ในวันรุ่งขึ้นเฮอร์ไมโอนี่ตื่นแต่เช้าเพื่อไปเยี่ยมมัลฟอยที่ห้องพยาบาล ก่อนไปเธอแวะไปที่ห้องครัวเพื่อขอขนมไปฝากเขา ปรากฏว่าเอลฟ์ประจำบ้านทั้งหลายต่างนำอาหารมาประเคนเธอมากมายจนสามารถนำไปเลี้ยงกองทัพได้เลยทีเดียว
“อรุณสวัสด์ค่ะมาดามพรอมฟรีย์” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวสวัสดีมาดามพรอมฟรีย์ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะของเธอ
“อ้อ อรุณสวัสดิ์จ๊ะมิสเกรนเจอร์” เธอกล่าวตอบ “เธอมาเช้ามากเลยนะวันนี้”
“มัลฟอยตื่นหรือยังคะ” เธอถาม
“ฉันคิดว่าเขาคงตื่นแล้วล่ะจ๊ะ อ้อ ถ้าเธอจะไปเยี่ยมเขาช่วยให้เขาทานยานี่ด้วยนะจ๊ะ” มาดามพรอมฟรีย์พูดขณะส่งถ้วยยาที่มีควันครุกรุ่นแบบเดียวกับเมื่อวานให้เฮอร์ไมโอนี่ที่รับมันมาอย่างดี และเธอก็เดินตรงไปที่เตียงที่มัลฟอยนอนอยู่
“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เลิกผ้าม่านออก และเธอก็พบว่ามัลฟอยนั้นตื่นนอนแล้ว เขากำลังนั่งเหม่อออกไปนอนหน้าต่าง โดยไม่สนใจเสียงเรียกของเธอ
“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เรียกซ้ำ และเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ ดวงตาสีซีดของเขาเลื่อนมาจับจ้องที่เธอ
“เกรนเจอร์” มัลฟอยพูดเสียงแผ่วเบา
“มาดามพรอมฟรีย์ให้เอายามาให้นาย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางส่งถ้วยยาไปให้เขา ซึ่งมัลฟอยก็รับมาจิบโดยดี ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นวางขนมที่เธอจะเอามาฝากเขาลงบนลิ้นชักหัวเตียงก่อนที่เธอจะลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เตียงของเขา
“เธอเอาอะไรมาน่ะเกรนเจอร์” มัลฟอยถามมองตระกร้าใส่ขนมที่เฮอร์ไมโอนี่หิ้วมา
“ก็ขนมที่จะเอามาให้นายน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “ฉันกลัวนายหิวเวลาอยู่ที่ห้องพยาบาล”
“เอากลับไปเถอะเกรนเจอร์ ฉันไม่อยากกิน” มัลฟอยพูดเสียงเรียบ
“ทำไมล่ะ เผื่อนายหิวตอนกลางคืนไง” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมัลฟอยที่พยายามหลบสายตาเธอ
“ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากกิน” มัลฟอยตัดบทอย่างใจร้าย ก่อนที่จะหันไปสนใจท้องฟ้านอกหน้าต่างอีกครั้งโดยทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ไว้กับความสงสัยว่าทำไมเขาถึงเย็นชาเช่นนี้
“เอ้อ แล้วเธอเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง” เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาเรื่องคุยกับเขา
“อื้อ ดีขึ้นแล้ว” เขาตอบโดยที่ไม่มองหน้าเธอ ดวงตาของเขาเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเนิ่นนานจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอึดอัด เขาทำราวกับเธอไม่มีตัวตน
“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เรียกชื่อเขาเพื่อทำลายความเงียบที่ปกคลุมพวกเขาทั้งสองไว้
“หือ”
“นายเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงแผ่วเบา
“เปล่านี่” เขาตอบ
“แต่ฉันว่านายแปลก ๆ ไปนะ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“ฉันแปลกไปยังไง” เขาหันมาถามเธอ ดวงตาสีซีดของเขาสบกับดวงตาของเธอ
“นายเงียบแปลก ๆ เอ่อ นายทำเหมือนเย็นชาใส่ฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเกรง ๆ
“ฉันเปล่านี่” มัลฟอยปฏิเสธ
“แต่…”
“ฉันง่วงนอนแล้ว” มัลฟอยพูดเพื่อตัดบทสนทนาระหว่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่
“ถ้างั้นนายก็ผักผ่อนเถอะ”
“อื้อ” และมัลฟอยก็ล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่มองมาทางเขาเลย
เฮอร์ไมโอนี่ต้องจำใจออกจากห้องพยาบาลเพื่อให้มัลฟอยพักผ่อนด้วยความสงสัยที่ว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงเย็นชากับเธออย่างนี้
