Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Chapter 17: The Headmaster Visits

อาจารย์ใหญ่มาเยี่ยม (The Headmaster Visits)


          เหมือนว่าต้องทำแบบนั้นเสมอเมื่อเดรโกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เฮอร์ไมโอนี่พบว่าเวลาคล้ายกับหยุดลงอย่างกะทันหันเมื่อเธอยืนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ศีรษะเธอซบอยู่กับแผ่นอกของเขา และเธอรู้สึกว่าสติอันเลือนรางของเธอกำลังนับการเต้นของหัวใจเขาอย่างไร้จุดหมาย แผ่น

อกเขากระเพื่อมขึ้นลงขณะหายใจ เฮอร์ไมโอนี่แทบสาบานได้ว่าพวกเขามีชีวิตอยู่ด้วยกันแบบนี้เพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น มือของเดรโกสัมผัสผมของเธอ เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าเขากำลังจับผมเธออย่างนุ่มนวล นิ้วมือเขาพยายามแทรกซอนลึกเข้าไปในลอนผมหนาที่ปกคลุมศีรษะเธอ เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ชิดเขามากขึ้น ราวกับว่าพยายามสัมผัสร่างกายเธอให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ราวกับว่าเขาไม่มีเจตนาปล่อยเธอไป เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหวาดกลัวอย่างฉับพลัน หวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล เธอดิ้นรนหนีจากอ้อมแขนของเดรโกแล้ววิ่งอย่างรวดเร็วผ่านเขาไป เขาคว้าตัวเธอไม่ถึงเพราะว่าเขารู้สึกประหลาดใจและไม่ได้โต้ตอบทันเวลา เธอออกจากประตูไปแล้วและกำลังวิ่งตรงไปที่บันได

          “เฮอร์ไมโอนี่” เขาเรียก แต่เธอไม่ยอมหยุด

          เธอไม่หยุดจนกระทั่งถึงห้องโถงใหญ่ อาหารกลางวันกำลังเริ่มให้บริการ ปอดเธอเจ็บและขาเธอเริ่มปวดเมื่อย เฮอร์ไมโอนี่สงสัยว่าเธอเคยวิ่งมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิตไหม เธอได้ลงบันไดแล้วขึ้นบันได ผ่านระเบียงยาวมากมาย หลบหลีกบรรดานักเรียนที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย

          เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปในห้องโถงและมุ่งตรงไปที่โต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์  รอนและแฮร์รี่อยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว เธอมองไปที่ว่างซึ่งเหลืออยู่ข้างพวกเขาอย่างปรารถนาก่อนหันไปนั่งตรงที่ปลายสุดของโต๊ะ เฮอร์ไมโอนี่เพยายามไม่มองเมื่อเซมัสหย่อนตัวเขาลงในที่ซึ่งเคยเป็นที่นั่งของเธอมาก่อน และไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเธอกำลังแสดงการกระทำซ้ำๆกับที่ผ่านมาทั้งหมดอีกครั้งอย่างเจ็บปวด

          ช่างเป็นวันที่น่าสมเพชวันหนึ่ง ราวกับว่าคำพูดโหดร้ายของเดรโกยังไม่มากพอ สีหน้ากล่าวหาของรอน และท่าทางเหมือนโดนทรยศของแฮร์รี่ ทำให้ดูมากมายยิ่งขึ้นไปอีก มันไม่น่าเชื่ออย่างแน่นอน เพื่อนๆ ทั้งสองของเธอคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ในสิ่งที่มัลฟอยบอกเป็นนัยจะเป็นเรื่องจริง พวกเขาตามเธอกลับมายังห้องนั่งเล่นรวม การเผชิญหน้าครั้งนี้ไม่น่าพอใจนักอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่อาจปล่อยให้ตัวเองโกหกพวกเขาได้ พวกเขามีความสำคัญต่อเธอมากกว่าอะไรทั้งสิ้นในโลกใบนี้ เฮอร์ไมโอนี่อาจจะตัดทอนเนื้อหาและตกแต่งรายละเอียดนิดหน่อย แต่ว่าเธอไม่เคยโกหก แม้ว่าแฮร์รี่และรอนชื่นชมในความซื่อสัตย์ของเธอ แต่ในใจพวกเขาเธอได้กระทำบาปที่ใหญ่หลวงอย่างหนึ่งแล้ว และในเวลานี้เธอกำลังทำการสำนึกผิดและรอคอยการให้อภัยของพวกเขา

