Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 28: ความไม่ลงตัวของหัวใจ

ในวันรุ่งขึ้นเฮอร์ไมโอนี่ตื่นแต่เช้าเพื่อไปเยี่ยมมัลฟอยที่ห้องพยาบาล  ก่อนไปเธอแวะไปที่ห้องครัวเพื่อขอขนมไปฝากเขา  ปรากฏว่าเอลฟ์ประจำบ้านทั้งหลายต่างนำอาหารมาประเคนเธอมากมายจนสามารถนำไปเลี้ยงกองทัพได้เลยทีเดียว

“อรุณสวัสด์ค่ะมาดามพรอมฟรีย์” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวสวัสดีมาดามพรอมฟรีย์ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะของเธอ

“อ้อ  อรุณสวัสดิ์จ๊ะมิสเกรนเจอร์” เธอกล่าวตอบ “เธอมาเช้ามากเลยนะวันนี้”

“มัลฟอยตื่นหรือยังคะ” เธอถาม

“ฉันคิดว่าเขาคงตื่นแล้วล่ะจ๊ะ  อ้อ  ถ้าเธอจะไปเยี่ยมเขาช่วยให้เขาทานยานี่ด้วยนะจ๊ะ” มาดามพรอมฟรีย์พูดขณะส่งถ้วยยาที่มีควันครุกรุ่นแบบเดียวกับเมื่อวานให้เฮอร์ไมโอนี่ที่รับมันมาอย่างดี  และเธอก็เดินตรงไปที่เตียงที่มัลฟอยนอนอยู่

“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เลิกผ้าม่านออก  และเธอก็พบว่ามัลฟอยนั้นตื่นนอนแล้ว  เขากำลังนั่งเหม่อออกไปนอนหน้าต่าง  โดยไม่สนใจเสียงเรียกของเธอ

“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เรียกซ้ำ และเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์  ดวงตาสีซีดของเขาเลื่อนมาจับจ้องที่เธอ

“เกรนเจอร์” มัลฟอยพูดเสียงแผ่วเบา

“มาดามพรอมฟรีย์ให้เอายามาให้นาย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางส่งถ้วยยาไปให้เขา  ซึ่งมัลฟอยก็รับมาจิบโดยดี  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นวางขนมที่เธอจะเอามาฝากเขาลงบนลิ้นชักหัวเตียงก่อนที่เธอจะลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เตียงของเขา

“เธอเอาอะไรมาน่ะเกรนเจอร์” มัลฟอยถามมองตระกร้าใส่ขนมที่เฮอร์ไมโอนี่หิ้วมา

“ก็ขนมที่จะเอามาให้นายน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  “ฉันกลัวนายหิวเวลาอยู่ที่ห้องพยาบาล”

“เอากลับไปเถอะเกรนเจอร์  ฉันไม่อยากกิน” มัลฟอยพูดเสียงเรียบ

“ทำไมล่ะ  เผื่อนายหิวตอนกลางคืนไง” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมัลฟอยที่พยายามหลบสายตาเธอ

“ไม่ล่ะ  ฉันไม่อยากกิน”  มัลฟอยตัดบทอย่างใจร้าย  ก่อนที่จะหันไปสนใจท้องฟ้านอกหน้าต่างอีกครั้งโดยทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ไว้กับความสงสัยว่าทำไมเขาถึงเย็นชาเช่นนี้

“เอ้อ  แล้วเธอเป็นยังไงบ้าง  ดีขึ้นรึยัง” เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาเรื่องคุยกับเขา

“อื้อ  ดีขึ้นแล้ว” เขาตอบโดยที่ไม่มองหน้าเธอ  ดวงตาของเขาเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเนิ่นนานจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอึดอัด  เขาทำราวกับเธอไม่มีตัวตน

“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เรียกชื่อเขาเพื่อทำลายความเงียบที่ปกคลุมพวกเขาทั้งสองไว้

