Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Monday, July 20, 2015

Chapter 3: บ้านโพรงกระต่าย




เมื่อถึงเวลาที่รอนจะต้องมารับเฮอร์ไมโอนี่ นางและนางเกรนเจอร์จัดแจงไล่คนไข้ทุกคนออก
ไปจากร้านเรียบร้อย เพราะคิดว่าพวกคนไข้จะตกใจไม่น้อย บางทีอาจจะตกใจถึงขนาดว่าฟันหลุดเอง
โดยไม่ต้องเสียเวลาไปถอน แต่ไม่เสี่ยงเห็นจะดีกว่า...

“เฮอร์ไมโอนี่ เพื่อนลูกไม่มีนาฬิกาหรือไงกัน มาเลทได้ทุกปีเลย” นางเกรนเจอร์บ่น เมื่อนาฬิกาที่บ้าน
เธอบอกเวลา 15.20 น.

เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ เพราะมัวแต่กระโดดหย๋องๆไปมาเพื่อแก้เซ็งระหว่างที่รอรอน

“ทำไมยังไม่มาอีกล่ะ -- “ แต่เธอพูดได้ไม่ทันขาดคำ เตาผิงของบ้านเธอก็เกิดประกายไฟสีเขียวขึ้น
 เกิดเสียงดังลั่นราวกับมีใครมายิงปืนในเตาผิง แล้วรอนก็ก้าวเท้าออกมาจากเตา...

“หวัดดีฮะ คุณเกรนเจอร์ คุณนายเกรนเจอร์ “เขาทักทายพ่อและแม่ของเฮอร์ไมโอนี่
 ที่ได้แต่พยักหน้าให้ “ว่าไงเฮอร์ไมโอนี่” รอนร้องทักอย่างร่าเริง

“หวัดดีรอน” เธอทักตอบ “เธอสูงขึ้นนะ”

 “นิดหน่อย แค่ 7 เซ็นฯเอง” เขาตอบ “เฟร็ด กับ จอร์จกำลังตามมาล่ะ”

และทันใดนั้น ก็เกิดเสียงดังขึ้นที่เตาอีกสองครั้งติด เฟร็ด และ จอร์จก้าวออกมาจากเตาพร้อมกัน

“หวัดดีฮะคุณเกรนเจอร์” เด็กชายร้องทักพร้อมกัน เป็นเสียงเดียวกัน ท่าทางเหมือนกัน
 และหน้าตาเหมือนกัน “และคุณนายเกรนเจอร์”

เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองได้แต่พยักหน้าให้

“หวัดดีเฮอร์ไมโอนี่” ทั้งสองร้องพร้อมกัน

“เอ่อ... หวัดดี” เธอทักตอบ แล้วสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าที่ทั้งสองใส่ดูดีมาก และยังดูมีราคาแพงมากด้วย “กิจการรุ่งเหรอ”

“แน่ยิ่งกว่าแน่อีกน้อง” เฟร็ดตอบ แล้วทำท่าราวกับเป็นโรมีโอ

“รุ่งเรืองเหลือจะพรรณนาเลยน้อง” จอร์จตอบบ้าง พลางทำท่าราวกับเป็นจูเลียต ให้คู่กับโรมีโอ

“ดูจากเสื้อผ้าที่พวกเราใส่สิ ใช่มั้ย” เฟร็ดร้อง พลางยืดอกอย่างภูมิใจ

“อื้อ”

“พวกเราอุตส่าห์ละจากร้าน เกมกลวิสลีย์ มาเลยนะเนี่ย”

“ของอยู่ไหนล่ะเฮอร์ไมโอนี่” รอนถามขึ้น

“อยู่ในครัวนู้น”

“เดี๋ยวพวกเราไปเอามาให้เอง” จอร์จอาสา มีเฟร็ดเดินตามเข้าไป

“รอน แล้วแฮร์รี่ล่ะ”

“มู้ดดี้กับลูปินไปรับ” รอนตอบ “แต่ต้องไปบ้านโพรงกระต่ายกันก่อนนะ”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เราใช่เตาผิงเดินทางไปภาคีไม่ได้นี่ เดี๋ยวพวก คนที่เธอก็รู้ว่าใคร สะกดรอยตามได้
 คืนนี้เรานอนที่บ้านก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้า เราจะไปกริมโมเพซกัน”

เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ เป็นเวลาเดียวกับที่ฝาแฝดวิสลีย์กลับเข้ามา พร้อมกับข้าวของ

“ผงฟลูล่ะรอน”

“เอ้า” รอนตอบ พลางโยนถุงผ้าเล็กๆให้เฟร็ด

“เดี๋ยวเราเอาของไปก่อนละกัน” จอร์จบอก “ลาก่อนฮะคุณเกรนเจอร์”

“และคุณนายเกรนเจอร์” เฟร็ดเสริม ทั้งคู่พยักหน้าให้อีกครั้ง แล้วทั้งสองก็ตรงไปหาเตา
พร้อมกับข้าวของของเฮอร์ไมโอนี่ เขาโยนผงฟลูลงไปในเตา แล้วโยนถุงผ้ากลับให้รอน

“บ้านโพรงกระต่าย” เขาตะโกนเสียงดัง เกิดเสียงดูดลมขึ้น แล้วทั้งสองก็หายไป

“เอาล่ะ ไปเถอะเฮอร์ไมโอนี่”

“งั้นหนูไปก่อนนะคะแม่” เธอเข้าไปกอดนางเกรนเจอร์ และนายเกรนเจอร์ “พ่อด้วยค่ะ”

“โชคดีนะลูกรัก”

“แล้วสิ้นเทอมเจอกันที่สถานีรถไฟคิงส์ครอสค่ะพ่อ แม่”

“แล้วเราจะไปรับลูก” นายเกรนเจอร์รับคำ

“ไปก่อนนะคะ” เธอพูดจบ รอนก็ส่งผงฟลูให้เธอ

“บ้านโพรงกระต่าย” เกิดเสียงดูดลมขึ้นอีกครั้ง แล้วเธอก็หมุนติ้วอยู่ในเตา
ทุกอย่างพร่ามัวไปหมด เธอจึงหลับตาลง ข้อศอกแนบลำตัว เพื่อป้องกันการกระแทก

“พี่เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่นั่นเอง เธอมาช่วยรับเด็กหญิงที่มึนหัวกับการหมุนของเตา จนเซไปเซมา “เป็นอะไรมั้ย”

“ไม่... ไม่เป็นไร ขอบใจนะจินนี่” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ “ฉันไม่ชอบเดินทางโดยผงฟลูเลย ให้ตายสิ”

“ว่าไงจ๊ะเฮอร์ไมโอนี่” นางวิสลีย์ทักขึ้น เมื่อเห็นจินนี่พาเธอเข้ามาในครัว

“เอ้อ... สวัสดีค่ะคุณนายวิสลีย์”

“สบายดีนะจ๊ะ”

“ดีค่ะ คุณด้วยนะ”

“โอ้ย... ฉันไม่ดีหรอกจ๊ะ”

“มีอะไรเหรอคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

“งานเยอะแยะ” เธอบ่น พลางส่งน้ำชาให้เธอ “ทั้งที่บ้าน ทั้งที่ภาคี”

“ภาคีเหรอ… ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้น “ภาคีเป็นไงบ้างเหรอคะ”

“พยายามอย่างที่สุดไม่ให้ คนที่เธอก็รู้ว่าใครกลับมามีอำนาจเหมือนเมื่อ 15 ปีก่อนน่ะจ๊ะ”
นางวิสลีย์เล่า “เหนื่อยกันทุกคน โดยเฉพาะศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ยิ่งแล้วใหญ่

ท่านงานเยอะเหลือเกิน คลอนีเลียส ฟัดจ์ นั่นก็ทำอะไรไม่เป็นเลย ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์
ก็เลยต้องทำหน้าที่เยอะแยะไปหมด จนเหมือนกับท่านเป็นรัฐมนตรีแทนแล้ว”

เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างเห็นใจ แล้ววางแก้วน้ำชาที่ว่างเปล่าลง

“เธอลืมครุกแชงค์ได้ไงนะเฮอร์ไมโอนี่” รอนเดินเข้ามาในห้องครัว อุ้มครุกแชงค์มาด้วย “แล้วของเธออยู่ไหนล่ะ”

