Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Wednesday, September 10, 2014

13 The decision 13



“ทุกคนหลบไปให้หมด!”

มาดามพอมฟรีย์ตะโกนใส่บรรดานักกีฬาและเด็กนักเรียนหลายคนที่วิ่งกรูลงมาในสนามตรงมายังร่างของมัลฟอย
ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้า อีกด้านหนึ่งศาสตราจารย์มักกอนนากัลและศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็กำลังวิ่งมาพร้อมกัน 
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลตะโกนสั่งกับเด็กทุกคนด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

“ถ้าใครยังไม่ออกจากสนามตอนนี้ล่ะก็ฉันจะหักคะแนนบ้านนั้นทั้งหมด! -  - ฉันสาบาน!”

เด็กทุกคนพากันถอยออกจากสนามทันที แต่นักกีฬาควิดดิชเกือบทุกคนที่ลงมาสู่พื้นสนามแล้วยังคงยังคงยืนดู
เหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ต่างฝ่ายต่างกลืนน้ำลายมองศาสตราจารย์มักกอนนากัลและศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ที่เข้ามา
ดูอาการของมัลฟอยพร้อมกับมาดามพอมฟรีย์ - - เธอนั่งลงแตะชีพจรที่คอของมัลฟอยซึ่งตอนนี้เลือดสีแดงข้น
ไหลออกมาซึมเสื้อคลุมสีเขียวที่สวมอยู่แล้วกัดฟันแน่น....ลมหายใจของอีกฝ่ายรวยรินจนน่าใจหาย

รอนบินไปรับเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังร้องไห้ด้วยความตกใจจากอัฒจันทร์ลงมาข้างล่าง ส่วนแฮร์รี่คว้าลูกสนิชไว้
ได้ตอนที่มัลฟอยตกจากไม้กวาดแต่เขาไม่เห็นแก่ตัวพอที่จะประกาศชัยชนะ เด็กชายบินลงมาที่พื้นแล้ววิ่งตรง
ไปหากลุ่มคนซึ่งกำลังมุงดูอาการของมัลฟอย

เฮอร์ไมโอนี่กระโดดลงจากไม้กวาดของรอนก่อนที่เท้าจะสัมผัสกับพื้น เธอเบียดตัวแทรกกลุ่มคนที่กำลังมุงอยู่รอบ ๆ
 เพื่อเข้าไปดูมัลฟอย รอนผละจากเธอไปหาแฮร์รี่ที่เพิ่งจะวิ่งตามมาแล้วถามอย่างเป็นห่วง

“นายเป็นอะไรรึเปล่า” 

แฮร์รี่ส่ายหน้าปฏิเสธแล้วถาม

“เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ”

“ปลอดภัยดี แต่คงจะอยากดูอาการมัลฟอยกับเขาด้วยล่ะมั้ง” รอนชี้ไปที่คนอื่น ๆ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามเข้าไปดูบ้าง

“มิสเตอร์มอนทาคิว! ห้ามก้าวเข้ามาใกล้กว่านี้!” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดกับกัปตันทีมสลีธีรินที่พยายามจะ
เข้ามาดูอาการของมัลฟอยด้วยน้ำเสียงราวกับเขาอยู่ไกลลิบ

“เปล!” มาดามพอมฟรีย์พูดแล้วเปลสนามก็ปรากฏขึ้น มันตรงมาสอดใต้ตัวของมัลฟอยแล้วลอยขึ้นช้า ๆ 
เฮอร์ไมโอนี่ร้องกรี๊ดเมื่อเห็นเลือดแดงฉานเปื้อนพื้นหญ้า เธอแทบถลาไปหาร่างที่นอนอยู่บนเปลแต่กาเบรียลรีบ
ตะครุบปากแล้วเหนี่ยวตัวเธอไว้ได้ทัน

