Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Chapter 27: The Mistake

ความเข้าใจผิด (The Mistake)


          “จากนั้นพอแคธี่กำลังเอื้อมมือไปหยิบเหยือกน้ำผลไม้ หล่อนหันไปมองแองเจลิน่าที่เพิ่งพูดบางอย่าง” รอนชะงักเพื่อรอดูแฮร์รี่ที่ตัดสินใจเคลื่อนเบี้ยหมากรุกของเขาได้ในที่สุด
 “และนั่นเปิดโอกาสให้จอร์จที่กำลังตั้งตารออยู่แล้ว” แฮร์รี่เสริมต่อจากรอน
“จอร์จเสกเหยือกน้ำให้ดูเหมือนเต่าทองยักษ์ แคธี่ไม่ได้สังเกตจนกระทั่งหล่อนกำลังจะรินน้ำใส่แก้ว” รอนฉีกยิ้มกว้างให้เฮอร์ไมโอนี่ “แล้วคนเราทำอะไรเมื่อพวกเขาพบว่าเหยือกน้ำผลไม้ของพวกเขาเวลานี้ดูเหมือนเต่าทองอ้วนมหึมาพร้อมกับหนวดกระดุกกระดิกไปมาล่ะ?” รอนถามแฮร์รี่
“หล่อนขว้างมัน” แฮร์รี่พูดอย่างรวดเร็ว “ตรงไปที่เฟร็ด ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม”
“เธอคงจะคิดว่าแมลงเต่าทองตัวหนึ่งไม่สามารถกระแทกใส่ใครให้หมดสติได้จริงๆ หรอก”  รอนหยุดพักเพื่อตรวจสอบกระดานหมากรุก “แต่ว่าเวทมนตร์ของจอร์จใช้ทำให้เหยือกน้ำดูเหมือนเต่าทองเท่านั้น”
แฮร์รี่นิ่วหน้าเมื่อรอนหยิบตัวเบี้ยอัศวินก่อนพูดว่า “อันที่จริงแล้วมันยังคงเป็นเหยือกน้ำผลไม้หนักมากใบหนึ่ง”
“และนั่นคือทำไมพี่ชายสุดที่รักของฉัน ตอนนี้กำลังใช้ช่วงเวลายามบ่ายอยู่ปีกสถานพยาบาล”
“และแคธี่ยังไม่ยอมพูดกับจอร์จด้วย” แฮร์รี่เสริม
เฮอร์ไมโอนี่ดึงผ้านวมสีแดงสดให้กระชับรอบบ่าของเธอมากขึ้น เธอยังคงเปียกแฉะน้ำหยดติ๋งๆ  แต่แฮร์รี่และรอนทั้งคู่ยืนกรานให้เธอนั่งลงและฟังพวกเขาเล่าเรื่องยามเช้าที่น่าตื่นเต้นมากซึ่งเธอได้พลาดไป “เขาจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” เธอถามด้วยความกังวลนิดหน่อย
“โอ้ เขาจะหายดีแน่ เฟร็ดเป็นคนหัวแข็ง” รอนหยิบตัวเบี้ยพระราชาของแฮร์รี่
แฮร์รี่มีสีหน้างงงันกับความพ่ายแพ้ของเขา แล้วส่งยิ้มให้กับรอน “มันต้องเป็นคุณลักษณะเฉพาะของพวกวีสลี่ย์”
“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดเรื่องอะไร” รอนสูดหายใจพร้อมกับทำเสียงตำหนิไม่เห็นด้วยแบบเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่น่าเชื่อ
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นจากโซฟาที่เธอนั่งอยู่และถลกชายแขนเสื้อเปียกชื้นขึ้นสูง
“เอาล่ะ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ฉันจะไปหาอะไรที่แห้งๆ ใส่ซะหน่อย”
“แล้วเธอไปอยู่ที่ไหนมา?” แฮร์รี่ถาม
รอนหยุดจัดตัวเบี้ยสำหรับเกมส์ต่อไป และมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์อีกครั้ง “เธอดูเหมือนไปต่อสู้กับปลาหมึกยักษ์มายังงั้นแหละ ฉันขอพนันด้วยกบช็อกโกแลตทั้งหมดของฉันที่เหลืออยู่จากเทศกาลคริสต์มาสว่าเธอชนะ”
“ฉันก็...ฉันไปทำงานโครงการวิชาตัวเลขมหัศจรรย์น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กลายเป็นว่ารู้สึกสนใจอย่างมากกับรูปสิงโตสีทองตรงหน้าของผ้าห่มที่เธอกำลังใช้คลุมตัวอยู่
“อ๋อ” เด็กหนุ่มทั้งคู่เอ่ยพร้อมกัน
เฮอร์ไมโอนี่เหลือบขึ้นไปที่พวกเขาและเห็นรอนทำปากว่า “มัลฟอย” แล้วแฮร์รี่ก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“ฟังนะ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันสำคัญจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเธอเริ่มหน้าแดงไปหมด เนื่องจากชั่วโมงสุดท้ายของเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับงานเรียนเลย
ราวกับว่าอ่านความคิดของเธอออก รอนทำเสียงอึกอักกลับลงไปในลำคอ “เออ เฮอร์ไมโอนี่เราไม่ได้อยากรู้หรอกนะ”
เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่พวกเขาทั้งสองคน แล้วเดินข้ามห้องนั่งเล่นรวมไปที่ช่องบันไดของพวกนักเรียนหญิง เธอมองกลับไปที่พวกเขาและคาดว่าจะเห็นรอนกำลังมองเขม็งมาที่เธออย่างไม่ชอบใจ แต่พวกเพื่อนๆ ของเธอจดจ่ออยู่กับการแข่งหมากรุกอีกหนทันที เธอยิ้มหลังจากเฝ้าดูพวกเขา พวกเขารู้แล้วว่าเธออยู่กับใคร และไม่มีพวกเขาคนไหนดูอารมณ์เสีย พวกเขาได้กลายมาเป็นเกือบจะยอมรับ มันเป็นไปได้เพราะพวกเขาคิดว่าเธอเพิ่งจะผ่านพ้นช่วงเพ้อเจ้อไร้สาระมาเป็นสาวน้อยวัยรุ่น แต่ถ้านั่นทำให้เรื่องราวต่างๆ ง่ายดายขึ้นสำหรับพวกเขาในการยอมรับ เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รังเกียจ
เฮอร์ไมโอนี่คลานขึ้นบนเตียงของเธอแล้วดึงผ้าน่วมหนาอบอุ่นขึ้นมาจนถึงคาง ผมเปียกชื้นสะอาดของเธอชี้โด่เด่อยู่บนศีรษะเป็นลอนฟูหนา ซึ่งไม่เคยอยู่ในที่ทางอย่างที่เด็กสาวมักเกิ้ลคนหนึ่งควรจะเป็น เธอต้องยอมรับ;ลาเวนเดอร์และปาราวตีคงรู้จักกลเม็ดดีๆ สักสองสามอย่าง
ยังไม่ถึงเวลาอาหารกลางวัน แต่เฮอร์ไมโอนี่กำลังคิดว่าดีแค่ไหนถ้าได้นอนหลับสักงีบหนึ่ง เสียงฟ้าร้องคำรามมาแต่ไกลอยู่ด้านนอกหอคอย เฮอร์ไมโอนี่ซุกตัวลึกยิ่งขึ้น เป็นเหตุผลมากพอที่ควรอยู่แต่ในเตียง
คาถานี้ใช้ได้ผล เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้าง พวกเธอทำมันได้แล้ว พวกเธอได้พบบางอย่างเพื่อหยุดคำสาปพิฆาต อย่างน้อยที่สุดก็เป็นคำสาปกรีดแทง  พวกเธอไม่ทราบแน่ชัดว่ามันจะหยุด
อะวาดา เคดาฟ-รา ได้หรือไม่จนกว่าบางคนได้ใช้มันต่อสู้กับคำสาปชั่วร้ายนั่นจริงๆ และจากสิ่งที่เดรโกพูดคาถาของโอ’แลรี่ใช้พลังมากเหลือเกินเพื่อป้องกัน มันอาจจะใช้การได้แค่ไม่กี่นาที แต่มันก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ดีกว่าอย่างน่าประหลาดใจ เอ๊ะ! คาถาใหม่ๆ ทั้งหลายน่าจะกำเนิดเป็นรูปร่างบนรากฐานด้วยคาถาบทนี้ก็ได้ บางทีวันหนึ่งคงจะมีคาถาลบล้างของจริง
ใช่แล้ว มันเป็นยามเช้าที่วิเศษ และการเสกคำสาปกรีดแทงใส่เดรโกช่างยากเย็นจริงๆ  เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะเสกคาถาแบบนี้ได้ แม้แต่ในจินตนาการอันไกลสุดเอื้อมของเธอก็ตามที มันใช้การได้และที่ดีที่สุด;เธอไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บ ไม่จริงๆ และเวลานี้พวกเธอทราบแล้วอย่างแน่ชัด
ณ ที่นั่นภายหลังจากาการทดสอบคาคา หมอบคู้ด้วยความหนาวสั่นจากสายฝนด้วยกันภายใต้หมู่แมกไม้ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา มันปลอดภัยที่พูดว่าเธอกำลังเริ่มต้นยอมรับความจริงเมื่อมันเกี่ยวข้องกับเดรโก เธอกำลังประสบกับความรู้สึกหลากหลายที่เธอไม่เคยพบมาก่อน แต่ว่านี่เป็นสิ่งที่ดีหรือ? ถ้าหากการเกี้ยวพาราสีของพวกเธอเกินเลยไปล่ะ? ถ้าหากเธอตกหลุมรักเขาล่ะ? ถ้าหากเขาไม่ต้องการเธอล่ะ?
          มีเสียงเคาะเบาๆ ถี่ๆ ที่ประตูห้องของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นนั่งเมื่อจินนี่ วีสลี่ย์ ชะเง้ออย่างระมัดระวังอยู่บริเวณขอบประตู และมองเข้ามาข้างในอย่างหวาดผวา
          “มีแค่ฉันเอง จินนี่” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนมาจากเตียงของเธอ จินนี่กำลังหลีกเลี่ยงลาเวนเดอร์กับปาราวตีนับตั้งแต่ที่เธอช่วยเฮอร์ไมโอนี่ให้ปลอดภัยจาการจับกุมของพวกหล่อนเมื่อสัปดาห์ก่อน
          จินนี่ก้าวเข้าไปภายในห้องแล้วปิดประตูตามหลัง ใบหน้าซีดขาวและเธอมีท่าทีหนักใจ ผมเปียสีแดงของเธอเริ่มหลุดลุ่ย เหงื่อเป็นประกายวาวอยู่บนใบหน้าของเธอ ราวกับว่าเธอเพิ่งจะวิ่งมาที่นี่
          “จินนี่?” เฮอร์ไมโอนี่ไต่ลงจากเตียงเธอ “มีเรื่องไม่ดีหรือ?”
