Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Monday, July 20, 2015

Chapter 8: งานเลี้ยงวันฮัลโลวีน


แสงแดดวันใหม่ส่องเข้ามาในห้องทรงสี่เหลี่ยม
กลิ่นยาลอยเข้ามาแตะจมูกเด็กสาวผมฟูฟ่องที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด
ความรู้สึกมึนหัวที่มีเมื่อหลายชั่วโมงที่แล้ว บัดนี้ ละลายหายไปแล้ว เด็กสาวเผยอเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย
มันยังคงหนักอึ้งอยู่ แต่เธอก็ฝืนเอาไว้ก่อน เพื่อมองดูรอบๆห้องพยาบาล ซึ่งไร้วี่แววของผู้มาเยือน
เด็กสาวจึงหลับตาลงอีกครั้งอย่างอ่อนแรง...

อีกด้านหนึ่ง ในหอนอนสลิธีริน...

“เดรโก” เสียงที่ถูกดัดจนหวานหยดย้อยของแพนซี่ พาร์กินสัน ดังขึ้นที่ข้างแขนของเด็กหนุ่มผมบรอนด์
ดวงตาสีซีดชาย ไปที่เด็กสาวที่เกาะแขนเขาอยู่

“ออกไปเดี๋ยวนี้ พาร์กินสัน” เขาพูดเสียงเยียบเย็น อันที่จริงเขาตื่นมาด้วยอารมณ์แสนสดใส
อย่างที่หาได้ยากจากเขา แต่บัดนี้ อารมณ์อันน่าพิสมัยนั้น กลับถูกดูดกลืนหายไป
โดยปลิงสาวที่เกาะแขนเขาอยู่

“เดรโก จะไปไหนแต่เช้าเหรอ” ปลิงขนาดยักษ์ถามเสียงหวาน

“ฉันจะไปไหน มันก็เรื่องของฉันนี่ เธอมายุ่งอะไรด้วย”
มัลฟอยตอบน้ำเสียงยังคงความเย็นชาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ก่อนจะเดินออกมาจากหอ โดยไม่สนใจแพนซี่เลย
แม้แต่น้อย เขาตรงไปยังห้องพยาบาลทันที

“สายป่านนี้แล้ว ยัยผมฟูยังจะนอนอยู่อีกเหรอนี่” เขาพึมพำ พลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

“ใครว่าฉันยังไม่ตื่นล่ะยะ” เด็กสาวพลิกตัวหันมาหาเขา

“เธอเป็นไงบ้าง”

“หายแล้ว แต่มาดามพอมฟรีน่ะ ไม่ยอมให้ฉันออกจากห้องพยาบาลซักที ฉันล่ะเบื่อห้องพยาบาลชะมัด”
เด็กสาวหยุดบ่น “แล้วนายน่ะ ไม่สบายใช่มั้ยล่ะ”

“ใครว่า” เด็กชายยิ้มเยาะ

“ก็ฉันนี่แหละว่า”

“แต่ฉันสบายดี เธอเดาผิดแล้วล่ะยัยหัวฟู”

“นายอย่ามาโกหกหน่อยเลย นายหัวเรียบ” เด็กสาวบอกอย่างหงุดหงิด “ยาอยู่นั่นน่ะ
(เธอพยับเพยิบไปทางโต๊ะข้างเตียง มียาหลากหลายชนิดวางอยู่) กินซะ”

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวมันก็หายเองแหละ” แต่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยสายตาเฉียบขาด เด็กชายจึงยอมแต่โดยดี

“ก็ได้” เขาตอบ ก่อนจะหยิบยาขึ้นมา กระดกเข้าไปรวดเดียวจนหมด “ไม่น่า ทำไมเธอหายเร็วจัง
เอาหวัดมาติดฉันนี่เอง” เขาพึมพำ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีจัด

“ฉันไม่ได้ทำซะหน่อย นายนั่นแหละ หาเรื่องเอง” เธอโต้กลับ อย่างไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้

“เอาล่ะๆ ฉันขี้เกียจจะเถียงกับเธอแล้วล่ะ” เขาพูดขึ้นในที่สุด “ฉันไปก่อนล่ะ”

เฮอร์ไมโอนี่เงียบกริบทันที เด็กชายสังเกตเห็นอัปกริยานั้น

“ไม่อยากให้ฉันไปเหรอ” เขาถามพร้อมรอยยิ้มเยาะ

“ใครบอกนายล่ะ”

“งั้นไปดีกว่า” เขาบอก พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้

“เดี๋ยวๆ” เด็กชายเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “เอ่อ... นายอยู่ก่อนสิ”

“ทำไมฉันต้องอยู่ล่ะ” มัลฟอยถาม รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นมาบนใบหน้า

“ก็เพราะ... เพราะ... “ เฮอร์ไมโอนี่ใช้สมองอย่างหนัก เพื่อหาข้ออ้าง

“พอๆ ไม่อยากทรมานคนป่วย” เขาบอก “ฉันอยู่ต่อก็ได้”