          เฮอร์ไมโอนี่ป้ายเนยลงในแผ่นขนมปังอย่างเศร้าๆ และมองไปที่จานของเธออย่างไม่พอใจ เธอทราบว่าพวกเขากำลังคอยอยู่ แฮร์รี่และรอนอยากให้เธอพูดว่าเธอเกลียดเขา เดรโกไม่ได้เป็นอะไรกับเธอและรอนพูดถูกต้อง เธอต้องลบมันออกจากจิตใจของเธอ แต่ว่าเฮอร์ไมโอนี่ทำไม่ได้ เธอไม่อาจบอกพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอเกลียดเดรโกเพราะว่าเธอไม่ได้เกลียด ความจริงแล้วเฮอร์ไมโอนี่กำลังเริ่มคิดว่า เธออาจจะมีความรู้สึกที่ตรงกันข้าม ไม่ใช่พูดว่าเธอรักเดรโก เขาเป็นคนที่ร้ายกาจมากเกินไปสำหรับเรื่องนั้น แต่เฮอร์ไมโอนี่กำลังเริ่มยอมรับความจริงที่ว่าเธอชอบเขา แม้แต่ตอนที่เขาเป็นตัวของตัวเองที่น่าชิงชังตามปกติ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอตกใจกลัวมากกว่าอะไรทั้งสิ้น

          “เฮอร์ไมโอนี่?”

          เฮอร์ไมโอนี่เงยขึ้นมองเมื่อเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในความคิดของเธอ แฮร์รี่กำลังนั่งลงข้างเธอและรอนเพิ่งจะหย่อนตัวเขาตรงข้ามโต๊ะกับเธอ การตอบสนองฉับพลันของเธอคือความโล่งอกทันทีและความรู้สึกดีใจที่เพิ่มพูนขึ้น แต่ว่ามันช่างยากเมื่อมองหน้ารอน เพราะว่าคำพูดโหดร้ายทั้งหมดของเขาได้ลบรอยยิ้มใดๆ ที่กำลังปรากฏบนใบหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้านิ่วอย่างไม่ชอบใจ

          “โอ้ หวัดดี รอน คิดอะไรที่หยาบคายมากกว่าเดิมไว้หรือไง? อยากลองพยายามดูไหมล่ะ? ดูว่าเธอสามารถทำให้ฉันร้องไห้ได้ไหม?” เธอตวาดใส่รอน จำได้ถึงภาษาแสบสันที่เขาใช้กับเธอเมื่อวันก่อน

          “เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ไกล่เกลี่ย “เราแค่วิตกกังวลเรื่องเธอ เธอก็รู้เรื่องนั้น รอนและฉันแค่มีช่วงเวลายากลำบากในการเข้าใจว่าเธอสามารถไม่ใส่ใจกับสิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เขาทำลงไปได้อย่างไร ฉันหมายถึงว่าเขาเป็นคนน่ากลัวเสมอสำหรับพวกเราทุกคน”

          “แฮร์รี่ ฉันรู้เรื่องนั้น ฉันยอมรับ มันไม่ใช่ว่าฉันลืมนะ” เสียงเฮอร์ไมโอนี่เรียบสนิท “แค่ว่าอดีตดูเหมือนไม่มีความสำคัญมากสำหรับฉันในเวลานี้”

          “เธอชอบเขา? จริงหรือ? นี่คือมัลฟอยนะ ฉันไม่คิดว่าแม้แต่แม่ของเขาจะชอบเขา” แฮร์รี่มีท่าทางฉงนสนเท่ห์

          “ฉันไม่รู้ แฮร์รี่ ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการ แต่ฉันไม่รู้จริงๆ”

