนืออ่างค่อย ๆ รวมตัวกัน มันรวมกันจนเป็นรูปร่างของเด็กผู้หญิงผมยาว เธอลอยมาหามัลฟอยช้า ๆ 
โอวีล่านั่นเอง! 

ร่างบางเบาราวควันไฟนั้นสวมกอดร่างแข็งทื่อของมัลฟอยอย่างแสนรัก 
"พ่อของเธอเคยบอกว่าเราเหมาะสมกัน..." 

"แต่พอพ่อฉันไม่มีอำนาจ โดนขับไล่ให้ไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เขาก็ไม่ยอมให้พ่อของฉันพาฉันมาพบเธอ" 
โอวีล่าค่อย ๆ คลายวงแขนออกช้า ๆ น้ำเสียงขมขื่น 

"แต่เขาห้ามฉันไม่ได้ ฉันจะพาเธอไปอยู่กับเรา พ่อฉันต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ฉันทำสำเร็จ.." แววตาของ
โอวีล่าเปลี่ยนเป็นหวานซึ้ง 
โอวีล่าจูบที่ริมฝีปากของมัลฟอยแผ่วเบา 

"ลงมาสิ ไม่ต้องกลัว ฉันจะพาเธอไปโลกที่ครอบครัวฉันอยู่" 
โอวีล่าค่อย ๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้มัลฟอย เมื่อกระดุมเม็ดที่สองหลุดออก.. 
ปัง! 
ประตูห้องน้ำกระเด็นออกจากกรอบ เฮอร์ไมโอนี่ยืนหอบด้วยความเหนื่อยอยู่ตรงนั้น
 ภาพของมัลฟอยและร่างที่เป็นควันสีจาง ๆ ของโอวีล่าที่ลอยอยู่เหนือน้ำอธิบายเรื่องราวได้ทั้งหมด 
"มัลฟอยอย่าลงไปนะ!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน 

โอวีล่าโกรธจัด แต่เธอไม่สนใจเฮอร์ไมโอนี่ 
"ลงมาสิ!" เธอกระชากแขนทั้งสองข้างของมัลฟอยเต็มแรง แขนเสื้อของมัลฟอยเหมือนจะขาดตามแรง 
"ไม่!!" เฮอร์ไมโอนี่ถลาไปกอดเอวเขาไว้ทางด้านหลัง 
"ปล่อยเขา! ยายเลือดสีโคลน!" โอวีล่าตวาดก้อง 

เฮอร์ไมโอนี่ไม่ฟังเสียง เธอออกแรงยื้อยุดมัลฟอยเต็มที่ แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีกำลังมากกว่านัก 
เท้าของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มไถลไปข้างหน้าช้า ๆ 
"มัลฟอย รู้สึกตัวซะที ฉันจะ..ไม่ไหวแล้วนะ!" เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูด น้ำเสียงอึดอัด 
"ฉันบอกให้แกปล่อยเขา!" โอวีล่ากระชากมัลฟอยเต็มแรง 
เท้าของเฮอร์ไมโอนี่ลอยจากพื้น 
แล้วร่างของมัลฟอยและเธอตกตูมลงไปในน้ำเจือสีแดงนั้นด้วยกัน! 



********************* 


เฮอร์ไมโอนี่ตะเกียกตะกายว่ายน้ำสุดแรง เธอรู้สึกว่าเท้าไม่ถึงพื้น และผิวน้ำก็ห่างไกลเหลือเกิน
 แต่แล้วก็มีมือนับสิบพุ่งตรงเข้ามาคว้าแขน ขา และตัวของเธอไว้ ก่อนจะชูร่างของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นเหนือน้ำ
 เธอพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือปริศนาเหล่านั้น แต่พวกมันก็ดูเหมือนจะจับเธอไว้แน่นยิ่งขึ้น 
โอวีล่าลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ เธอดึงร่างเปียกโชกของมัลฟอยขึ้นมาด้วย แล้ววางเขาให้นั่งเหยียดขาบนพื้นแห้ง ๆ แต่เธอยังคงประคองกอดเขา
ไว้หลวม ๆ  "แกทำฉันเสียเวลา!" โอวีล่าพูดด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง 

"นี่มันมืออะไร" เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจคำพูดของโอวีล่า เธอสะบัดตัวเต็มแรง แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกได้ 
"บริวารของฉัน แกบังคับให้ฉันต้องใช้มัน" โอวีล่าพูดเย้ยหยัน แล้วกระชับวงแขนที่กอดมัลฟอยให้แน่นขึ้นอีก 