          “เฮอร์ไมโอนี่ ฉัน...” แต่แล้วเสียงของจินนี่ก็หายไป ขณะที่เธอพิจารณาเพื่อนของเธออย่างเคร่งเครียด
          “มันเรื่องอะไร? เกิดอะไรขึ้น? ทุกคนสบายดีใช่ไหม?” น้ำเสียงเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นสูงด้วยความตื่นตระหนกกับความเงียบของจินนี่
          “ไม่ใช่ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เมื่อตะกี้นี้ฉันไปที่โรงเก็บนกฮูกเพื่อส่งจดหมายถึงแม่”
จินนี่กัดริมฝีปากล่างของเธอขณะที่เธอตัดสินใจพูดต่อ “โอ้ เฮอร์ไมโอนี่ฉันเห็นมัลฟอยที่นั่นกำลังจูบสาวสลิธีรินคนนั้น”
          “แพนซี่?” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างมึนชา
          จินนี่พยักหน้าอย่างเป็นทุกข์
“เธอแน่ใจนะ?” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างไร้ความรู้สึก จินตนาการของเธอตอบสนองความรู้สึกของเธออย่างทันทีด้วยภาพต่างๆ ของเดรโกกำลังจูบแพนซี่ จูบหล่อนในห้องสมุด ในห้องนั่งเล่นรวมของพวกเขา ด้านนอกบนลานกว้าง  เฮอร์ไมโอนี่เห็นเขากำลังจูบแพนซี่ในทุกๆ แห่งที่เขาได้เคยจูบเธอ
จินนี่พยักหน้าอีกครั้ง “เธอโอเคไหม?” เธอถามพร้อมกับก้าวมาข้างหน้า
เฮอร์ไมโอนี่สะบัดศีรษะของเธอ กำลังพยายามทำจิตใจเธอให้ปลอดโปร่ง “ฉัน...ฉันสบายดี จินนี่” เธอพูดออกมาในที่สุด
สีหน้าวิตกที่สาวน้อยวีสลี่ย์แสดงอยู่ บอกให้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่จริงอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันสบายดี จินนี่ จริงๆ นะ ทำไมฉันควรจะแคร์ถ้ามัลฟอยอยากจูบยายโง่หน้าเหมือนหมาจูนั่น?” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนว่าลำคอของเธอกำลังตีบตัน
“เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ขยับตัวเพื่อสัมผัสไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่ แต่เธอก้าวถอยห่าง
“เธอฟังนะ จินนี่ ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก ฉันคิดว่าฉันจะนอนพักสักหน่อย”
“เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่อ้อนวอน นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความกลุ้มใจ
“จินนี่” เฮอร์ไมโอนี่คว้ามือทั้งสองของเพื่อนเธอมาไว้ในอุ้งมือตัวเอง “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ เมื่อมาคิดดูแล้วมันก็แค่มัลฟอย”
จินนี่ทำหน้านิ่วแต่สุดท้ายก็พยักหน้า “ตกลง ฉันคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังซะที”
เฮอร์ไมโอนี่คอยจนกระทั้งจินนี่ดึงประตูปิดตามหลังหล่อนเรียบร้อยแล้วก่อนเดินกลับไปที่เตียงของเธอ เธอนอนลงแล้วขดตัวงอซุกเข่าทั้งสองเอาไว้ใต้คาง เธอสะอื้นเบาๆ พยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้ร้องไห้ โธ่เอ๊ย เธอคาดหวังอะไร?
__________________


          เธอเดินกลับไปกลับมาอยู่ด้านนอกห้องเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ เฮอร์ไมโอนี่ได้หลีกเลี่ยงเดรโกมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เธอไม่ได้ออกจากหอคอยเพราะกลัวว่าเดรโกกำลังตามหาเธอ และเธอไม่คิดว่าเธอจะสามารถทนมองเขาได้ในเวลานี้  เฮอร์ไมโอนี่ไม่แม้แต่ไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อรับประทานอาหาร เธอบอกรอนและแฮร์รี่ว่าเธอรู้สึกเนือยๆ ภายใต้สภาพอากาศเช่นนี้ และพวกเขาไม่ติดใจอะไร จินนี่ทราบเรื่องดีกว่าแน่นอน เธอไม่พูดถึงมันแต่เธอนำขนมปังปิ้งจากมื้ออาหารกลับมาให้เฮอร์ไมโอนี่ทุกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่หมกตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมของเธอ ปลอดภัยจากสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับเดรโก มัลฟอย  แต่ในเวลานี้เธอไม่มีทางเลือกและต้องเผชิญหน้ากับเขา
          เธอสูดลมหายใจลึกๆ แล้วผลักประตูเปิด  เฮอร์ไมโอนี่หยุดชะงักเพื่อขอโทษศาสตราจารย์
เวคเตอร์ที่มาสาย เพื่อนนักเรียนของเธอหลายคนเงยขึ้นและมองตามการเคลื่อนไหวของเธอ ขณะที่เธอก้าวเดินไปและนั่งลงในที่นั่งของเธอข้างมัลฟอย
          “เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว เริ่มต้นเรียนกันได้” ศาสตราจารย์เวคเตอร์เริ่มเขียนบางอย่างบนกระดาน
          ทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ของเธอ เดรโกก็หันมาหาเธอ
          “เธอไปอยู่ที่ไหนมา?” เขาเปล่งเสียงอย่างโมโห
          เฮอร์ไมโอนี่ดึงม้วนกระดากับปากกาขนนกสีเขียวเข้มออกมา เธอมองตรงไปข้างหน้าและไม่ใส่ใจเดรโก อย่างไรก็ตามาเขาไม่ยอมให้ถูกเพิกเฉย เขาคว้าแขนเธอและกระตุกให้เธอหันมา ด้วยเหตุนี้เธอจึงกำลังมองเขา
          “ฉันคิดว่ามีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ ฉันคิดว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือไม่สบายไปซะแล้ว!” เขาทำเสียงเดือดดาล น้ำเสียงต่ำตามปกติของเขาขึ้นสูงมากพอที่ทำให้นักเรียนใกล้ๆ หลายคนหันมามอง
          เฮอร์ไมโอนี่กระชากแขนเธอมาจากเขาและตวาดใส่ “สิ่งไม่ดีเพียงอย่างเดียวกับฉันก็คือเธอ!”