          รอนกระแอมเบาๆ แต่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่ามันอาจกำลังกลบเกลื่อนเสียงหัวเราะคิกคัก เธอถลึงตาใส่เขาอย่างเย็นชาและทำให้เขาหน้าแดง

          “แล้วเธอคิดอะไรอยู่ รอน? เธอต้องการพูดอะไร?” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างฉุนเฉียว

          รอนพึมพำบางอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้และมองไปทางอื่นไม่ใช่เธอ เกิดความเงียบน่ากระอักกระอ่วนเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พยายามปะติดปะต่อสิ่งที่รอนพูด มีเสียงถอนหายใจดังๆ เสียงหนึ่งแล้วจินนี่ก็นั่งลงถัดจากพี่ชายเธอ เธอเพิ่งจะเข้ามารับประทานอาหารกลางวัน กระเป๋าหนังสือยังอยู่บนไหล่เธอ

          “นี่เฮอร์ไมโอนี่ ให้ฉันเอง ฉันพูดภาษาวีสลี่ย์”  จินนี่สำรวจพี่ชายสักพักก่อนหันกลับมาที่เฮอร์ไมโอนี่ “ความหมายชัดเจนของพี่ชายฉัน คือกำลังพยายามขอโทษสำหรับการเรียกเธอด้วยชื่อต่างๆ ที่น่าเกลียดเมื่อวันก่อน มีอะไรอื่นอีกไหมรอน?”

          รอนถลึงตาใส่น้องสาว แต่เฮอร์ไมโอนี่อดไม่ได้และเห็นปลายหูของเขากำลังเปลี่ยนเป็นสีชมพู และข้างๆ เธอ เฮอร์ไมโอนี่บอกได้เลยว่าแฮร์รี่กำลังพยายามไม่หัวเราะ

          “จริงหรือรอน?” เฮอร์ไมโอนี่ถาม “เธอรู้สึกเสียใจจริงๆ นะ?”

          อีกครั้งที่รอนพูดงึมงำบางอย่างที่ทำให้ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ไม่เข้าใจ  จินนี่กระแอมเสียงเธอให้แจ่มชัดก่อนเริ่มต้นแปล

          “รอนพูดว่าเธอก็ควรจะเสียใจเหมือนกัน มัววุ่นวายอยู่กับเจ้ามัลฟอยร้ายกาจ และเขาอยากให้เธอรู้ว่าตอนกลับไปที่บ้านโพรงกระต่าย(the Burrow) เขานอนหลับไปพร้อมกับเทียนราตรี...”

          “พอได้แล้ว จิน, โอ้โห้ ฉันไม่ได้ไปบอกคนอื่นเรื่องการสะสม’ตุ๊กตาพ่อมดหนุ่ม’ ของเธอเลยนะ” รอนขัดจังหวะ

          จินนี่หน้าแดง ส่วนแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา จากนั้นทุกอย่างก็กลับไปสู่วิถีทางที่มันควรจะเป็น ข้อตกลงเงียบๆ ที่จะปล่อยเรื่องราวต่างๆ โดยไม่พูดถึงเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสามคน เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเธอมีความสุขมากๆ ที่ให้มันเป็นแบบนั้น

พวกเขาใช้เวลาที่เหลือในมื้ออาหารถกเถียงหารือเรื่องคุณสมบัติวิเศษต่างๆ ของเทียนราตรีเวทมนตร์สมัยใหม่(the modern magical night-light) เฮอร์ไมโอนี่กล้าขนาดที่ถามรอนว่าจะซื้อของแบบนี้ได้ที่ไหน

          อาหารมื้อกลางวันดูเหมือนสิ้นสุดเร็วกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่อยากให้เป็น พวกเขาเริ่มกลับไปเข้าชั้นเรียน แต่เฮอร์ไมโอนี่อดไม่ได้ที่รู้สึกว่าเธอปล่อยบางอย่างไว้ไม่เรียบร้อย เธอตามแฮร์รี่และรอนไปที่ชั้นเรียนวิชาต่อไป แต่เธอไม่สามารถกำจัดความรู้สึกที่ทิ่มแทงอยู่นี้ได้ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมันคือเธอทราบแน่นอนว่ามันกำลังกัดกินเข้าไปข้างในจิตใจของเธอ;เดรโก และห้อง