"ฉันเคยบอกแกแล้วใช่ไหม ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นของฉัน" เธอพูดต่อ 
เฮอร์ไมโอนี่มองร่างแข็งทื่อของมัลฟอยด้วยความสงสารเขาจับใจ 
"จะให้ฉันพิสูจน์ไหม" โอวีล่าพูดเย้ยหยัน เธอจับใบหน้ามัลฟอยให้มาชิด แล้วจูบอย่างแผ่วเบา 
เฮอร์ไมโอนี่เบือนหน้าหนี มัลฟอยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำลังหายใจ! 

"เหรอ.." เฮอร์ไมโอนี่โต้กลับ 
"แต่ดูเขาไม่ค่อยเต็มใจเลยนะ" 

จริงอย่างที่เฮอร์ไมโอนี่ว่า มัลฟอยเหมือนตุ๊กตาตัวใหญ่ ๆ มากกว่าจะเป็นตัวเขาเอง 
โอวีล่าหน้าเปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความโกรธ เธอตะโกนก้อง 
"จับมันกดน้ำ!" 
แล้วมือทุกมือก็ค่อย ๆ ลดร่างของเฮอร์ไมโอนี่ลง เธอตะโกนด้วยแรงสุดท้าย 

"ช่วยฉันด้วย! มัลฟอ..!" 
เฮอร์ไมโอนี่พูดได้เพียงเท่านี้ น้ำก็ท่วมเข้ามาในปาก และมิดศรีษะในที่สุด แรงที่ดิ้นเริ่มลดลงเพราะเธอกำ
ลังจะขาดอากาศหายใจ 
"มันกำลังจะตายแล้ว" โอวีล่าถูแก้มกับใบหน้าของมัลฟอยอย่างมีความสุข 

ดวงตาสีซีดไร้แววของมัลฟอยจ้องภาพตรงหน้า ลึกเข้าไปดวงตาของเขามีบางสิ่งกำลังวิบไหวอยู่ภายใน 
เฮอร์ไมโอนี่.... 
ตาย....เหรอ ตาย.. 

ฟองอากาศที่ผุดบนผิวน้ำค่อย ๆ ลดลงต่อหน้าต่อตาเขา.... 
ฉันไม่กัดนายให้ปากแหว่งก็ดีเท่าไหร่แล้ว! 
เธอปล่อยฉันให้ตกลงไปก่อนก็ได้นะ มันคงไม่ลึกเท่าไหร่หรอก!.. 
ช่วยฉันด้วย! มัลฟอย!.... 

"เ...ก..ร..น..เ..จ..อ..ร์" 
ริมฝีปากของมัลฟอยเริ่มขยับ แล้วเขาก็กระพริบตา 
เร็วเกินกว่าที่โอวีล่าจรู้สึกตัว มัลฟอยคว้าไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ในเสื้อออกมาแล้วชี้ไปที่โอวีล่า 

"สตูเปฟาย!!" 
ร่างบางเบานั้นลอยละลิ่วไปกระแทกกับผนังห้องอย่างจัง ตามด้วยเสียงกรีดร้องขอโอวีล่า 


************************* 


"ทำไม!.!..." โอวีล่ากรีดร้อง 

มัลฟอยยังคงชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่โอวีล่า เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
 แล้วเดินมาที่ร่างบางเบาของโอวีล่าที่กำลังนั่งอยู่ชิดกำแพง 

"ทำไม!.." โอวีล่าตะโกนซ้ำ มือจับที่อกของตัวเองด้วยความเจ็บปวด แต่แววตาคู่นั้นดูเจ็บกว่ามากนัก 
มัลฟอยซวนเหมือนจะล้มแต่เขาก็ยังไม่ยอมลดไม้กายสิทธิ์ลง เขาสะบัดไม้กายสิทธิ์อีกครั้งแล้วตะโกน 
"อวาเคดาฟ-รา!!" 

แสงสีเขียวพุ่งออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ มันปะทะเข้ากับร่างของโอวีล่า แล้วเธอก็แตกสลายไปพร้อมกับ
เสียงกรีดร้องแสบแก้วหู! 