          เดรโกท่าทางตกใจและโกรธมาก “เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?” เฮอร์ไมโอนี่หันไปจากเขาอีกครั้ง “เฮอร์ไมโอนี่ มันคืออะไร?” เขาเสียงดังใส่เธอ ความจริงแล้วนักเรียนทุกคนในห้องได้ละทิ้งแผ่นกระดาษของตัวเอง และกำลังจ้องมองพวกเขา
          “ทำไมเธอไม่ไปถามแพนซี่ล่ะ?” เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับอย่างฉุนเฉียว
          “มีปัญหาหรือไง?” น้ำเสียงไม่พอใจแทรกผ่านการโต้เถียงของพวกเขา “มิสเกรนเจอร์?
มิสเตอร์มัลฟอย?”
          และแม้ว่านักเรียนทุกคนกำลังจ้องมองพวกเขา อีกทั้งการตำหนิจากอาจารย์ของพวกเขา  เฮอร์ไมโอนี่กับเดรโกยังคงจับจ้องแลกเปลี่ยนสายตาอันดุเดือดร้อนแรงของกันและกัยอยู่เป็นเวลายาวนาน ก่อนหันกลับมาแล้วสั่นศีรษะของพวกเขาโดยพร้อมเพรียงกัน
          เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าคางเธอเริ่มสั่น แต่เธอปฏิเสธที่จะมอบความพึงพอใจให้กับเขาด้วยการเห็นเธอร้องไห้ ด้วยการให้เขารู้ว่าเขาได้ทำให้เธอเจ็บปวด ว่าเขาชนะแล้ว   ชั้นเรียนดำเนินไปอย่างเงียบสงบและทันทีที่ศาสตราจารย์เวคเตอร์ประกาศว่าเลิกชั้นเรียนได้  เฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกออกจากที่นั่งของเธอ
          เธอแทรกผ่านพวกนักเรียนและพุ่งออกประตูไป จังหวะการวิ่งชะงักลงเมื่อเธอชนเข้ากับเฉลียงทางเดิน เฮอร์ไมโอนี่ทราบว่าเขากำลังตามมาและเธอเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น เธอเหลือบมองข้ามไหล่ไปด้านหลัง พยายามดูว่าเธอจัดการหลบหนีเขาได้หรือไม่ เลยวิ่งชนใส่เด็กเรเวนคลอชั้นปีที่เจ็ดคนหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่กระเด็นถอยหลังไปอย่างแรง ขณะที่เด็กสาวคนนี้;หนึ่งในพวกเพื่อนๆ ของโช กวาดสายตามองเธอด้วยความรำคาญ
          “ขอบคุณ” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ เมื่อใครคนหนึ่งช่วยเธอให้ลุกขึ้นยืน
          “ฉันคงจะไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างมาก ที่ปล่อยให้เธอนอนแผ่อยู่บนพื้น” เสียงเฉื่อยเกียจคร้านดังมา
          เฮอร์ไมโอนี่หันมาเผชิญหน้ากับเดรโก เขายิ้มหยันให้เธอด้วยลักษณะท่าทางแบบเฉพาะที่สุดของมัลฟอย
“อยู่ให้ห่างๆ จากฉัน” เฮอร์ไมโอนี่ตวาด
เดรโกไม่ตอบ แต่คว้าแขนเธอและเริ่มลากเธอให้ตามหลังเขามา เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นรนต่อต้านการฉุดลากของเขา แต่ว่าเขาแข็งแรงกว่าเธอมาก
“เกรนเจอร์” เขาพูดอย่างสงบข้ามไหล่มา “เธอกำลังเรียกความสนใจจากผู้ชมอยู่นะ” แน่นอนว่าผู้คนที่แออัดอยู่บนทางเดินกำลังหยุดเพื่อมองมา
“ฉันจะไม่ไปที่ไหนกับเธอทั้งนั้น เธอมันคนอวดดีน่าทุเรศ!” เฮอร์ไมโอนี่ดึงต้านเขาอย่างหมดหวัง