สมุด เธอควรยังโกรธเขา เธอควรยังโมโหสำหรับสิ่งที่เขาพูดกับแฮร์รี่และรอน แต่ว่าเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ขอโทษเธอแต่เธอก็ให้อภัยเขาไปเรียบร้อยแล้ว เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอได้ให้อภัยเขาในเวลาที่เขาสัมผัสแก้มเธอ เวลาที่เธอมองไปที่เขาอย่างแท้จริง

          เฮอร์ไมโอนี่หยุดเดิน แต่รอนและแฮร์รี่ไม่ได้สังเกต พวกเขากำลังถกเถียงเรื่องควิดดิช

อย่างออกรส ไม่มีเหตุผลที่คิดว่าเขาจะยังอยู่ที่นั่น แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถทำให้ด้านที่ไม่มีเหตุผลของจิตใจสงบลงไปได้ ซึ่งยืนกรานว่าเดรโกยังคงอยู่ในห้องสมุด เธอเลี้ยวกลับเรียบร้อยแล้ว กำลังมุ่งหน้าตรงไปที่ชานบันไดที่ใกล้ที่สุดก่อนที่ใจเธอสั่งอย่างเป็นทางการ วิ่งกลับไปอย่างรวดเร็วผ่านโถงทางเดินต่างๆ  เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธออาจเสียสติถ้าเธอให้เขามายึดครองจิตใจเธอ แต่มันช่างยากเย็นสุดขีดที่จะไม่คิดถึงเดรโกโดยเฉพาะเมื่อเธอกำลังไปหาเขา เธอยังคงเห็นเขาในใจเธอ ท่าทางหลายอย่างของเขาซึ่งไม่เคยพลาดที่ทำให้เธอฉงนสนเท่ห์ เดรโกบาดเจ็บและโมโห เกรี้ยวกราดใส่เธออย่างแรงหรือที่ทำให้สับสนมากกว่านั้นคือ เดรโกคนที่ดูคล้ายว่าห่วงใย เรื่องมิตรภาพของเธอกับแฮร์รี่และรอนได้รับการแก้ไขเท่าที่ปรากฏให้เห็นแล้ว เธอพบว่ามันทำให้เธอหันเหความสนใจเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าส่วนหนึ่งอันเลือนรางของเธออยากหันหลังกลับและไปหาแฮร์รี่และรอน ไปที่โต๊ะของเธอในห้องเรียนและลบเดรโกออกจากใจเธอในที่สุด แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีเลยทีเดียวว่าเธอรู้สึกเพลิดเพลินกับการมีเขาในชีวิต และเธออาจจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าไม่มีเขา

          ประหนึ่งว่าเธอมาถึงห้องของพวกเขารวดเร็วกว่าตอนที่เธอหลบหนีไปก่อนหน้านี้ เธอผลักประตูเปิดและมองไปทั่วๆ แต่มันว่างเปล่า เฮอร์ไมโอนี่ดึงประตูปิดตามหลังและมองไปรอบตัวเธออย่างเป็นทุกข์ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอถอนหายใจอย่างเศร้าหมอง อย่างไรก็ตามเธอคาดหวังอะไร? เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งตัดสินใจว่าจะกลับไปยังชั้นเรียน และขอโทษศาสตราจารย์

สเปราท์สำหรับการมาสายเมื่อประตูถูกเปิดออก เดรโกก้าวเข้ามากำลังก้มอ่านหนังสือเล่มใหญ่ เขาเงยขึ้นมองเธอด้วยความประหลาดใจ สีหน้าท่าทางของเขาเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวอย่างทันที

          “เธอกลับมาหรือ เกรนเจอร์?” เขาลากเสียงถามอย่างหยาบคาย “แล้วพอตเตอร์กับวีสลี่ย์...”