“หือ”

“นายเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงแผ่วเบา

“เปล่านี่” เขาตอบ

“แต่ฉันว่านายแปลก ๆ ไปนะ  มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ฉันแปลกไปยังไง” เขาหันมาถามเธอ  ดวงตาสีซีดของเขาสบกับดวงตาของเธอ

“นายเงียบแปลก ๆ เอ่อ นายทำเหมือนเย็นชาใส่ฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเกรง ๆ

“ฉันเปล่านี่” มัลฟอยปฏิเสธ

“แต่…”

“ฉันง่วงนอนแล้ว” มัลฟอยพูดเพื่อตัดบทสนทนาระหว่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่

“ถ้างั้นนายก็ผักผ่อนเถอะ”

“อื้อ” และมัลฟอยก็ล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่มองมาทางเขาเลย

เฮอร์ไมโอนี่ต้องจำใจออกจากห้องพยาบาลเพื่อให้มัลฟอยพักผ่อนด้วยความสงสัยที่ว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงเย็นชากับเธออย่างนี้



ในตอนเย็นวันนั้นเฮอร์ไมโอนี่มาเยี่ยมมัลฟอยที่ห้องพยาบาลดังเดิม

“อ้อ  เธออีกแล้วหรือมิสเกรนเจอร์” มาดามพรอมฟรีย์กล่าว

“ค่ะ  เอ่อ  มัลฟอยล่ะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเธอ

“อ๋อ  เขากลับไปแล้วจ๊ะ” มาดามพรอมฟรีย์ตอบ

“อะไรนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

“ฉันหมายความว่า  มิสเตอร์มัลฟอยออกจากห้องพยาบาลไปแล้วจ๊ะ  ฉันเพิ่งอนุญาติให้เขากลับไปเมื่อครู่นี่เอง” มาดามพรอมฟรีย์อธิบาย

“เหรอคะ  แล้วรู้ไหมคะว่าเขาไปไหน” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“ไม่รู้หรอกจ๊ะ  เขาคงกลับหอนอนไปแล้วกระมัง” เธอตอบเฮอร์ไมโอนี่พลางก้มลงไปจัดการกับงานบนโต๊ะของเธอต่อ

“ขอบคุณค่ะมาดามพรอมฟรีย์” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพลางเดินออกจากห้องพยาบาลทันที

เฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งไปตามทางเดินในปราสาทอย่างรวดเร็ว  เธอต้องการจะไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธีริน  และถ้าเธอไม่รีบมัลฟอยอาจจะเข้าหอไปแล้วก็ได้



มัลฟอยเดินมาหยุดที่กำแพงหินว่างเปล่าอันหนึ่ง  เขาดีใจจริง ๆ ที่มาดามพรอมฟรีย์ปล่อยเขาออกมาจากห้องพยาบาลเสียที  เพราะถ้าเขาอยู่ต่อไปเฮอร์ไมโอนี่อาจจะมาหาเขาอีกก็ได้  ความจริงเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่ควรทำกับเธอเช่นนี้  แต่นี่เป็นทางเดียวที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้  ทางเดียวที่จะปกป้องเธอได้

“ดาร์คอาร์ท” มัลฟอยพึมพำแล้วกำแพงหินตรงหน้าเขาก็เลื่อนออกเป็นช่องพอให้คนเข้า  และเมื่อมัลฟอยกำลังจะก้าวขาผ่านกำแพงหินนั้นไป

“มัลฟอย” เสียงเฮอร์ไมโอนี่ที่เรียกเขาดังมาตามทางเดิน  มัลฟอยหันไปมองก็พบร่างของเธออยู่ไม่ไกลจากเขานัก  เธอกำลังวิ่งมาทางเขา

“เกรนเจอร์” มัลฟอยพึมพำ

“ทำไมนายไม่บอกฉัน….” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะที่หยุดหายใจเพราะการเหนื่อยจากการวิ่งในระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ ของเธอ