“อย่า...อย่าร้องเลยนะ คนอื่นอาจจะสงสัย” เสียงของเด็กหญิงสั่นเครือ

เฮอร์ไมโอนี่น้ำตาไหลพรากกอดกาเบรียลที่ตัวเธอเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
 มัลฟอยยังคงนอนไม่ไหวติงและไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว ไม้กวาดนิมบัสสองพันหนึ่งคู่ชีพของเขาตกอยู่ไม่ไกล
 ยาช่ากับมาดามฮูซกำลังช่วยกันล่ามลูกบลัดเจอร์ตัวการที่ยังคงอาละวาดดิ้นไปมาไม่หยุดถึงด้วย
โซ่ขนาดใหญ่ แฮร์รี่กับรอนเดินเข้ามารวมกับคนอื่น ๆ พวกเขากลืนน้ำลายเมื่อเห็นเลือดบนพื้นหญ้า 

“หมอนี่เห็นสนิช ก็เลยไม่ทันได้ดูว่าบลัดเจอร์กำลังพุ่งมาอีกทาง” แฮร์รี่ชูลูกสนิชสีทองให้รอนดู 
สีหน้าของเขายังหวาดหวั่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

เปลสนามที่มัลฟอยนอนอยู่ค่อย ๆ ลอยไปยังห้องพยาบาลอย่างนุ่มนวลที่สุด
 ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เดินมาพูดกับมาดามพอมฟรีย์ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ฝากดูแลเขาด้วยนะ”

“ดิฉันจะพยายามจนสุดความสามารถค่ะ” มาดามพอมฟรีย์หลบตาไปครู่หนึ่งก่อนจะรับคำหนัก
แน่นแล้วเดินตามเปลสนามที่ลอยด้วยตัวเองไปยังห้องพยาบาล 

เฮอร์ไมโอนี่ยังคงร้องไห้ กาเบรียลค่อย ๆ ประคองเธอให้เดินไปนั่งตรงเก้าอี้ข้างสนาม 
ให้พ้นระยะที่ใครต่อใครจะได้ยินแล้วปลอบ

“เธอปลอดภัยแล้ว”

“แล้วเขาล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เอามือปิดปากแล้วพูดต่อด้วยเสียงสะอื้น

“ฉันเห็นเขาตกลงมากระแทกพื้น เขา...เขาอาจจะเป็นหนักมากก็ได้”

“ฉันเห็นศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์โบกไม้กายสิทธิ์ อาจารย์ช่วยเขาไว้แล้ว เขาจะต้องปลอดภัย” 
กาเบรียลพยายามคลายความกังวลของอีกฝ่าย

เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าทั้งที่น้ำตาไม่ยอมหยุดไหล เธอหวังว่าครั้งนี้มัลฟอยจะไม่เป็น
ไรเหมือนกับตอนที่แฮร์รี่เคยหล่นจากไม้กวาดมาแล้ว แต่ในใจอีกข้างก็ค้านว่าครั้งนั้นแฮร์รี่มีเพียง
รอยขีดข่วนตามตัว...มิใช่เลือดไหลเต็มไปหมดเช่นนี้!

“ทุกคนกลับแยกย้ายกลับเข้าบ้านของตัวเองกันได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องมิสเตอร์มัลฟอย
 ทางโรงเรียนจะดูแลเขาอย่างดีที่สุด” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดอย่างหนักแน่นเพื่อจะทำให้ทุกคนวางใจ 

แต่สำหรับเฮอร์ไมโอนี่แล้วเสียงนั้นแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน...

:**~~**~:**~~:**~~:**:~~:**:~~:**:~~:**:


เย็นวันนั้น ข่าวการบาดเจ็บของมัลฟอยก็แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน 
นักเรียนหลายคนเริ่มซุบซิบถึงอาการผิดปกติของลูกบลัดเจอร์ในสนามและต่างก็เริ่มกลัวว่านี่อาจจะ
เป็นฝีมือของลอร์ดโวลเดอร์มอร์ที่ต้องการจะเล่นงานแฮร์รี่ทว่าพลาดไปถูกมัลฟอยเสียก่อน 
ฝ่ายเนวิลล์ก็ดูตัวหดเล็กลงสักสิบเท่าเพราะเขาคิดแต่เพียงว่าตัวเองเป็นสาเหตุทำให้มัลฟอยบาดเจ็บและ
ทำให้ลูกบลัดเจอร์หันมาจัดการคนอื่นจนอัฒจันทร์พังพินาศและมัลฟอยได้รับบาดเจ็บคราวนี้

