Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Part I เมืองบนฟ้า: Chap 9

“ป..เปล่านี่” เธอตอบ แล้วหันหน้าหนี เขาแตะหลังเธออีกครั้ง

“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ” เธอร้องเสียงแหลม ใบหน้ายังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

“เจ็บ แล้วไปโดนอะไรมาล่ะ” นั่นยิ่งทำให้เขาเกิดความสงสัย

“เอ้อ ช่างมันเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกน่า” เธอบอกปัดแล้วเปลี่ยนเรื่องอย่างตั้งใจ 
“ ฉันอยากจะนอนซักหน่อย”

มัลฟอยเห็นสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่มองไปยังเตียงนุ่มๆอย่างโหยหา  เขาจึงปล่อยเธอออกจากโซ่ที่พันธนาการเธอไว้ แต่ความสงสัยของเขายังไม่หายไป แล้วเขาก็คิดอะไรได้ เมื่อเหลือบเห็นแมลงเต่าทองที่เกาะอยู่บนไหล่ของเธอ

“เดี๋ยว เกรนเจอร์ อยู่เฉยๆนะ” จู่มัลฟอยก็ขัดขึ้น ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะล้มตัวลงนอน

“อะไร”

“แมลง เอ่อ อะไรสักอย่างน่ะจำชื่อไม่ได้ ที่มันมีพิษฤทธิ์แรง เอ่อ อะไรนะ” 

“เออๆ นายจะช่วยเอามันออกไปก่อนได้มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างกระสับกระส่าย 

มัลฟอยแกล้งพยายามหาทางจับเจ้าแมลงตัวนั้น ที่บินมาเกาะอยู่บนไหล่ของเธอ แต่ขณะนี้มันกำลังเดินป้วนเปี้ยนไปทั่ว เธอไม่ได้รังเกียจอะไรมันหรอก แต่มันมีพิษนี่สิ

“เร็วๆสิ” เธอเร่งอย่างหวาดวิตก น้ำตาคลออยู่ในดวงตาสีน้ำตาล

“เอ่อ เห็นทีจะไม่ได้ เพราะมันเข้าไปในเสื้อเธอแล้ว”

“อะไรนะ!” เธอร้องอย่างตกใจ เธอที่หันหลังให้เขา รีบถอดเสื้อออกหลวมๆ เลิกเสื้อด้านหลังขึ้นและสะบัดอย่างแรง 

“มันออกไปรึยัง” เธอถาม

“เอ่อ ยัง” เขาตอบ

“งั้นก็ช่วยฉันหน่อยสิ” เขาเปิดเสื้อด้านหลังเธอขึ้นอีก และก็เจอเจ้าแมลงตัวยุ่งที่บินออกไปนอกหน้าต่างทันที
 แต่มัลฟอย ยังจ้องหลังของเธออย่างไม่วางตา นั่นเป็นเพราะ หลังเธอลายไปด้วยรอยแผล 

“หลังเธอไปโดนอะไรมาน่ะ เกรนเจอร์” เขาถามเธอ

“อะไร หลังฉันนะเหรอ ก็ไม่..เอ้อ ไม่น่าถามจะโดนอะไรได้นอกจากโดนเฆี่ยน” เธอพูดหน้าแดงจัดอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่น่าเลย เธอไม่น่าตกใจเพราะแมลงบ้าตัวนั้น เธอกำลังจะจัดเสื้อให้เข้าที่ แต่มัลฟอยถอดมันออก เธอคว้าหมอนมากอดไว้รวดเร็ว แม้จะเห็นสีของล็อกเกตแว๊บๆก็ตาม เพื่อปกปิดร่างกายของเธอ

“จะทำอะไรน่ะ” ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าเธออายขนาดไหน

“ไปโดนมาตอนไหนน่ะ” เขาถาม

“ตอนที่เข้ามาในนี้นี่แหละ ให้ตายสิ นายอย่าจับนะ” เธอว่าแล้วเช็ดน้ำตา สภาวะทางอารมณ์ยังคงเศร้าโศกอยู่

“เอ้อ จริงสิ เธอมีต้นอันสการ์อะไรนั่นนี่นา” เขาว่าก่อนจะตรวจดูประตูเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้ามา

“นายไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ ฉันทนได้” 