“บอกอะไร” มัลฟอยถาม

“ก็บอกเรื่องที่นายได้ออกจากห้องพยาบาลวันนี้น่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเขา

“มาดามพรอมฟรีย์เพิ่งอนุญาติให้ฉันออกจากห้องพยาบาลเมื่อกี๊นี้เอง” มัลฟอยพูด

“……”

“ถ้าเธอไม่มีอะไรกับฉันงั้นฉันไปนะ” มัลฟอยพูดพลางหันหลังให้เธอ

“เดี๋ยวก่อน” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง

“อะไร”

“ฉันอยากรู้ว่านาย  เป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่บอกเขา

“เปล่านี่  ฉันเปล่…” มัลฟอยพูด

“นายโกหก” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้ทัน “นายโกหกฉัน”

“ฉันไม่ได้โกหกเธอนะเกรนเจอร์” มัลฟอยแก้ตัว

“งั้นก็บอกฉันมาสิว่านายเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร” มัลฟอยแย้งด้วยท่าทีรำคาญ

“ได้โปรดเถอะมัลฟอย  นายเลิกโกหกฉันซะที  ฉันอยากให้เธอพูดกับฉันตรง ๆ มากกว่า” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  ส่วนมัลฟอยนั้นกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ  พูดกับเธอตรง ๆ งั้นเหรอ

“เธออยากให้ฉันพูดกับเธอตรง ๆ ใช่ไหม” มัลฟอยถามและเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า  เขาก็ตัดสินใจพูดออกมา “ฉันอยากเลิกกับเธอ”



“อะไรนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำ ๆ นี้ออกจากปากของมัลฟอย

“ฉันบอกว่าฉันอยากเลิกกับเธอ” มัลฟอยทวนคำโดยไม่มองตาเฮอร์ไมโอนี่

“ทำไมนายถึงพูดอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำตาคลอเบ้า

“เพราะฉันเบื่อเธอ” มัลฟอยพูด “ฉันไม่อยากคบกับเธออีกต่อไป”

“นายโกหก!”

“ฉันไม่ได้โกหกเกรนเจอร์  ฉัน…” เสียงของมัลฟอยขาดห้วงไปเนื่องจากเขาเพิ่งเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพของเฮอร์ไมโอนี่  นี่เขาทำเธอเสียใจอีกแล้ว

“ฉันหมายความอย่างที่ฉันพูดจริง ๆ ” มัลฟอยกัดฟันพูด  เขาหลบตาเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง

“ไม่จริงมัลฟอย  นายไม่มีเหตุผล!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องน้ำตาใส ๆ ของเธอไหลอาบแก้มขาวเนียนนั้น  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจที่จะปาดมันออกด้วยซ้ำ

“เธอต้องการเหตุผลหรือเกรนเจอร์  ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกเธอให้” มัลฟอยพูด “ฉันคิดว่าเราไม่สมควรรักกัน  ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องที่บ้านฉัน  มันทำให้ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาฉันทำให้พ่อของฉันเสียใจเท่าไร  ฉันทำให้พวกท่านผิดหวัง”

“นั่นมันไม่ใช่เหตุผล  มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ใช่สิ  นั่นแหละเหตุผลของฉัน  ตลอดเวลาที่ฉันคบกับเธอ  ฉันหลอกตัวเองมาตลอดว่าฉันไม่แคร์เรื่องสายเลือดของเธอ  และเรื่องของพ่อและแม่  แต่พอมาตอนนี้ฉันถึงได้รู้แล้วว่า  เราไม่สมควรจะรักกัน”

“นายจะบอกฉันว่า  นายเพิ่งจะมาแคร์เรื่องสายเลือดของฉันงั้นเหรอมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด “งั้นตลอดเวลาที่เราคบกันมานายคิดว่าฉันเป็นเลือดบริสุทธิ์มาตลอดงั้นเหรอ”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นเกรนเจอร์” มัลฟอยบอกเธอ