          แต่ก่อนที่เขาจะพูดต่อ ก่อนที่เขาจะคิดหาคำพูดถากถาง และก่อนที่เธอคิดถึงเรื่องศาสตราจารย์สเปราท์  เฮอร์ไมโอนี่เหวี่ยงแขนโอบรอบคอเขาและจูบเขาอย่างแรง เดรโกรู้สึกตกใจอย่างมากและปล่อยหนังสือหล่นจากมือ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกมึนงงชั่วแวบเดียวเท่านั้น และก่อนที่เธอจะสูญเสียความกล้าของเธอแล้วถอยกลับ เขาเหวี่ยงแขนข้างหนึ่งโอบรอบตัวเธอ ในขณะที่อีกข้างคลำหาประตูด้านหลังเขาและดึงมันปิด พวกเขาใกล้ชิดกันมากขนาดที่เธอสามารถรู้สึกถึงลมหายใจของเขาบนแก้มเธอเมื่อเขาหายใจอย่างไม่สม่ำเสมอ

          “เธอกลับมา” เขาพูดอีกครั้ง ยกเว้นว่าเวลานี้ไม่มีร่องรอยการมุ่งร้าย เสียงเขามีแค่

ร่องรอยของอาการตื่นตระหนก

          “ฉัน เออ ฉันหมายถึงเรา เออ ฉันต้องการเริ่มทำแผ่นงานบางอัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดติดอ่าง ขณะสีแดงก่ำแผ่ซ่านไปทั่วแก้มเธอ

          เดรโกซึ่งมองเห็นสีชมพูบนใบหน้าเฮอร์ไมโอนี่อย่างแน่นอน ฉีกยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ “เธอต้องการเริ่มงานตัวเลขมหัศจรรย์งั้นรึ?”

          เขาโน้มตัวลงมาหาเธอและให้ริมฝีปากเขาสัมผัสใบหูเธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกวิงเวียนอย่างฉับพลันและยึดแขนของเดรโกเพื่อพยุงตัวไว้ เขาหัวเราะเบาๆ และจูบเธออีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างมีความสุขเมื่อริมฝีปากเขาสัมผัสกับริมฝีปากเธอ พวกเขาถูกดึงดูดเข้าไปในคลื่นของความรู้สึกและอารมณ์อันเกินความคาดหมาย ดึงดูดอย่างมากจนพวกเขาไม่ได้ยินประตูเปิดด้านหลังพวกเขา หรือตระหนักว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในห้องตามลำพังอีกต่อไป จนกระทั่งเสียงหนึ่งคล้ายกับบางคนกำลังขย้ำกระดาษแห้งๆ เก่าๆ เข้าด้วยกัน ทำให้พวกเขาผละห่างออกจากกัน

          “อะ...อาจารย์ใหญ่” เดรโกอ้าปากพูดอย่างอ่อนแรง

          “ขอโทษที่ขัดจังหวะ แต่ฉันดูเหมือนเป็นหวัดนิดหน่อย” ดัมเบิลดอร์พูดยิ้มๆ ขณะที่เขาไออีกครั้ง

          เดรโกหันไปที่เฮอร์ไมโอนี่ แต่เธอกำลังยืนนิ่งราวกับหวาดกลัว มือหนึ่งของเธอยกขึ้นปิดปากและใบหน้าเธอขาวซีด

          “อาจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์ครับ” เดรโกก้าวมาข้างหน้าเฮอร์ไมโอนี่อย่างว่องไว “มันไม่ใช่ความผิดของเฮอร์ไมโอนี่ ผมเป็นคนจูบเธอเอง”

          “ฉันอาจเลยช่วงวัยรุ่นมาแล้ว มิสเตอร์มัลฟอย แต่ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นอย่างแน่นอน เธอทั้งคู่ดูท่าทางร่วมมือพอๆ กันเมื่อครู่ที่ผ่านมา”

          เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงอึกอักในลำคอ พบว่าเธอไม่สามารถขยับหรือพูดได้เลย เธอเพิ่งถูกจับได้คาหนังคาเขาว่ากำลังทำบางอย่างที่ผิดกฎระเบียบโดยสมาชิกคณาจารย์ และไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นอาจารย์ใหญ่

