Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Chapter 29: Drink with Lucius

ดื่มสังสรรค์กับลูเซียส (Drink with Lucius)


เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกได้ถึงสิ่งหนึ่งโดยทันที บางอย่างที่ผิดปกติมาก เธอครางเบาๆ เมื่อความเจ็บปวดจี๊ดๆ ระเบิดจากด้านหลังศีรษะของเธอ มีเสียงหัวเราะหึๆ แหบต่ำ
         
          “ฉันรู้สึกดีใจที่เห็นว่าในที่สุดเธอก็ฟื้นขึ้นมาซะที มิสเกรนเจอร์  ฉันเกือบจะกลัวว่าฉันได้ฆ่าเธอไปเสียแล้ว” น้ำเสียงนุ่มดุจไหมเต็มไปด้วยความสนุกสนานดังมาจากที่ใกล้ๆ มากเลย
          ดวงตาเฮอร์ไมโอนี่เปิดขึ้นทันทีพร้อมกับการพลุ่งพล่านของสารอะดรีนาลินอย่างน่าประหลาดใจ เธอลุกขึ้นยืนแล้วเซไปด้านหลัง แม้แต่กำลังวังชาที่ตื่นตัวของเธอก็ไม่สามารถต้านทานได้กับความเจ็บปวดทรมานรุนแรงที่ท่วมล้นภายในศีรษะของเธอจากการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน การมองเห็นของเธอถูกบดบังด้วยความเจ็บปวด เฮอร์ไมโอนี่โซโซเข้าใส่กำแพงด้านหลังเธอและทรุดกลับลงไปอยู่ที่พื้น พร้อมกับเสียงร้องโอ๊ยของความเจ็บปวดที่แทบจะไม่อาจควบคุมได้
          มีเสียงหัวเราะหึๆ ใหม่ “ฉันขอแนะนำว่าเธออย่าพยายามฝืนออกแรงเกินไป นั่นทำให้เธอเจ็บปวดมากทีเดียว และไม่มีเหตุผลที่เธอจะทำร้ายตัวเองโดยไม่จำเป็น เด็กน้อย”
          เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใช้เวลาเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวเธอเป็นครั้งแรก
เธออยู่ในห้องเล็กงดงาม ไม่ใช่คุกใต้ดินหรือห้องขังอย่างที่เธอได้นึกภาพไว้ แต่ค่อนข้างเป็นห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งแบบสมัยเก่า ไม่ไกลจากตัวเธอคือเปลวไฟอบอุ่นในเตาไฟ พื้นห้องที่กรุด้วยแผ่นไม้เกือบทั้งหมดถูกซ่อนด้วยพรมซีดจาง ผนังทุกด้านถูกปิดด้วยกระดาษปอนๆ ซึ่งครั้งหนึ่งอาจเป็นภาพเขียนลายดอกไม้สีเหลือง ด้านที่ไกลของห้องมีประตูบานหนึ่ง ทางออกเพียงทางเดียว ขณะที่หน้าต่างหลายบานดูเหมือนถูกแผ่นไม้ปิดไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานมากนัก พวกตะปูที่ถูกยึดติดกับหน้าต่างปิดตายนี้ดูค่อนข้างใหม่และเป็นเงา ใกล้กับประตูเป็นที่แขวนเสื้อ ที่กำลังแขวนอยู่บนหนึ่งในขอเกี่ยวมากมายคือเสื้อคลุมของเธอ เธอรู้สึกถึงความต้องการที่จะหัวเราะคิกคักบ้าคลั่งอย่างอดไม่ได้เหลือเกิน แต่ก็ฝืนต้านทานมันเอาไว้
ผู้ครอบครองห้องอีกคนหนึ่งคือ ลูเซียส มัลฟอย กำลังนั่งอยู่ในเก้าอี้พนักพิงสูงน่าสบาย โต๊ะตัวเล็กทางด้านขวาของเขานั้นเฮอร์ไมโอนี่สามารถเห็นขวดแก้วคริสตัลบรรจุของเหลวสีทองเข้ม ถัดจากขวดแก้วคือไม้กายสิทธิ์ของเขา  เขามองดูเธอด้วยความเพลิดเพลิน แก้วเหล้าเข้าชุดกันถูกกำหลวมๆ อยู่ในมือเขา  มัลฟอยผู้สูงวัยกำลังเขย่าแก้วบรั่นดีเบาๆ  น้ำสีบุษราคัมหมุนวนอย่างถูกสะกดให้หลับใหล