แต่เขาก็เอากระเป๋าสะพาย ออกมาจากกระจกวิเศษใบเล็กของเขา 
แล้วหยิบ ต้นอ่อนของอันสการ์ออกมาหนึ่งต้นพร้อมกับจานอาหารสีทอง

“เอ้อ นายรู้วิธีใช้มันหรือไง” เธอถาม พลางหยิบหนังสือที่ซันสตาร์ให้ออกมาด้วย แล้วยื่นให้เขา

“ถึงฉันจะต้องตาย แต่ก็ไม่อยากให้เกิดความผิดพลาด” เธอประชดเขา

“ดี” เขาเอ่ย จากนั้น เขาก็เอาต้นอ่อนของต้นอันสการ์มาวางไว้บนจานสีทองใบโปรดของเขา 
ทันใดมันก็เปลี่ยนจากต้นอ่อน เป็นผงเหนียวที่บดละเอียด แล้วเขาก็ทาแผลให้เธอที่เอนตัวลงนอนทั่วบริเวณหลัง
 เธอนอนคว่ำแล้วกอดหมอนนั้นแน่น มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บก็จริง แต่เขาก็ทาแผลให้เธออย่างเบามือ ตามวิธีในหนังสือ

“เรียบร้อย ทีนี้เธอก็นอนซะ อีกหนึ่งชั่วโมง ฉันจะทายาให้อีกที” เขาบอกแล้วจัดการห่มผ้าให้เธอ และเพิ่งจะสังเกตว่าเธอนั้นหลับไปนานแล้ว 

. . . . . . .


เฮอร์ไมโอนี่ฝัน ใช่เธอกำลังฝัน เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่ง คนที่เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เมื่อครู่เธอยังสัมผัสถึงความอบอุ่นของเขา ตอนที่เขาอยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้
 เขาคนนั้นกำลังจะไป..แต่เธอไม่อยากให้เขาไป เธอไม่อยากอยู่คนเดียว..

“อยู่เป็นเพื่อนฉันได้มั้ย” เธอพูดขึ้น เสียงของเธอดังไปทั่วทุกโสตประสาทของเธอ และทำให้เธอตื่นขึ้นจากฝันนั้น แต่กลับทำให้เธอไม่แน่ใจว่าเธอพูดมันออกไปจริงๆรึเปล่า
 ไม่แน่ใจว่าที่เธอพูดออกไปเมื่อครู่เป็นความฝัน หรือความจริง …แต่เธอก็ได้รับคำตอบ เมื่อเสียงของมัลฟอยดังขึ้น

“เธอว่าอะไรนะ” เขาที่เดินไปถึงประตูแล้วหันกลับมามองเธอ 

“ป่าวนี่ นายหูฝาดไปล่ะมั้ง หรือไม่นายก็คงกำลังฝันอยู่”

“งั้นฉันขอฝันต่อไปละกัน” เขาเดินกลับมาที่เตียงและล้มตัวลงนอนข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ที่เงยหน้ามามองเขา แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอหลับตา รู้สึกถึงสายตา และสัมผัส ที่มือเขาต้องใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอ เลื่อนมาเล่นผมสีน้ำตาลหยิกฟู 

“ปิดเทอมหน้า เธอจะไปเที่ยวกับฉันได้มั้ย” เขาพูด

“นายเพี้ยนแล้วรึไง นี่ไม่ใช่ฝันนะ ฉันอาจมีชีวิตไม่ถึงวันนั้นเลยด้วยซ้ำ”

“แต่ถ้ามี เธอจะไปกับฉันมั้ย”

“ให้ฉันเอาชีวิตรอดกลับไปก่อนเถอะแล้วฉันจะบอก” เธอมองหน้ามัลฟอยที่มีสีหน้าแฝงถึงความกังวล เธอหลับตาลงแล้วพูดว่า “ฝันดีนะ”

“อืม” เขาพูดแล้วจูบเธอที่หน้าผากก่อนจะล้มลงนอน

. . . . . . . ..


