Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Sunday, July 19, 2015

Chapter 4: กักบริเวณ

เนื่องจากมีนักเรียนจากเดิร์มแสตรงค์และโบซ์บาตงมาพักอยู่ด้วยเลยทำให้ฮอกวอตส์ดูคึกคักขึ้นกว่าเดิมมาก  สำหรับที่พักของนักเรียนจากทั้งสองโรงเรียนนั้น  พวกอาจารย์ช่วยกันเนรมิตหอคอยขึ้นมาด้วยเวทย์มนตร์ระหว่างทางไปหอดูดาว  เพื่อให้นักเรียนจากโบซ์บาตงพัก  ส่วนพวกเดิร์มแสตรงค์นั้นก็พักอยู่ที่อาคารเนรมิตหลังหนึ่งที่อยู่ทางด้านตะวันตกของปราสาท  ในที่พักของพวกเขานั้นก็จะเหมือนกับหอของพวกนักเรียน ฮอกวอตส์คือมีห้องนั่งเล่นรวม  หอพักหญิง  และชาย  

ที่ห้องโถงดัมเบิลดอร์ได้เก็บโต๊ะอาหารตัวที่ 5 ไปแล้ว  แต่เขาได้ใช้เวทย์มนตร์ทำให้โต๊ะอาหารประจำบ้านนั้นยาวขึ้นอีก  เพื่อจะได้รองรับเด็กนักเรียนจากเดิร์มแสตรงค์และโบซ์บาตงได้  เพราะพวกอาจารย์ไม่อยากให้พวกเขาแยกโต๊ะกินข้าวกับนักเรียนฮอกวอตส์  ในเมื่อตอนนี้พวกเขามาอยู่ร่วมกันแล้ว  ก็น่าจะได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันด้วย  ดังนั้นที่โต๊ะอาหารของกริฟฟินดอร์ก็มักจะมีขาประจำมากินข้าวที่นั่นเสมอ

“หวัดดี  เฮอร์ไมโอนี่  แฮร์รี่  รอน”  ไรอันทักพวกเขาเสียงใสพร้อมนั่งลงที่โต๊ะข้าง ๆ เฮอร์ไมโอนี่

“หวัดดี  ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ตอบพร้อมกัน  ส่วนรอนนั้นไม่สนใจเขามากไปกว่าอาหารบนโต๊ะหรอก  เขาพยายามจะหยิบทุกอย่างมายัดใส่ปากอย่างรวดเร็ว

“ทำไมวันนี้ลงมาช้าล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามไรอัน  ทุกทีเขาจะลงมานั่งที่โต๊ะกริฟฟินดอร์เร็วกว่าพวกเขาทั้งสาม ( นักเรียนเดิร์มแสตรงค์และโบซ์บาตงสามารถเลือกทานอาหารที่โต๊ะของบ้านไหนก็ได้ )

“พอดีผมไปส่งจดหมายมา” ไรอันตอบ  เขากำลังจัดการกับไข่ดาว

“ส่งหาใครล่ะ  วิคเตอร์เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างไม่ใส่ใจเธอกำลังอ่านหนังสือ ‘ คู่มือดูแลสัตว์วิเศษ ’ ที่แฮกริดให้เป็นของขวัญคริสต์มาสอยู่

“ครับ  ผมเล่าให้พี่ฟังด้วยว่าผมเจอคุณแล้ว  และคุณก็ได้เป็นพรีเฟ็คด้วย”  ไรอันตอบฉะฉาน 

“เหรอ  แล้วเขาพูดถึงชั้นบ้างมั้ย  หมายความว่าเขาเล่าให้เธอฟังว่าไงบ้าง” เฮอร์ไมโอนี่ถามเธอเงยหน้ามาจากหนังสือ ‘ คู่มือดูแลสัตว์วิเศษ ’ แล้ว

“ครับ  เขาบอกผมว่าคุณเป็นคนน่ารักทีเดียว  แล้วก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากด้วย”  เมื่อไรอันพูดจบเฮอร์ไมโอนี่ก็หน้าแดงขึ้นมาทันตาเห็น

“เอ้อ  เหรอ  เขาว่างั้นเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเก้อเขิน “แล้วตอนนี้เขาเป็นไงบ้าง”

“ตอนนี้เขาก็ซ้อมควิดดิชอยู่  ซ้อมหนักทีเดียว ตอนนี้คงเข้าค่ายเก็บตัวอยู่เพราะใกล้แข่งแล้ว”  

“เหรอ  แล้วเขาพูดถึงฉันแค่นี้ใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเอาส้อมเขี่ยจาน

“ครับ  ตอนแรกที่ผมฟังผมเขาพูดก็รู้แล้วว่าคุณต้องเป็นแบบนี้”  เขาตอบมองเฮอร์ไมโอนี่ไม่วางตา