“ฉันไม่คิดว่าเธออยากได้เครื่องดื่มหรอกนะ? “ เขาถามเกือบจะเมตตาในขณะที่เขาเฝ้าติดตามการสำรวจของเธอ
โทนเสียงของเขาทำให้มันดูเหมือนว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าแขกคนหนึ่งที่กำลังแสดงกิริยาท่าทางเลวทราม  เฮฮร์ไมโอนี่สั่นสะท้าน ความกรุณานี้ช่างน่าตกใจกลัวมากเกินกว่าสิ่งใดที่เธอเคยประสบมาก่อน
“ลูกชายฉันมีสายตาที่ดี ฉันจะบอกเขาเรื่องนั้น” ลูเซียสจิบเครื่องดื่มในขณะที่ลูกตาของเขากวาดขึ้นและลงไปทั่วตัวเฮอร์ไมโอนี่ “ฉันไม่อาจเรียกเธอว่าสวยได้ แต่ฉันสามารถเห็นบางอย่างที่พบว่าเธอน่ารัก”
เฮอร์ไมโอนี่เบือนสายตาจากเขาด้วยอาการตัวสั่นเทา ขณะที่เขายังคงสำรวจเธอต่อไป
“จนถึงเวลานี้ฉันไม่เคยเห็นดีด้วยเรื่องปฏิสัมพันธ์กับพวกเลือดสีโคลนไม่ว่ารูปแบบไหนก็ตาม มีบางคนท่ามกลางพวกเราที่พบว่าพวกเขามีรสนิยมชั้นต่ำเช่นนั้น ในขณะที่ฉันอาจไม่เห็นดีด้วย แต่ฉันไม่ได้รู้สึกอับอายในตัวลูกชายของฉันที่เขาได้เลือกเธออย่างง่ายๆ เพื่อเป็นวิธีสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกกริฟฟินดอร์” ลูเซียสวางแก้วลงบนโต๊ะและขยับไม้กายสิทธิ์ของเขา “แต่เธอและฉันทั้งคู่รู้ว่านั่นไม่ใช่กรณีของเดรโก”
เฮอร์ไมโอนี่นั่งพิงกำแพงอย่างอ่อนแรงมากขึ้น ปรารถนาอย่างเข้าตาจนให้เธอเพียงแค่สามารถเลือนหายเข้าไปในรอยแยกได้ เธอจับตาดูเขาหมุนไม้กายสิทธิ์อย่างไม่ใส่ใจอยู่ในนิ้วมือเขาแบบเดียวกับที่เขาถือแก้วเหล้า เกือบราวกับว่าเขามีเวลาทั้งหมดในโลกใบนี้
          “และเปล่าเลย นั่นไม่ใช่เหตุผลอย่างแน่นอน” เขาย้ำอีกครั้ง รอยยิ้มกำลังเลือนหายไปจากใบหน้าเขา “ฉันเกรงว่าลูกชายฉันได้กลายมาเป็นค่อนข้างหลงเสน่ห์ของเธอ ขอบคุณจริงๆ ฉันเชื่อว่ามันจะไม่เป็นเหตุทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายถ้ามันถูกทำให้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว มันจะใช้เวลาสักพักสำหรับเขาเพื่อแก้ไขเรื่องน่าละอายที่เขาได้ก่อขึ้นให้กับฉันและเจ้านายของเรา ในช่วงเวลาที่กำหนดนี้ฉันเชื่อว่าเขาจะสามารถชดใช้ความผิดของเขาได้”
          ใบหน้าซีดเผือดของเฮอร์ไมโอนี่เงยขึ้นเพื่อจ้องมอง “เขาไม่ต้องการข้องเกี่ยวเรื่องใดๆ กับเจ้านายของคุณมานานแล้วก่อนเรื่องฉันเสียอีก”
          ในเวลานี้รอยยิ้มได้หายไปจากใบหน้าลูเซียสอย่างสิ้นเชิง ดวงตาสีเทาของเขาซึ่ง
เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าคล้ายกับของเดรโกแทบจะเป็นสีดำด้วยความเดือดดาลทันที เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
          “Crucio” เขาเอ่ยเสียงเบา
          เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยรู้สึกอะไรเหมือนกับมันมาก่อนในชีวิตของเธอ ทั้งหมดที่เธอรับรู้คือความเจ็บปวดทุกๆ อณูของร่างกาย ทุกๆ เส้นใยของอาการเจ็บปวดจากความทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอกัดริมฝีปากตัวเองโดยไม่ได้ตระหนักว่ากำลังต่อสู้กับเสียงกรีดร้อง การสั่นสะเทือนบีบคั้นร่างกายเธอ ศีรษะเธอกระแทกไปชนกำแพงข้างหลัง การระเบิดของดวงดาวมากมายพุ่งออกมาจากการกระแทกนี้ เธอทรุดฮวบลงสู่พื้นห้องและหมดสติไปทันที
