Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Sunday, September 14, 2014

Part II อดีตที่หวนคืน: Chap 2


เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตื่น และลุกพรวดขึ้นมานั่ง และต้องตกใจเมื่อเห็นดวงตาสีเทาซีดจ้องมองมาที่เธอใกล้มาก..

“เฮ้ย!” เธอร้องเสียงดัง “นายสมองกระทบกระเทือนหนักรึไง มานั่งทำอะไรตรงนี้”

“ก็ฉันเห็นเธอนอนไม่เป็นสุขเลยลุกขึ้นมาดู” เขากล่าว “ทำไมนึกว่าฉันเป็นเอลฟ์ที่มาจ้องให้เธอตื่นรึไง 
แล้วเธอเป็นอะไรไปล่ะ”

“ฉัน..ฝันร้ายน่ะ” เธอตอบแล้วสะบัดสิ่งที่เธอฝันทิ้ง แล้วเปลี่ยนเรื่อง “พูดถึงเอลฟ์นะ ฉันว่านายน่าจะเข้าร่วม ส.ร.ร.ส.อ.นะ”

“อะไรนะ”

“ส.ร.ร.ส.อ.” เธอทวน “สมาคมเรียกร้องสิทธ์เอลฟ์น่ะ”

“ไอที่เธอเดินแจกใบปลิวไปทั่ว ตอนปีสี่นะเรอะ” เขาพูดไม่แสดงท่าทีว่าสนใจ

“ใช่ เพื่อความเป็นอยู่ที่เป็นธรรมของเอลฟ์ ในบ้านของนาย ก็น่าจะเริ่มจากตัวนายก่อน..”
 เธอพูดพล่ามให้เขาฟังไปเรื่อยๆแต่เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า

“เฮอะ นี่เธอ” มัลฟอยขัดขึ้น “เธอหาว่าว่าฉันทารุณเอลฟ์อย่างนั้นหรือ”

“ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นซะหน่อย”

“ฉันว่าเธอน่าจะล้มเลิกสมาคมบ๊องๆนี่นะ” เขาว่า

“นายอย่ามาพูดกับฉันอย่างนี้นะ” เธอเริ่มไม่พอใจและอารมณ์เสียซะแล้ว

“เกรนเจอร์ผู้แสนฉลาด เธอน่าจะรู้นี่ ว่าเอลฟ์มันชอบเป็นทาส มีสักกี่ตัวกันที่อยากจะถูกไล่ออกน่ะ”

“มีละกันน่า” เธอตอบ

“ถ้าเธอหมายถึง ด๊อบบี้ล่ะก็นะ” เขากัดฟัน มองผ่านหน้าต่างดูท้องฟ้ายามราตรีอย่างเหม่อลอย..

“ฉันว่ามันคงจะทำโทษตัวเองเป็นล้านครั้งได้แล้วมั้ง”

“ก็ได้ นายไม่อยากเข้าร่วมก็บอกกันดีๆก็ได้นี่ พ่อคนชอบปฏิบัติต่อผู้ที่ด้อยกว่าเยี่ยงทาส 
ขอบคุณนะที่ไม่ได้ทำกับฉัน เลือดสีโคลนที่นายพร่ำพูด อย่างนั้น” เธอว่าแล้วสะบัดผ้าห่ม 
แล้วเดิน กระโผกกระเผก ออกจากห้องพยาบาลไป

“เฮ้ เธอเคยเห็นฉันทารุณเอลฟ์แล้วรึไง” เขาตะโกน แต่เธอไม่สนใจเลยซักนิด “โธ่แค่นี้ทำเป็นน้อยใจไปได้”

เขาพึมพำแล้ววิ่งตามเธอออกไป แต่ไม่มีวี่แววของเธอเลย “อะไรกัน ขายังเจ็บอย่างนั้น ทำไมเดินเร็วจัง”
 เขาเดินหาเธอไปทั่ว แต่เมื่อไม่พบแล้วจึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องพยาบาลด้วยความคิดที่ว่า
 เธอคงกลับหอกริฟฟินดอร์ไปแล้ว เขามองดูเตียงที่ยุ่งเหยิงของเธอก่อนล้มตัวลงนอน

. . . . . . .

แสงตะวันยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา กระทบกับดวงตาสีซีดที่ลืมตาตื่นขึ้น
 มัลฟอยปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่าง และพบว่า มาดามพรอมฟรีย์เดินไปทั่วห้อง 
เขานึกถึงเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินออกจากห้องพยาบาลไปเมื่อคืน เขามองไปที่เตียงที่เธอเคยนอน
 ตอนนี้มันถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ

“อรุณสวัสดิ์ มิสเตอร์มัลฟอย รู้สึกยังไงบ้าง” มาดามพรอมฟรีย์ถาม

“เอ่อ ดีฮะ” เขาตอบ “มาดามฮะ เกรนเจอร์..”

