เมื่อออกจากห้องเรียนคาถาเก่า เฮอร์ไมโอนี่ก็ตรงกลับหอนอนอย่างรวดเร็ว เธอไม่ต้องการให้ใคร ๆ ได้เห็นเธอในสภาพอย่างนี้ เธอไม่ต้องการให้มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว แต่เมื่อเธอกำลังจะถึงรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนหน้าหอกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่าง ๆ หนึ่งยืนอยู่บริเวณนั้นและเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แฮร์รี่นั่นเอง
“เฮอร์ไมโอนี่ เธอไปไหนมาน่ะ” แฮร์รี่พูดเมื่อเขาเห็นเธอเดินมา แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เขามาก เธอเอามือปาดน้ำตา
“มักกอนนากัลเรียกฉันไปพบน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่โกหก “แล้วเธอล่ะ มายืนทำอะไรที่นี่”
“ฉันก็มารอเธอแหละ เฮอร์ไมโอนี่ ที่ฉันบอกว่าฉันมีเรื่องคุยกับเธอน่ะ” แฮร์รี่พูดกุมมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้
“แฮร์รี่ฉันว่าไว้คุยวันหลังจะดีกว่านะ คือตอนนี้มันดึกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ตอบปัด ๆ เธอก้มน้าลงเพราะไม่ต้องการให้เขาเห็นว่าเธอตาแดง
“เธอร้องไห้เหรอ เธอแน่ใจนะว่าไปพบศาสตร์จารย์มักกอนนากัลมาน่ะ” แฮร์รี่ถามพยายามมองเข้าไปในแววตาของเธอ
“แฮร์รี่ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ เธอเงยหน้าขึ้นมองตาเขาแต่การที่เธอทำอย่างนั้นยิ่งทำให้แฮร์รี่มั่นใจว่าเฮอร์ไมโอนี่โกหกเขา
“คือ ฉันจะขึ้นไปนอนแล้วแฮร์รี่ ราตรีสวัสดิ์นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว และกำลัง
จะเดินขึ้นเข้าหอกริฟฟินดอร์ไป
“เธอไปพบมัลฟอยมาใช่มั้ย” คำพูดของแฮร์รี่ถึงกับทำให้เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เธอหันมามองหน้าเขา
“เธอเอาอะไรมาพูดน่ะแฮร์รี่ ฉันจะไปพบมัลฟอยทำไมกัน” เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก แต่มันก็ไม่ทำให้แฮร์รี่เชื่อเลยแม้แต่น้อย
“อย่าโกหกฉันเลย ฉันรู้หมดแล้ว รู้เรื่องของพวกเธอหมดแล้ว” แฮร์รี่พูดด้วยท่าทีหมองเศร้า
“เธอรู้เหรอ รู้ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอดูตกใจไม่น้อย แต่แฮร์รี่ไม่ตอบเธอแต่อย่างใด
“แล้วที่เธอร้องไห้ก็เป็นเพราะไอ้เจ้ามัลฟอยนั่นใช่มั้ย” แฮร์รี่พูด แต่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนิ่งเงียบ
“ฉันจะไปจัดการมันเอง!!!” แฮร์รี่ตะโกนออกมา แววตาที่เศร้าหมองของเขาเปลี่ยนเป็นดุดัน นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำมั้งที่แฮร์รี่คิดจะไปหาเรื่องมัลฟอยก่อน
“อย่าแฮร์รี่ อย่าทำอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่ร้องรั้งตัวเขาไว้ และตอนนี้แฮร์รี่ก็รู้แล้วว่าเธอร้องไห้ขึ้นมาอีก
“ทำไมล่ะ ก็ไอ้เจ้านั่นมัน….” แฮร์รี่ทำท่าจะเถียงแต่พอเขาเห็นหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ในเวลานี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เฮอร์ไมโอนี่กำลังร้องไห้ เขารู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน แฮร์รี่คว้าตัวเธอมากอดไว้แนบอก ปล่อยให้น้ำตาของเธอหยดลงบนเสื้อของเขา
“ทำไมเฮอร์ไมโอนี่ ทำไมต้องเป็นเจ้านั่นด้วย ทำไมไม่เป็นฉัน ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่มีวันทำให้เธอเป็นอย่างนี้ ฉันจะไม่ทำให้เธอร้องไห้อย่างวันนี้เลย” แฮร์รี่พึมพำซ้ำไปซ้ำมาโดยที่ไม่รู้หรอกว่าครั้งหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็เคยพูดอย่างนี้เหมือนกัน
