“เฮอร์ไมโอนี่!” แฮร์รี่ร้องอย่างตกใจ เขารีบเข้าไปประคองร่างหมดสติของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาพื้น ในขณะที่แพนซี่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เธอมองเฮอร์ไมโนี่อย่างสะใจที่สุด
แกไม่มีวัน ไม่มีวันจะได้มีครอบครองเดรโกอีกต่อไป!!!
“เธอ!” แฮร์รี่คำราม “รีคัตโต!” เขาตะโกนชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่แพนซี่และเธอเมื่อเธอล้มลงกับพื้นแฮร์รี่ก็เสกเชือกเวทย์มนตร์มามัดเธอไว้
“แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่เป็นอะไรไป!” รอนพูดอย่างตกใจเมื่อเขาเห็นแฮร์รี่อุ้มร่างไร้สติของเฮอร์ไมโอนี่ออกมาจากห้องนั้น
“เธอได้รับบาดเจ็บ เราต้องพาเธอไปโรงพยาบาล” แฮร์รี่พูดอย่างร้อนรน “ฝากทางนี้ด้วยนะรอน” เขาพูดและเมื่อรอนพยักหน้ารับแฮร์รี่ก็หายตัวไปทันที
*************************************************
เพล้ง!!! กรอบรูปใบสวยที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของมัลฟอยหล่นลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เศษแก้วแตกกระจายเต็มพื้นห้องของเขา มัลฟอยค่อย ๆ ก้มลงไปเก็บมันขึ้นมาช้า ๆ เขาค่อย ๆ หยิบภาพของเฮอร์ไมโอนี่มาจากกองเศษแก้วนั้น
“โอ๊ย!” มัลฟอยร้องเมื่อเศษแก้วอันเล็ก ๆ บาดเข้าไปในเนื้อของเขาจนเลือดออก แต่มัลฟอยกลับดึงมันออกอย่างไม่ใส่ใจ ในมือของเขาก็ถือรูปของเฮอร์ไมโอนี่ไว้อย่างทะนุถนอม
“เฮอร์ไมโอนี่” เขาพึมพำเบา ๆ ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจอย่างแปลกประหลาด แม้มัลฟอยจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่เขาก็พอจะรู้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่พบว่าตัวเองกำลังหลงทางอยู่ในความมืด ไม่ว่าเธอมองไปทางไหนก็ไม่มีสิ่งใดนอกจากความมืดมิด ราวกลับว่าเธอกำลังหลงทางอยู่ในขวดหมึกใบใหญ่
ที่นี่มันที่ไหนกัน เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด ทำไมเธอถึงไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้
เฮอร์ไมโอนี่ลองก้าวเดินไปอย่างไร้ทิศทาง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันก็ไม่ต่างกับที่เธอยืนอยู่กับที่สุกเท่าไหร่เลย เพราะไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหนเธอก็ไม่อาจหลุดพ้นมันไปได้
“ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนออกมาอย่างหมดหวัง เธอทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้
“เป็นอะไร เฮอร์ไมโอนนี่” เสียงยานคางที่คุ้นเคยดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นทันที และเธอก็พบเขา เดรโก มัลฟอย กำลังจ้องมองเธออยู่
“เดรโก!” หญิงสาวตะโกนออกมาอย่างดีใจ เธอโผกอดเขาในทันที “ฉันกลัว” เธอสะอื้นขณะที่ชายหนุ่มลูบหัวเธออย่างปลอบโยน
“เธอกลัวอะไร” เขาถามอย่างอ่อนโยน
“ฉัน…” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก “ฉันก็ไม่รู้” หญิงสาวตอบ
“ฉันก็อยู่นี่ไง เธอไม่ต้องกลัวอีกแล้ว” ชายหนุ่มกระชับร่างของหญิงสาวให้แน่นขึ้น เหมือนย้ำเตือนให้เธอมั่นใจ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่ใกล้ ๆ เธอไม่ไปไหน” มัลฟอยพูด มองตาหญิงสาว “ฉันรักเธอ”
“ฉันเองก็รักเธอ” เฮอร์ไมโอนี่พูด และมัลฟอยก็ก้มหน้าลงมาเพื่อจะจูบเธอ แต่ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะสัมผัสกัน ร่างของมัลฟอยก็สลายกลายเป็นควันไปต่อหน้าต่อตาเฮอร์ไมโอนี่!