“เป็นยังไง” เฮอร์ไมโอนี่ถามส้อมในมือเธอเริ่มขูดจานแรงขึ้น

“ก็น่ารักอย่างที่พี่ผมบอกจริง ๆ น่ะสิ”  ไรอันพูด  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นอีก  ส่วนแฮร์รี่ได้ยินรอนพึมพำออกมาว่า ‘ ไอ้หน้าหม้อ ’

“เสียดายที่คุณมีแฟนแล้ว”  ไรอันพึมพำ  แต่คำพูดของเขาทำให้รอนเงยหน้าขึ้นจากเบคอน

“เอออีแออแอ้วเอ๋อ  เออออายโออี่  อำอายไอ่เอ๋นออกอั๋นเอย”  รอนพูดไม่เป็นศัพท์ เขาเกือบทำเบคอนในปากกระเด็นใส่ไรอัน  แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขาจะถามอะไรเธอ

“ฉันไปเรียนแล้วนะ  ไปละ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็วพลางเก็บหนังสือเหน็บไว้กับแขนแล้วเดินไปเรียนวิชาอักษรรูนโบราณที่แฮร์รี่และรอนไม่ได้เรียนด้วย

“อ๊ะ  ขอโทษค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เดินไม่มองทางจนไปชนกับใครเข้า  แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น

“มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  ส่วนมัลฟอยก้มลงเก็บหนังสือที่เธอทำหล่นให้

“นี่ฉันไม่ใช่ผีนะ  ดูเธอทำหน้าเข้าสิ”  มัลฟอยพูดเสียงยานคาง  ยื่นหนังสือคืนให้เธอ

“ขอบใจ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ย  ส่วนมัลฟอยนั้นดึงตัวเธอมาโอบโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง

“ปล่อยนะมัลฟอยเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เฮอร์ไมโอนี่พูดพยายามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขนของเขา

“ไม่  เธอกลัวใครจะมาเห็นล่ะ  ไอ้เจ้าครัมกิ๊กก๊อกนั่นเหรอ”  มัลฟอยพูดอย่างไม่สบอารมณ์  แต่เขาพูดไม่ทันขาดคำ  แฮร์รี่  รอน  และไรอัน  ก็เดินออกมาจากห้องโถง  และมาเจอเขาทั้งสองพอดี

“มัลฟอยนายจะทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่น่ะ!”  รอนร้องคว้าไม้กายสิทธ์ออกมาชี้ที่เขา

“อย่ารอน!” เฮอร์ไมโอนี่กับแฮร์รี่ร้องขึ้นพร้อมกัน  ส่วนรอนนั้นทำหน้างง ๆ 

“ห้ามฉันทำไมล่ะ  มัลฟอยปล่อยเฮอร์ไมโอนี่นะ  ไม่งั้น”  รอนพูดหน้าเริ่มเปลี่ยนสี

“ไม่งั้นอะไรวีสลีย์  นายจะแหวะทากให้ฉันดูรึไง”  มัลฟอยพูดท่าทีกวนอารมณ์

“แก!!!”  รอนกำลังจะร่ายคำสาป  ส่วนมัลฟอยก็ชักไม้กายสิทธิ์ออกมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่มาห้ามไว้ทันก่อนที่ทั้งสองจะฆ่ากันตายคาระเบียงทางเดิน

“หยุดเลย!!!  ทั้งสองคน” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนมายืนขวางทั้งสองเอาไว้

“ถอยไปเฮอร์ไมโอนี่   ฉันต้องสั่งสอนไอ้เจ้าหัวเรียบนี่ให้รู้สำนึกซะบ้าง!!!”  รอนบอกหน้าเป็นสีแดง

“เข้ามาสิ  วีสลีย์  ไอ้หัวแดง!!!”  มัลฟอยตะโกนเขาอยู่ในท่าเตรียมพร้อม

“ทำอะไรกันน่ะ”  เสียงเรียบนุ่มแต่แฝงไปด้วยเจตนาร้ายดังขึ้น  และเจ้าของเสียงก็ก้าวเข้ามากลางวงที่พวกขายืนอยู่  เสนปนั่นเอง

“ทะเลาะกันรึ  วีสลีย์”  เสนปเอ่ยเสียงนุ่ม  “หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน  และกักบริเวณเธอวีสลีย์”

“แต่รอนไม่ผิดนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ออกปากปกป้องเพื่อน  “พวกเขายังไม่ได้ร่ายคาถาใส่กันเลย”

“งั้นก็หักอีกสิบคะแนนข้อหาสู่รู้ไม่เข้าเรื่อง  มิสเกรนเจอร์”  เสนปเอ่ยแววตาราวโรจน์