หลังจากนั้นร่วมเดือนเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็ยังคงเป็นแบบเดิม ทั้งสองไม่ได้พุดคุยกันเลย และแทบไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ ยกเว้นวิชาปรุงยาแต่ทั้งสองก็ทำอย่างกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน ส่วนมัลฟอยนั้นก็ไม่ได้มาหาเรื่องพวกเขาทั้งสามอีกเลยตั้งแต่วันนั้น จนทำให้รอนผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรคิดว่ามัลฟอยคงต้องตกบันไดหัวฟาดพื้นหรือไม่ก็ต้องโดนใครร่ายคาถาลบความจำใส่เป็นแน่ เขาถึงจำไม่ได้ว่าความสุขอย่างหนึ่งของเขาคือการหาเรื่องแกล้งแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่
ตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อก่อน เหมือนกับตอนที่เธอและมัลฟอยเป็นศัตรูกัน แค่กลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อนเท่านั้น แต่เธอก็รู้ตัวว่าคิดผิดไป เพราะว่าทุกอย่างไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างแต่ก่อนได้ ถึงแม้ว่าเธอพยายามจะทำให้มันเป็นอย่างนั้นเท่าไร แต่อย่างน้อยความรู้สึกของเธอก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหตุผลก็เพราะ เธอดันไปรักศัตรูของเธอคนนี้เข้าแล้วน่ะสิ
ช่วงคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้วหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว รอบ ๆ ปราสาทปกคลุมไปด้วยหิมะ มองดูขาวโพลนไปหมด น้ำในทะเลสาปเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง นักเรียนส่วนใหญ่มักชอบที่จะหมกตัวอยู่แต่ในปราสาทและพยายามอยู่ใกล้เตาผิงให้มากที่สุด แต่เด็กบางคน ( อย่างเฟร็ดกับจอร์จเป็นต้น ) ก็ชอบที่จะออกไปสัมผัสอากาศหนาวข้างนอก พวกเขาออกไปเล่นปาหิมะ หรือปั้นตุ๊กตาหิมะกันอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับบางคนนั้นก็ไม่อยากให้ฤดูหนาวมาเยือน
“พอตเตอร์ วีสลีย์” เสียงของเแองเจลิน่า จอห์นสันกัปตันทีมควิดิชของกริฟฟินดอร์ดังขึ้น ทำเอาแฮร์รี่กับรอนที่กำลังนั่งผิงเตาผิงอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมถึงกับสะดุ้ง
“ซ้อมควิดดิช” แองเจลิน่าพูดเดินมาที่สองคนนั่งอยู่พร้อมรอยยิ้มซึ่งรอนเห็นว่ามันกำลังจะดูดวิญญาณของพวกเขาไป
“ตอนที่อากาศหนาวอย่างนี้เนี่ยนะ เธออยากให้เราแข็งตายคาไม้กวาดหรือไง!” รอนร้องออกมาแต่แองเจลิน่าไม่ฟังเขา
“นายก็คงรู้ว่านัดหน้าเราแข่งเมื่อไหร่ และกับใครนะ!” แองเจลิน่าพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“รู้ซิเธอบอกพวกเรา เอ่อหลายรอบแล้ว” แฮร์รี่พูดขึ้นมา
“ใช่ ฉันบอกพวกนายมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วด้วยซ้ำว่า การแข่งนัดนี้สำคัญแค่ไหน” แองเจลิน่าขึ้นเสียง
“ทำไมเราต้องกลัวไอ้เจ้ามัลฟอยด้วยล่ะ ในเมื่อเราก็มีแฮร์รี่อยู่แล้ว” รอนบ่นอย่างเบื่อหน่ายเช่นกัน เขาไม่อยากจะออกไปซ้อมดวิดดิชท่ามกลางหิมะอย่างนี้นักหรอกนะ
“ถึงเราจะมีแฮร์รี่ มีซีกเกอร์ที่ดีที่สุดอยู่กับเราก็เถอะ” เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งดูอยู่แน่ใจว่าเมื่อแองเจลิน่าพูดคำว่า ‘ ซีกเกอร์ที่ดีที่สุด ’ แฮร์รี่หน้าแดงขึ้นมาทันที
“แต่ถ้าทุกคนในทีมของเราคิดอย่างนายนะวีสลีย์ เราก็คงไม่ชนะแม้แต่ฮัฟเฟิลพัฟหรอก” แองเจลิน่าพูดต่อ “เอาล่ะ ฉันไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้วนะ พวกนายไปเอาไม้กวาดมาได้แล้วเดี๋ยวฉันจะลงไปรอที่สนาม” พอเธอพูดจบก็เดินปึงปังออกจากห้องนั่งเล่นรวมไป
“ยัยๆๆๆ” รอนตั้งท่าจะด่าเธอแต่แฮร์รี่มาปรามไว้ก่อน
“ถ้านายไม่อยากซ้อมจนตายคาไม้กวาดก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” แฮร์รี่พูดและหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร
“พวกเธอไปเถอะ แต่ฉันไม่ลงไปดูนะ” แฮร์รี่ตอบก่อนที่เขาจะพูดออกมา ปกติแทบทุกครั้งที่พวกเขาซ้อมควิดดิชเธอจะไปนั่งดูข้างสนามเละเอาหนังสือไปอ่านด้วย แต่คราวนี้เธอไม่อยากหนาวตายกลางสนามควิดดิชซะก่อน
“อืม งั้นพวกเราไปนะ” แฮร์รี่พูดพยายามลากรอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างยากเย็น เพราะว่าเขาทำท่าทางอย่างกับแฮร์รี่จะจับเขาไปให้โทรล์กินงั้นแหละ
และแล้วก็ถึงวันคริสต์มาสอีฟ ในปราสาทโดยเฉพาะห้องโถงถูกตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาส และของประดับอย่างอื่นมากมาย ปีนี้ก็เป็นอย่างเช่นทุกปีที่แฮร์รี่ไม่ขอกลับบ้านไปอยู่กับพวกเดอร์ลีย์ ส่วนรอนนั้นถึงแม้ว่าเขาอยากจะอยู่ฉลองคริสต์มาสที่นี่เท่าไร แต่เมื่อแองเจลิน่ายืนกรานให้พวกเขาซ้อมควิดดิชในช่วงวันหยุดด้วยรอนก็อยากจะหนีกลับบ้านโพรงกระต่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ยัยนั่นบ้าไปแล้ว” รอนพูดออกมาระหว่างที่เขาพยายามจะยัดน่องไก่งวงชิ้นเท่าช้างลงไปในท้องขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารเช้ากันอยู่
“จะให้ฉันซ้อมจนตายคาไม้กวาดหรือไงนะ ถึงขนาดต้องซ้อมวันหยุดด้วย คริสต์มาสแท้ ๆ ” รอนบ่น
จนเสร็จและหันไปจัดการกับขนมปังต่อ
“แต่เธอใกล้แข่งแล้วนะรอน แล้วคราวนี้ก็เป็นรอบชิงแล้วด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอกำลังนั่งจิบชาบนโต๊ะมีหนังสือ ‘ คู่มือการสอบ ว.พ.ร.ส. ภาคปฏิบัติ ’ กางอยู่
“ฉันรู้ว่าเราใกล้แข่งแล้ว แต่ซ้อมควิดดิชวันคริสต์มาสนี่นะ ไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ” รอนบ่นอุบ เขาซดน้ำฟักทองไปเกือบหมดเหยือกในทีเดียว “ฉันว่าถ้าตอนแข่งฉันเกิดเป็นลมขึ้นมาก็เพราะว่าซ้อมมากไปแน่ ๆ ”
“แต่แองเจลิน่าให้เราหยุดซ้อมได้ในวันพรุ่งนี้นี่” แฮร์รี่พูดขึ้นมา เขาเพิ่งเงยหน้าจากเบคอนของเขาเมื่อกี๊
“ใช่หยุด แค่วันเดียว! ทั้ง ๆ ที่คนอื่น ๆ ได้หยุดอย่างสบายตลอดทั้งอาทิตย์” รอนเถียงกลับขณะที่มือของเขาควานหาอาหารมายัดใส่ปากอีก
“ถึงยังไงเธอก็ต้องซ้อมนะรอน ดูฉันสิฉันยังไม่หยุดอ่านหนังสือเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ
“แต่เธอก็อ่านเพราะอยากอ่านนี่ แบบว่าเธอมีความสุขกับมัน” รอนพูดมองไปที่หนังสือ ‘ คู่มือการสอบ ว.พ.ร.ส. ภาคปฏิบัติ ’ แล้วทำหน้าสยอง
“แล้วเธอไม่มีความสุขกับการเล่นควิดดิชหรือ เธอถูกบังคับให้เล่นหรือเปล่าล่ะรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูด และก่อนที่รอนจะได้อ้าปากเถียงเธอ
“หรือว่าเธออยากจะปล่อยให้ถ้วยตกไปอยู่ในมือพวกสลิธีรินก็ตามใจเธอนะ” เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาและรอนก็ยอมจำนนต่อคำพูดของเธอ
“แล้วเธอล่ะเฮอร์ไมโอนี่ ปีนี้เธอไม่กลับบ้านเหรอ” แฮร์รี่ถามหลังปิดฉากการเถียงเรื่องควิดดิช
“แฮร์รี่เธอก็รู้นี่ว่าฉันต้องอยู่ที่นี่เพื่ออ่านหนังสือสอบ คือฉันคิดว่าการสอบ ว.พ.ร.ส. น่ะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก…” เฮอร์ไมโอนี่เตรียมร่ายเหตุผลยาวยืดของเธอ
“แต่นั่นมันอีกตั้งนานนะเฮอร์ไมโอนี่” รอนขัดขึ้น
“มันไม่นานเลยนะรอน เวลาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น เธอรู้มั้ยว่าเนื้อหาที่ออกข้อสอบ ว.พ.ร.ส. น่ะเยอะแค่ไหน แล้วยังจะมี ….” ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะร่ายบทสวดของเธอจนจบแองเจลิน่าก็เข้ามาขัดจังหวะพอดี
“พอตเตอร์ วีสลีย์” เธอร้องเสียงใส ขณะที่รอนและแฮร์รี่ทำหน้าสยอง
“ควิดดิช” ทั้งสองพูดพร้องกันท่าทางปลง ๆ
และในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่างห่อเหี่ยวของเพื่อนเธอทั้งสองคนเดินตามแองเจลิน่าไปโดยดี
TBC
No comments:
Post a Comment