มัลฟอยหอบแฮ่ก ๆ เขารู้สึกเหมือนหน้ามืดจนต้องยันมือทั้งสองไว้ที่เข่าสองข้างของตัวเอง 
"เกรนเจอร์!" มัลฟอยนึกออก 

ฟองอากาศบนผิวน้ำหายไปนานแล้ว มัลฟอยกระโจนลงน้ำทันที 
เฮอร์ไมโอนี่นอนนิ่งอยู่ที่ก้นสระ เขาใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายดึงเธอขึ้นจากน้ำ เมื่อวางร่างของเฮอร์ไมโอ
นี่ลงที่พื้นได้ เขาก็เขย่าตัวเธอย่างร้อนรน 
"เกรนเจอร์! ไม่นะ!" 

มัลฟอยวางเฮอร์ไมโอนี่ลงแล้วรีบนวดท้องให้เธออาเจียนน้ำออกมา แต่ไม่เป็นอย่างที่เขาต้องการ มัลฟอยใช้นิ้วไปอังที่จมูก
ของเฮอร์ไมโอนี่ ลมหายใจของเธอเบาจนเขาใจหาย 
มัลฟอยประสานมือ แล้วลงมือนวดหัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เป็นจังหวะ 
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มขยับตัว เธอสำลักแล้วอาเจียนน้ำออกมา 

มัลฟอยปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ไอจนเธอหยุด เขาประคองให้เธอลุกขึ้นนั่ง แล้วลูบหลังเธอ ก่อนจะถามอย่างเป็นห่วง 
"เป็นไงบ้าง เกรนเจอร์" 

เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าก่อน แต่เธอยังคงปิดปากตัวเองไว้ด้วยความพะอืดพะอมเพราะกินน้ำเข้าไปมาก 
"ไม่เป็น..." 

แต่เธอพูดยังไม่ทันจบ มัลฟอยก็คว้าร่างของเธอเข้าไปกอดแน่น.... และนานที่สุดเท่าที่เขาเคยกอดเธอมา 
"ฉันขอโทษ" เขาพูด ความรู้สึกผิดปนเข้ามาในน้ำเสียง 

"ขอโทษ..." มัลฟอยรัดวงแขนแน่นขึ้นอีก ตัวของเขาสั่นขึ้น 
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง เธอเอามือตบแผ่นหลังของเขาเบา ๆ เป็นเชิงปลอบ เธอพยายามขยับตัวให้ออกห่างจากเขา 
"ฉันไม่...ไม่เป็นไรจริง ๆ" 
แต่มัลฟอยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย เขายิ่งรัดแขนแน่นขึ้น...แน่นขึ้น... 
เฮอร์ไมโฮนี่เริ่มอึดอัด...ทำไมถึงกอดแน่นอย่างนี้.. 
"มัลฟอย ฉันเจ็บ.. หายใจไม่...ออก" 
แล้วมัลฟอยก็คลายวงแขนออก เมื่อสบตากัน มัลฟอยก็จูบเฮอร์ไมโอนี่ทันที 


******************************* 


เฮอร์ไมโอนี่รีร้อนผลักมัลฟอยออก เขายอมโดยดี 

"ฉันนึกว่าเธอจะเป็นอะไรซะแล้ว" 
"ก็เกือบไปเหมือนกันล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตวัดหางเสียง เธอยังขุ่นใจที่มัลฟอยปล่อยให้เธอจมน้ำไปต่อหน้า 
มัลฟอยก้มหน้าลงมาชิดอีก เฮอร์ไมโอนี่ดันนหน้าเขาออกไป 

"พอเลย ไม่ต้องเลยนะ!" 
"ฉันช่วยเธอไว้นะ" มัลฟอยพ้อ 
"แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้เพราะใครล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่หายโกรธ แกะมือของเขาที่จับไหล่เธอไว้ 
มัลฟอยยอมปล่อยแต่ถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาแกว่งไม้กายสิทธิ์ ร่ายคาถาทำให้เสื้อผ้าแห้ง 
(เฮอร์ไมโอนี่ลืมเอาไม้ของเธอมา เพราะตอนที่ไปช่วยศาสตราจารย์สเปราต์ไม่ต้องใช้) 

เฮอร์ไมโอนี่ลูบผมพองฟูของตัวเองให้ลู่ลงเมื่อมันแห้ง แล้วถาม 
"บอกฉันได้หรือยังล่ะ ว่าโอวีล่าเป็นใคร" 
มัลฟอยหยุดมือที่กำลังสะบัดเสื้อคลุม เขาหันมามองเฮอร์ไมโอนี่แว่บหนึ่ง แล้วตอบ 
"ถ้าฉันตอบว่าไม่รู้ล่ะ" 