ในตอนเย็นวันนั้นเฮอร์ไมโอนี่มาเยี่ยมมัลฟอยที่ห้องพยาบาลดังเดิม
“อ้อ เธออีกแล้วหรือมิสเกรนเจอร์” มาดามพรอมฟรีย์กล่าว
“ค่ะ เอ่อ มัลฟอยล่ะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเธอ
“อ๋อ เขากลับไปแล้วจ๊ะ” มาดามพรอมฟรีย์ตอบ
“อะไรนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย
“ฉันหมายความว่า มิสเตอร์มัลฟอยออกจากห้องพยาบาลไปแล้วจ๊ะ ฉันเพิ่งอนุญาติให้เขากลับไปเมื่อครู่นี่เอง” มาดามพรอมฟรีย์อธิบาย
“เหรอคะ แล้วรู้ไหมคะว่าเขาไปไหน” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ไม่รู้หรอกจ๊ะ เขาคงกลับหอนอนไปแล้วกระมัง” เธอตอบเฮอร์ไมโอนี่พลางก้มลงไปจัดการกับงานบนโต๊ะของเธอต่อ
“ขอบคุณค่ะมาดามพรอมฟรีย์” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพลางเดินออกจากห้องพยาบาลทันที
เฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งไปตามทางเดินในปราสาทอย่างรวดเร็ว เธอต้องการจะไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธีริน และถ้าเธอไม่รีบมัลฟอยอาจจะเข้าหอไปแล้วก็ได้
มัลฟอยเดินมาหยุดที่กำแพงหินว่างเปล่าอันหนึ่ง เขาดีใจจริง ๆ ที่มาดามพรอมฟรีย์ปล่อยเขาออกมาจากห้องพยาบาลเสียที เพราะถ้าเขาอยู่ต่อไปเฮอร์ไมโอนี่อาจจะมาหาเขาอีกก็ได้ ความจริงเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่ควรทำกับเธอเช่นนี้ แต่นี่เป็นทางเดียวที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ทางเดียวที่จะปกป้องเธอได้
“ดาร์คอาร์ท” มัลฟอยพึมพำแล้วกำแพงหินตรงหน้าเขาก็เลื่อนออกเป็นช่องพอให้คนเข้า และเมื่อมัลฟอยกำลังจะก้าวขาผ่านกำแพงหินนั้นไป
“มัลฟอย” เสียงเฮอร์ไมโอนี่ที่เรียกเขาดังมาตามทางเดิน มัลฟอยหันไปมองก็พบร่างของเธออยู่ไม่ไกลจากเขานัก เธอกำลังวิ่งมาทางเขา
“เกรนเจอร์” มัลฟอยพึมพำ
“ทำไมนายไม่บอกฉัน….” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะที่หยุดหายใจเพราะการเหนื่อยจากการวิ่งในระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ ของเธอ
“บอกอะไร” มัลฟอยถาม
“ก็บอกเรื่องที่นายได้ออกจากห้องพยาบาลวันนี้น่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเขา
“มาดามพรอมฟรีย์เพิ่งอนุญาติให้ฉันออกจากห้องพยาบาลเมื่อกี๊นี้เอง” มัลฟอยพูด
“……”
“ถ้าเธอไม่มีอะไรกับฉันงั้นฉันไปนะ” มัลฟอยพูดพลางหันหลังให้เธอ
“เดี๋ยวก่อน” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
“อะไร”
“ฉันอยากรู้ว่านาย เป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่บอกเขา
“เปล่านี่ ฉันเปล่…” มัลฟอยพูด
“นายโกหก” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้ทัน “นายโกหกฉัน”
“ฉันไม่ได้โกหกเธอนะเกรนเจอร์” มัลฟอยแก้ตัว
“งั้นก็บอกฉันมาสิว่านายเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร” มัลฟอยแย้งด้วยท่าทีรำคาญ
“ได้โปรดเถอะมัลฟอย นายเลิกโกหกฉันซะที ฉันอยากให้เธอพูดกับฉันตรง ๆ มากกว่า” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง ส่วนมัลฟอยนั้นกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ พูดกับเธอตรง ๆ งั้นเหรอ
“เธออยากให้ฉันพูดกับเธอตรง ๆ ใช่ไหม” มัลฟอยถามและเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า เขาก็ตัดสินใจพูดออกมา “ฉันอยากเลิกกับเธอ”
“อะไรนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำ ๆ นี้ออกจากปากของมัลฟอย
“ฉันบอกว่าฉันอยากเลิกกับเธอ” มัลฟอยทวนคำโดยไม่มองตาเฮอร์ไมโอนี่
“ทำไมนายถึงพูดอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำตาคลอเบ้า
“เพราะฉันเบื่อเธอ” มัลฟอยพูด “ฉันไม่อยากคบกับเธออีกต่อไป”
“นายโกหก!”