          บางอย่างเย็นๆ และเข้มข้นถูกรินใส่ปากของเธอ ด้วยความสับสนเธอกลืนมันลงไปจากนั้นก็ถูกกระตุ้นให้รู้สึกตัวอย่างเต็มที่ เมื่อความร้อนแรงแผดเผาของแอลกอฮอล์ซึมซ่าน
ผ่านคอหอยของเธอ
          “ฉันคิดว่านั่นอาจทำให้ได้ตามที่ต้องการ” ลูเซียสจับคางของเธออย่างดูหมิ่น “ฉันหวังว่ามันคงไม่ใช่บางอย่างที่ฉันได้พูดไป ฉันกลุ้มใจเสมอๆ เกี่ยวกับทักษะในการสนทนาของฉัน” รอยยิ้มชั่วร้ายฉาบบนใบหน้าเขา  เฮอร์มโอนี่รู้สึกพอใจอย่างเลือนรางที่รู้ว่ารอยยิ้มของเดรโกไม่ได้เหมือนกับรอยยิ้มของลูเซียส
          เธอสะบัดกรามออกจากการจับของเขาและถลึงตาใส่เขา ไม่ใส่ใจกับความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงอยู่ภายในศีรษะเธอ “ฉันคงไม่กลุ้มใจในทักษะต่างๆ ของคุณถ้าฉันเป็นคุณนะ  อาจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์ทราบทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในฮอกวอตส์ คุณคิดว่าแค่คุณสามารถลักพาตัวนักเรียนคนหนึ่งแล้วเขาจะไม่รู้เรื่องหรือไง?”
          ลูเซียสก้าวถอยห่างจากเธอพร้อมกับหัวเราะหึๆ  “จริง จริงด้วย ดัมเบิลดอร์เป็นคนก่อกวนที่ค่อนข้างทรงอำนาจ แต่ช่างโชคดีสำหรับพวกเรา เขากำลังถูกเหนี่ยวรั้งอยู่ในเมืองลียงอย่างประจวบเหมาะ การประชุมทางการเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของพวกมักเกิ้ล  เขาจะยังไม่กลับมาอย่างน้อยอีกชั่วโมงหนึ่ง และที่รักนั่น” ลูเซียสจับแก้มเธอและมองเธออย่างใกล้ชิด “เป็นเวลามากพอสำหรับเราที่จะจบการพบปะของเรา”
          ริมฝีปากเฮอร์ไมโอนี่สั่นระริก;ไม่มีความหวังจริงๆ “ทำไมคุณไม่แค่เดินเรื่องต่อแล้วฆ่าฉันซะ? เก็บคำพูดหยอกล้อทั้งหลายไว้ให้กับใครบางคนที่ไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถอะไร” เสียงเฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกักเมื่อเอ่ยคำพูดเหล่านี้ เธอปรารถนาให้เธอสามารถเข้มแข็งได้มากกว่านี้ “ฉันขอพนันว่าคุณจะได้รับรางวัลอย่างมหาศาลสำหรับการฆ่าหนึ่งในพันธมิตรของแฮร์รี่” เธอพูดอย่างอาจหาญ
          ลูเซียสหัวเราะหึๆ และลุกขึ้นยืน เขาก้าวเท้ายาวๆ กลับไปที่โต๊ะและวางขวดเหล้าลงก่อนที่จะหันกลับมาหาเธอ “ฉันขอยืนยันกับเธอ มิสเกรนเจอร์ ว่าความตายของเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแฮร์รี่ พอตเตอร์   ถึงแม้ฉันจะยอมรับว่าการเขย่าชีวิตอันเปราะบางของเด็กหนุ่มพอตตเตอร์จะทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยเพิ่มขึ้น”
          เฮอร์ไมโอนี่แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง;เธอเข้าใจเสมอมาว่าเธออยู่ในอันตรายเนื่องจากเป็นเพื่อนของแฮร์รี่  แต่การรับรู้ว่าเธอกำลังจะตายเพราะบางอย่างที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลยนั้นเกือบจะทำให้หัวเราะ เธอหลับตาลงซ่อนความสิ้นหวังกับสถานการณ์ของเธอ ทันใดนั้น