“อยู่แถวๆบันไดน่ะค่ะ” จินนี่ตอบให้แทน “พี่เฟร็ดกับพี่จอร์จไปที่ร้านแล้วล่ะ”

รอนพยักหน้าให้จินนี่ แล้วส่งครุกแชงค์ให้เฮอร์ไมโอนี่ ก่อนจะเดินไปถือข้าวของของเฮอร์ไมโอนี่
ซึ่งเธอรีบเข้าไปช่วย มีจินนี่เดินตามไปติดๆ

ทั้งสามเดินขึ้นบันได ตรงเข้าไปในห้องของจินนี่ ที่ยังคงเป็นสีชมพูเหมือนเมื่อปีก่อนๆที่เฮอร์ไมโอนี่มาพักด้วย

“เอาของมาสิ พี่รอน”

“เออๆ พี่เข้าห้องเธอไม่ได้เลยนะจินนี่ ทีเธอยังเข้าห้องพี่บ่อยๆ”

“แต่เธอเป็นผู้ชายนะรอน จะเข้าห้องผู้หญิงได้ไง” เฮอร์ไมโอนี่ย้อนแทนจินนี่

“ก็เมื่อก่อนฉันเข้าได้... “

“แต่ตอนนี้จินนี่โตเป็นสาวแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่โต้กลับ

“ใช่สิ... โตเป็นสาว พอจะมีแฟนได้แล้วงั้นสิ” รอนประชด

“จินนี่มีแฟนแล้วเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง หันไปหาจินนี่ที่หน้าแดงเกือบจะพอๆกับ
สีผมของเธอเลยทีเดียว “ใครกัน เอ้อ... รึว่า”

“ดีน โทมัส” รอนช่วยต่อประโยคให้เฮอร์ไมโอนี่

“เขาส่งนกฮูกมาหาหนู บอกว่าเขาสนใจหนู…” จินนี่เล่า สีแดงจากใบหน้าและเส้นผมเริ่มรามมาถึงใบหู
“หนูก็เลยตอบรับเขา”

“ดีแล้วล่ะจินนี่” เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างจริงใจ “ดีนเป็นคนดีนะ”

จินนี่พยักหน้างึกงัก แล้วรีบพุ่งเข้าห้องของเธอ

“เธอห้ามว่าอะไรดีนนะ รอน” เฮอร์ไมโอนี่กันท่า “จินนี่ด้วย”

“ฉันจะว่าน้องฉันไปทำไมล่ะ แล้วถ้าจะหาฉันนะ ฉันอยู่ในห้องนะ” เขาบอก
พลางส่งxxxบให้เฮอร์ไมโอนี่ เธอรับxxxบมาแล้วปิดประตูตามหลัง มีรอนพึมพำว่า
 “แต่ดีนน่ะ ไม่แน่หรอก ฉันจะยุให้เลิกกันเลย คอยดูสิ” แล้วเขาก็เดินขึ้นบันไดไป

****************************************

“รอน จินนี่ ลูกช่วยไปไล่โนมออกจากสวนหน่อยสิ พวกมันชักเยอะขึ้นแล้ว”
นางวิสลีย์แง้มประตูห้องบอกรอน และ จินนี่

“ให้ครุกแชงค์ไล่ให้ก็ได้นี่ฮะ”

“ครุกแชงค์จะเอาแต่เล่นกับมันมากกว่า” เธอตอบดุๆ “ไม่ต้องย้อนแล้วรอน
 ลูกไปไล่มันนั่นแหละดีแล้ว เดี๋ยวแฮร์รี่ก็จะมาแล้ว เราจะได้กินอาหารเย็นกันเลย”

รอนส่งเสียงอวดครวญไปพร้อมๆกับจินนี่ ก่อนจะลุกขึ้นตามนางวิสลีย์ไป

“เฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่ต้องไปช่วยไล่ก็ได้นะ เธอเป็นแขก”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณนายวิสลีย์” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “หนูอยากช่วยค่ะ”

นางวิสลีย์พยักหน้าให้ แล้วเดินนำลงบันไดไป

“บิล กับ ชาลี ไปไหนเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้นระหว่างชั้น 3-4