เมื่อได้เวลาทายาให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับอยู่ มัลฟอยก็เปิดผ้าห่มแค่ด้านหลังของเธอ แล้วบรรจงทายาที่เหลือให้เธออย่างแผ่วเบาอีกครั้ง

“ฉันแน่ใจนะว่าตรงนั้นไม่มีแผลน่ะ มัลฟอย นายคิดจะทำอะไร” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้น ทำให้เขาสะดุ้งเพราะไม่รู้ว่าเธอตื่นอยู่

“เอ้อ ก็ฉันทำตามหนังสือนั่นน่ะแหละ” เขาชี้ไปที่หนังสือ โชคดีที่เฮอร์ไมโอนี่หันหลังเขา 
ไม่อย่างนั้นเขาเองก็ไม่รู้จะเอาหน้าซีดๆที่แดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆไปซ่อนไว้ที่ไหน

“ไหนเอามาดูหน่อย” 

“ไม่ได้หรอกฉันกำลังใช้มันอยู่ อยู่เฉยๆสิ นี่เธออยากจะหายรึปล่าว”

“เออๆ เร็วๆหน่อยสิ” เธอว่าแล้วเงียบไปสักพัก

“ทำไมนายถึงได้มาทำดีกับฉัน มัลฟอย นายทำเพื่ออะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้น

“เธออยากจะรู้จริงๆหรือ”

“แหงสิ หรือว่านายมีแผนอะไร อ้อ หาโอกาสกำจัดพวกเลือดสีโคลนงั้นสิ”

“เธอตอบผิด ยัยบ๊อง ถ้าอย่างนี้เธอคงจะสอบตกแน่ๆ”

“งั้นนายก็เฉลยมาสิ”

“ก็ประมาณว่า มันเป็นข้อต่อรองเล็กน้อยของฉัน กับเจ้าพอตเตอร์ และวีสลีย์ก่อนมาน่ะ ดูเหมือนเขาจะเป็นห่วงเธอมาก..”

“คงจะสนุกมากเลยสินะ แต่ก็ขอโทษด้วยที่ทำให้นายต้องลำบาก” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด 

“เฮ้ แต่ฉันเต็มใจทำนะ นี่เธอ..” เขากล่าว

“งั้นที่นายทำก่อนที่ฉันจะถูกขังในห้องนี้ นายทำไปเพราะอะไร ..เพื่ออะไร” 

“เอ้อ ก็คือ..” มัลฟอยกำลังจะพูดต่อ ทว่าประตูห้องก็เปิดออกยังไม่ทันที่เขาจะมองด้วยซ้ำ เขาก็รีบเก็บของใส่กระจกอย่างรวดเร็ว เหลือไว้แค่ยาที่ทารักษาให้กับสาวน้อยที่นอนอยู่ตรงหน้า 
เช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่ที่เอาผ้าห่มคลุมกายแทบในทันที

“ไง..ไง..ไง” รีแอนนอน หรือ รีแอนนั่นเอง “กำลังทำอะไรกันอยู่ พวกเธอคงไม่ได้ทำผิดอะไรที่
ไม่จำเป็นต้องรายงานทางโรงเรียนหรอกนะจริงมั้ย”

“เอ้อ ฉันแค่ทายาให้เธอน่ะ” มัลฟอยพูดขึ้น 

“งั้นหรอ แล้วไปโดนอะไรมาล่ะ” เธอพูดอย่างสบายอารมณ์ เอาหลังพิงกำแพงข้างประตูที่เปิดแง้มไว้

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องน่า” มัลฟอยกัดฟันพูด โทสะของเขาเริ่มจะกลับมาแล้ว

“ก็มันช่วยไม่ได้นี่ เธออยากขัดขืนเอง” รีแอนนอนยิ้มเยาะ เฮอร์ไมโอนี่นึกอยากจะเห็นรอยยิ้มแบบที่รีอามีให้มากกว่า 

“ยังไงก็เถอะ นายต้องมากับฉัน” เธอกล่าวกับมัลฟอย “ตามที่เราตกลงกันไว้ อย่าให้ฉันรอนาน”

“เออ รู้แล้ว” เขาว่าแล้วเดินไปหารีแอนที่ยังไม่ขยับตัว แล้วหยุดตรงหน้าเธอ แต่แล้วรีแอนกลับกระชากคอเสื้อของเขา ให้โน้มตัวลงมาหาเธอ ริมฝีปากของทั้งคู่กระทบกัน 

เฮอร์ไมโอนี่เห็นดังนั้น เธอรู้สึกตกใจไม่น้อย ไปกว่ามัลฟอย เธอมองไม่เห็นท่าว่าพวกเขาจะผละออกจากกันจึงส่งเสียง

“อะแฮ่ม พวกเธอจะทำอะไรก็เชิญไปทำกันที่อื่นเถอะ” เธอว่าแล้วพยายามจะพลิกตัวหันหน้าไปอีกทาง “ฉันจะนอน”