ลูเซียสก็ตบหน้าเธอ
          “ลืมตาขึ้นสาวน้อย เทือกเถาเหล่ากอที่น่ารังเกียจของเธอไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับมารยาทที่เลวทราม” น้ำเสียงของเขานิ่งราบเรียบและธรรมดาเหมือนอย่างที่เคยเป็น
          เธอจ้องเขาและพบว่าเธอถูกครอบงำด้วยแรงกระตุ้นให้ทำบางอย่างที่กล้าหาญแต่โง่เขลาอย่างผิดธรรมดาด้วยเช่นกัน  ลูเซียสผงะถอยห่างจากเธอเมื่อน้ำลายปนเลือดทำให้ความสมบูรณ์แบบอย่างมากของแก้มเขาเสียหาย
          “นางสุนัขตัวเมีย เลือดสีโคลน” เขาคำราม กิริยามารยาทเยือกเย็นลดหายลงเล็กน้อย ขณะที่เขาดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวจากเสื้อคลุมและเช็ดน้ำลายของเธอออกจากใบหน้าเขา แต่เมื่อเขาลดผ้าเช็ดหน้าลงสีหน้าของเขาเปลี่ยนมาเป็นเจ้าบ้านอารมณ์ดีอีกครั้งทันที อย่างไรก็ตามรอยยิ้มนั้นไม่ได้ไปถึงดวงตาของเขา “ยิ่งมาคิดว่าลูกชายฉันกำลังอยากหันหลังให้กับมรดกของเขาเพื่อเด็กซุกซนไร้ค่าอย่างเธอ  แต่นั่นจะได้รับการแก้ไขเร็วๆ นี้  ฉันเข้าใจว่าเขามาถึงช่วงเวลาในชีวิตที่การต่อต้านกฎระเบียบเป็นมาตรฐานทั่วไปเพื่อความก้าวหน้า”
          “เดรโกไม่เคยต้องการเป็นเหมือนกับคุณ” เฮอร์ไมโอนี่แผดเสียง รู้สึกถึงควาจำเป็น
ต้องปกป้องคุณธรรมของเดรโก “คุณคิดว่าเพียงแค่คุณฆ่าฉันแล้วมันจะเปลี่ยนไปยังงั้นหรือ?” น้ำเสียงเธอดังท้าทาย ทว่าข้างในเฮอร์ไมโอนี่กำลังสั่นเทาอย่างมากยิ่งกว่าความหวาดกลัว ดูเหมือนว่ามันกำลังยากเย็นยิ่งขึ้นที่จะรักษาการยั่วแหย่ใดๆ กับผู้ชายที่ตั้งใจฆ่าเธอ อันที่จริงแล้วเธอกำลังเริ่มรู้สึกว่ามันยากที่จะฝืนลืมตาไว้ได้
          “เด็กน้อยที่รักของฉัน เรื่องนี้จริงๆ แล้วเกี่ยวข้องกับเธอน้อยมาก เดรโกต้องเรียนรู้ว่าความรู้สึกต่างๆ ที่ไม่สำคัญ โดยเฉพาะบางอย่างที่ไม่มีค่าคู่ควรเช่นเธอนี้ เป็นแค่ความสำราญชั่วครั้งชั่วคราว ความพึงพอใจอันแท้จริงสามารถได้รับจากอำนาจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทันทีที่บุคคลิกมีเสน่ห์ของเธอถูกลบออกไปจากชีวิตของลูกชายฉัน ฉันเดาว่าเขาจะเข้าใจเรื่องต่างๆ ในแนวทางของฉันอีกครั้งทันที”
          เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านลูเซียสไปที่โต๊ะตัวเล็กที่ไม้กายสิทธิ์ของเธอถูกวางอยู่อย่างล่อตา ถ้าหากว่าเธอสามารถไปถึงมันได้ แต่ศีรษะของเธอกำลังเต้นเป็นจังหวะและอาการสั่นไหวเล็กน้อยยังคงเขย่าตัวเธออยู่ซึ่งมาจากผลของคำสาปกรีดแทง และโต๊ะตัวนั้นดูเหมือนว่าอยู่หางออกไปไกลเหลือเกินอย่างสิ้นหวัง
          ราวกับว่าอ่านความคิดของเธอออก ลูเซียสมองกลับไปที่ไม้กายสิทธิ์ของเธอแล้วฉีกยิ้มกว้างชั่วร้ายให้เธอ “คิดว่าเธอสามารถทำได้หรือ? เอาเลยและลองดู ฉันจะไม่ยังยั้งเธอ”