เดรโกหันหน้ามามองเธอ “เลือกเอาว่าเธอเดินไปเองแบบนักเรียนชั้นปีที่หก หรือจะให้ฉันแบกเธอพาดไหล่เหมือนเด็กหัดเดินเจ้าอารมณ์อย่างที่เธอกำลังทำอยู่ แต่ไม่ว่าแบบไหนเธอจะไปคุยกับฉัน” เขาปล่อยแขนเธอและยืนมองเธออย่างคาดหวัง มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังกระซิบกระซาบอยู่ใกล้ๆ พวกเขา และเฮอร์ไมโอนี่เริ่มหน้าร้อนผ่าว เดรโกมีท่าทางสงบนิ่งอย่างมากและกำลังพิจารณาอย่างสบายอารมณ์ว่าเขารู้สึกเกี่ยวกับข่าวลือทั้งหมดภายในโรงเรียนอย่างไรบ้าง
“ตกลง” เธอตวาด และเริ่มออกเดินอีกครั้ง มุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีคน
พวกเขาย้อนเดินกลับไปยังห้องเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ที่ว่างเปล่า พวกเขาถูกหลีกทางให้ขณะที่เพื่อนๆ นักเรียนมองมาและซุบซิบเมื่อพวกเขาผ่านไป เธอหันมาหาเขาทันทีที่ประตูถูกปิด และรอฟังอะไรก็ตามที่เขาต้องการพูด ตั้งใจว่าเธอจะไม่อารมณ์เสีย จะไม่แสดงความเจ็บปวดออกมา
เดรโกยืนมองเธอ ดวงตาสีเทาของเขาลึกลับและอ่านไม่ออก
“เธอเห็นมันใช่ไหม?” เขาถามเธอในที่สุด
“เปล่า” เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายเมื่อก้อนแข็งๆ จุกในลำคอเธอ “จินนี่เห็น”
“ฉันควรจะรู้ว่ามันต้องเป็นพวกวีสลี่ย์” เขางึมงำ
“โอ้ เธอช่างน่าขำมากเลยที่ตำหนิจินนี่เรื่องนั้น” เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าตึง
“ฉันไม่ได้จูบแพนซี่” เขาพูด “หล่อนจูบฉันเอง”
“และนั่นทำให้ทั้งหมดมันแตกต่างไปอย่างงั้นซินะ”
เดรโกถอนหายใจ ยกมือขึ้นเสยผมปัดไปด้านหลัง เขาดูคล้ายจนปัญญาว่าจะพูดอะไรดี
“ฟังนะ” เฮอร์ไมโอนี่ทำลายความเงียบ “ยังไงซะมันก็ไม่เป็นอะไรเลย เธอสามารถจูบใครก็ได้ที่เธอต้องการ”
“ฉันรึ?” เดรโกทำเสียงแปลกใจ
“แน่นอนซิ มันไม่ใช่ว่าเธอรู้สึกอะไรกับฉัน ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่มีความหมายบางอย่าง” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าน้ำตาเริ่มบดบังการมองเห็นของเธอเมื่อเธอพูดเรื่องนี้ เธอรู้ว่าเธอต้องออกจากห้องนี้และไปให้พ้นจากเขา ทว่าเธอก็อดไม่ได้และถามว่า “มันมีความหมายบางอย่างไหม?”
ดวงตาเดรโกสว่างวาบอย่างน่ากลัว และมีประกายแห่งความบ้าคลั่งแต่ว่าเขาไม่พูดอะไรทั้งสิ้น น้ำตาไหลลงมาที่แก้มเฮอร์ไมโอนี่ เธอป้ายตาทั้งสองข้าง มันจบแล้วอะไรก็ตามที่มันเป็น;เธอได้ทำแล้ว เฮอร์ไมโอนี่เดินไปหาเดรโกและเขย่งขึ้นจูบแก้มเขาอย่างนุ่มนวล เธอส่งยิ้มเศร้าหมองที่สุดให้เขาแล้วน้ำตาอีกหยดก็ไหลออกมา แต่เธอไม่สนใจปัดมันทิ้ง มันดูไม่สำคัญในเวลานี้ เฮอร์ไมโอนี่เดินผ่านเขาและออกไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ปล่อยเขาทิ้งไว้อยู่ด้านหลัง
__________________

          เฮอร์ไมโอนี่เดินกลับไปกลับมาอย่างหงุดหงิดในห้องนอนของเธอ ข้ามพื้นห้องที่ปูลาดด้วยหิน ผ่านบรรดาเตียงนอนจากนั้นก็เดินกลับมาอีก ลาเวนเดอร์และปาราวตีนั่งอยู่ด้วยกันบนเตียงของปาราวตี กำลังทาเล็บเท้าของพวกหล่อนพร้อมกับกำลังมองตามด้วยความสนใจอย่างงุนงง
          “เฮอร์ไมโอนี่” ลาเวนเดอร์เอ่ย “มีอะไรหรือเปล่า?”