"ฉันก็จะบอกว่าไม่เชื่อ" เฮอร์ไมโอนี่พูด รู้สึกไม่พอใจที่มัลฟอยทำท่าเหมือนปิดบัง เธอพูดต่อ 
"รู้หรือเปล่าว่าเขาทำอะไรเธอบ้าง พูดอะไรถึงเธอบ้าง" 

"ถ้าเธอรู้ก็เล่าให้ฉันฟังบ้างสิ" มัลฟอยเหวี่ยงเสื้อคลุมขึ้นสวม 

"ขี้เกียจเล่า" เฮอร์ไมโอนี่พูดเหมือนตัดบท เธอเองก็ไม่อยากจะเล่านักหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
 เพราะเธอรู้เท่าที่เห็น แต่ที่ไม่เห็น เธอไม่รู้! มัลฟอยส่งสายตาอยากรู้มา เฮอร์ไมโอนี่จึงพูดต่อ 

"แต่ดูเหมือนว่าเขารักเธอมากนะ" 

"รักเหรอ..." มัลฟอยขมวดคิ้ว ในช่วงเวลาไม่ถึงเดือนนี้จะมีคนรักเขามากจนน่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ 

"จริง ๆ นะ" เฮอร์ไมโอนี่ว่า 

"แต่ฉันไม่รู้จริง ๆ นี่นาว่าเขาเป็นใคร" มัลฟอยทำท่านึก 

"ถ้าฉันเคยพบเขามาก่อนฉันก็ต้องจำได้สิ" 

เฮอร์ไมโฮนี่มองมัลฟอย เธออยากให้เขานึกออกเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง 

"ช่างเถอะ!" มัลฟอยตัดบท แต่เขาหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมองอยู่ก็รีบพูด 

"ฉันจะส่งนกฮูกไปถามพ่อก็แล้วกัน ลุกไหวไหม" มัลฟอยยืนขึ้นช้า ๆ แล้วยื่นมือมาให้เฮอร์ไมโอนี่ 
เธอจับมือเขาลุกขึ้นแล้วพูด 
"เขาอาจจะเป็นอันตรายกับเธอต่อไปก็ได้นะ" 

มัลฟอยเลิกคิ้ว 

"ถ้าฉันส่งนกฮูกไปคืนนี้ พรุ่งนี้พ่อก็คงตอบมา..." 

"ถ้าเธออยากรู้ก็มาหาฉันคืนพรุ่งนี้สิ" เขาแกล้งทำเสียงแผ่ว 

เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นทันที 

"ใครจะไปอยากรู้! แล้วทำไมฉันต้องไปหานายด้วย!" 

"อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิ โอวีล่ายังไม่เคยทำกับฉันเลยนะ" มัลฟอยพูดขำ ๆ แกล้งพาดพิงถึงโอวีล่า
 แต่เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นอีก 

"แน่สิ! ฉันไม่เคยเรียกนายว่าสุดที่รักนี่" 

"งั้นก็เรียกซะสิ พูดไม่ยากนี่" มัลฟอยแหย่ ทำท่าตั้งใจฟัง 

"เรื่องอะไร!" 

"ถ้างั้น...ให้ฉันเรียก" มัลฟอยยังแกล้งแหย่อยู่ 

เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเหมือนเลือดทั้งตัวไหลมารวมที่ใบหน้า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เงียบเสียงเหมือนจะตั้งใจฟัง 
มัลฟอยหัวเราะในลำคอ แล้วแหย่ซ้ำ 
"ไม่เอาดีกว่า" 

เฮอร์ไมโอนี่เก็บอาการไหล่ตกเพราะผิดหวังไว้ได้ มัลฟอยยังคงพูดต่ออย่างเป็นงานเป็นการมากขึ้น 
"แต่ถ้าอยากรู้เรื่องโอวีล่า เธอต้องมาหาฉันนะ พรุ่งนี้ตอนห้าโมงเย็นที่ทะเลสาบ ขี้เกียจนัดในโรงเรียน
 เดี๋ยวพอตเตอร์กับวิสลีย์ตามมาอีก" 