“โธ่ ที่แท้ก็หวังในตัวหลานสาว ชิ” เธอพูดพึมพำกับตัวของเธอเอง

ไม่วาย รีแอนที่ผละออกจากมัลฟอยยังได้ยิน “เธอว่าอะไรนะ”

“อ้อ ฉันบอกว่า มารยาทที่ดีข้อที่หนึ่ง อย่ารบกวนคนป่วยน่ะ ราตรีสวัสดิ์ รีแอนนอน” เธอบอกเป็นเชิงไล่

“เฮอะ” รีแอนนอนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย แล้วลากมัลฟอยที่ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงออกไป

เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยวยังไม่รู้ เธออยากมีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ  เธอนึกถึงชายคนหนึ่ง ผู้มอบล็อกเกตแสนรักให้กับเธอ มือของเธอกำล็อกเกตนั้นไว้แน่น
 เธอคิดถึงเขาเหลือเกิน เมื่อตอนเด็ก ..เท่าที่เธอจำได้..เธอได้เขาคนนี้คอยปลอบเมื่อมีเรื่องเศร้าใจ
 และเป็นเพื่อนเล่นยามสุขใจ ไม่ว่าจะยังไงเขาจะทำให้เธออุ่นใจตลอดเวลา เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
 พร้อมกับความคิดถึง ..จัสติน..ญาติผู้พี่ของเธอ 

. . . . . . . 


เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาตื่นขึ้น เธอมองไปรอบๆเพื่อนึกว่าเธออยู่ที่ไหน และก็จำได้ ท้องฟ้ายังคงมืดมิด ทำไมนะเธอถึงชอบตื่นขึ้นมาดึกๆ นี่เป็นตั้งแต่ความสัมพันธ์ของเธอกับมัลฟอยค่อยๆก่อตัวขึ้น
 …มัลฟอยหรอ..เขาไม่อยู่นี่ ไปไหนกันนะ เฮอร์ไมโอนี่คว้าเสื้อมาใส่ ตอนนี้แผลที่หลังหายสนิท ไม่เหลือแม้แต่ล่องรอย เธอเหลือบเห็นถาดอาหารที่มัลฟอยยกเข้ามาให้เธอ ด้วยความหิว
 เธอจึงหยิบมันมากิน ยังอุ่นอยู่เลย ทั้งๆที่มันน่าจะเย็นชืดไปนานแล้ว 
แต่ก็คงจะเดาได้ว่าเขาคงจะอุ่นมาให้เธอใหม่ หลังจากกลืนคำสุดท้ายไปแล้ว  เธอก็ดื่มน้ำตามไป กับจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องเปิดออก มัลฟอยนั่นเอง

“เธอต้องไปกับฉันเดี๋ยวนี้”

“อะไรกัน นี่นายไม่คิดจะทักทายกันเลยรึยังไง อย่างเช่น ‘ตื่นแล้วเหรอ เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย ฝันเห็นตัวเองถูกตัดหัวบ้างรึปล่าว’ อะไรอย่างนี้ เล่นโผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ก็ตกใจหมด
 แทนที่จะให้คนที่กำลังจะถึงแก่ความตายไม่คิดมาก นายกลับมาทำให้ฉันเป็นกังวล…” 
เฮอร์ไมโอนี่หยุดพูด ไม่ใช่เธอที่หยุดเอง แต่เขา มัลฟอย ประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของเธอเรียบร้อย

“อิ่มรึยัง เธอกินเยอะกว่าที่ฉันคิดแฮะไปได้แล้ว อ้อ แล้วนี่ของเธอ” เขายื่นไม้กายสิทธ์ของเธอให้

“หมายความว่าอะไร”

“หมายความว่า ถ้าเธอไม่อยากตาย ก็รีบไปซะ”
. . . . . . . .

ทั้งสองย่องไปตามโถงทางเดินอย่างเงียบกริบ ถึงแม้จะมีทหารยามเฝ้าที่นอนหลับระหว่างเวลางานอยู่ 
แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่านักโทษของพวกเขากำลังหลบหนี เพราะคาถาของเฮอร์ไมโอนี่นั่นเอง ใช้ได้ผลมากถึงมากที่สุด แต่อาจจะยกเว้น..