          “ฉันทิ้งหนังสือวิชาการปรุงยาของฉันไว้ในห้องสมุด” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันทิ้งหนังสือวิชาการปรุงยาของฉันไว้ในห้องสมุด” เธอหยุดและจ้องเขม็งไปยังกองหนังสือที่เธอทำกระจายเกลื่อนบนเตียงของเธอ ในระหว่างการค้นหาหนังสือวิชาการปรุงยา
          “ถ้าอย่างงั้นทำไมเธอไม่แค่ไปที่ห้องสมุดแล้วเอามันมาล่ะ?” ปาราวตีแนะนำในระหว่าที่กำลังเหยียดนิ้วเท้าของเธอให้สัมผัสกับแสงไฟ
          เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่หญิงสาวทั้งสองคน
          “ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เธอไม่ชอบไปห้องสมุด?” ลาเวนเดอร์กำลังจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด “เธอรู้เปล่า วันนี้เธอกำลังทำตัวตลกพิลึกทั้งวันเลย”
          เฮอร์ไมโอนี่เริ่มต้นเดินไปมาอีกครั้ง;พยายามไม่ใส่ใจกับท่าทางสนอกสนใจอย่างมากมายที่เธอกำลังได้รับจากเพื่อนร่วมห้องของเธอ ถูกต้องแล้ว เธอได้ทำตัวตลกพิลึกมาตลอดทั้งวัน แต่คนเราควรคาดหวังอะไรล่ะ? เธอรู้สึกตลกพิลึก ว่างเปล่าและหนาวเย็น มันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด เฮอร์ไมโอนี่เกลียดเดรโก
          เธอทำเสียงครางโกรธเคือง;ไม่มีอะไรให้ต้องทำ เฮอร์ไมโอนี่ดึงเสื้อคลุมจากเก้าอี้และเหวี่ยงมันขึ้นคลุมไหล่ของเธอ ลาเวนเดอร์และปาราวตีมองดูด้วยความสนุกขบขันเมื่อเธอผลุนผันออกจากห้องนอนไป ตัดสินใจไปเอาหนังสือวิชาการปรุงยาของเธอกลับมา  มัลฟอยจงไปลงนรกซะ
          เธอใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีมาถึงห้องสมุด;นักเรียนส่วนมากอยู่บนเส้นทางที่ไปห้องโถงใหญ่เพื่อรับประทานอาหารเย็น เต็มเปี่ยมด้วยความหวังว่าถ้าเธอโชคดี มัลฟอยอาจจะอยู่ในหมู่พวกเขาเหล่านั้น เฮอร์ไมโอนี่ได้ทำให้สมองของเธอยุ่งวุ่นวายตลอดทั้งวัน ทำการบ้านมากมายของเธอ และทบทวนการเรียนสำหรับการสอบไล่ที่กำลังจะมาถึงอีกแค่ไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้
          เฮอร์ไมโอนี่ได้ทำทุกอย่างที่สามารถหันเหความสนใจของเธอไปจากเดรโก เขาทำให้เธอเจ็บปวด เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้เกิดอีกอย่างที่ได้เกิดขึ้นแล้ว เธอไม่เคยมีความตั้งใจใดๆ เรื่องการปล่อยให้สลิธีรินน่ารังเกียจคนหนึ่งเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอ อย่างไรก็ตามเขาได้จัดการค่อยๆ เขยิบช่วงระยะห่างของเขาเข้ามาสู่ภายในใจของเธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกใจเมื่อตระหนักว่าเธอไม่ได้แม้แต่โมโหใส่เขา สิ่งที่เธอได้พูดในห้องเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์เป็นสิ่งที่ถูกต้อง;เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเธอ เพียงแค่เพราะว่าเธอได้ปล่อยให้ตัวเองใกล้ชิดกับเขา ไว้ใจเขา ห่วงใยเขา ซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขา แต่ถึงกระนั้นเฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยรู้สึกทุกข์ทรมานมากมายในชีวิตของเธอ
          มีผู้คนอยู่ภายในห้องสมุดมากกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่คาดการณ์ไว้ มีพวกเรเวนคลอหลายคนที่เธอรู้จัก และฮัฟเฟิลพัฟสองสามคนด้วยเช่นกัน  ทุกสายตามองเธอขณะที่เธอเดินตัดข้ามห้องใหญ่ เธอสามารถได้ยินเสียงกระซิบกระซาบเมื่อเดินผ่าน
          “เธอได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าไหม? รู้จักหล่อนไหม? นั่นคือเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” เสียงหนึ่งกระซิบขึ้นด้านซ้ายของเธอ
          “.....มีความรักกับหนุ่มสลิธีริน เธอเชื่อเรื่องนั้นไหม? นึกภาพดูซิ กริฟฟินดอร์กับสลิธีริน” อีกเสียงหนึ่งดังมาจากด้านขวา
          เฮอร์ไมโอนี่หยุดบนทางเดินแล้วหันมาถลึงตาโกรธใส่กลุ่มนักเรียนที่ใกล้ที่สุดซึ่งกำลังซุบซิบอยู่ เกิดความเงียบอย่างกระดากขณะที่ทุกคนมองกลับลงไปที่โต๊ะของพวกเขา เธอยืนอยู่สักพักใหญ่ท้าทายให้ใครก็ได้พูดบางอย่างออกมา แต่พวกนักเรียนทั้งหมดแสดงสีหน้าสำนึกผิด