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้ตัวเอง ก่อนจะหลับต่อ โดยไม่รู้ตัว ว่าเธอถูกขโมยหอมไปแล้ว ขณะที่กำลังนอนอยู่

****************************************

ในวันที่อากาศแจ่มใส ลมอ่อนๆพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่างห้องเรียนวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์
ที่เปิดอ้าเอาไว้

เด็กนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ต่างก็เบื่อหน่ายกับการสอนแบบเดิมๆของศาสตราจารย์บินซ์ วันนี้ก็เช่นกัน
อาจารย์ยังคงสอนด้วยเสียงต่ำๆ เหมือนดังเสียงผึ้ง ซึ่งมีอานุภาพทำให้ผู้ฟังหลับได้ภายใน 5 นาที
ยกเว้นก็แต่เฮอร์ไมโอนี่ ที่ดูเหมือนจะมีภูมิคุ้มกันเสียงของศาสตราจารย์บินซ์สูงกว่าคนอื่นๆ
และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน...

“ปาราวตี คืนนี้เธอจะสวมชุดแฟนซีอะไรไปงานน่ะ” ลาแวนเดอร์ถามปาราวตีที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างตื่นเต้น

“ฉันแต่งเป็นผีแบนชีล่ะ” เธอตอบพลางยิ้มกว้างให้ “แล้วเธอล่ะ”

“ฉันแต่งเป็นตัวกรินดี้โลว์” ลาเวนเดอร์ตอบยิ้มๆ “แล้วเธอล่ะ เฮอร์ไมโอนี่” ทั้งสองหันมาหาเธอ
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่

“อืม... ไม่บอก เดี๋ยวเธอค่อยรู้กันคืนนี้เลยเลยดีกว่า”

“โธ่ เฮอร์ไมโอนี่ล่ะก็ ทีฉันยังบอกเลยนะ”

และบทสนทนาทำนองนี้ก็ดำเนินต่อไป ทั่วทั้งห้องเรียน
ดูเหมือนจะไม่มีใครมีแก่จิตแก่ใจอยู่กับการเรียนเลยแม้แต่คนเดียว
แฮร์รี่และรอนถึงกับย้ายที่นั่งไปนั่งข้างๆดีน เชมัส และเนวิลล์ เพราะทั้งปาราวตี และลาเวนเดอร์
ต่างก็ย้ายที่นั่งมานั่งแทนที่ทั้งสอง

“จะอะไรของเขากันนักหนานะ” รอนบ่นพึมพำ ขณะเฝ้ามองกลุ่มสาวๆซุบซิบกันอย่างตื่นเต้น
โดยศาสตราจารย์บินซ์ไม่ทันสังเกต (ที่จริงแล้วเขาไม่สังเกตมากกว่า)

“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ จะตื่นเต้นอะไรกันนักก็ไม่รู้”

“แต่ฉันไม่เคยเห็นเฮอร์ไมโอนี่เป็นแบบนี้มาก่อนเลย”

แล้วในที่สุด กลุ่มเด็กชายก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ จึงได้แต่เฝ้ามองอย่างเบื่อหน่าย จนจบคาบ

****************************************

ก่อนที่งานจะเริ่ม เฮอร์ไมโอนี่เจียดเวลา สำหรับที่เธอจะใช้ในการแต่งตัว คว้าไม้กายสิทธิ์มา
และร่ายคาถา...

“แอ็กซีโอ สมุด” สมุดเล่มสีชมพูหวาน บินเข้ามาหาเด็กสาวทันที

‘เฟเร็ต’

เด็กสาวหยุดเพียงเท่านี้ เพราะรู้ได้อย่างแน่ชัด ว่าเขาจะต้องให้เธอคอยเป็นแน่
แต่คราวนี้กลับผิดไปจากทุกที

‘งานแยะรึไง เธอน่ะ กว่าจะได้คุยกัน’

‘ใช่สิยะ ใครจะว่างอย่างนายล่ะ’

‘เออๆ ฉันขี้เกียจงั้นสิ’

‘มันแน่อยู่แล้วล่ะ’ เด็กสาวยิ้มให้หน้ากระดาษ ‘เฟเร็ต คืนนี้นายจะสวมชุดอะไรไปงานฮัลโลวีนน่ะ’

มัลฟอยชั่งใจเล็กน้อย ก่อนจะเขียนตอบกลับไปว่า

‘ฉันบอกเธอ ฉันยอมให้เธอเรียกว่าโทลล์เลย’

‘อะไรกันล่ะ แค่นี้ก็บอกไม่ได้ งกชะมัด’

‘ช่างฉันเถอะน่า ว่าแต่เธอล่ะ จะสวมชุดอะไร’

‘ไม่บอกล่ะย่ะ’ เด็กสาวไว้เชิง ‘แต่จะยอมบอกก็ได้นะ ถ้านายยอมบอกด้วยเหมือนกัน’

‘งั้นฉันไม่อยากรู้แล้ว’