มัลฟอยพาเฮอร์ไมโอนี่ไปส่งที่หอกริฟฟินดอร์ ดึกมากแล้วไม่มีนักเรียนคนไหนยืนอยู่แถวนั้น
 เฮอร์ไมโอนี่จะพูดขอบใจมัลฟอย แต่เขาก็ยื่นหน้ามาที่หูเธอเสียก่อนแล้วพูด 
"สุดที่รัก" 
แล้วมัลฟอยก็วิ่งจากไป ทั้งสองไม่มีใครรู้ว่าหน้าของอีกฝ่ายแดงราวกับโดนแดดเผา 


****************************** 

วันรุ่งขึ้นเฮอร์ไมโอนี่ ตัดสินใจงดเข้าห้องสมุดเพื่อทำโครงการส.ร.ร.ส.อ.(สรร-สอ ที่รอนเรียก) 
ชั่วคราวเพื่อไปหามัลฟอยตามที่เขานัดไว้ 

"วันนี้ไม่เข้าห้องสมุดเหรอ เฮอร์ไมโอนี่" รอนถามเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินกลับเข้าหอนอนเพื่อเก็บกระเป๋าเร็วผิดปกติ 
"ไม่ล่ะ วันนี้ฉันจะพักวันหนึ่ง" เธอตอบ 

รอนกับแฮร์รี่มองหน้ากันด้วยความแปลกใจ 
หลังจากที่เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลงมาที่ทะเลสาบ อากาศตอนห้าโมงนั้นเย็นสบายเพราะไม่มีแดด 
แต่ยังมีแสงสว่างเพียงพอที่จะทำให้น้ำในทะเลสาบส่องแสงระยิบระยับได้ 

เฮอร์ไมโอนี่เดินไปใกล้ ๆ ทะเลสาบ ก้มลงมองปลาที่ว่ายน้ำมาชิดฝั่ง 

"เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก" 

เงาของมัลฟอยที่ทอดเข้ามาในน้ำด้วยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ เธอหันหลังกลับทันที 
"ว่าไงล่ะ เธอรู้เรื่องโอวีล่าหรือยัง" 
มัลฟอยยิ้มแล้วพูด 
"กว่าจะแกะไอ้แครบกับกอยล์ออกมาได้แทบแย่...เอ้า! กินนี่สิ" 
เขายื่นช๊อกโกแลตให้ เฮอร์ไมโอนี่รับมา 

"อย่าเปลี่ยนเรื่อง ตอบมาเร็ว" เธอพูดฉุน ๆ 
"ไปนั่งตรงโน้นก่อนแล้วจะเล่า" มัลฟอยชี้ไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ 

ทั้งสองคนนั่งข้างกันแล้ว มัลฟอยยังโอ้เอ้ไม่ยอมเล่า เฮอร์ไมโอนี่จึงขู่เขาด้วยสายตา มัลฟอยยอมแพ้ 
"โอวีล่าเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อฉัน..." เขาเริ่มเรื่อง แต่สายตามองไปที่สายน้ำวิบไหวข้างหน้า 

"เธอเกิดวันเดียวกับฉัน ตอนที่เธอเกิด คนที่ทำคลอดให้บอกว่าเธอเป็นเด็กที่สวยที่สุดเท่าที่เคยทำคลอดให้มา" 
มัลฟอยกัดช๊อกโกแลต แล้วสูดลมหายใจ 
"พอพ่อรู้ว่าเพื่อนคลอดลูกพร้อมกัน เขาก็รีบไปเยี่ยมพร้อมกับให้แม่อุ้มฉันไปด้วย" 
"แล้วพ่อเธอก็ชอบโอวีล่าทันทีที่เห็นเลยสิ" เฮอร์ไมโอนี่ต่อให้ 

"ถูกต้อง... ตอนนั้น พ่อวางเราสองคนไว้ข้าง ๆ กัน แล้วก็เอ่ยปากขอเพื่อนของเขาตอนนั้นแหละ" 
"แล้วทำไม" เฮอร์ไมโอนี่สงสัย 

"เพื่อนของพ่อเป็นคนใช้ศาสตร์มืดที่เก่งมาก แต่วันหนึ่งเขาถูกจับได้ว่าเขาพยายามช่วยเหลือ 
คนที่เธอรู้ว่าใคร ด้วยการฆ่าคนเป็นร้อยเพราะเข้าใจผิดว่า เนื้อหนังของคนอื่นๆ จะทำให้นายของเขามีร่างกายขึ้นมา
" มัลฟอยไม่พูดชื่อของลอร์ดโวลเดอมอร์ 
เฮอร์ไมโอนี่เดาเรื่องได้ 