“เดรโก!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกเขา “เดรโก เดรโก!”
”เดรโก!!!”
เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นจากฝัน เม็ดเหงื่อมากมายผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอราวกับเธอเพิ่งผ่านการออกกำลังกายอย่างหนักมา แต่แปลกตรงที่เมื่อเธอตื่นเธอกลับจำเรื่องราวที่เธอฝันไม่ได้เลย ซักนิดเดียว!
ที่นี่ที่ไหน เฮอร์ไมโอนี่คิด เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่ถูกทาสีขาวสะอาดตา ผ้าม่านสีขาวไหวเบา ๆ ไปตามแรงลม แต่ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้สำรวจห้องไปมากกว่านั้น ประตูสีขาวที่อยู่ไม่ห่างจากเตียงของเธอก็เปิดขึ้นเสียก่อน ชายหนุ่มสองคนกำลังเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน ตามด้วยชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวสะอาด
“เฮอร์ไมโอนี่!” ชายหนุ่มผมแดง ใบหน้าตกกระคนหนึ่งพูดอย่างร้อนรน “เธอเป็นอย่างไรบ้าง!”
“นั่นสิ เธอเป็นอะไรรึเปล่า” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งผู้มีผมดำยุ่งเหยิง สวมแว่นทรงกลม และมีรอยแผลรูปสายฟ้าที่หน้าผากพูดด้วยท่าทีไม่ต่างจากชายหนุ่มคนแรกเท่าไหร่นัก ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรพวกเขาไป เธอเพียงแค่จ้องหน้าพวกเขาราวกับคนสายตาสั้นที่ลืมใส่แว่นมา และเธอก็เริ่มพูด
“แฮร์รี่…รอน….” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำด้วยท่าทีราวกับคนสมองช้า
“ก็ใช่พวกเราน่ะสิ” รอนร้อง “ให้ตายสิเฮอร์ไมโอนี่ เธอโอเคไหมเนี่ย” เขาพูด
“ฉันต่างหากที่ต้องพูดอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงแหลม “ให้ตายสิ ทำไมพวกเธอถึงตัวโตอย่างนี้” เธอพูดมองเพื่อนทั้งสองอย่างแปลกใจ “ฉันรู้แล้ว พวกเธอต้องไปกินลูกอมประหลาดของเฟร็ดกับจอร์จอีกแล้วใช่ไหม ฉันบอกเขาแล้วนะว่าอย่าเอาของพวกนี้มาทดลองกับนักเรียนอีก” เฮอร์ไมโอนี่พูดยาวเหยียด ส่วนรอนและแฮร์รี่นั้นมองเธอด้วยสีหน้างงงวยอย่างที่สุด
“เฮ้ นี่เธอละเมอหรือไงเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดอย่างตกใจเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พูดราวกับว่าเธอยังเป็นนักเรียนที่ฮอกวอตส์อยู่ทั้ง ๆ ทีมันผ่านไปนานแล้ว แต่ดูเหมือนเฮอร์ไมโอนี่จะไม่สนใจที่เขาพูดเลย
“เธอไม่ได้ละเมอหรอกครับ แต่เป็นผลจากคาถาต่างหาก” ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ในห้องพูดขึ้น
“แล้วเธอเป็นอะไรล่ะครับ คุณหมอ” แฮร์รี่ถามด้วยท่าทีกังวล