          เธอจ้องเขาเขม็งด้วยความเกลียดชังมากที่สุดเท่าที่เธอเคยรู้สึกมาก่อน จากนั้นพยายามกระโดดขึ้นยืน เธออาจกำลังจะตายแต่เธอจะไม่แค่นอนเฉยๆ อยู่บนพื้นแทบเท้าเขาในขณะที่เขาลงมือ ถึงแม้ว่าความดื้อดึงของเฮอร์ไมโอนี่ผุดขึ้นมาแต่ร่างกายเธออ่อนแอเกินกว่าจะคล้อยตาม ขาทั้งสองของเธอทรุดลงก่อนที่เธอจะไปถึงโต๊ะตัวนั้นและล้มลงสู่พื้นห้อง เธอนอนตะแคงไร้เรี่ยวแรง  ความเจ็บปวดกำลังเริ่มเลือนหายไปซึ่งเธอรู้สึกแปลกประหลาดมากๆ  ฤทธิ์ของคำสาปกรีดแทงที่คาดหมายว่าจะทำให้เจ็บปวดทรมานเป็นเวลานานทีเดียว แต่แล้วความเจ็บปวดในกระดูกต่างๆ ของเธอดูเหมือนว่าไกลห่างออกไปและด้านชา
          ลูเซียสทำเสียงขึ้นจมูกด้วยความชอบใจเมื่อเธอล้มลง เสียงหัวเราะของเขาเย็นชาและไม่ได้มีความพึงพอใจอย่างแท้จริงเลย ราวกับว่าความสนุกสนานที่เขาเห็นอาการน่าขบขันของเธอเป็นสิ่งที่ไม่คู่ควรกับเขา
          เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกมากกว่าได้ยินว่าเขาเดินวนรอบตัวเธอ เสียงฝีเท้าแผ่วเบาของเขาทำให้ไม้กระดานเก่าลั่นภายใต้น้ำหนักที่ก้าวผ่านของเขา เธอทราบว่าเธอควรหวาดกลัวแต่กลายเป็นว่าเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
          เขาย่อตัวลงตรงข้างหน้าเธอในที่สุด “ฉันคิด” เขาพูดอย่างนุ่มนวล “ว่าถึงเวลายุติเรื่องนี้ได้แล้ว” เขายืนขึ้นและเฮอร์ไมโอนี่รู้ว่ามันจบลงแล้ว
          เขาชี้ไม้กายสิทธิ์ของเขามาที่เธอ เฮอร์ไมโอนี่ไม่แม้แต่สามารถเค้นเรี่ยวแรงให้ทำตัวแข็งรับคำสาปพิฆาตได้ แต่ก่อนที่เขาจะเปล่งคาถาออกมา เกิดมีเสียงตะโกนจากที่ไหนสักแห่งด้านนอกห้อง และลูเซียสหันขวับทันทีไปที่ประตู
          “อะไรอีกละที่นี้?” เขาเลียงดังอย่างขุ่นเคืองเมื่อเขาเดินออกไปสู่โถงทางเดิน
          เฮอร์ไมโอนี่อยากมองเขาแต่ผมของเธอปิดบังลูกตาเธอ เธอยกมือขึ้นอย่างกะปลกกะเปลี้ยปัดมันออกไป เส้นผมเหนียวเหนอะยึดจับนิ้วมือของเธอไว้ และเมื่อเธอดึงมันกลับออกมา เธอเห็นนิ้วมือของเธอเป็นสีแดงด้วยความน่ากลัวชวนคลื่นเหียน ลอนผมยุ่งเหยิงที่จับเป็นก้อนอยู่นั่นเปียกแฉะด้วยเลือดของเธอ
          ไม่มีเสียงตะโกนอีก แต่จริงๆ แล้วเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ใส่ใจจนกระทั่งลูเซียสถอยหลังเข้ามาในห้องพร้อมกับเดรโกตามาติดๆ  เกิดการตะลุมบอนระหว่างทั้งสองคนแล้วเดรโกก็แทงใส่พ่อของเขา ส่งผลให้ชายผู้อาวุโสกว่าทรุดลงคุกเข่า
          “เธออยู่ที่ไหน?” เขาคำรามขณะที่คว้าคอปกเสื้อคลุมของลูเซียส และยกเขาขึ้นมาจากพื้นห้องก่อนจะโยนเขากลับลงไปดังโครม
          ลูเซียสหลุดพ้นการตะครุบของเดรโกแล้วคว้าไม้กายสิทธิ์ของเขาขึ้นมา พร้อมกับเสกคำสาปกรีดแทงเป็นครั้งที่สองในคืนนั้น