“อะไรกันเล่า” เธอพึมพำอย่างหงุดหงิด

‘เธออย่าพยายามเลยออทเทอร์’ เด็กชายยิ้มเยาะให้หน้ากระดาษ
‘ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้เธอได้เรียกฉันว่าโทลล์เด็ดขาด’

‘ยังไงๆ เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันในงานเลี้ยงเต้นรำวันคริสมาตร์อยู่ดีแหละน่า’

‘แล้วมันถึงวันนั้นรึยังล่ะ’ มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างกวนอารมณ์
ยังไงเขาก็ขอถ่วงเวลาให้ทั้งเขาและเธอได้สนิทกันมากกว่านี้ จนกว่าจะถึงวันนั้น หวังว่าเธอคงจะรับเขาได้

‘งั้นก็ตามใจนาย ฉันละเบื่อนายจริงๆ ให้ตายสิ’

‘ไม่ได้หรอก ถ้าเธอตายไป ฉันก็เหงาแย่น่ะสิ’

โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ก็ร้อนผ่าวขึ้นมา นี่เขาหมายถึงอะไรกันนะ

‘เหงาปากน่ะ เพราะไม่มีใครคอยมากัดฉันบ่อยๆอย่างเธออีกแล้วล่ะ’
เด็กชายพยายามรักษาสีหน้าไม่ให้กวนประสาทผู้พบเห็นมากนัก

‘เออ ฉันรู้สึกดีใจยังไงไม่รู้สิ’ ถ้ามัลฟอยสามารถได้ยินเสียงเธอได้ด้วยล่ะก็
เขาคงจะรู้ได้ดีว่าน้ำเสียงนั้น ประชดประชันเพียงใด ‘เอาล่ะ ฉันไปดีกว่า
เดี๋ยวต้องไปเตรียมตัวในงานคืนนี้อีก’

‘เตรียมตัวบ้านเธอแหนะ 3 ชั่วโมง’

‘ไม่ได้เตรียมที่บ้านฉันย่ะ เตรียมที่หอนอนต่างหากล่ะ’

มัลฟอยถอนหายใจอย่างหนักหน่วง

‘เออๆ เธอไปเถอะ’ เด็กชายกัดฟันพูดว่า “ก่อนที่ฉันจะฉีกสมุดเล่มนี้ทิ้ง”

‘แล้วเจอกันในงาน’

‘ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นคนไหน’

‘จ้าๆ’ เด็กสาวประชด ‘งั้นบาย’

‘บาย’

เด็กสาวปิดสมุดลง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเหมือนทุกครั้ง ก่อนที่เธอจะจัดแจงอุปกรณ์
แล้วลงมือจัดการกับตัวเธอเอง

****************************************

“เฮอร์ไมโอนี่ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ” รอนร้องตะโกนอยู่หน้าบันไดในห้องนั่งเล่นรวม
(เพราะเขาขึ้นไปบนหอนอนหญิงไม่ได้) ซึ่งในขณะนี้สภาพในห้องนั่งเล่นรวม เต็มล้นไปด้วยผู้คนในชุดต่างๆ

“พวกนายไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเจอกันที่งานเลย” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนบอก โดยที่ร่างยังอยู่ในหอนอนของเธอ
ซึ่งปราศจากเพื่อนร่วมหอ

“ตามมาเร็วๆล่ะ” รอนตะโกนกลับ แล้วรีบออกจากหออย่างรวดเร็วที่สุด “โอ้ย... ให้ตายเหอะแฮร์รี่
ฉันไม่ชอบแต่งเป็นเจ้าตัวนี้เลย”

“ฉันว่านายก็ไม่เลวนะรอน” แฮร์รี่บอก ขณะมองสำรวจรอน ในชุดของบิ๊กฟุต

“แต่ฉันว่านายดูไม่ค่อยเหมือนผู้บำบัดโรคจิตนะแฮร์รี่” รอนออกความคิดเห็น และมองดูแฮร์รี่อย่างนึกขำ

“แล้วจะให้ฉันทำไงกันเล่า ฉันไม่ใช่ผู้บำบัดโรคจิตนี่” แฮร์รี่พูดกัดฟัน
พลางมองรอนอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

“เออๆใช่เลยแฮร์รี่ นายทำหน้าอย่างนี้แหละ เหมือนชะมัดเลย”

****************************************

ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่ก็แต่งตัวเสร็จแล้วเช่นกัน
และเธอกำลังคอยให้เด็กๆในห้องนั่งเล่นรวมออกไปให้หมดเสียก่อน

“โห... พี่เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ร้อง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ

“อะไรเหรอจินนี่ พี่เป็นอะไร” เด็กสาวร้องอย่างตื่นตระหนก พลางมองสำรวจตนเองอย่างร้อนรน

“พี่สวยมากเลย หนูไม่เคยเห็นพี่สวยอย่างนี้มาก่อนเลยนะ” จินนี่บอกอย่างอิจฉา
พลางมองดูเฮอร์ไมโอนี่ในชุดแวมไพร์สาว