“อ้อ มิสเกรนเจอร์ เพิ่งจะกลับไปเมื่อครู่นี่เอง”

ความงุนงงผุดขึ้นในใจเขา

“งั้นผมไปได้รึยังฮะ” เขาถาม

มาดามพรอมฟรีย์พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้า นั่นเพิ่มความหงุดหงิดให้เขาเป็นอย่างมาก
 อีกคืนหนึ่งที่ต้องนอนในห้องพยาบาลอย่างเบื่อหน่าย 

                                                                            . . . . . . . . 

หลังจากนั้น เมื่อเขามีโอกาสที่จะพูดคุยกับเฮอร์ไมโอนี่ เธอจะมองเขาด้วยแววตาที่เมินเฉย 
หรือไม่ก็ส่งสายตาเป็นเชิงว่า ‘เราเคยรู้จักกันด้วยหรือ’ และทำเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาพูดลอยผ่านหูของเธอไป
 จากนั้นเขาจึงเปลี่ยนวิธีเข้าหาเธอด้วยการกลั่นแกล้งอะไรเธอซักอย่าง เช่น เดินชนเธอบ้าง
 แต่เธอก็หลุดออกมาแค่ ‘ขอโทษ’ และเมื่อเขาถากถางเรื่องสายเลือดของเธอ เธอก็จะตอบกลับมาว่า
 ‘ขอบคุณ’ และทำให้คำพูดของเธอที่ว่า ‘ขอบคุณนะที่ไม่ได้ทำกับฉัน เลือดสีโคลนที่นายพร่ำพูด อย่างนั้น..อย่างเอลฟ์ที่ถูกทารุณ’ และเมื่อเขาจู่โจมโดยเข้าประชิดตัว แทนที่เธอจะใช้ไม้กายสิทธ์ 
แต่เธอกลับใช้ของเล่นตลก จากร้าน เกมกลวิเศษวีสลีย์ ของฝาแฝดวีสลีย์แทน อาจจะเป็นเพราะเขา
 เธอจึงพกของเล่นตลกนั่นติดตัว และเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจ ด้วยความไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำ
ไมต้องไปตามง้อให้เธอหายโกรธ

จนกระทั่ง งานเกมกลผู้วิเศษ เริ่มขึ้นด้วยการอธิบายกฎกติกาของเกมโดยศาสตราจารย์มักกอนนากัล

“เริ่มด้วย นักเรียนทุกคนจะต้องมีคู่ และไม่จำเป็นว่าต้องบ้านหรือปีเดียวกัน โดยจะทำการจับคู่ด้วยคาถา
 ‘อาเมทเท’ เธอจะได้ยินเสียงคู่ของตนดังอยู่ในใจ คนหนึ่งจะต้องอยู่ที่ห้องโถงใหญ่คอยแก้ปริศนาที่จะปรากฏอยู่เรื่อย
 เมื่ออีกคนต้องคอยผจญภัยด่านต่างๆทั่วฮอกวอตส์ แน่นอนว่า พวกเธอต้องสื่อสารกับคู่ของตนทางจิต 
แค่เพียงคิดถึงคู่ของตนเท่านั้น และสิ่งที่เธอต้องทำคือ หาชิ้นส่วนของคำใบ้ปริศนาให้พบตามด่านต่างๆ อ้อ
 เกมนี้จะใช้เวลาห้าวัน เพื่อที่เธอจะได้รวมหัวคิดคำตอบจากคำใบ้กัน และแน่นอนว่ามันมีผลต่อคะ
แนนการเรียนของเธอด้วย”

หลังจากนั้น ทุกคนก็พึมพำว่า ‘อาเมทเท’ และหนึ่งในนั้นก็คือ เฮอร์ไมโอนี่ ทันใดสาวน้อยก็ได้ยินเสียงคู่ของเธอ

“สวัสดี” เสียงนั้นทักทาย เป็นเสียงที่คุ้นจัง เสียงของเด็กหญิง..

“สวัสดี” เธอตอบ “จินนี่หรือ”

“เฮอร์ไมโอนี่”

“ใช่แล้ว” เธอตอบแล้วเริ่มมองหาจินนี่

“ฉันอยู่ตรงนี้ เฮอร์ไมโอนี่”  เสียงของจินนี่ดังขึ้นจากภายนอกและภายใน สองสาวยิ้มให้กัน

. . . . . . . . 