          “เอาล่ะ ตอนนี้มิสเกรนเจอร์” ดัมเบิลดอร์ก้าวมาใกล้เดรโก และจับแขนเฮอร์ไมโอนี่อย่างอ่อนโยนนำเธอไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง “พยายามอย่าทำเหมือนว่ากลัดกลุ้มมากเกินไป ศาสตราจารย์เวคเตอร์อาจไม่คิดว่านักเรียนสองคนที่ดีที่สุดของเธอสามารถทำเรื่องคึกคะนองต่างๆ ได้ แต่ฉันรู้ดีเชียวแหละว่าพวกนักเรียน...เออ นักเรียนก็จะเป็นนักเรียนอยู่ดี”

          เดรโกจ้องเขม็งไปที่อาจารย์ใหญ่แล้วหันไปที่เฮอร์ไมโอนี่ เธอยังคงอยู่ในสภาพตกใจตื่นกลัวแต่เข้าใจถึงสายตาของเดรโก ที่กำลังถามเธอและเธอพยักหน้า “ใช่แล้ว ศาสตราจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์บ้าไปแล้ว”

          “เหตุผลที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ เพราะว่าฉันได้พบกับศาสตราจารย์เวคเตอร์เมื่อหลังอาหารกลางวัน และเธอพูดถึงผลงานอันวิเศษที่เธอทั้งสองคนได้ทำไป ฉันจึงตกลงใจมาและดูด้วยตาของตัวเอง”

          เฮอร์ไมโอนี่พยายามกลืนน้ำลายแต่พบว่าคอหอยเธอปิดแน่นอย่างสมบูรณ์ มือทั้งสองของเธอกำเข้าหากันแน่นมากจนนิ้วมือเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด และถ้าเดรโกไม่ได้มองเห็นและดึงมันออกจากกันตอนที่อาจารย์ใหญ่หันหลังให้พวกเขา เล็บมือเธออาจจะแทงเข้าไปในผิวหนังก็เป็นไปได้

          อาจารย์ใหญ่กำลังขมีขมันสับเปลี่ยนไปดูที่กองบันทึกต่างๆ และแผ่นบทความต่างๆ ที่ได้รับการแปลแล้ว รอยยิ้มหยอกล้อยังคงอยู่บนสีหน้าเขา

          “น่าทึ่งมาก” เขากระซิบกับตัวเอง จมอยู่กับความคิดอย่างเต็มที่

          “ศาสตราจารย์ค่ะ?” ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็สามารถกระซิบออกมาได้

          “สิ่งนี้อาจพิสูจน์ว่ามีประโยชน์มากกว่าที่ฉันคิดไว้ตอนแรก” อาจารย์ใหญ่ครุ่นคิดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับพวกเขาคนใดคนหนึ่ง

          เฮอร์ไมโอนี่หันไปหาเดรโกและสบตากันอีกครั้ง เธอยักไหล่ให้ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ศึกษาผลงานของพวกเขาต่อไปเป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่พูดอะไร เขาดูเหมือนสนใจบันทึกประจำวันเก่าเป็นพิเศษ และเป็นบางครั้งเขาจะพูดงึมงำบางอย่างภายใต้ลมหายใจ เมื่อเขาพลิกผ่านแผ่นกระดาษโบราณเหล่านี้ ในที่สุดเขาก็วางงานฉบับแปลที่กำลังพลิกดูอยู่และหันมาพวกเขา

          “เธอทั้งคู่ทำงานนี้ได้ยอดเยี่ยม ฉันรู้สึกพอใจมากๆ เช่นเดียวกับศาสตราจารย์เวคเตอร์ แต่งานของพวกเธอยังไม่เสร็จนะ” อาจารย์ใหญ่ดึงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อในชุดคลุมยาวสีม่วงของเขา เขาเหลือบลงไปที่แผ่นโลหะกลมประหลาดซึ่งแขวนไว้ด้วยโซ่เส้นหนึ่ง สีสันต่างๆ กำลังหมุนอย่างรวดเร็วเป็นวงกลมอยู่ข้างในของหินก้อนเล็กที่ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่ง “อ้า...นี่เป็นเวลาบ่ายสี่โมงแล้วหรือ? ฉันต้องทักทายพวกเธอสองคนว่า สวัสดีตอนบ่าย” พร้อมกันนั้นอาจารย์ใหญ่ก็ยิ้มให้พวกเขาทั้งคู่และออกไปจากห้อง