“ขอบใจ” เด็กสาวยิ้ม เผยให้เห็นเขี้ยวฟันยาวอย่างที่แวมไพร์ควรจะมี

“พี่เฮอร์ไมโอนี่มีเขี้ยวยาวอย่างงั้นได้ไงน่ะ”

“เวทมนตร์ทำได้ทุกอย่าง จินนี่”

“แล้วพี่ทำอะไรกับผมเหรอ”

เด็กสาวจับปลายผมตนเองขึ้นมา ซึ่งบัดนี้มันไม่ได้พองฟูอีกต่อไป แต่กลับเป็นลอนสวย ได้ทรง

“ความลับจ๊ะ”

“แหม... แล้วนี่พี่รออะไรอยู่น่ะ” จินนี่ถามอย่างสงสัย ขณะมองไปรอบๆ

“พี่รอให้คนออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมให้หมดก่อนน่ะสิ”

จินนี่เลิกคิ้วถาม

“ก็พี่อายน่ะสิ”

“โธ่... อายเนี่ยนะ มาเถอะพี่เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ร้อง พลางลากเธอลงบันไดมา

“ใครน่ะ”

“แม่เจ้าโว้ย สวยชะมัดเลย”

“คนนั้นใครน่ะ คลอลิน นายรู้จักมั้ย”

“ไม่ต้องสนใจหรอกพี่เฮอร์ไมโอนี่ ไปเถอะ” จินนี่กระซิบ ก่อนจะผลักรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนออก แล้วเดินออกไป

“ตายแล้วจินนี่” เด็กสาวอุทาน ขณะเดินไปได้ครึ่งทาง

“หนูยังอยู่”

“เปล่าๆ พี่หมายถึงว่า พี่ลืมคืนหนังสือห้องสมุด วันนี้วันสุดท้ายแล้วด้วย” เด็กสาวตอบอย่างร้อนรน
“งั้นจินนี่ไปก่อนละกัน แล้วเจอกันในงานนะ” ว่าแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่ก็รีบตรงไปยังหอนอนของเธอแล้วรีบคว้าหนังสือมา ตรงไปยังห้องสมุด โดยไม่ฟังเสียงใคร

“หนูมา... คะ... คืนนะ... หนังสือค่ะ” เด็กสาวพูดพลางหอบหายใจ ขณะยื่นหนังสือให้มาดามพินซ์
ซึ่งรับมาโดยไม่พูดอะไรเลย หรืออาจเป็นเพราะเธอจำเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ก็เป็นได้

“ให้ตายเหอะ เหนื่อยชะมัดเลย” เด็กสาวพึมพำ ขณะเลี้ยวหัวมุมปราสาท เพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่
แต่...

“โอ้ย!” เสียง 2 เสียงร้องประสานกัน เฮอร์ไมโอนี่เดินชนกับชายคนหนึ่ง และเป็นเรื่องบังเอิญเหลือแสน
ว่าเธอนั้น ทับอยู่บนร่างเขา

“เดินดูทางซะบ้างสิ” เสียงผู้ชายร้องอย่างหงุดหงิด

“นายเป็นคนชนฉันเองนะ แล้วยังจะมาว่าอีกเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่เถียง

“โธ่เอ๊ย... แล้วเธอจะลุกไปได้รึยังล่ะ” เด็กชายคำราม แล้วมองสบตาหญิงสาวที่อยู่บนร่างเขา

“เกรนเจอร์ นี่เธอเหรอ”

“มัลฟอย” เด็กสาวร้อง ใบหน้าเป็นสีจัด ขณะยันมือจะลุกขึ้น แต่กลับถูกมัลฟอยดึงลงไปใหม่
ระยะห่างของใบหน้าทั้งสอง อยู่ห่างกันเพียง 3-4 นิ้วเท่านั้น

“ปล่อยฉันได้แล้ว” เด็กสาวดิ้นไปมา เพื่อหวังจะหลุดพ้นจากพันธนาการจากเขา

“นี่เธอจริงๆเหรอเนี่ย” เด็กชายมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างตะลึงงัน มือเอื้อมไปจับปลายผมของเธอ

“เก่งนี่ที่จำฉันได้” เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้ว แล้วออกแรงสะบัดตัวออกจากพันธนาการของเขาได้ในที่สุด
เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจ้ำอ้าวออกตรงไปยังห้องโถงใหญ่ เธอรู้ว่าเธอสายมากแล้ว

“เดี๋ยวสิ เกรนเจอร์” มัลฟอยเรียก “เดี๋ยวฉันขโมยหอมอีกซะเลย”

“หอม... อะไรของนาย”

“มะ... ไม่มีอะไร” เด็กชายอ้ำอึ้ง เขาลืมไปว่าเธอยังไม่รู้ว่าเขาได้ขโมยหอมเธอไปทีหนึ่ง ในห้องพยาบาล
แถมยังเป็นตอนที่เธอหลับอีกต่างหาก