“แล้วมันเป็นยังไงล่ะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอพยายามปาดน้ำตาทิ้ง  แต่มันก็ไหลออกมาอีกรอบ

“พอเถอะเกรนเจอร์  อย่าเสียใจเพื่อฉันอีกเลย  ให้เรื่องของเรามันจบลงแค่นี้ดีว่า” มัลฟอยพูดกับเธอ  เฮอร์ไมโอนี่นั้นรู้สึกราวกับว่าถูกคาถาสะกดนิ่งอัดใส่ร่าง  เธอไม่นึกเลยว่ามัลฟอยจะทำกับเธอแบบนี้

“แต่….”

“เดรโก!” เสียงแหลมบาดแก้วหูดังมาแต่ไกล  เป็นใครไม่ได้นอกจาก  แพนซี่  พาร์กินสัน  เธอกำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากทั้งสองนัก “ออกไปห่าง ๆ เดรโกเลยนะยัยเลือดสีโคลน” แพนซี่พูดและเมื่อเธอเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ “อ๋อ  นี่คงมาตามตื้อเดรโกเขาล่ะสิ บอกไว้ก่อนนะว่าเดรโกน่ะเขาไม่เอาคนอย่างเธอหรอก” แพนซี่พูดอย่งาร้ายกาจ  ส่วนมัลฟอยนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ

“ไปกันเถอะ  เดรโก  แถวนี้อากาศไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่” แพนซี่พูดพลางลากแขนมัลฟอยเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมซึ่งมัลฟอยก็ยอมตามมาโดยดี  ไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะเรียกเขาทั้งสองก็หายลับเข้าไปในกำแพงหินนั่นแล้ว

ในห้องนั่งเล่นรวมสลิธีริน

“ยัยเกรนเจอร์นั่นหน้าด้านจริง ๆ เลยนะ” แพนซี่พูดถึงเฮอร์ไมโอนี่ “ถึงกับมาตามตื้อเธอถึงที่นี่  นี่ขนาดโดนเล่นงานเข้าไปขนาดนั้นยังไม่เข็ดอีกหรือไงนะ”

“เล่นงาน” มัลฟอยทวนคำอย่างสงสัย “เธอหมายความว่ายังไงแพนซี่”

“เอ่อฉัน….” แพนซี่อึกอัก  เธอหลุดปากเรื่องที่ไม่ควรพูดไปเสียแล้ว

“บอกมา!” มัลฟอยคำราม  เขาไม่คิดว่าแพนซี่จะรู้เรื่องที่ซิลเวียเป็นคนจับตัวเฮอร์ไมโอนี่ไป

“อย่าโกรธฉันนะเดรโก” แพนซี่พูด “ฉันแค่เขียนจดหมายไปบอกพ่อของเธอเท่านั้นว่า….”

“ว่าอะไร!” มัลฟอยตะโกน

“ว่าเธอคบกับยัยเลือดสีโคลนนั่นอยู่  แต่ฉันไม่นึกว่าเขาจะจับเธอหมั้นกับแม่ผู้หญิงฝรั่งเศสนั่นแทน” แพนซี่พูดถึงซิลเวีย

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” มัลฟอยถามเธอด้วยนำเสียงเกรี้ยกราด

“ก็ตั้งแต่ตอนที่เธอสาปฉันที่ห้องพยาบาล” แพนซี่พูดถึงตอนที่ตอนที่มัลฟอยสะกดนิ่งเธอที่ห้องพยาบาลเพราะแพนซี่ด่าเฮอร์ไมโอนี่ว่า ‘ เลือดสีโคลน ’

“งั้นคนที่ทำให้พ่อฉันรู้เรื่องเกรนเจอร์ก็คือเธอสินะแพนซี่” มัลฟอยกล่าวเสียงเยือกเย็น