“มันถูกส่งมาเล่นงานฉัน” แฮร์รี่เริ่มพูดขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร พยายามไม่สนใจกับนักเรียน
บางคนที่เริ่มส่งสายตาหวาดระแวงมาที่เขาเพราะกลัวว่านี่คือการเริ่มต้นของเรื่องร้ายแรงที่อาจจะกำลังตามมา
 และเมื่อถามด๊อบบี้มันก็ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะใช้วีธีนี้เพื่อให้แฮร์รี่กลับไปอยู่กับพวกเดอร์สลีย์อีก
(พวกเขาต้องจับด๊อบบี้ไว้เพื่อไม่ให้มันเอาหัวโขกผนังเพื่อทำโทษตัวเองที่ทำให้แฮร์รี่ต้องระแวงว่าเป็นฝีมือมัน)

“ต้องมีใครสาปมันแน่ ๆ คราวนี้มีใครอยากจะช่วยชีวิตนายอีกรึเปล่าล่ะ” รอนพูดด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง
ขณะเทน้ำเกรวี่ลงบันมันฝรั่งบดในจานด้วยท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจเพราะอย่างไรเสียคนบาดเจ็บคราว
นี้ก็เป็นมัลฟอย (แฮร์รี่ได้ยินว่าเขาแอบฮัมเพลงเบา ๆ ด้วยซ้ำ) วันนี้เป็นวันดีของเขาเพราะบรรดาอาจารย์
ประชุมกันแล้วประกาศว่าทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันควิดดิชในปีนี้คือกริฟฟินดอร์แม้จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็ตาม

แฮร์รี่ส่ายหน้าปฏิเสธแล้วหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอยู่ข้างรอน เธอเอาแต่นั่งเหม่อและมีน้ำตาซึมอยู่ตลอดเวลา

“เธอโชคดีนะเนี่ย เฮอร์ไมโอนี่” เด็กชายพันเส้นสปาเกตตี้ในจานกับส้อมแล้วเอาเข้าปาก

“ฉัน...” เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศรีษะแล้วลุกขึ้นยืน

“จะไปไหน เธอยังไม่ได้กินอะไรสักอย่างเลยนะ” รอนร้อง มองจานทองที่ยังคงสะอาดเอี่ยมของอีกฝ่าย

“ฉันไม่หิว ฉันจะไป...ไปนอนก่อนนะ” เธอขยับตัวแล้วเดินออกจากโต๊ะอาหารไป แฮร์รี่และรอนมองหน้ากันอย่างงง ๆ

เฮอร์ไมโอนี่เดินด้วยขาที่ไร้ความรู้สึกขึ้นไปยังหอนอนชั้นบน - - ภาพมัลฟอยหล่นจาก
ไม้กวาดต่อหน้านั้นราวกับผนึกแน่นอยู่ที่ดวงตา เด็กหญิงซวนเหมือนจะล้ม เธอฝืนก้าวไปซบกับ
กำแพงหินเย็นเฉียบในขณะที่มือก็พยายามจับขอบหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุดเอาไว้....

ทางเดินเงียบสงัดที่เธอยืนอยู่ปรากฎเงาของคน ๆ หนึ่งกำลังเดินอยู่ไกล ๆ 
แผ่นหลังที่อยู่ใต้เสื้อคลุมพลิ้วไหวของเด็กชายผมสีบลอนด์ดูคุ้นตาจนเธอเผลอจ้องมองภาพนั้นนิ่ง 
เมื่อเขาหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง เฮอร์ไมโอนี่ก็แทบหยุดหายใจ - -  

มัลฟอยยิ้มให้เธอก่อนจะพูด

“ถ้าฉันตาย เธอจะร้องไห้ไหม”