“ความทรงจำของเธอคงขาดหายไปน่ะครับ” เขาพูดด้วยสีหน้าวิตก “คาถาที่เธอโดนก็คือคาถาลบควมาทรงจำ” หมอพูดและเมื่อแฮร์รี่และรอนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ถึงกับกลืนน้ำลาย พวกเขารู้ผลที่ตามมาดี
“แต่คาถาที่เธอโดนไม่สมบูรณ์นัก อาจจะเนื่องมาจากผู้ที่ตั้งใจสาปเธอไม่มีพลังพอ หรืออาจจะมาจากสาเหตุอื่น ๆ เลยทำให้ความทรงจำของเธอไม่ได้หายไปทั้งหมด แค่เพียงขาดหายไปเท่านั้น” คุณหมออธิบาย
“แต่ เธอก็จำพวกเราได้นี่ครับ” แฮร์รี่พูด เพราะจากที่เขาดูแล้วเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้มีสภาพแน่ถึงขนาดจำอะไรไม่ได้เหมือนล็อกฮาร์ท
“ครับ เพราะว่าความทรงจำส่วนที่มีพวกคุณอยู่ของเธอไม่ได้ขาดหายไปทั้งหมด” คุณหมออธิบายในขณะที่คนอื่น ๆ ทำหน้าไม่เข้าใจ “ผมคาดว่าความทรงจำของเธอคงขาดหายไปเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้น แต่เป็นช่วงเวลาใดผมไม่อาจบอกได้ครับ คุณคงต้องให้ตัวคนไข้ตอบเอง” และเมื่อเขาพูดจบทุกคนก้หันไปมองที่เฮอร์ไมโอนี่
“แฮร์รี่ รอน นี่มันอะไรกัน” เธอพูดอย่างสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“เธอจำพวกเราได้ใช่ไหม เฮอร์ไมโอนี่” รอนถามอย่างหวั่น ๆ
“ก็ได้น่ะสิ แล้วทำไมฉันจะจำพวกเธอไม่ได้ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างหวั่น ๆ เช่นกัน
“งั้น คุณจำอะไรได้บ้างครับ” คุณหมอถามเฮอร์ไมโอนี่
“ฉัน เอ่อ…” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก
“พูดมาเถอะครับ คุณจำได้ไหมว่าคุณเป็นใคร” เขาถามอย่างใจเย็น
“ฉันชื่อ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” เธอพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด “ฉันเป็นนักเรียนชั้นปีห้าของฮอกวอตส์”
*************************************************
ณ ตึกสูงระฟ้าใจกลางกรุงลอนดอน เดรโก มัลฟอย กำลังเข้าประชุมในฐานะของผู้ถือหุ้นมากที่สุดในบริษัท ขณะที่การประชุมกำลังดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด
“ผมคิดว่าเราควรจะร่วมทำการค้ากับนายทุนอเมริกา พวกเราสามารถซื้อสินค้าของเขา โดยให้ราคาต่ำกว่าที่เราค้าขายอยู่กับยุโรป” ชายหนุ่มวัยกลางคน ๆ หนึ่งกล่าวในที่ประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขามีศีรษะที่ล้านเลี่ยน
“ทำไมคุณถึงอยากจะเปิดการค้ากับอเมริกานักล่ะ” มัลฟอยซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะในฐานะ ‘ ประธานบริษัท ‘ กล่าวถามด้วยสายตาคบกริบ
“ก็ผมบอกไปแล้วไงว่าทางอเมริกาจะขายสินค้าให้ในราคาต่ำกว่ายุโรป” ชายคนนั้นพูดด้วยท่าทีโผงผาง ในขณะที่มัลฟอยขัดขึ้นมาทันทีที่เขาพูดจบ