"เขาก็เลยถูกลงโทษสิ โดนขังที่อัซคาบันหรือเปล่า" 

"เปล่า" มัลฟอยส่ายหน้า 

"โทษมันร้ายแรงกว่านั้นมาก เขาถูกส่งไปยังอีกโลกหนึ่ง หรือเรียกอีกอย่างว่ามิติหนึ่งก็ได้มั้ง 
เป็นโลกที่เงียบเหงา และไร้สรรพสำเนียงทั้งปวง เขาต้องไปอยู่ที่นั่นกับครอบครัว โดยที่พ่อของฉัน
ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้" 
"แล้วโอวีล่าออกมาได้ยังไง" เฮอร์ไมโอนี่ถาม 

"ด้วยไอ้นี่ไง" มัลฟอยหยิบขวดน้ำยาสีแดงกุหลาบที่เก็บไว้ออกมา แล้วอธิบาย 
"มันไม่ใช่แค่ยาเสน่ห์ มันถูกลงคาถาสะกดใจ แล้วก็อีกสารพัด มันทำให้ฉันมึนงง แล้วมันก็ยังเป็นตัวเชื่อม
โลกของเรากับอีกโลกหนึ่งด้วย" 

"เขาก็เลยจะให้เธอลงไปในสระตอนนั้น เพื่อจะได้ไปโผล่ในที่ที่เขาอยู่" เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเข้าใจ 
"ใช่ แต่ที่เธอไม่ได้ไปโผล่ที่นั่นเพราะ ถูกบริวารของโอวีล่าจับไว้เสียก่อน โชคดีมากเลยนะเนี่ย" 

แล้วมัลฟอยก็เงียบ แต่ในมือของเขายังเขย่าขวดยาสีกุหลาบนั้นอยู่ 
"โอวีล่าอุตสาห์ออกมาได้ เขาคงรักเธอมากนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อ 

"ัรักหรือต้องการพาฉันไปแก้แค้น เพราะพ่อฉันไม่ช่วยครอบครัวของเขากันแน่!" มัลฟอยพูดหงุดหงิด 
"ฉันว่าน่าจะเป็นอย่างแรก" เฮอร์ไมโอนี่ว่า 

"แต่ฉันไม่ได้รักเขานี่" มัลฟอยย้อน แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีก 
ความเงียบเข้าปกคลุมรอบ ๆ ตัว มัลฟอยหันมามองเฮอร์ไมโอนี่แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เฮอร์ไมโอนี่ล้วงมือ
จะหยิบไม้กายสิทธิ์ในเสื้อออกมาขู่เขา แต่...มันไม่ได้อยู่ที่นั่น 

มัลฟอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มองหน้าเหรอหราของเฮอร์ไมโอนี่ แล้วเขาก็หยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอขึ้นมา 
"นาย! ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!" 
"ตั้งแต่ เธอชะโงกหน้ามองปลาในน้ำแล้ว" มัลฟอยยังยิ้มอยู่ 
"เอาคืนมาเลย!" เฮอร์ไมโอนี่แบมือ 

"มันวาวเชียวนะ ขัดทุกวันเลยสิ" มัลฟอยไม่สนใจ 
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มโมโห แล้วมัลฟอยก็เอาไม้กายสิทธิ์ของเธอใส่ในเสื้อตัวเองก่อนจะพูดยิ้ม ๆ 

"น่า...เกรนเจอร์ ฉันไม่ได้จูบเธอเลยนะ คราวนี้" 
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัด 

"รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงรู้สึกตัว" มัลฟอยพูดต่อ

"ฉันนึกถึงตอนที่เราเคยไปไหน ๆ ด้วยกันออก แล้วก็เลยรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่" 

มัลฟอยยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก เฮอร์ไมโอนี่หมดทางหนี 

"จะกัดฉันให้ปากแหว่ง หรือจะกัดลิ้นฉันให้ขาดก็ตามใจนะ แต่คราวนี้ช่วยทำท่าเหมือนเต็มใจหน่อยเถอะ" 

เฮอร์ไมโอนี่เผลอหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินว่ามัลฟอยจำเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดได้ 

มัลฟอยก้มหน้าลงจูบเฮอร์ไมโอนี่อย่างอ่อนโยน ไม่มีการขัดขืนใด ๆ จากเธอแม้แต่น้อย 


TBC

No comments:

Post a Comment