“มันง่ายเกินไป” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงแผ่วเบา 

“อะไร ง่าย” มัลฟอยถาม

“ฉันไม่คิดว่า เราจะออกมาได้ง่ายๆอย่างนี้” 

“แล้วไม่ดีรึไง” 

“ก็ฉันสงสัยนี่ แล้วจะไม่เล่าให้ฟังเลยหรือไง” เธอคาดครั้น

“เอาไว้ก่อนเถอะน่า”

“แล้วศิลาสีขาวล่ะ นายคงยังไม่ได้ให้พวกนั้นไปใช่มั้ย”

“ไม่หรอกน่า ฉันจะทำอย่างนั้นไปทำไม”

เมื่อพ้นจากตัวปราสาทมาแล้ว พวกเขาก็บินทยานสู่ฟากฟ้า ที่พระอาทิตย์กำลังจะส่องแสง ทั้งสองบินผ่านยอดเขาภูฟารี มาแล้ว มัลฟอยซึ่งจับมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น 
ราวกับว่าจะไม่ให้เธอต้องจากเขาไป แม้เพียงชั่วคราว ตรงกันข้ามกับเฮอร์ไมโอนี่ที่รู้สึกว่าเขาจับมือ
เธอแน่นเกินไป ความร้อนพุ่งปรี้ดสู่ใบหน้าของเธอตอนที่เธอบอกเขา

“เอ้อ มัลฟอย”

“อะไร”

“นายไม่ต้องจับมือฉันแน่นขนาดนั้นก็ได้ มันชาไปหมดแล้ว”

“งั้นเปลี่ยนข้างก็ได้”ว่าแล้วเขาก็บินไปทางซ้ายของเธอแล้วหันประจันหน้าหาเธอก่อนที่จะมีใครเอื้อนเอ่ยคำใดๆ 
อะไรบางอย่าง เฉียดผิวของเขาและเธอไป เลือดไหลซิบๆด้วยกันทั้งคู่ ที่ต้นแขนซ้ายของเฮอร์ไมโอนี่ และต้นแขนขวาของมัลฟอย ทั้งสองหันไปดู เหล่าผู้รับใช้ ไนท์ไซล์ ยิงศร มาทางพวกเขา 
หนึ่งในนั้นมีรีแอนนอน เอ่อหมายถึง รีแอน น่ะ รวมอยู่ด้วย

“รู้ตัวกันเร็วเหลือเกิน” มัลฟอยพูดพึมพำแล้วฉุดเฮอร์ไมโอนี่ให้บินไปต่อโดยไว 
 เธอปล่อยให้มัลฟอยลากเธอไปในขณะที่เธอหันไปมองเหล่าศัตรูผู้ต้องการตัวเธอ แล้วเธอก็คิดอะไรออก

“โมบิลิคอร์พัส” เธอร่ายคาถา ทันใดเชือกล่องหน แข็งแรงทนทาน ก็ถูกเหวี่ยงออกจากปลายไม้กายสิทธิ์
ของเฮอร์ไมโอนี่ ไปล้อมเอาพวกผู้ไม่หวังดี ซะแน่นกระดุกกระดิกก็ไม่ได้

“เยี่ยมเลย เกรนเจอร์” มัลฟอยชมเธอหรือเนี่ย หูฝาดไปรึป่าว แต่เธอก็ยิ้มให้เขา เธอเกือบจะลืมวิธียิ้มซะแล้วสิ

ทั้งสองบินกลับไปสู่ปราสาทของซันสตาร์ แล้วลากผู้ประสงค์ร้ายไปด้วย กว่าจะปล่อยพวกนั้นลงพื้นเมฆนุ่มๆ
 ก็นานพอควร ซันสตาร์ ออกมาต้อนรับพวกเขา 

“พวกเธอหายไปกันนานมากเลยนะ ฉันกำลังกังวลอยู่เชียว ว่าถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันจะเอาหน้าไปพบดัมเบิลดอร์ได้ยังไง โอ้ ดูสิเธอเอาอะไรมาด้วย สมุนของ ไนท์ไซล์ เยี่ยมมาก อ้า นั่น รีแอนไม่ใช่หรือนั่น” เขากล่าวแล้วเอาตัวเธอออกมาจากกลุ่ม สมุนของ ไนท์ไซล์ 

“ไง รีแอน เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ซันสตาร์ทักทาย


TBC

No comments:

Post a Comment