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”

“ถ้าฉันบอกไป เธอต้องสัญญาก่อน ว่าเธอจะไม่โกรธฉัน”

“ได้” เฮอร์ไมโอนี่ตอบห้วนๆ แต่ดวงตาที่จับจ้องมัลฟอยนั้น น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“ดี งั้นฉันบอกเธอล่ะนะ” เด็กสาวพยักหน้าอย่างน่ากลัว “ฉันแอบหอมแก้มเธอ ตอนที่เธอหลับอยู่น่ะ”

เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีจัด เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขา

“เดี๋ยวสิเกรนเจอร์”

“เดี๋ยวบ้านนายแหนะ” เด็กสาวแหวใส่ เธอไม่อาจปฎิเสธได้ ว่าเธอไม่ได้โกรธเขา
แล้วรีบเดินตรงไปที่ประตูไม้โอ๊ค มือสัมผัสกับด้ามจับประตู และแล้วมัลฟอยก็ตามมาทัน
เขาประชิดตัวเธอได้ในที่สุด เด็กสาวจึงรีบผลักประตูให้เปิดออก และ...

“เฮอร์ไมโอนี่” เสียงของผู้ชาย 3 เสียงร้องพร้อมกันทันที เมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ในชุดของแวมไพร์สาว
และมัลฟอยในชุดของแดร็กคิวร่าที่อยู่ข้างหลังเธอ ใบหน้าของเขาอยู่ที่ซอกคอของเด็กสาว
มืออีกข้างกอดรอบเอวเอาไว้ ริมฝีปากของเด็กสาวเผยอขึ้นน้อยๆ เผยให้เห็นเขี้ยวขาว
ที่กำลังจ่ออยู่ที่แขนอีกข้างของมัลฟอยที่คล้องรอบคอเธอเอาไว้

ร่างของชายหนุ่ม 2 ร่าง ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้คนละตัว ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัด
ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย ต่างก็อึ้งเกินกว่าจะขยับตัวได้ ทั้งสองจึงได้แต่ยืนนิ่ง
ดูเหมือนเป็นปฎิมากรรมชิ้นงาม

และแล้วในที่สุด ดูเหมือนจะเป็นโชคร้ายของมัลฟอย เพราะเฮอร์ไมโอนี่เป็นผู้รู้สึกตัวเป็นคนแรก
เธอใช้เขี้ยวที่เสกขึ้นจากเวทมนตร์นั้น กัดเข้าไปที่แขนของมัลฟอย ซึ่งยอมปล่อยเธอออกทันที
ถึงแม้จะไม่ใช่ด้วยความยินดีนัก

เด็กสาวรีบตรงเข้าไปหาแฮร์รี่ที่ยังคงยืนคาอยู่กับที่ และรอนที่แม้จะยังคงนั่งอยู่
แต่ปากของเขากลับอ้าค้าง

“แฮร์รี่นั่งลงเดี๋ยวนี้นะ” เด็กสาวปรามขณะที่ตนกำลังทิ้งตัวลงในที่ว่างที่เพื่อนทั้งสองจองไว้ให้
แล้วจึงกระตุกแขนเสื้อสีขาวสำหรับหมอ ให้เขานั่งลง

เด็กชายนั่งลง ดวงตาอาฆาตแค้น จับจ้องอยู่ที่มัลฟอยซึ่งกำลังนั่งลงที่โต๊ะสลิธีริน

“เธอเป็นอะไรรึเปล่า เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ถาม แต่ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่เด็กชายผม
บรอนด์ในชุดแดร็กคิวร่า

“ไม่เป็นไร” เด็กสาวก้มหน้างุด เธอรู้ดีว่าใบหน้าของเธอ น่าจะมีสีเข้มพอๆกับผมของรอน
เด็กสาวมองไปที่โต๊ะอาจารย์ ก็ทันเห็นครัมนั่งลงพอดี สีหน้าดูหงุดหงิดเป็นที่สุด

ทุกอย่างเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เมื่อศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นเปิดงาน

“ยินดีต้อนรับเพื่อนเก่าของเรา โบซ์บาตง และเดิร์มสแตรงค์” ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างใจดี
“หวังว่าการต้อนรับครั้งนี้ จะทำให้แขกของเราพอใจ แต่ก่อนอื่น ฉันมีอะไรจะพูดนิดหน่อย”

“ระวังอ้วนตุตะ เป็นหมูอ้วน แล้วจะสวมชุดที่เธอสวมอยู่ไม่พอดี”

เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะในทันที ก่อนที่อาหารในจานทองจะปรากฏขึ้น ดูเหมือนนี่จะเป็นอีกครั้ง
ที่เอลฟ์ประจำบ้านในห้องครัว จะแสดงฝีมือการทำอาหารอย่างเต็มที่
เหมือนเมื่อครั้งที่มีการประลองเวทไตรภาคี

“เนื้อแกะ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ตักอาหารให้เธอไม่ขาดสาย ราวกับว่าวันนี้เป็นวันที่เธองดใช้แขน