“ที่คุณต้องการให้ทางบริษัทเราเปิดการค้ากับอเมริกาไม่ใช่เพราะว่าคุณต้องการเงินที่เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเขาเสนอให้โดยไม่ผ่านบริษัทหรือ” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ หากแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ จนชายที่ถูกเอ่ยถึงสะดุ้ง
“คุณจะหาว่าผมคิดจะคอรัปชั่นงั้นเหรอคุณมัลฟอย” ชายคนนั้นพูดด้วยใบหน้าที่เป็นสีแดง
“ผมยังไม่ได้พูดอย่างนั้นเลยคุณเฮนสัน” มัลฟอยพูดอย่างเรียบเฉย “คุณร้อนตัวไปเองมากกว่ากระมัง”
“แต่ถึงยังไงผมก็ยังยืนยันในความคิดของผม ผมคิดว่าบริษัทของเราจะได้รับกำไรมหาศาลหากเราเปิดการค้ากับทางอเมริกา” มิสเตอร์เฮนสันหันไปพูดกับผู้ร่วมประชุมคนอื่น ๆ และก็มีเสียงพึมพำทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
“กำไรมหาศาลงั้นหรือ” มัลฟอยพึมพำด้วย เขากำลังทำท่าเหมือนครุ่นคิด “เราสามารถซื้อสินค้าจากอเมริกาได้ในราคาถูกกว่ายุโรป แต่ไม่มีการรับประกันว่าสินค้านั้นจะมีคุณภาพเท่ายุโรปรึเปล่า และที่สำคัญกำไรมหาศาลที่บริษัทสมควรจะได้รับอาจจะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น โดยที่ทางบริษัทไม่รู้” มัลฟอยพูดจงใจมองไปที่มิสเตอร์เฮนสันด้วยสายตาเฉียบคม
“ผมก็แค่เสนอความคิดเห็นเท่านั้น ผมเห็นว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง” มิสเตอร์เฮนสันเอ่ยตะกุกตะกัก
“เราจะไม่เปิดการค้ากับอเมริกาตอนนี้ มีใครไม่เห็นด้วยกับผมไหม” มัลฟอยเอ่ยอย่างเด็ดขาด และทั้งห้องประชุมก็เงียบกริบ มัลฟอยมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างพอใจ
“ดี” เขาพูด “เอาล่ะต่อไปเราจะพูดกันเรื่อง….”
“ก๊อก ๆ ๆ ” เสียงเคาะประตูอย่างเกรง ๆ ดังขึ้นขัดจังหวะการพูดของมัลฟอย ประตูห้องประชุมค่อย ๆ เปิดออกหลังเผยให้เห็นร่างชายหนุ่มคนหนึ่ง แซมนั่นเอง
“ฉันสั่งแล้วใช่ไหมว่าเวลาประชุมห้ามรบกวน” มัลฟอยพูดเสียงเข้ม แววตาไม่พอใจการกระทำของลูกน้องคนสนิท
“มีจดหมายด่วนถึงท่านครับ ผมคิดว่าท่านควรอ่าน” แซมพูดในมือถือจดหมายฉบับหนึ่งไว้ มีตราประทับหน้าจดหมายว่า ‘ ด่วนมาก ‘ มัลฟอยรับมันมาดูอย่างงง ๆ มันไม่มีชื่อผู้ส่งประทับอยู่ และเมื่อเขาฉีกมันมาอ่าน
ถึง มัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าจับกุมมือปราบมารในวันนี้ ตอนนี้เธออยู่ที่เซนต์มังโก ฉันคิดว่านายควรรู้
จาก พอตเตอร์
เมื่อมัลฟอยอ่านจดหมายจบเขาก็ขยำมันคามือของเขา ใบหน้าเป็นสีแดง
“แซม บอกทุกคนว่าปิดประชุมแค่นี้” เขากล่าวพูด
“ครับ ท่าน ท่านไม่มีอะไรจะบอกพวกเขาใช่ไหมครับ” แซมถามมองไปที่คนทั้งห้องประชุมที่กำลังส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นมาที่มัลฟอย
“ไม่ต้อง บอกแค่นั้นแหละ!” มัลฟอยกัดฟันก่อนที่จะหายตัวไปจากห้องประชุม ในทันที!