          เธอมุ่งหน้าไปยังบันไดวนเล็กที่ด้านหลังและตรงไปที่ห้องของพวกเขา ท้องไส้เธอปั่นป่วนอย่างประสาทเสีย เฮอร์ไมโอนี่ต้องกัดริมฝีปากเธอแรงๆ เมื่อมันเริ่มสั่น ซึ่งเป็นสัญญาณแน่ชัดว่าเธอกำลังจะร้องไห้
          ประตูเข้าห้องไม่ได้ใส่กุญแจ เฮอร์ไมโอนี่หมุนที่จับประตูอย่างไม่เป็นสุข แล้วเดินเข้าไปโดยคาดว่าจะเห็นเขาอย่างเต็มที่ แต่ห้องกลับว่างเปล่า  เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้านิ่ว เขาทราบดีเกินกว่าจะปล่อยประตูเปิดทิ้งไว้
          “เดรโก?” เธอเรียกแต่ไม่มีคำตอบ
          คิ้วเธอยิ่งขมวดเพิ่มขึ้นเมื่อเธอเดินลึกเข้าไปภายในห้อง กระแสความไม่พอใจพลุ่งขึ้นมากับเรื่องความสะเพร่าของเขา หนังสือเหล่านี้หาค่ามิได้ทั้งนั้น
          สายตาเธอลงไปอยู่ที่หนังสือวิชาการปรุงยาของเธอซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ มันเป็นปกหนังสือค่อนข้างใหม่ซึ่งสังเกตเห็นได้ เมื่อเปรียบเทียบกับพวกหนังสือเก่าโบราณที่อยู่รอบๆ ใกล้เคียงกับมัน เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจโดยความโล่งอก หยิบมันขึ้นมาและยัดมันเข้าไปในกระเป๋าหนังสือของเธอ เธอกำลังหันหลังจะไปเมื่อบางอย่างสะดุดลูกตาเธอ อยู่ที่ขอบโต๊ะคือจดหมายฉบับหนึ่ง
          เธอหยิบมันขึ้นมาและเปิดมันออกด้วยนิ้วมือสั่นๆ  เชื่อว่ามันมาจากเดรโก แต่กลับไม่ใช่
          เดรโก
          ฉันดีใจที่รู้ว่าในที่สุดแกก็ได้สติกลับคืนมาแล้ว ฉันคาดว่าจะได้พบแกที่ฮอกส์มี้ดตอนสองทุ่มตรงคืนนี้ ฉันได้บอกแม่ของแกว่าแกกำลังจะกลับมาที่บ้าน ฉันเชื่อว่าเรื่องนี้ช่วยเกื้อกูลสุขภาพของหล่อน แต่ฉันขอเตือนแกนะ เดรโก อย่าทำให้ฉันผิดหวังอีกครั้ง
                                                                                                          พ่อ
          เฮอร์ไมโอนี่อ่านจดหมายอีกเที่ยวหนึ่ง มือเธอกำลังสั่นและใบหน้าเธอซีดเผือด
          “โอ้ ไม่จริง เดรโก ไม่นะ” เธอร้องครวญ
          คนโง่เง่า! เขากำลังคิดอะไร? เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองที่นาฬิกาข้อมือของเธอ มันทุ่มครึ่งแล้ว เขาน่าจะออกไปเรียบร้อยแล้ว เขาถูกหลอกแล้ว;เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าเขาหลงกลมันได้อย่างไร มันเป็นกับดัก;มันคือกับดักอย่างชัดจัน
          “ฉันจะทำอะไร?” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบกับตัวเอง ใบหน้าเธอมีร่องรอยของความวิตกกังวล
          มือเธอกำจดหมายแน่นแล้วขยำแผ่นกระดาษ หลังจากนั้นเฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจว่าเธอต้องไปเดี๋ยวนี้รวดเร็วเท่าที่เธอทำได้ เธอต้องหาเขาและยับยั้งเขา ไม่มีเวลาชักชวนแฮร์รี่และรอน ไม่มีเวลาสำหรับผ้าคลุมล่องหน เธอต้องรีบแล้ว
          เธอวิ่งออกจากห้อง ปล่อยประตูเปิดอ้าและลืมมันทิ้งไว้ด้านหลัง ด้วยความรีบร้อนของเธอ เธอเกือบจะลื่นตกจากบันไดสองสามขั้นสุดท้าย แต่เธอจัดการคว้าราวบันไดเหล็กดัดเอาไว้ได้ทัน พวกนักเรียนคนเดิมที่หลบสายตาของเธอเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เวลานี้มองมาด้วยความพิศวงเมื่อเธอผลุนผันผ่านพวกเขาไป
          ด้านนอกยังคงมีแสงสว่างอยู่แม้ว่าล่วงเข้าช่วงเวลาเย็นมานานแล้ว และมีนักเรียนสองสามคนกำลังเดินอ้อยอิ่งอยู่บนลานกว้าง เฮอร์ไมโอนี่พุ่งทะลุผ่านประตูหน้าออกมา ไม่มีใครสนใจเธอเลยแม้ว่าเธอมุ่งหน้าเดินลัดสนามหญ้าลงไป และไม่มีใครเหมือนสังเกตเห็นเมื่อเธอลอดผ่านประตูรั้วและเดินลงไปที่ถนน
          ทันทีที่เธอมาถึงหมู่บ้าน เฮอร์ไมโอนี่หยุดพักเพื่อหายใจ ศีรษะเธอกำลังปวดตุบๆ และมีอาการเจ็บแปลบยอกที่สีข้าง เฮอร์ไมโอนี่กวาดสายตาผ่านถนนสายต่างๆ ด้วยหวังว่าจะเห็นเดรโกสักแวบหนึ่ง แต่ไม่มีวี่แววของเขาเลย เธอทำเสียงครวญเบาๆ   พวกเขาจะพบกันที่ไหน? เฮอร์ไม-โอนี่ไม่สามารถนึกภาพได้ว่าสองพ่อลูกกำลังดื่มบัตเตอร์เบียร์ ส่งเสียงโห่ร้องกันอยู่
          “คิดซิ เฮอร์ไมโอนี่” เธอถูขมับด้วยความสิ้นหวัง