“ขอบใจ แฮร์รี่” เด็กสาวพึมพำ พลางชำเลืองมองไปยังโต๊ะสลิธีริน
แล้วเธอก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นสายตาของมัลฟอยที่มองไปที่แฮร์รี่
“ฉันอิ่มแล้วล่ะ ขอบใจนะ”

ในที่สุดเมื่อขนมในจานทองชิ้นสุดท้ายหายวับไป เหลือเพียงจานทองสะอาดไว้ ดัมเบิลดอร์ก็ลุกขึ้นพูดอีกครั้ง
และเป็นอีกครั้ง ที่ทั้งห้องเงียบสนิท

“เอาล่ะ หลังจากที่ไม่มีใครทานมากจนกลายเป็นหมูอ้วนตุตะ ฉันก็จะเริ่มงานล่ะ” ดัมเบิลดอร์กล่าว
กวาดสายตาไปทั่วห้องโถงใหญ่

“พวกเรา เหล่ากรรมการตัดสินการแต่งชุดแฟนซีของพวกเธอ ขอเวลาตัดสินสัก 2-3 ชั่วโมง ระหว่างนั้น
ฉันอนุญาตให้เธอไปไหนมาไหนได้ แล้วโปรดมารวมตัวกันที่นี่ ในเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเราจะได้ผู้ชนะกันล่ะ”

“แล้วของรางวัลล่ะฮะ” เออร์นี่ร้องขึ้นจากโต๊ะฮัฟเฟิลพัฟ

“ใจเย็นก่อน ฉันกำลังจะบอกอยู่ มิสเตอร์มักมินลัน... ของรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศ
จะได้รับอนุญาตให้ทำผิดกฎฮอกวอตส์ได้ 3 ข้อ” ดัมเบิลดอรชะงัก

เมื่อเห็นสายตาของมักกอนนากัลที่มองมายังเขา “เอ่อ... ไม่ใช่สิ ไม่... อันที่จริง รางวัลที่ได้คือ
เงินรางวัล 300 แกลเลียน และเยลลี่เม็ดทุกรสของเบอร์ตี้บอร์ดอีก 20 กล่อง”

(เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในหมู่เด็กนักเรียน) “รางวัลรองชนะเลิศ 2 รางวัล ได้เงินรางวัล 100 แกลเลียน
และกบช็อกโกแลต 15 กล่อง”

“เอาล่ะ ไปกันได้ ขอเวลาให้พวกเราตัดสิน แต่... พวกเธอจะอยู่ได้เพียงในห้องโถงใหญ่นี้ และในสวนเท่านั้น
เพื่อเราจะได้สังเกตการแต่งกายของพวกเธอ” ดัมเบิลดอร์กล่าวจบ ก็นั่งลงตามเดิม
พร้อมกับเสียงของเด็กนักเรียนทั้งฮอกวอตส์ โบซ์บาตง และเดิร์มสแตรงค์ดังขึ้น

“เราไปข้างนอกกันดีกว่ามั้ย” รอนเสนอ ซึ่งเพื่อนทั้งสองพยักหน้ารับ ก่อนจะลุกขึ้นและออกเดิน

“รอน ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอแต่งเป็น เอ่อ... บิ๊กฟุตใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่บอก ขณะสังเกตดูรอน

“บิ๊กฟุตอะไรของเธอ ฉันแต่งเป็นตัวเยติต่างหากล่ะ”

“แล้วมันไม่เหมือนกันรึไง” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง พลางกลอกตาขึ้น “บิ๊กฟุตกับเยติ เฮ้อ... “

“แล้วเธอเป็นอะไรล่ะ... แวมไพร์สาวจ้าวเสน่ห์” รอนล้อเลียน แต่ก็ต้องสงบลงทันทีเมื่อเห็นสายตาของเธอ
“อ้าว... แล้วเธอไปทำอะไรกับผมของเธอมาน่ะเฮอร์ไมโอนี่”

“ทำไมเหรอ” เด็กสาวถามยิ้มๆ

“มันเอ่อ... ไม่เหมือนเดิม”

“แล้วมันจะเหมือนเดิมได้ยังไงกัน ในเมื่อฉันไม่อยากให้มันเหมือนเดิม”

“แล้วเธอทำอะไรกับมันล่ะ”

“แล้วเธอล่ะแฮร์รี่...” เด็กสาวเลี่ยงคำถามของรอน “ให้ตายเถอะ พูดจริงๆนะ ฉันเดาไม่ถูกเลยล่ะ”

“เธออย่าพูดเหมือนรอนสิ” แฮร์รี่ดูกังวลเล็กน้อย “ดูไม่ออกจริงๆเหรอ... ฉันแต่งเป็นผู้บำบัดโรคจิต”
สิ้นเสียงแฮร์รี่ เพื่อนทั้งสองก็หัวเราะกันยกใหญ่