“พวกเขากำลังจะร่ายคาถาใส่กัน  ในเมื่อเธอเป็นพรีเฟ็คทำไมถึงไม่ห้ามพวกเขา”  เสนปพูดท่าทีมุ่ง

ร้าย  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นกำลังโกรธจัด

“เอ่อ  หนู”  ไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้พูดมากไปกว่านั้น

“กักบริเวณเกรนเจอร์  ฐานไม่ปฏิบัติตามหน้าที่  หวังว่าเธอคงจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้อีกเป็นครั้งที่สองนะ  ไม่งั้นล่ะก็….”  และแล้วคำพูดของเสนปก็ขาดห้วงไป  เพราะมีเสียง ๆ หนึ่งพูดขัดขึ้น

“ฉันว่ามันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นะ  เซเวรัส”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยขึ้น  เธอมายืนอยู่หลังพวกเขาได้นานพอที่จะเห็นความลำเอียงของเสนปที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน 

“แล้วคุณคิดว่าอย่างไหนถึงจะเรียกว่ายุติธรรมล่ะ”  เสนปหันมาประจันหน้ากับเธอ

“เห็นได้ชัดว่ามิสเตอร์วีสลีย์กับมิสเตอร์มัลฟอยทะเลาะกัน  แต่คุณสั่งกักบริเวณมิสเตอร์วีสลีย์เพียงคนเดียว”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด  มองหน้าเสนป  “พอที่ฉันจะพูดว่าไม่ยุติธรรมได้รึเปล่า”

“แล้วคุณต้องการให้ผมทำยังไง”  เสนปถามอย่างรำคาญ

“ถ้าจะลงโทษก็สมควรลงโทษเหมือนกันคุณว่าไหม”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“เอ่อ  ก็คงอย่างนั้น”  เสนปตอบอย่างเสียไม่ได้

“’งั้นหักสลิธิรินสิบคะแนน  ฐานพยายามทะเลาะกัน  และกักบริเวณเธอด้วย  มิสเตอร์มัลฟอย”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดเสียงเรียบ  ส่วนเสนปทำหน้าไม่พอใจ

“งั้นพวกเธอมาเจอฉันที่ห้องทำงานพรุ่งนี้ทุ่มตรง”  เสนปพูดมองรอนและเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตามุ่งร้าย  

“ฉันคิดว่าคุณไม่ควรที่จะให้ทั้งพวกเขาทั้งสามที่กักบริเวณกับคุณคนเดียวหรอกนะ  เซเวรัส”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดขัดเขา  เสนปทำหน้ายุ่งยาก  

“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงอีกล่ะ  หรือคุณจะเอาสามคนนี่ไปกักบริเวณเองงั้นเหรอ”  เสนปพูด

“ไม่หรอก  ฉันแค่คิดว่าฉันจะให้มิสเตอร์มัลฟอยไปทำงานกับฉัน  เพื่อจะได้เป็นการไม่ลำเอียงที่กับเด็กบ้านตัวเอง  คุณว่าเป็นไง  อ้อ  แล้วก็มิสเกรนเจอร์อีกคน  ฉันคิดว่าเขาไม่ได้มีโทษร้ายแรงจนถึงกับต้องกักบริเวณกับคุณหรอกนะ  เซเวรัส”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด

“คุณหมายความว่าจะให้ผมยกเลิกคำสั่งตัวเองงั้นเหรอ”  เสนปพูดท่าทางอารมณ์เสีย

“เปล่านี่คะ  ฉันแค่อยากจะให้คุณพิจารณาการลงโทษของคุณว่าสมเหตุสมผลและถูกต้องหรือเปล่าก็เท่านั้น”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดอย่างมีชัย  ส่วนเสนปนั้นคงกำลังระงับอารมณ์อยู่

“ได้  ผมจะไม่กักบริเวณมิสเกรนเจอร์  แต่ยังไงผมก็ต้องลงโทษเธอ  เอาเป็นว่า”  เสนปทำท่าครุ่นคิด

“เขียนเรียงความเกี่ยวกับยาพิษและวิธีแก้พิษมา 10 ชนิด  มาส่งฉันอาทิตย์หน้า”  เสนปสั่ง

“ส่วนเธอมิสเตอร์วีสลีย์  มาหาฉันที่ห้องทำงานพรุ่งนี้หลังอาหาร”  เสนปพูดตามองไปที่รอน

“เธอก็เช่นกันมิสเตอร์มัลฟอย  มาหาฉันที่ห้องทำงานหลังอาหาร  เอาล่ะพวกเธอไปเรียนได้แล้ว”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลสั่ง  และทั้งหมดก็แยกย้ายไปเรียน  รอนนั้นอารมณ์เสียอย่างชัดเจน

“กักบริเวณกับเสนป  มักกอนนากัลจะสั่งให้ฉันไปตายหรือไงนะ”  รอนบ่นอย่างหัวเสียกับแฮร์รี่