*************************************************
“เธอบอกว่าเธออยู่ปีห้างั้นเหรอ เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็ทำหน้างง ๆ กับคำถามของรอน
“ก็ใช่น่ะสิ รอน เธอเองก็อยู่ปีห้า” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“แสดงว่าความทรงจำของเธอขาดหายไปในช่วงที่เธออายุ 15 จนถึงปัจจุบัน” คุณหมอสรุป “แล้วคุณจำอะไรนอกจากนั้นได้ไหมครับคุณเกรนเจอร์”
“ฉัน ฉันจำได้ว่าฉันเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ ฉันจำได้ว่า” เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าครุ่นคิด “ตอนนี้ใกล้สอบ ว.พ.ร.ส. แล้วด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่แน่ใจ ส่วนแฮร์รี่กับรอนเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็แน่ใจว่าเธอยังคงเป็นเฮอร์ไมโอนี่ที่พวกเขารู้จัก เธอไม่เคยลืมเรื่องเรียนแม้แต่วินาทีเดียว
“แล้วยังมีอะไรที่คุณจำได้อีกไหมครับ” คุณหมอถาม ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นทำหน้าครุ่นคิดอีกครั้งก่อนจะส่ายศีรษะตอบเขา
“ถ้างั้นผมว่าพวกคุณควรเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังแล้วล่ะครับ” คุณหมอหันไปพูดกับแฮรี่และรอน
“แล้ว มีทางที่เราจะรักษาเธอได้ไหมครับ” แฮร์รี่ถามอย่างวิตก เขาไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้
“ทางมันก็พอมีหรอกครับ แต่มันต้องใช้เวลา และต้องขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยด้วย เอาเป็นว่าตอนนี้พวกคุณอธิบายให้เธอทราบถึงเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนดีกว่าครับ แล้วเดี๋ยวผมจะให้คนจัดยามาให้” เขาพูดและเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้แฮร์รี่และรอนเผชิญกับความหนักใจเป็นที่สุด
“เอ่อ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่กล่าวพลางนั่งลงบนโต๊ะข้าง ๆ เตียงที่เธอนอนอยู่
“ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่” เฮอร์ไมโอนี่ถามทันทีที่แฮร์รี่พูดจบ ส่วนรอนนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งตามแฮร์รี่ “ฉันเป็นอะไรกันแน่” เธอถาม แฮร์รี่และรอนมองหน้ากันแวบนึงก่อนที่จะตอบ
“อย่างที่คุณหมดพูดแหละเฮอร์ไมโอนี่ ความทรงจำของเธอขาดหายไป” แฮร์รี่ตอบ
“หมายความว่ายังไง” เธอถาม
“คือ ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นเด็กนักเรียนอายุ 15 น่ะสิเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดขึ้นมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“แล้วฉันเป็นอะไร” เธอถามอีกครั้ง มองหน้าเพื่อนรักของเธอทีละคน
“เธอเป็นมือปราบมาร เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ตอบเธอ “และตอนนี้เธอก็อายุ 21 แล้ว”
“ฉันเนี่ยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจ ถ้าที่พวกเขาพูดเป็นความจริงความทรงจำของเธอก็ต้องขาดหายไปถึง 6 ปีน่ะสิ
“ใช่ ไม่เชื่อเธอลองดูกระจกสิ” รอนพูดพลางยื่นกระจกเงาแบบถือที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงให้เธอ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ก็รับมาดูเธอก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น อย่างที่รอนบอกจริง ๆ เธอไม่ใช่เด็กสาววัย 15 อีกต่อไปแล้ว เธอดูโตขึ้น เธอโตเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกับแฮร์รี่และรอน เฮอร์ไมโอนี่เอามือสัมผัสใบหน้าตัวเองราวกับจะทดสอบว่าที่เธอเห็นคือภาพลวงตาหรือเปล่า