“เห็นแก่สวรรค์เถอะแฮร์รี่... ฉันไม่เข้าใจว่า... ตรงไหนกัน... ที่เหมือน”
เด็กสาวกั้นเสียงหัวเราะได้อย่างยากเย็น

“นี่เฮอร์ไมโอนี่ ฉันแนะเขาแล้ว ให้ทำหน้าแบบ... “ (เด็กชายมองหน้าเพื่อน
ซึ่งกำลังบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ) “...นี้ล่ะ”

“โอย... รอน เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นด้วยกับเธอเลย”

“หัวเราะกันเสร็จแล้วเรียกด้วยละกัน” แฮร์รี่บอกเพื่อนทั้งสองด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง
ก่อนจะหันหลังเข้าปราสาท

“เดี๋ยวๆแฮร์รี่ ฉันไม่หัวเราะแล้วล่ะ ดูสิ” เด็กสาวง้อ

“ดี แม่แวมไพร์สาวจ้าวเสน่ห์” เด็กชายบอกพร้อมรอยยิ้ม

“แฮร์รี่” เด็กสาวร้อง ก่อนจะเดินไปยังทิศตรงกันข้าม ทิ้งรอน และแฮร์รี่ไว้ข้างนอก
ซึ่งหัวเราะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

พวกเขาหารู้ไม่ ว่าเหตุการณ์เหล่านี้ ได้อยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มผมบรอนด์ ดวงตาสีซีด ในชุดแดร็กคิวร่า
ใบหน้าอันหล่อเหลา กลับบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ ก่อนจะตามเฮอร์ไมโอนี่ไป...

“เฮริมไมโอนนินนี่” เสียงคุ้นหูร้องเรียกเธอ

“วิกเตอร์” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างดีใจ “เป็นไงบ้าง ได้งานรึยัง”

“ยังหรอก ฉันยังต้องอยู่ที่นี่อีก 2 เดือนนะ จะมีเวลาหางานอะไรทำล่ะ” ครัมบอก “ว่าแต่
เมื่อกี้เจ้าซีดมันทำอะไรเธอรึเปล่า”

“เจ้าซีด” เด็กสาวทำหน้างงน้อยๆ แต่แล้วก็เข้าใจ “อ้อ... เอ่อ... ไม่ ฉันไม่เป็นไรหรอก”
เด็กสาวรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างฉับพลัน

“งั้นก็ดีแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะก็... บอกฉันนะเฮิร์มไมโอนนินนี่” ครัมบอกเสียงต่ำ

“ดะ... ได้สิ”

“อืม... วันนี้เธอสวยมากเลยนะ”

“ขะ... ขอบใจ” เด็กสาวตอบอย่างเคอะเขิน

“เอ้อ... ว่าแต่ เธอเอ่อ... “ เด็กชายอึกอัก

“อะไรเหรอ”

“เธอจะไปงานเลี้ยงเต้นรำวันคริสมาตร์กับฉันได้มั้ย”

“ฉันเสียใจวิกเตอร์” เด็กสาวก้มหน้างุด ใบหน้าเป็นสีจัด

“มะ... ไม่เป็นไร” ครัมบอก แต่ในใจเสียดายอย่างสุดซึ้ง “แต่เธอจะไปกับใครเหรอ”

“ฉันก็ไม่... “ วินาทีนั้น เธอเกือบจะบอกไปว่าไม่รู้ แต่เธอคิดว่าคงจะไม่ดีนัก
หากจะปฏิเสธคนที่มาขอเธอไปงาน โดยการบอกว่ามีคนที่เธอก็ไม่รู้ว่าใครชวนไปงานแล้ว “ไม่บอกหรอก
เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”

“งั้นก็ได้”

“วิกกี้” เสียงอาจารย์ใหญ่ของเดิร์มสแตรงค์เรียกเด็กชาย “วิกกี้ มานี่หน่อย
ดัมเบิลดอร์อยากให้เธอเป็นกรรมการด้วย”

“ได้ฮะ” ครัมบอก ก่อนจะหันมาหาเฮอร์ไมโอนี่ “ฉันไปก่อนนะเฮอร์ไมโอนี่”

“แล้วเจอกัน”

“แล้วเจอกัน” ครัมกล่าว ก่อนจะวิ่งกลับเข้าห้องโถงใหญ่ไป

“ว้าย! ใครน่ะ ปล่อยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เมื่อรู้สึกตัวว่าถูกกอดเข้าจากด้านหลัง
เด็กสาวจึงควานหาไม้กายสิทธิ์ในเสื้อคลุม แต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า เธอรู้สึกโหวงแหวงใจในชอบกล
นี่ก็หมายความว่า เธอลืมไม้กายสิทธิ์ไว้บนหอนอนเป็นแน่ “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ --ปล่อยฉัน”

“เธอจะให้ทั้งโรงเรียนออกมาดูเราอีกรอบรึไง เงียบๆหน่อยสิ” เสียงมัลฟอยคำรามอยู่ด้านหลังเธอ