          เป็นอะไรที่คล้ายกับครั้งแรกนับตั้งแต่อาจารย์ใหญ่เข้ามาในห้อง เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจยาวและหนักหน่วงออกมาแล้วซุกตัวลึกเข้าไปในเก้าอี้ เธอหลับตาลงและปรารถนาอย่างยิ่งยวดเหลือเกินว่า เหตุการณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ เธอกำลังจะเป็นบ้าไปแล้ว บางทีเธอได้กินบางอย่างที่แปลกประหลาดเมื่อตอนอาหารกลางวัน ไม่จริงเลยที่พวกเอลฟ์ประจำบ้านเคยปรุงอะไรที่ ‘แปลกประหลาด’   เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง;เดรโกกำลังนั่งอยู่อีกด้านของโต๊ะ กำลังเฝ้าดูอยู่ อารมณ์กังวลปรากฏบนใบหน้าเขา

          “ฉันคิดว่าฉันกำลังจะไม่สบาย” เธอกระซิบออกมาในที่สุด”

          “เอาน่า มันไม่ร้ายแรงหรอก เขาไม่ดูเหมือนว่าไม่พอใจ ไม่ได้ตัดคะแนนบ้านไหนด้วย เราไม่แม้แต่ถูกกักบริเวณ เธอควรรู้ดีว่ามักกอนนากัลมีปฏิกิริยาแย่มากแค่ไหน ส่วนสเนปอาจโหดร้ายได้พอควรเกี่ยวกับมันเช่นกัน ไม่ใช่ว่าฉันรู้จากประสบการณ์หรอกนะ” เดรโกเสริมอย่างรวดเร็ว เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เล็งสายตาห่อเหี่ยวใส่เขา

          “ไม่ร้ายแรงหรือ? ไม่ร้ายแรงหรอก! เธอโง่มากหรือไง?” เฮอร์ไมโอนี่ยืนขึ้นอย่างพรวดพราด และเริ่มเดินกลับไปกลับมาในห้อง “เราถูกจับได้โดยอาจารย์ใหญ่  อาจารย์ใหญ่นะ!”

เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงอีกครั้งบนม้านั่งตัวหนึ่งใกล้หน้าต่าง

          เดรโกมาสมทบกับเธอตรงนี้ทันที ความกังวลยังอยู่ในแววตาเขา “มันจะเรียบร้อย ฉันสัญญา เฮอร์ไมโอนี่” เธอเงยขึ้นมองเขา “เขารู้เรื่องเกี่ยวกับเราอยู่แล้ว”

          “เธอหมายความว่าอะไร;เขารู้อยู่แล้ว?” เฮอร์ไมโอนี่ถาม ความรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ในน้ำเสียงเธอ

          “ฉันไมรู้ว่าเขารู้ได้อย่างไร แต่เขารู้ ฉันสาบานได้ว่าตาเฒ่าบ้านั่นมีสายลับ” เดรโกเสริมอย่างฉุนเฉียว

          “อย่าพูดถึงเขาแบบนั้นนะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่เห็นด้วย “เขาเป็นอาจารย์ใหญ่! รวมทั้งเป็นพ่อมดที่มีอิทธิพลอย่างมากคนหนึ่ง”

          เดรโกละสายตาไปจากเธอและจ้องออกไปนอกหน้าต่าง เฮอร์ไมโอนี่จ้องไปที่นั่นเช่นกัน บานกระจกยังถูกปกคลุมด้วยชั้นของน้ำค้างแข็งหนา แต่ความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ได้ทำให้น้ำแข็งเริ่มละลาย เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอสามารถเห็นป่าไม้ผ่านกระจก มันถูกปกคลุมด้วยกองหิมะหนา เมื่อความกระดากของเธอสิ้นสุด เฮอร์ไมโอนี่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่น่ารบกวนอย่างหนึ่ง มันมีบางอย่างที่เธอไม่ได้กำลังนึกถึง บางอย่างที่สำคัญ  เฮอร์ไมโอนี่เพ็งมองอย่างจริงจังไปที่หน้าต่าง กำลังพยายามคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไร

          “เขากำลังพูดถึงอะไร?” เธอถามเดรโกในที่สุด

          “อะไร? ใครกำลังพูดถึงอะไร?”