“เธออยู่ตรงไหนแล้ว เฮอร์ไมโอนี่” เสียงของจินนี่ถามขึ้น

“คุกใต้ดินน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ เธอเลือกที่จะมาเพ่นพล่านทั่วฮอกวอตส์ แล้วให้จินนี่ไขปริศนาที่ห้องโถงใหญ่ 
เนื่องจากเฮอร์ไมโอนี่ใช้คาถาได้ดีกว่าจินนี่ และแน่นอนว่าเธอก็สามารถช่วยจินนี่ไขปริศนาระหว่างด่าน
ได้ตามทางเดิน “ต่อไปล่ะ”

“เอ่อ ห้องขนาดใหญ่คล้ายห้องโถงใหญ่” จินนี่กำลังใช้ความคิด แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ 
“ห้องครัว ใช่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่ ห้องครัว”

โดยไม่มีความลังเล เธอตรงไปที่ห้องครัว ซึ่งใครคนหนึ่งเข้าไปในนั้นและกำลังจะปิดประตู

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งปิด” เธอร้องเรียก

ใครคนนั้นหันมาหาเธอ “อ้อ นึกว่าใคร ที่แท้ก็เกรนเจอร์นี่เอง” มัลฟอยส่งเสียงทักทาย

เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว เธอล่ะอยากจะไปที่อื่นซะจริง แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรกับเขา แค่เพียงเดินผ่านเขาเข้า
ไปในห้องครัว

“นี่เธอเมื่อไหร่จะหายโกรธฉันล่ะเนี่ย”

เฮอร์ไมโอนี่ทำเป็นไม่สนแต่คิ้วเธอขมวด เพราะอารมณ์ที่เพิ่งจะเกิด เธอมองไปรอบๆห้อง
 บนโต๊ะยาวสี่ตัวเหมือนห้องโถงใหญ่ เต็มไปด้วยอาหารนานาชนิด เธอจึงส่งข้อความเสียงไปหาจินนี่

“ถึงแล้ว แล้วไงต่อ”

………“เยี่ยมเลย” จินนี่ตอบกลับมา “เอ่อ ต่อไปก็..”………

“เกรนเจอร์” มัลฟอยแทรกขึ้น

“เฮอร์ไมโอนี่ แถวนั้นมีใครอยู่บ้างล่ะ” จินนี่ถาม

“ก็มีนะ” เธอตอบ 

“นี่เธอ ฉันถามเธอน่ะได้ยินมั๊ย” มัลฟอยพูดขึ้น จ้องมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งบัดนี้ละสายตาจากอาหารมา
ที่ใบหน้าของเขา มัลฟอยย่างก้าวมาหาเธอ ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สนใจ เอลฟ์ประจำบ้านที่กำลังเข้ามาลายล้อม 
เขาเข้ามาใกล้เธอ เธอรู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีนัก เธอเริ่มจะสับสน ระหว่างการสนทนากับเขา และจินนี่

“เฮอร์ไมโอนี่ เธออยู่กับใครตอนนี้” จินนี่ถามอีกครั้งเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ

“ฮะ อ้อ มัลฟอยน่ะ”

“เกรนเจอร์” มัลฟอยเรียกเธอ ไม่แค่นั้นเขาจับไหล่ของเธอทั้งสองข้างไว้ด้วย

“แย่จัง เฮอร์ไมโอนี่ เขาทำอะไรอยู่ล่ะ” จินนี่ถาม

มัลฟอยยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร แต่เธอไม่รู้ว่าเธอจะหลบหลีกเขาอย่างไร

“เขา เขา กำลังจะ จะ จ..” เฮอร์ไมโอนี่หยุดแค่นั้นและพยายามที่จะไม่นึกถึงจินนี่ขึ้นมา
 และกลับมาที่มัลฟอย ที่กล่าวอย่างแผ่วเบากับเธอว่า

“ฉัน ขอโทษ” ไม่เพียงแค่นั้น เขาโน้มลงจุมพิตเธออย่างแผ่วเบา..และไม่ได้สนใจเอลฟ์ประจำบ้านที่จ้องมองมาที่เขาทั้งสอง โดยเฉพาะด๊อบบี้ที่มีน้ำตาคลอหน่อยๆ

เฮอร์ไมโอนี่ตั้งสติได้ ก็ดันเขาออกห่าง ด้วยเลือดฝาดที่ขึ้นเต็มหน้า และรู้สึกอายขึ้นมาทันดันเมื่อเห็น เอลฟ์ 