“มัลฟอย! งั้นนายก็ปล่อยซะทีสิ คนบ้า” เด็กสาวดิ้นอยู่ในอ้อมแขน

“ได้ เมื่อเธอตอบฉันว่าเธอไปงานเลี้ยงเต้นรำกับใคร” มัลฟอยต่อรอง

“ได้”

เป็นเวลานานพอควร กว่ามัลฟอยจะคลายตัวเฮอร์ไมโอนี่ออก เด็กสาวสะบัดหน้าใส่เขาแล้วเดินหนีทันที

“ไหนเธอบอกว่าจะบอกไง”

“ก็ฉันไม่อยากบอกนี่”

“ไม่อยากบอกงั้นเหรอ” เด็กชายกัดฟัน ก่อนจะคว้าตัวเธอเข้ามากอดอีกรอบ

“ปล่อยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง

“เธอต้องบอกฉันก่อน”

“ก็ – บอก – แล้ว – ไง – ว่า –ไม่ – อยาก – บอก” เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูด

“ทำไม”

“ไม่รู้” เด็กสาวร้อง ก่อนจะออกแรงสะบัดตัวเองออกมาจากอ้อมกอดเขาอีกครั้ง แต่ทว่า ไม่สำเร็จ เธอจึง...

“โอ้ย! เธอกัดฉันอีกแล้ว” เด็กชายคลายอ้อมกอดออก เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งหลุดออกจากพันธนาการแล้ว
เธอเดินไปยังฝั่งตรงข้าม โดยไม่หันมามองเขาอีกเลย “เดี๋ยว เกรนเจอร์”

“แล้วทำไมฉันรู้สึกหงุดหงิดอย่างนี้นะ” มัลฟอยพึมพำอย่างไม่เข้าใจตนเอง

****************************************

เวลาเที่ยงคืนแล้ว เมื่อเด็กทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ ดัมเบิลดอร์จึงเริ่มกล่าว

“เอาล่ะ กรรมการได้ผู้ชนะแล้ว” ดัมเบิลดอร์พูด พลางมองไปรอบๆ พร้อมรอยยิ้ม “อันดับที่ 1 ได้แก่...”

“วินเซนต์ แครบ ในชุดของโทลล์”

เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทั่วทั้งห้องโถง

“ฉันว่าแล้วๆ” รอนร้อง “ดูมันสิ โง่เหมือนโทลล์จริงๆ ฉันว่านะ แครบไม่ต้องแต่งเป็นโทลล์
มันก็เหมือนอยู่แล้วล่ะ”

“พนันได้ อันดับที่ 2 ต้องเป็นกอยล์แน่ๆ” แฮร์รี่พูดอย่างนึกขำ ซึ่งก็เป็นจริงดังเขาว่าเสียด้วย

“อันดับที่ 2 ได้แก่... เกรเกอร์รี่ กอยล์ ในชุดของตัวเยติ”

“ฉันว่าแล้วๆ” แฮร์รี่ร้อง

“เอ่อ... ฉันว่าเขาแต่งได้เหมือนกว่าเธออีกนะรอน” เฮอร์ไมโอนี่ร้องบ้าง

“แหม ฉันดีใจจัง”

“เอาล่ะๆ ฉันจะประกาศอันดับสุดท้ายล่ะ” ดัมเบิลดอร์บอก
รอยยิ้มยังคงปรากฏบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของความชรา

“แฮร์รี่ๆ นายทำหน้าโกรธหน่อยสิ เร็วเข้า เผื่อนายจะได้นะ” รอนพึมพำข้างหูเด็กชาย

“อันดับที่ 3 ได้แก่... “ (เกือบทั้งห้องกั้นหายใจรอ) “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ในชุดของแวมไพร์”

“วี้ว! แวมไพร์สาวจ้าวเสน่ห์” รอนเป่าปากเปรี้ยว

“รอน!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง พลางส่งสายตาน่ากลัวไปให้เขา

“ผู้ชนะ โปรดมาที่นี่ด้วย” มักกอนนากัลเรียก เฮอร์ไมโอนี่ แครบ และกอยล์ค่อยๆเดินตรงไปยังโต๊ะอาจารย์
แล้วมอบรางวัลให้ พร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่ม

“ยินดีด้วย แม่แวมไพร์สาวจ้าวเสน่ห์” แฮร์รี่ร้อง เมื่อเด็กสาวกลับมาที่โต๊ะกริฟฟินดอร์

“แฮร์รี่ ถ้าเธอยังขืนเรียกฉันอย่างนั้น ฉันจะไม่พูดกับเธอ”

“โอ๋ๆ ได้ๆ ไม่เรียกแล้วล่ะ” เด็กชายบอก แล้วหันไปพึมพำกับรอน “นายเรียกแทนฉันแล้วกันรอน”

แล้ววันนี้ก็จบลง พร้อมกับรอยยิ้มของหลายๆคน รวมไปถึงเฮอร์ไมโอนี่ด้วย...



TBC


No comments:

Post a Comment