          จากนั้นเธอก็นึกได้ วันงานเลี้ยงเทศกาลฮาโลวีน   เมี่อเธอพบเดรโกในตรอกแห่งหนึ่ง มันต้องอยู่ใกล้ๆ ที่นั่น  การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
          เธอเกือบจะมาถึงตรอกที่เธอได้พบเดรโกนานมาแล้ว เมื่อได้ยินเสียงคุยเบาๆ หลายเลียง เธอก้าวถอยเข้าไปในเงามืดของทางเข้าประตูบานหนึ่งแล้วกลั้นหายใจ ชายสองคนสวมฮู้ดเดินผ่านเธอ พวกเขากำลังคุยกันเบาๆ   ทันทีที่พวกเขาไปไกลพอสมควร เฮอร์ไมโอนี่ขยับออกจากทางเข้าประตูแล้วติดตามพวกเขาไป พยายามรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขาอย่างรอบคอบ
          พวกเขามุ่งหน้าลงไปยังตรอกมีดและตันแห่งหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่หลบเข้าไปภายในตรอกอีกแห่งหนึ่ง ทั้งหมดนี้ดูเหมือนคุ้นมากๆ เฮอร์ไมโอนี่จำความฝันอันหนึ่งได้แล้ว ความฝันนี่นำมาสู่การค้นพบคำสาปพิฆาต   นี่เป็นบ้านหลังเดียวกันกับที่เธอได้เห็นเดรโกนอนอยู่บนพื้นใต้อำนาจของ
ลูเซียส
          “ลางสังหรณ์เล็กๆ” เธอพึมพำเบาๆ
          แผ่นหลังเธอเบียดชิดแนบกับกำแพงอิฐของตรอก เฮอร์ไมโอนี่ลอบมองบริเวณหัวมุมตรงที่บ้านร้างได้ถูกเลือกให้เป็นสถานที่นัดพบของบิดาเดรโก เธอเพ่งสายตาในแสงมีดสลัว พยายามมองหาเดรโกที่ซ่อนอยู่ในเงามืด สายลมทำให้เสื้อคลุมของเธอพันกันยุ่ง และชั่วขณะหนึ่งเธอคิดว่าบางคนอาจสังเกตเห็นเธอ แต่คนพวกนั้นยังคงพูดคุยระหว่างกันเองต่อโดยไม่สนใจเธอ เดรโกอยู่ที่ไหน? เขามาสายหรือว่าเขาเปลี่ยนใจแล้วใช่ไหม? เฮอร์ไมโอนี่ภาวนาให้เขาแบบนั้น มันเป็นกับดักชัดเจน แต่ว่าตอนนั้นเขาไม่รับฟังเธอจนกระทั่งถึงตอนนี้ไม่ใช่หรือ? เธอชะโงกออกมามากขึ้นและพยายามมองหน้าของคนทั้งคู่ที่กำลังรออยู่ด้านนอกบ้าน อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้เนื่องจากความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบหลังพระอาทิตย์ตก
          เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเธอ และจับกระเป๋าเสื้ออีกครั้งเพื่อทำให้ตัวเธอมั่นใจว่าไม้กายสิทธิ์ของธออยู่ที่นั่นจริงๆ
          เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายและเขยิบออกมาจากตรอกมากขึ้น ด้วยหวังว่าเธอจะเห็นเดรโกก่อนคนอื่นๆ  เวลานี้เขาต้องกำลังมาอาจเป็นตอนไหนก็ได้
          เธอต้องยับยั้งเขา ต้องช่วยชีวิตเขา  แต่เดรโกก็ยังไม่ปรากฏตัว เฮอร์ไมโอนี่กำลังเริ่มสูญเสียความกล้าบ้าบิ่น และที่ทำให้ท้อถอยมากกว่าสิ่งอื่นใดคือ คนที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน พวกเขากำลังพูดกันด้วยน้ำเสียงเบาเหลือเกินจนเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถได้ยินเสียง  แต่เธอใช้เวลาอยู่กับแฮร์รี่และรอนมากพอสมควรที่จะดูออกว่าคนกำลังคุยกันเรื่องกีฬาควิดดิช  การกระทำของผู้เสพความตายทั้งสองนี้ดูเหมือนสนใจเรื่องผลการแข่งขันล่าสุดของทีมฟาลคอน  และดูไม่เหมือนเป็นลางสังหรณ์ล่วงหน้าถึงเรื่องอันตรายใดๆ
          เฮอร์ไมโอนี่มีเวลาไตร่ตรองเพียงแวบเดียวว่า บางทีเธอคงคิดผิดแล้วที่พยายามและทำให้เดรโกเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นกับดัก ว่าที่จริงแล้วนาร์ซิสซา มัลฟอยสุขภาพแข็งแรงดี  เมื่อการปรากฏตัวอย่างฉับพลันด้านหลังของเธอได้ลบล้างข้อสงสัยใดๆ ออกไป
          “มิสเกรนเจอร์ ช่างน่าพึงพอใจเหลือเกินที่ได้พบเธออีกครั้ง  อ้า...ฉันเกรงว่าเรายังไม่เคยได้แนะนำตัวกันอย่างถูกต้อง แต่เราจะมีเวลาพอสมควรเพื่อชดเชยเรื่องนั้นหรือไม่ใช่?” น้ำเสียงนุ่มนวลเสแสร้งของลูเซียส มัลฟอยดังกังวานอยู่ด้านหลังเธอ ใกล้เหลือเกินจนเธอสั่นสะท้านด้วยความกลัว
          เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีแม้แต่เวลาจะหมุนตัวเพื่อพยายามหลบหนี ความคิดอย่างเดียวของเธอก่อนการกระแทกอย่างทันทีซึ่งทำให้เธอจมลงสู่ความมืดมิดสุดจะหยั่งถึง คือเธอคิดถูกต้อง เรื่องนี้เป็นกับดักจริง เพียงแต่มันไม่ได้ถูกมุ่งหมายไปที่เดรโก

TBC

No comments:

Post a Comment