“เอาเถอะ  ก็ยังดีตรงที่มัลฟอยได้โดนกักบริเวณซะบ้าง”  แฮร์รี่พูดปลอบใจเขา  แต่รอนไม่ได้คิดว่ามันดีตรงไหนเลย  

“โดนกักบริเวณเหมือนกัน  แต่ก็ไม่เห็นจะต้องให้ฉันไปทำงานกับเสนปเลยนี่  มีหวังเสนปให้ฉันนั่งถูคุกใต้ดินจนตายแน่ ๆ ”  รอนบ่นขณะเดินไปเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์กับแฮร์รี่  โดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่าลืมใครคนหนึ่งไป

“เฮอร์ไมโอนี่”  เสียง ๆ หนึ่งเรียกเธอขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะเดินเข้าไปเรียนวิชาอักษรรูนโบราณ

“ไรอัน  เธอมาทำอะไรที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามมองไรอันที่วิ่งกระหืดกระหอบมาทางเธอ

“ผมก็จะมาเรียนน่ะสิ  คุณเรียนวิชาอักษรรูนโบราณใช่มั้ย”  เขาถามเธอ

“ใช่  เธอไม่ได้ไปเรียนวิชาพยากรณ์กับพวกแฮร์รี่เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามสีหน้างง ๆ

“เปล่า  ผมอยากมาเรียนกับคุณมากกว่า  อย่าลืมซี่ว่าผมจะเข้าเรียนห้องไหนก็ได้  ขอแค่เรียนให้ครบก็พอ”  ไรอันบอกเธอพร้อมยิ้มกว้างตามสไตล์ของเขา  “ผมว่าเราไปกันดีกว่า  เดี๋ยวจะสายเอา”

“อื้อ” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าและเดินไปเรียนวิชาอักษรรูนโบราณพร้อมกับไรอัน



ตลอดการเรียนทั้งวันนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ว่าไรอันนั้นเป็นฉลาดไม่น้อย  เขาเรียนรู้สิ่งที่อาจารย์สอนได้อย่างรวดเร็ว  และจดโน๊ตตามอีกต่างหาก  ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นเพื่อนทั้งสองของเธอทำเลย  และเมื่อหมดชั่วโมง  ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องด้วยกัน

“คุณจะไปไหนต่อ  เหลืออีกตั้งชั่วโมงกว่าจะกินข้าว”  ไรอันถาม

“ฉันกะจะไปห้องสมุดน่ะ  ไปหาข้อมูลทำรายงานของเสนป”  เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างเบื่อหน่าย

“งั้นผมไปกับคุณด้วยนะ  ผมก็อยากไปหาหนังสืออ่านเหมือนกัน”  ไรอันพูด  และทั้งสองก็เดินไปห้องสมุดพร้อมกัน  เมื่อไปถึงเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็หาข้อมูลมาทำรายงานได้หลายเล่มทีเดียว  แต่ที่ขาดก็คือเธอยังไม่เคยเรียนและลองปรุงยาจริง ๆ เลยทำให้ทำรายงานได้ไม่สมบูรณ์นัก

“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”  ไรอันถามชะโงกหน้ามาดูรายงานในมือเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังทำไปไม่ได้ถึงไหน

“คือฉันสับสนเรื่องสรรพคุณของตัวยานิดหน่อยน่ะ  แล้วหนังสือที่ฉันต้องการใช้ก็มีคนยืมไปหมดแล้วล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างท้อแท้  เธอพยายามรวบรวมข้อมูลเท่าที่มีแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเขียนรายงานส่งเสนป

“งั้นผมช่วยไหม”  ไรอันพูดนั่งลงข้าง ๆ เธอ  “พวกเนี้ยผมเคยเรียนมาหมดแล้ว”

“จริงเหรอ  แต่เธอก็อยู่ปี 5 เหมือนฉันไม่ใช่เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามสีหน้างุนงง

“ครับ  แต่เรื่องยาพิษพวกนี้ผมเรียนมาตั้งแต่อยู่ปี 3 แล้ว  โรงเรียนผมเค้าเน้นด้านศาสตร์มืดน่ะ”  ไรอันบอกเธอแต่ก่อนที่เขาจะได้ช่วยอะไรเสียงระฆังก็ดังขึ้นซะก่อน

“ได้เวลากินข้าวแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่บอกเขา

“เอาเป็นว่าเย็นนี้เรามาที่ห้องสมุดกันดีไหม  ผมจะได้ช่วยคุณทำงาน”  ไรอันพูด  

“ก็ดี  ขอบใจนะ  ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างซาบซึ้ง  


“ไม่เป็นไรครับ”  เขาพูดและทั้งสองก็เก็บของและเดินออกไปกินข้าวกัน


TBC

No comments:

Post a Comment