          เฮอร์ไมโอนี่เฝ้ามองด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง เมื่อเดรโกล้มลงสู่พื้นด้วยอาการกระตุกของความเจ็บปวดกะทันหัน ลูกตาของเขาเหลือกกลับขึ้นไปข้างบนเผยให้เห็นแต่ตาขาว เฮอร์-ไมโอนี่หลับตาปี๋พยายามปิดกั้นเสียงกรีดร้องของเขา พยายามไม่นึกถึงว่ามันทำให้เธอรู้สึกเช่นไรเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
          หลังจากลูเซียสปล่อยคาถาออกไปแล้ว ท่าทางของเขากลับมาสบายๆ อีกครั้งทันที;เขาขยับเสื้อคลุมให้เรียบร้อย และปัดปอยผมสีดำกลับไปยังที่ที่มันอยู่ตามเดิม ถ้าไม่มีสองร่างไร้เรี่ยวแรงบนพื้นของห้องนี้ สิ่งต่างๆ จะดูเป็นปกติธรรมดาอย่างสิ้นเชิง
          “เดรโก เดรโก เดรโก” ลูเซียสกล่าวตำหนิอย่างนุ่มนวล “การจู่โจมพ่อมดที่มีอาวุธโดยไม่มีอะไรนอกจากกำปั้น ฉันไม่ได้สอนอะไรให้แกหรือไง?” สันนิษฐานว่าลูกชายของเขาอยู่ในอาการมึนงงของคำสาปกรีดแทง เขาหันหลังให้กับลูกชายแล้วเริ่มเติมเหล้าในแก้วของเขา
          “ผมคิดว่าผมเพิ่งได้ใช้เวลามากเลยกับวีสลี่ย์” เดรโกแผดเสียงเมื่อเขาพุ่งตัวเข้าใส่พ่อของเขา   เขากระแทกพ่อมดอาวุโสที่รู้สึกแปลกใจลงสู่พื้นห้อง การชนของเขารุนแรงมาก เขาเริ่มเห็นภาพเลือดของพ่อเขา
          เฮอร์ไมโอนี่มองจากตรงที่เธอนอนอยู่ใกล้โต๊ะ ไม่สามารถร้องตะโกนออกมาได้ เธอรู้สึกว่าน้ำตาทะลักอยู่ในดวงตา และเปล่งเสียงร้องครางอย่างเจ็บปวดจากส่วนลึกในทรวงอกของเธอ
          เดรโกมองมาทางเธออย่างตกใจ เขาปล่อยลูเซียสอย่างไม่ต้องคิดอะไรเลย และหมุนตัวตรงมาที่เธอ ชนโต๊ะกระเด็นออกนอกทาง ขวดแก้วเหล้าแตกละเอียด;น้ำไหลเปื้อนพื้นห้อง
          “เฮอร์ไมโอนี่?”
          เธอมองไม่เห็นเขาเมื่อเปลือกตาของเธอกำลังปิดลงด้วยความปรารถนาของตัวมันเอง แต่มีแรงบังคับอย่างระมัดระวังเมื่อเขายกตัวเธอขึ้นอย่างนุ่มนวล แขนของเขากำลังพยุงแผ่นหลังเธอเมื่อเขาคุกเข่าลงข้างเธอ
          “เฮอร์ไมโอนี่ ตื่นซิ” เขากระซิบอย่างร้อนรน เขาไม่สนใจร่างของลูเซียส เขาจับใบหน้าเธอให้มองที่เขาด้วยมืออีกข้างหนึ่ง “เฮอร์ไมโอนี่ ได้โปรด...” เสียงของเขาเริ่มสั่นเมื่อเขาสังเกตเห็นเลือดบนมือของเขา
          เปลือกตาของเฮอร์ไมโอนี่กระพือเปิดขึ้น เธอยิ้มอย่างซีดเซียวให้เขา “เดรโก…”
          “เดรโก”
          เสียงเข้มดึงความสนใจของพวกเธอแต่ละคน  ลูเซียสได้ลุกขึ้นยืนแล้ว ไม้กายสิทธิ์ของเขาชี้มาที่พวกเธอ การจับแบบสบายๆ ที่เขาใช้ก่อนหน้านี้หายไปแล้วเมื่อประจันหน้ากับลูกชาย
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงแขนของเดรโกรัดแน่นอย่างเจ็บปวดรอบตัวเธอ แต่เธอรู้สึกขอบคุณสำหรับความเจ็บปวดนี้ มันหยุดยั้งเธอจากการล่องลอยไปไกล
          “เดรโก ถอยออกไปจากนางเลือดสีโคลนไร้ค่านั่นซะ” ลูเซียสแผดเสียง อากัปกิริยาเยือกเย็นของเขาหายไปแล้ว
          ไม้กายสิทธิ์ของเดรโกชี้ไปที่ลูเซียสเช่นเดียวกัน นิ้วมือของเขาทิ้งรอยเปื้อนสีแดงเข้มไว้บนด้ามไม้ “อย่าเรียกเธอแบบนั้น”