ไม่! - - ไม่! เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น!... ร่างของเฮอร์ไมโอนี่ทรุดลงกับพื้นทันที เธอนั่งเอามือปิดหน้าแล้วหอบหายใจ เ
มื่อสติทั้งหมดกลับคืนมาเธอก็เงยหน้าขึ้นมองทางเดินอีกครั้ง...ไม่มีใครอยู่แม้เพียงคนเดียว
 เด็กหญิงสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ยืนขึ้น เธอทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นหิมะกำลังตกลงมา 
ไกลออกไปที่กระท่อมของแฮกริดควันสีขาวกำลังลอยอ้อยอิ่งออกจากปล่องเป็นสีเดียวกับหิมะที่อยู่บนหลังคา
เป็นสัญญาณบอกว่ามีคนอยู่ข้างใน เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจเดินไปยังทางออกนอกปราสาทเพื่อไปยังกระท่อมหลังนั้น 

เมื่อมาถึงกระท่อมของแฮกริดเธอก็เคาะประตูสองสามครั้ง คนที่เปิดออกมารับเป็นยาช่า 
แต่เขาไม่มีท่าทางประหลาดใจที่เห็นเธอมาที่นี่ เด็กชายมองเธอแล้วพูด

“เขาต้องไม่เป็นไรฮะ”

สิ้นประโยคนั้นเฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้โฮแล้วโผมากอดยาช่าไว้แน่น ยาช่าส่ายศีรษะด้วยความสงสารแล้ว
พาเธอเข้าไปนั่งในบ้านที่ไม่มีใครอยู่เลยเพราะแฮกริดยังไม่กลับจากเยี่ยมกรอว์ปที่กระทรวงเวทมนตร์
 เมื่อเด็กหญิงนั่งลงที่เก้าอี้แล้วยาช่าก็รินน้ำชาจากกาใส่ถ้วยส่งให้ 

“ผมยืนดูอยู่ แต่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ร่ายคาถาช่วยเขาไว้แน่ ๆ” เขาพูดอย่างหนักแน่นเพื่อให้เธอสบายใจ

“แต่ถ้าปล่อยให้มันโดนฉัน - - ฉันก็คงไม่เป็นมากเท่าเขาหรอก” เฮอร์ไมโอนี่ยังคงมีน้ำตาไหลออกมา

“เขา ไม่ ต้องการให้คุณเป็นอะไร ทั้งนั้น ” ยาช่าเน้นคำแล้วมองเธอ

เฮอร์ไมโอนี่เช็ดน้ำตาแล้วพยักหน้า ยาช่าจึงพูดต่อ

“กาเบรียลฝากผมมาขอโทษคุณ พอดีพรุ่งนี้เขาต้องไปโรงเรียนที่เขาห้ามคุณไม่ให้ร้องไห้ตอนนั้นเพราะ
ถ้าตอนนี้ใครรู้เรื่องของคุณสองคน ปัญหาอาจจะเพิ่มขึ้น”

“ฉันเข้าใจ ฝากขอบใจเขาด้วย” เธอเช็ดน้ำตา

ยาช่าถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบไม้กวาดนิมบัสสองพันหนึ่งที่มาดามฮูซหาคนอาสาจะเก็บมัน
ไว้คืนมัลฟอยและเขาก็รับอาสามา คนอื่น ๆ ในทีมสลิธีรินไม่มีใครกล้ารับไว้เพราะกลัวว่าต้องกลายเป็น
คนที่จะต้องแจ้งข่าวการบาดเจ็บของมัลฟอยให้นายลูเซียสและมิสซิสนาร์ซิสสาพ่อกับแม่ของเขา
 เด็กชายหมาป่ายื่นให้เฮอร์ไมโอนี่แล้วพูดอย่างจริงจัง

“ผมจะเก็บไว้ให้ก่อน แต่คุณต้องเอาไปคืนเขาด้วยตัวคุณเองวันที่เขาฟื้นขึ้นมา”

เฮอร์ไมโอนี่กอดไม้กวาดด้ามสีดำที่เป็นเงาวับของมัลฟอยแน่นแล้วร้องไห้อีกครั้ง

To be continued!!!

No comments:

Post a Comment