“เกิดอะไรขึ้นกับฉัน” เธอหันมาถามเพื่อนทั้งสอง ที่ตอนนี้หันมาสบตากันเองเหมือนจะปรึกษากันในใจว่า ‘ นายแหละ เล่าให้เธอฟัง ’
“มันเป็นอุบัติเหตุ” แฮร์รี่เริ่มพูด “พวกเรา เธอ ฉัน และรอนได้รับคำสั่งให้บุกเข้าจับกุมผู้เสพความตายกลุ่มหนึ่ง” เสียงของแฮร์รี่ขาดห้วงไป เขาหยุดพูดและถอนหายใจ “แต่โชคร้ายที่เธอโดน เอ่อ ผู้เสพควมาตายคนหนึ่งสาป แต่อย่างที่คุณหมดบอกคำสาปไม่สรบูรณ์ ความทรงจำของเธอเลยขาดหายไปเพียงบางส่วนเท่านั้น” แฮร์รี่อธิบายโดยไม่เอ่ยชื่อของแพนซี่ “ฉนหมายความว่า ความทรงจำของเธอในช่วงปีห้าจนถึงทำงานหายไปน่ะ” แฮร์รี่กล่าว โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าตกใจระคนสงสัย
“เอ่อ งั้น เธอช่วยเล่าเรื่อง เอ่อ ต่อจากที่ฉันจำได้ ฉันหมายถึงเรื่องที่ฉันลืมไปน่ะให้ฟังได้ไหม” เธอพูดตะกุกตะกัก
“ได้ซิ” แฮร์รี่ตอบ “หลังจากนั้นเธอก็เรียนจบ เอ่อ เธอได้เป็นประธานนักเรียนด้วยแล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะเป็นมือปราบมารเหมือนพวกเรา แล้วพวกก็เลือกเธอ เฮอร์ไมโอนี่ และ…” แฮร์รี่เล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้เฮอร์ไมโอนี่ฟัง
“แล้วฉัน เอ้อ มีคนรักไหม” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะเธอจำไม่ได้จริง ๆ ว่าหลังจากนั้นเธอได้รักใครรึเปล่า เธอจำได้เพียงแค่ เธอชอบแฮร์รี่เท่านั้น
“เอ่อ เธอ” แฮร์รี่อึกอักเขาหันไปสบตารอน นี่เฮอร์ไมโอนี่จำเรื่องระหว่างเธอกับมัลฟอยไม่ได้รึ แฮร์รี่คิด และก่อนที่เขาจะได้ตอบอะไรออกไป ประตูห้องก็เปิดอย่างแรง เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มผมบลอนด์ ผิวซีดคนหนึ่ง มัลฟอยนั่นเอง
“เฮอร์ไมโอนี่!” เขาวิ่งไปหาเธอท่ามกลางความงงงวยของเฮอร์ไมโอนี่และสวมกอดเธอทันที ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าตกใจก่อนจะผลักเขาออกห่าง
“นายจะทำอะไรน่ะ มัลฟอย!” เธอตะโกนลั่นห้องพัก ส่วนมัลฟอยนั้นยืนมองเธออย่างแปลกใจ
“ทำไมล่ะ ฉันเป็นห่วงเธอนะ” มัลฟอยพูดกระท่อนกระแท่น เขารู้สึกว่าสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่มองมาทางเขานั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“พอตเตอร์ วีสลีย์ แกทำอะไรเธอ!!!” มัลฟอยพูดอย่างโกรธแค้นพลางชักไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา ส่วนแฮร์รี่กับรอนก็ไม่รอช้า พวกเขาต่างชักไม้กายสิทธิ์ของตนเองขึ้นมาเช่นกัน
“หยุดนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ลุกจากเตียงลงมาห้ามพวกเขา “นี่มันอะไรกันนี่!” เธอพูดอย่างตกใจ
“พวกแกทำอะไรเธอ!” มัลฟอยคำรามสีหน้าดุดัน
“ฉันไม่เคยทำอะไรเพื่อนรักของฉันหรอกมัลฟอย” แฮร์รี่พูดพยายามเก็บอารมณ์อย่างมาก
“ใช่ คนที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เป็นอย่างนี้ก็คือยัยหน้าหงิกพาร์กินสันยังไงล่ะ” รอนพูดเสริม
“เฮอร์ไมโอนี่เป็นอะไร” มัลฟอยพูด ลดไม้กายสิทธิ์ในมือลง
“ความทรงจำเธอขาดหายไป” แฮร์รี่พูด “เป็นเวลา 6 ปี”
“หมายความว่ายังไง” มัลฟอยพูดมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ
“ก็หมายความว่าเธอจำเรื่องราวของนายไม่ได้น่ะสิ มัลฟอย” แฮร์รี่ตอบเสียงเรียบ
TBC
No comments:
Post a Comment