          ลูเซียสยิ้มกว้างชั่วร้ายจากนั้นหัวเราะหึๆ อย่างขบขัน “จริงจังนะ เดรโก  เกมส์เล็กๆ นี้กำลังเริ่มหมดความตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว  ฉันจะทำให้เรื่องนี้จบลงเดี๋ยวนี้”
          เดรโกกำมือแน่นขึ้นและมองลูเซียสเขม็ง   เฮอร์ไมโอนี่มองด้วยความหวาดกลัวน่า
ตะลึงงัน เมื่อกล้ามเนื้อบนใบหน้าของลูเซียสกระตุก  เกิดมีเสียงตะโกนอื้ออึงจากด้านนอกห้อง
ลูเซียสยอมเสี่ยงชำเลืองมองไปที่ประตู
          “ผมไม่ได้มาที่นี่ตามลำพัง” เดรโกพูด
          “ออกห่างจากเธอ เดรโก ฉันจะไม่เตือนแกอีกแล้วนะ” ความเยือกเย็นที่ฉาบหน้ากำลังปริแตก ขณะที่เสียงตะโกนใกล้เข้ามา ลูเซียสกำลังมีท่าทางวิตกจริตอย่างสุดขีด
          “ไปลงนรกซะ” เขาตะโกนใส่พ่อของเขา
          “ถ้าเรื่องเป็นอย่างนี้มันก็ต้องเป็น” ลูเซียสปล่อยเวลาสักครู่แล้วทำเสียงเกือบจะผิดหวังอย่างมาก ก่อนเขาจะเสกคาถาซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ได้คาดหวังมาตลอดค่ำนี้  “Avadra Kedrava”
          “Arma Immeritus!” เดรโกร้องตะโกนทันที เหมือนกับเขารู้อยู่แล้วว่ามันจะมาถึงตรงนี้
          เฮอร์ไมโอนี่มองเห็นแสงไฟสีเขียวกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเขา เธอเห็นก้อนเมฆส่องประกายระยิบระยับแบบเดียวกับที่เดรโกเคยเห็นเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอรู้สึกถึงวงแขนรัดแน่นของเขารอบตัวเธออย่างสั่นเทา เมื่อเขาพยายามบังตัวเธอด้วยร่างกายของเขา  จากนั้นความตายสีเขียวก็พุ่งเข้าใส่ และอีกครั้งที่ความมืดมิดเข้าครอบคลุมโถมทับตัวเธอ
          “ตื่นขึ้นซิ” น้ำเสียงร้อนรนร้องเรียกอยู่ในหูของเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยายามกลับมาสู่ความมีสติ 
          เธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเดรโก ยังอยู่ในห้องเดิมนั้น ยังมีชีวิตอยู่  เดรโกถอนหายใจอย่างแรงด้วยความโล่งอก และเฮอร์ไมโอนี่สามารถบอกได้ว่าเขากำลังตัวสั่น แต่เธอไม่แน่ใจว่ามันมาจากความกลัวหรือจากการใช้คาถากันแน่  เธอขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา กำลังแสวงหาความเข้มแข็งที่เธอคิดว่าได้จากเธอไปนานแล้ว  ร่างของลูเซียส มัลฟอยอยู่บนพื้นด้านไกลของห้อง ดวงตาของเขาเบิกกว้างเลื่อนลอยมายังจุดหนึ่งเหนือพวกเธอ ไม้กายสิทธิ์ของเขาวางอยู่ห่างจากปลายนิ้วมือเขาแค่ไม่กี่นิ้ว และด้วยปรากฏการณ์ของความคิดซึ่งไม่น่าจะคาดหวังจากคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส  เฮอร์ไมโอนี่ทราบได้ว่าเขาตายแล้ว
มือของเดรโกสัมผัสแก้มเธอและดึงความสนใจของเธอให้กลับมาที่ตัวเขา ดวงตาสีเทาของเขาเต็มเปี่ยมด้วยความกลัดกลุ้มหวาดกลัว ผิวของเขาซีดขาวเหลือเกิน ซีดเผือดมากกว่าที่เธอเคยเห็นมันหลังจากที่แมนติคอร์ทำให้เขาเสียเลือดไปมากมาย
          “ฉันเสียใจ เฮอร์ไมโอนี่” น้ำเสียงเขาที่เปล่งออกมาปวดร้าวเหลือเกิน “มันเป็นความผิดของฉัน ฉันควรจะรู้ว่าแพนซี่...”