“บิลไปช่วยชาลีหาคนต่างชาติเข้าภาคีจ๊ะ” นางวิสลีย์ตอบ

“แล้วรู้สึกว่าจะได้ถาวรแล้วด้วยคนหนึ่ง” รอนเสริม น้ำเสียงประชดน้อยๆ

“หมายความว่าไง”

“อ๋อ... ก็ เฟลอร์ เดอลากรูน่ะสิคะ” จินนี่ตอบแทน “เขาตกลงเป็นแฟนกับบิลแล้วล่ะ”

เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ เธอนึกถึงภาพบิล ผมยาว ผูกเป็นหางม้า
 ใส่ตุ้มหูเขี้ยวสัตว์ ส่วนเฟลอร์ก็เป็นสาวแสนสวย มีเสน่ห์ ...

****************************************

เมื่อแฮร์รี่ มู้ดดี้ และลูปินมาถึงก็ทานอาหารเย็นกันทันที แฮร์รี่มีสภาพเหมือนที่เฮอร์ไมโอนี่และรอนคิดเอาไว้
 คือ ไม่ร่าเริง ไม่ค่อยพูดจากับใคร แล้วยิ่งเป็นหนักเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าจะต้องไปพักที่บ้านของซิเรียสตลอด

ปิดเทอมที่เหลือ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องของซิเรียส เพราะไม่อยากให้แฮร์รี่คิดมากไปกว่านี้
 แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเข้านอนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้นที่จะต้องไปบ้านที่กริมโมเพซ

เมื่อจินนี่นอนหลับแล้วเฮอร์ไมโอนี่แอบเอาสมุดเล่มสีชมพูขึ้นมาเพื่อเขียนหาเฟเร็ต

‘เฟเร็ต นายอยู่มั้ย’

อีกด้านหนึ่ง มัลฟอยที่กำลังรอ ออทเทอร์ อยู่พอดี
 (เพราะไม่อยากเสียหน้าที่ต้องไปชวนคุยก่อน เลือดมัลฟอยช่างแรงเหลือเกิน)
 สังเกตเห็นว่าสมุดเล่มหนาของเขาแปล่งแสงสีฟ้าออกมาพอดี แต่เพราะความขี้เกียจเดินไปหยิบนั่นเอง...

“แอ็กซีโอ” เขาร่ายคาถา ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่สมุดและปากกาขนนก
ซึ่งพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกแม่เหล็กขนาดยักษ์ดูด

‘ว่าไง’

‘ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ฉันจะบอกเธอว่า ฉันน่ะมาพักที่บ้านเพื่อนแล้วนะ’

‘ก็... ดีมั้ยล่ะ’

‘ก็ดี’ เฮอร์ไมโอนี่นิ่วหน้า ‘แต่อาจจะได้คุยกับเธอไม่ค่อยบ่อยน่ะ’

‘ทำไมล่ะ’ มัลฟอยรีบเขียน จนทำให้ลายมือของเขาไม่ต่างอะไรกับลายมือของรอน
แต่กระนั้น เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังสามารถอ่านมันออก

‘ก็... งานยุ่งน่ะ ฉันต้องช่วยทำงานด้วย’

‘งานอะไรของเธอ’

‘บอกไม่ได้หรอก เพราะฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน’

มัลฟอยหน้าบึ้งตึง เมื่อคิดภาพว่า เขาจะต้องทนเบื่ออยู่กับเอลฟ์ประจำบ้านตลอดวัน (แม่ไม่อยู่บ้าน)

ในขณะนั้นเอง จินนี่พลิกตัวหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่ แสงไฟจากเทียนที่เฮอร์ไมโอนี่จุดผ่านเข้าไปในม่านตาของจินนี่

“พี่เฮอร์ไมโอนี่ทำอะไรค่ะ” เธอถามด้วยเสียงงัวเงีย ลุกขึ้นนั่งบนเตียง พลางขยี้ตาถาม
เฮอร์ไมโอนี่รีบดันสมุดเข้าใต้เตียง แล้วแกล้งทำท่าว่ากำลังเขียนจดหมายอยู่

“พี่เขียนจดหมายอยู่ ถึง...” เธอหยุดคิดพักหนึ่ง “ถึงวิกเตอร์น่ะ”