“แล้วคนที่ทำให้เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นก็คือเธอ” มัลฟอยพูด  มองแพนซี่ด้วยดวงตาสีซีดที่กำลังลุกเป็นไฟของเขา

“ฉันขอโทษเดรโก  ฉันแค่อยากจะช่วยเธอ” แพนซี่อธิบายแต่มัลฟอยไม่มีท่าทีว่าจะฟังเธอเลย

“เพ็ตตริพิคัส โททารัส” มัลฟอยตะโกรพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่แพนซี่ซึ่งตอนนี้ล้มลงไปนอนอยู่กับพื้นห้องนั่งเล่นรวมเรียบร้อยแล้ว  มัลฟอยเดินเข้ามาใกล้ ๆ แพนซี่มองเธอด้วยแววตาเย็นชา

“นี่มันยังน้อยไปสำหรับสิ่งที่เธอทำแพนซี่!” มัลฟอยพูด “ปล่อยเอาไว้อย่างนี้  ถ้าใครกล้ามาช่วยมันล่ะก็ได้เห็นดีกันแน่!” เมื่อสิ้นคำพูดของมัลฟอยคนทั้งห้องนั่งเล่นรวมสลิธิรินก็ต่างมองมาที่แพนซี่ด้วยแววตาเห็นใจแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแก้คำสาปให้เธอสักคน   เพราะพวกเขากลัวว่าจะต้องเป็นยิ่งกว่าเธอ!



เฮอร์ไมโอนี่เดินกลับห้องนั่งเล่นรวมอย่างเลื่อนลอย  เสียงของมัลฟอยยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา

ฉันอยากเลิกกับเธอ

เราไม่สมควรจะรักกัน!

น้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่หยดลงมาอีกรอบ  แต่เธอก็ไม่สนใจที่จะเช็ดมันพอ ๆ กับที่เธอไม่สนใจว่าจะมีใครมองเธอด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นบ้าง  เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดว่าเธออยากกลับห้องนั่งเล่นรวม  เธอไม่อยากเจอเพื่อน ๆ ของเธอโดยเฉพาะแฮร์รี่กับรอนในเวลานี้  เพระาเธอรู้ดีกับคำถามที่จะตามาหากพวกเขาเห็นเธอในสภาพนี้  เฮอร์ไมโอนี่เดินตรงไปที่ทะเลสาบ  อากาศหนาวเย็นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้ไม่มีใครอยากมานั่งนอกปราสาทในเวลาเช่นนี้  แต่ไม่ใช่สำหรับเฮอร์ไมโอนี่  เพราะเธอคิดว่าที่นั่นั้นเงียบสงบว่าที่อื่น ๆ เป็นไหน ๆ

เฮอร์ไมโอนี่ทรุดกายลงข้างต้นบีชริมทะเลสาบ  ความทรงจำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่วนกลับมาในสมองของเธออีกครั้ง  เฮอร์ไมโอนี่เอามือกอดหัวเขา  ปล่อยความคิดล่องลอยไปเรื่อย  ๆ โดยทีน้ำตาของเธอก็ไหลไปเรื่อย ๆ อย่างห้ามไม่อยู่

เธอไม่เข้าใจมัลฟอยเลยจริง  ๆ

ว่าทำไมเขาต้องทำกับเธอแบบนี้

เฮอร์ไมโอนี่ซุกหน้าลงกับหัวเข่า  ปล่อยน้ำตารินไหลออกมาอย่างสุดกลั้น

เสียงฝีเท้าเหยียบพื้นหญ้าเบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองทันทีในใจของเธอขอให้ร่างนั้นเป็นมัลฟอย

“คุณร้องไห้อีกแล้วเหรอครับ” เสียงอ่อนโยนที่คุ้นเคยดังขึ้นมา  ไรอัน  ครัม  ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก  กำลังมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาเป็นห่วง


TBC

No comments:

Post a Comment