          “ชะ....” เฮอร์ไมโอนี่งึมงำแผ่วเบา “ชะ…” เธอพูดซ้ำ ไม่สามารถสั่งให้สมองของเธอปะติดปะต่อคำพูดต่างๆ ที่เธออยากทำให้เขารู้สึกสบายใจได้
          เขาดึงเธอเข้ามาแนบชิดมากขึ้นและจูบเธอ ปากซีดเผือดน่ากลัวของเขาแนบกับปากเธอ เธอไม่สามารถจูบตอบเขาได้  ได้แต่ยินดีอย่างเลือนรางในความจริงว่าเขาอยู่ที่นี่และเขากำลังจูบเธออีกครั้ง ลมหายใจอบอุ่นและหนักแน่นของเขาปะทะกับแก้มของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะยิ้มด้วยความชอบใจ เขาผละจากปากเธอแล้วก้มศีรษะซบแนบกับทรวงอกของเธอ เหมือนกำลังแสวงหาความสบายใจ เขาตัวสั่นเพิ่มมากขึ้นและเฮอร์ไมโอนี่หวังว่าเขาไม่ได้กำลังร้องไห้ มันจะทำให้หัวใจเธอแตกสลายที่ปล่อยให้หนุ่มสลิธีรินของเธอรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
          กลุ่มคนด้านนอกตายหมดแล้ว ประตูถูกเปิดออกแล้วเสียงฝีเท้าเร่งรีบเดินเข้ามา
          “เฮอร์ไมโอนี่? มัลฟอย?” เสียงต่างๆ นี้เป็นของบุคคลที่รู้จักและรัก
          “เฮอร์ไมโอนี่!” แฮร์รี่พุ่งมาอยู่ด้านข้างของเดรโก พร้อมด้วยรอนที่ตามหลังเขามา
          แฮร์รี่กำลังเลือดไหลจากบาดแผลที่ขมับของเขา ส่วนรอนกำลังพยุงแขนของเขาอย่างระวัง แต่พวกเขาทั้งคู่ดูท่าทางสบายดี เฮอร์ไมโอนี่อยากต้อนรับทักทายพวกเขา กล่าวขอบคุณพวกเขาสำหรับการมาเพื่อเธอ แต่ว่าห้องกำลังเริ่มมีหมอกลงปกคลุมอีกครั้ง เธอรู้สึกวิงเวียนเหลือเกิน เหนื่อยล้าเหลือเกิน ล่องลอยเหลือเกิน
          “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” วีสลี่ย์ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
          “เธอบาดเจ็บ ฉันต้องพาเธอกลับไปที่ฮอกวอตส์” เดรโกตอบ น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ
          “ส่งเธอมาให้ฉัน” แฮร์รี่บอกเขาอย่างมุ่งมั่น
          “เมินซะเถอะ พอตเตอร์!” เดรโกเสียงดังอย่างดื้อดึง
          “บางทีมิสเตอร์พอตเตอร์, วีสลี่ย์, และมัลฟอย  ฉันควรจะพามิสเกรนเจอร์ไปที่สถานพยาบาลด้วยตัวฉันเอง”
          เด็กหนุ่มทั้งสามคนเงยขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ  รอนและแฮร์รี่ทั้งคู่หมุนตัวพร้อมปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างฉลาด ไม้กายสิทธิ์ของพวกเขาอยู่ในตำแหน่งเตรียมพร้อม และถึงแม้ว่าอยู่ในอาการมึนงงเฮอร์ไมโอนี่ก็สามารถจดจำเสียงอาจารย์ใหญ่ของพวกเขาได้
          แฮร์รี่และรอนลดไม้กายสิทธิ์ลงอย่างช้าๆ ไม่แน่ใจท่าทางของอาจารย์ใหญ่ ไม่วางใจกับการปรากฏตัวอย่างน่าอัศจรรย์  แต่เดรโกดูเหมือนรู้ได้เกือบจะรวดเร็วพอกับเฮอร์ไมโอนี่ว่า 
นี่คือ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ตัวจริง  เดรโกถอนหายใจยาวเกือบจะสิ้นหวัง จากนั้นอ้อมแขนอบอุ่นสบายของเดรโกดูเหมือนกำลังถูกคลายออก เธอร้องประท้วงเรื่องนี้ แต่ว่าเธอไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ เมื่อเธอล่องลอยไปไกลมากขึ้น และขณะที่ดวงตาของเธอปิดลงเป็นครั้งสุดท้ายในคืนนั้น เธอสงสัยว่าเธอจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่
        
TBC

No comments:

Post a Comment