“ดึกป่านนี้น่ะรึคะ” จินนี่ทำหน้าไม่เชื่ออย่างโจ่งแจ้ง

“ใช่ พรุ่งนี้เช้าพี่จะได้ขอยืมเฮ็ดวิกจากแฮร์รี่ ไปส่งจดหมายให้เร็วๆไงล่ะ”

“งั้นเหรอคะ” จินนี่ลดสีหน้าไม่เชื่อลงบ้าง

“จ๊ะ จินนี่รีบนอนเถอะนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปกริมโมเพซแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”

“งั้นพี่ก็รีบนอนด้วยนะคะ อย่ามัวแต่หวานเพลินล่ะ”

เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ แล้วทำทีหันไปเขียนจดหมายถึงครัมต่อ
จินนี่จึงเอนตัวลงนอนอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่รอให้แน่ใจว่าจินนี่หลับแล้วจึงไปเอาสมุดใต้เตียง

‘เฟเร็ต นายยังอยู่มั้ย’

‘ไม่อยู่’

‘ไม่อยู่แล้วจะเขียนตอบได้ไงล่ะ’

‘ช่างเหอะ ว่าแต่เธอเถอะ หายไปเป็นชาติ ฉันนึกว่าเธอตายคาสมุดไปแล้วนะเนี่ย’

‘บ้ารึไง ฉันไม่ตายง่ายๆอย่างนี้หรอกย่ะ’

‘เออๆ แม่คนเก่ง’ เขาประชด

‘ขอโทษละกัน เมื่อกี้ที่ฉันหายไปน่ะ เพราะว่าเพื่อนฉันตื่นขึ้นมาน่ะสิ’

‘แล้วไงล่ะ’

‘ก็ฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเรานี่’

ใบหน้าของมัลฟอยเป็นสีจัด “ยัยนี่ไม่รู้แน่ๆเลยว่าเขียนอะไรออกมา” เขาพึมพำ

‘เป็นอะไรไป เธอตายคาสมุดแล้วรึไง’

‘คิดคำพูดเอาสิ ออทเทอร์’

‘งก แค่นี้ก็ไม่ให้’ เฮอร์ไมโอนี่แลบลิ้นใส่สมุด เธอเหลือบตามองจินนี่
ซึ่งกำลังจ้องเฮอร์ไมโอนี่อย่างงง แต่เมื่อเธอเห็นเฮอร์ไมโอนี่เข้า ก็รีบหลับตาลงทันที
แล้วแกล้งทำเสียงกรน เฮอร์ไมโอนี่กรอกตาขึ้นอย่างเบื่อหน่าย เพราะปกติแล้ว จินนี่ไม่ได้นอนกรน

‘เฟเร็ต ฉันต้องไปนอนแล้วล่ะ’

‘อ้าว เธอง่วงแล้วเหรอ’

‘เปล่าหรอก แต่มีคนจ้อง ว่าฉันบ้าอยู่น่ะ’

‘ใครบังอาจมาว่าคุณหนูผู้เพอร์เฟ็คคนนี้ได้เนี่ย ช่างกล้าหาญชาญชัยเหลือเกิน’

‘เดี๋ยวเราพบกันเมื่อไหร่ นายเตรียมให้เพื่อนนายเอาชิ้นส่วนของนายใส่กล่องไม้ขีดได้เลย’

‘โอ้ย... อย่าเลย ฉันล่ะกลัวจะแย่อยู่แล้ว’ เขาแกล้งหยอก

‘คอยดูไปละกัน โอ้ย... นี่นายหลอกให้ฉันคุยกับนายต่อใช่มั้ย เฟเร็ต’

‘รู้ทันซะแล้ว’

‘เอาเถอะ... ฉันจะไปนอนแล้วนะ ไปก่อนล่ะ’

‘ฝันดีละกันนะ ออทเทอร์’ มัลฟอยหน้าร้อนผ่าว นี่เป็นครั้งแรกที่เขากล่าวก่อน

‘นายด้วย’ เธอเองก็ไม่แพ้กัน

‘ราตรีสวัสดิ์’

‘ราตรีสวัสดิ์’

ทั้งสองปิดสมุด เมื่อเฮอร์ไมโอนี่หัวถึงหมอน เธอก็หลับทันที




TBC


No comments:

Post a Comment