“ฉันไม่ได้โกหกเกรนเจอร์ ฉัน…” เสียงของมัลฟอยขาดห้วงไปเนื่องจากเขาเพิ่งเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพของเฮอร์ไมโอนี่ นี่เขาทำเธอเสียใจอีกแล้ว
“ฉันหมายความอย่างที่ฉันพูดจริง ๆ ” มัลฟอยกัดฟันพูด เขาหลบตาเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง
“ไม่จริงมัลฟอย นายไม่มีเหตุผล!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องน้ำตาใส ๆ ของเธอไหลอาบแก้มขาวเนียนนั้น แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจที่จะปาดมันออกด้วยซ้ำ
“เธอต้องการเหตุผลหรือเกรนเจอร์ ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกเธอให้” มัลฟอยพูด “ฉันคิดว่าเราไม่สมควรรักกัน ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องที่บ้านฉัน มันทำให้ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาฉันทำให้พ่อของฉันเสียใจเท่าไร ฉันทำให้พวกท่านผิดหวัง”
“นั่นมันไม่ใช่เหตุผล มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“ใช่สิ นั่นแหละเหตุผลของฉัน ตลอดเวลาที่ฉันคบกับเธอ ฉันหลอกตัวเองมาตลอดว่าฉันไม่แคร์เรื่องสายเลือดของเธอ และเรื่องของพ่อและแม่ แต่พอมาตอนนี้ฉันถึงได้รู้แล้วว่า เราไม่สมควรจะรักกัน”
“นายจะบอกฉันว่า นายเพิ่งจะมาแคร์เรื่องสายเลือดของฉันงั้นเหรอมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด “งั้นตลอดเวลาที่เราคบกันมานายคิดว่าฉันเป็นเลือดบริสุทธิ์มาตลอดงั้นเหรอ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเกรนเจอร์” มัลฟอยบอกเธอ
“แล้วมันเป็นยังไงล่ะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอพยายามปาดน้ำตาทิ้ง แต่มันก็ไหลออกมาอีกรอบ
“พอเถอะเกรนเจอร์ อย่าเสียใจเพื่อฉันอีกเลย ให้เรื่องของเรามันจบลงแค่นี้ดีว่า” มัลฟอยพูดกับเธอ เฮอร์ไมโอนี่นั้นรู้สึกราวกับว่าถูกคาถาสะกดนิ่งอัดใส่ร่าง เธอไม่นึกเลยว่ามัลฟอยจะทำกับเธอแบบนี้
“แต่….”
“เดรโก!” เสียงแหลมบาดแก้วหูดังมาแต่ไกล เป็นใครไม่ได้นอกจาก แพนซี่ พาร์กินสัน เธอกำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากทั้งสองนัก “ออกไปห่าง ๆ เดรโกเลยนะยัยเลือดสีโคลน” แพนซี่พูดและเมื่อเธอเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ “อ๋อ นี่คงมาตามตื้อเดรโกเขาล่ะสิ บอกไว้ก่อนนะว่าเดรโกน่ะเขาไม่เอาคนอย่างเธอหรอก” แพนซี่พูดอย่งาร้ายกาจ ส่วนมัลฟอยนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ
“ไปกันเถอะ เดรโก แถวนี้อากาศไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่” แพนซี่พูดพลางลากแขนมัลฟอยเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมซึ่งมัลฟอยก็ยอมตามมาโดยดี ไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะเรียกเขาทั้งสองก็หายลับเข้าไปในกำแพงหินนั่นแล้ว
ในห้องนั่งเล่นรวมสลิธีริน
“ยัยเกรนเจอร์นั่นหน้าด้านจริง ๆ เลยนะ” แพนซี่พูดถึงเฮอร์ไมโอนี่ “ถึงกับมาตามตื้อเธอถึงที่นี่ นี่ขนาดโดนเล่นงานเข้าไปขนาดนั้นยังไม่เข็ดอีกหรือไงนะ”
“เล่นงาน” มัลฟอยทวนคำอย่างสงสัย “เธอหมายความว่ายังไงแพนซี่”
“เอ่อฉัน….” แพนซี่อึกอัก เธอหลุดปากเรื่องที่ไม่ควรพูดไปเสียแล้ว
“บอกมา!” มัลฟอยคำราม เขาไม่คิดว่าแพนซี่จะรู้เรื่องที่ซิลเวียเป็นคนจับตัวเฮอร์ไมโอนี่ไป
“อย่าโกรธฉันนะเดรโก” แพนซี่พูด “ฉันแค่เขียนจดหมายไปบอกพ่อของเธอเท่านั้นว่า….”