“ปล่อยนะ มัลฟอย” เธอพูด และจ้องมองมือของมัลฟอยที่โอบกอดเธออยู่

“ม่ายล่ะ ถ้าเธอยังทำตัวเป็นเจ้าหญิงขี้งอนอยู่อย่างนี้” เขาบอก แล้วยื่นนิ้วก้อยของเขาให้เธอ “ดีกันนะ”

เฮอร์ไมโอนี่แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เธอพยายามจะปั้นใบหน้าอันบึ้งตึงไว้ให้อยู่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ 

“โอเคๆ ดีก็ได้” เธอตอบแล้วเกี่ยวก้อยกับเขา “นายนี่ทำอะไรเหมือนเด็กๆ”

เขายักไหล่หันหลังให้เธอซ่อนใบหน้าที่เริ่มเป็นสีชมพูจางๆ

“เฮอร์ไมโอนี่ ๆ นี่เธอได้ยินฉันมั๊ย!” เสียงของจินนี่ดังลั่น

“อืม ได้ยิน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “เธอไม่ต้องตะโกนก็ได้ จินนี่”

“แล้วเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรเธอรึเปล่า เฮอร์ไมโอนี่” 

“ป่าวนี่ ภาระกิจต่อไปล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม 

“เอ้อ ไม่รู้ว่าเธอจะชอบรึป่าวนะ แต่คำใบ้บอกไว้ว่า 

ตั้งแต่นี้คนที่พบเลือกสรรแล้ว ในห้องแคล้วเปรียบเสมือนห้องโถงใหญ่

โชคชะตากำหนดเป็นต้นไป ทั้งสองกลุ่มรวมใจเป็นหนึ่งเดียว”

“เธอคงไม่ได้หมายความว่า..”

“นั่นล่ะใช่เลย เธอต้องไปกับมัลฟอย”จินนี่สรุปในที่สุด


เฮอร์ไมโอนี่หันไปที่มัลฟอย

“ไง ด๊อบบี้” เขาพูดคุยกับเอลฟ์ประจำบ้าน “ไม่เจอกันนานนะ”

“ด๊อบบี้ ดีใจที่ได้เจอนายน้อยอีกครั้ง” ด๊อบบี้เช็ดน้ำตา “เขาเห็นว่านายน้อยโตขึ้นมาก”

“สวัสดี ด๊อบบี้” เฮอร์ไมโอนี่ทัก ด๊อบบี้หันมามองเธอ แล้วโค้งคำนับให้

“เพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ โอ้ ด๊อบบี้จำได้ ครับ ตอนนายน้อยเด็กๆ นายน้อยเคยเจอ..” ด๊อบบี้
 หยุดชะงักทันที แล้วพึมพำว่า “ด๊อบบี้ไม่ควรพูด ด๊อบบี้เลว..ด๊อบบี้เลว” และมันก็เอาหัวโขกโต๊ะแรงๆ
 อยู่หลายที จนมัลฟอยต้องดึงมันออกไปห่างโต๊ะ

“หยุด ด๊อบบี้ ..ด๊อบบี้ ฉันเคยเจอยัยนี่ตอนเด็กๆใช่มั้ย” เขาชี้ไปที่เฮอร์ไมโอนี่ ที่มีอาการออกจะงงงวย 

“ใช่มั้ยด๊อบบี้” เขาถามย้ำ แล้วด๊อบบี้ก็พยักหน้าน้อยๆ เขาผละออกจากเอลฟ์ นั่งลงบนเก้าอี้ไม้

“นายน้อยเดรโก ด๊อบบี้กลัว กลัวว่า นายน้อยของเขาต้องเผชิญกับ..กับ”

“กับอะไรด๊อบบี้” มัลฟอยถามพลางหยิบ เค้กช็อกโกแลตมากิน 

“กับ..ค.. ความสูญเสีย” ด๊อบบี้พูดอย่างเกรงๆ

“ฉันมีอะไรต้องสูญเสียด้วยหรือด๊อบบี้”

“น...นายน้อยเคยเสียมันไปเมื่อตอนเด็กๆ และ.. และ ด๊อบบี้ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก” 
ด๊อบบี้เหลือบมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ เธอมีคำถามคับอกคับใจหลายอย่าง

“ฉันเคยสูญเสียอะไร ด๊อบบี้” มัลฟอยจ้องเขม็งไปที่ด๊อบบี้

“ค..ความทรงจำ”


TBC

No comments:

Post a Comment