“ว่าอะไร!” มัลฟอยตะโกน
“ว่าเธอคบกับยัยเลือดสีโคลนนั่นอยู่ แต่ฉันไม่นึกว่าเขาจะจับเธอหมั้นกับแม่ผู้หญิงฝรั่งเศสนั่นแทน” แพนซี่พูดถึงซิลเวีย
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” มัลฟอยถามเธอด้วยนำเสียงเกรี้ยกราด
“ก็ตั้งแต่ตอนที่เธอสาปฉันที่ห้องพยาบาล” แพนซี่พูดถึงตอนที่ตอนที่มัลฟอยสะกดนิ่งเธอที่ห้องพยาบาลเพราะแพนซี่ด่าเฮอร์ไมโอนี่ว่า ‘ เลือดสีโคลน ’
“งั้นคนที่ทำให้พ่อฉันรู้เรื่องเกรนเจอร์ก็คือเธอสินะแพนซี่” มัลฟอยกล่าวเสียงเยือกเย็น
“แล้วคนที่ทำให้เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นก็คือเธอ” มัลฟอยพูด มองแพนซี่ด้วยดวงตาสีซีดที่กำลังลุกเป็นไฟของเขา
“ฉันขอโทษเดรโก ฉันแค่อยากจะช่วยเธอ” แพนซี่อธิบายแต่มัลฟอยไม่มีท่าทีว่าจะฟังเธอเลย
“เพ็ตตริพิคัส โททารัส” มัลฟอยตะโกรพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่แพนซี่ซึ่งตอนนี้ล้มลงไปนอนอยู่กับพื้นห้องนั่งเล่นรวมเรียบร้อยแล้ว มัลฟอยเดินเข้ามาใกล้ ๆ แพนซี่มองเธอด้วยแววตาเย็นชา
“นี่มันยังน้อยไปสำหรับสิ่งที่เธอทำแพนซี่!” มัลฟอยพูด “ปล่อยเอาไว้อย่างนี้ ถ้าใครกล้ามาช่วยมันล่ะก็ได้เห็นดีกันแน่!” เมื่อสิ้นคำพูดของมัลฟอยคนทั้งห้องนั่งเล่นรวมสลิธิรินก็ต่างมองมาที่แพนซี่ด้วยแววตาเห็นใจแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแก้คำสาปให้เธอสักคน เพราะพวกเขากลัวว่าจะต้องเป็นยิ่งกว่าเธอ!
เฮอร์ไมโอนี่เดินกลับห้องนั่งเล่นรวมอย่างเลื่อนลอย เสียงของมัลฟอยยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา
ฉันอยากเลิกกับเธอ
เราไม่สมควรจะรักกัน!
น้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่หยดลงมาอีกรอบ แต่เธอก็ไม่สนใจที่จะเช็ดมันพอ ๆ กับที่เธอไม่สนใจว่าจะมีใครมองเธอด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นบ้าง เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดว่าเธออยากกลับห้องนั่งเล่นรวม เธอไม่อยากเจอเพื่อน ๆ ของเธอโดยเฉพาะแฮร์รี่กับรอนในเวลานี้ เพระาเธอรู้ดีกับคำถามที่จะตามาหากพวกเขาเห็นเธอในสภาพนี้ เฮอร์ไมโอนี่เดินตรงไปที่ทะเลสาบ อากาศหนาวเย็นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้ไม่มีใครอยากมานั่งนอกปราสาทในเวลาเช่นนี้ แต่ไม่ใช่สำหรับเฮอร์ไมโอนี่ เพราะเธอคิดว่าที่นั่นั้นเงียบสงบว่าที่อื่น ๆ เป็นไหน ๆ
เฮอร์ไมโอนี่ทรุดกายลงข้างต้นบีชริมทะเลสาบ ความทรงจำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่วนกลับมาในสมองของเธออีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่เอามือกอดหัวเขา ปล่อยความคิดล่องลอยไปเรื่อย ๆ โดยทีน้ำตาของเธอก็ไหลไปเรื่อย ๆ อย่างห้ามไม่อยู่
เธอไม่เข้าใจมัลฟอยเลยจริง ๆ
ว่าทำไมเขาต้องทำกับเธอแบบนี้
เฮอร์ไมโอนี่ซุกหน้าลงกับหัวเข่า ปล่อยน้ำตารินไหลออกมาอย่างสุดกลั้น
เสียงฝีเท้าเหยียบพื้นหญ้าเบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองทันทีในใจของเธอขอให้ร่างนั้นเป็นมัลฟอย
“คุณร้องไห้อีกแล้วเหรอครับ” เสียงอ่อนโยนที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ไรอัน ครัม ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก กำลังมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาเป็นห่วง
TBC
No comments:
Post a Comment