          “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เขากำลังพูดถึงอะไร? ทำไมเขาคิดว่างานของเราจะเป็นประโยชน์ล่ะ?”

          เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่โต๊ะซึ่งมีแผ่นงานและหนังสือวางอยู่กระจัดกระจาย

          “ฉันไม่รู้” เดรโกคล้ายกับพยายามกลั้นหาว;ความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นภาระหนักในใจเขาอย่างเห็นได้ชัด “บางทีเขาสามารถใช้ข้อมูลเรื่องการแพร่พันธุ์ของหนอนฟลอบเบอร์ และวงอิทธิพลของตัวเลข หรือบางทีเจ้าลูกครึ่งยักษ์เพื่อนของเธออาจใช้มันก็ได้ เขาดูเหมือนชื่นชอบพวกตัวบุ้งสกปรกนั่น”

          “นี่เป็นเรื่องจริงจังนะ เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่บอกเขา เธอยืนขึ้นและเดินไปที่โต๊ะ แล้วหยิบหนึ่งในบรรดาบันทึกประจำวันเก่าแก่และพิจารณาหน้าปกมัน “นี่ต้องสำคัญ พวกมันต้องใช่แน่” เดรโกกลอกลูกตาตัวเอง แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสับสน “เรายังไม่ได้ค้นหาพวกมันมากนัก เธอเพิ่งแค่แปลไปได้ไม่กี่หน้าของหนังสือเล่มนี้ ใครจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนี้”

          เดรโกถอนหายใจ “เธอกำลังอยากจะอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืนใช่ไหม?”

          เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าโดยไม่เงยขึ้นมอง เธอนั่งลงที่โต๊ะและมือเธอกำลังพลิกหนังสืออย่างวุ่นวาย

          “เยี่ยมเลย ฉันจะไปเอาเสบียงนิดหน่อยมาจากห้องครัว”

          สายตาเฮอร์ไมโอนี่แทบจะไม่ละไปจากหน้ากระดาษเมื่อเดรโกออกไปจากห้อง เธอตัดสินใจว่าอย่างแรกที่ทำน่าจะอ่านสิ่งที่เดรโกได้แปลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาอาจพลาดบางอย่างไป ร่องรอยบางอย่างของสิ่งที่พวกเขาทำทั้งหมดอย่างแท้จริง กระทั่งเวลานี้หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรนอกจากความคิดส่วนบุคคล และการจดคำบอกเล่าต่างๆ  เธอเริ่มต้นอ่านบันทึกของเดรโก เขาแปลไปได้หลายหน้าแล้วแต่เมื่อเธออ่านต่อไปเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่พบว่ามีหน้าหนึ่งดูเหมือนขาดหายไป เธอถอนหายใจและตั้งต้นค้นหากองแผ่นกระดาษที่เกลื่อนกลาดบนโต๊ะ เฮอร์ไมโอนี่กำลังเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเธอสังเกตเห็นแผ่นงานแผ่นหนึ่งอยู่ใต้โต๊ะ เธอก้มคุกเข่าและเก็บมันขึ้นมา ตัวเขียนประณีตแบบเดียวกันในสีที่เข้ากันสะท้อนกลับมาที่เธอ

เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นอย่างยินดีและชนเข้ากับหนึ่งในบรรดาบันทึกประจำวันที่อยู่ตรงขอบโต๊ะอย่างไม่ตั้งใจ

          มันหล่นไปใกล้เตาผิงและกางออก เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงไปเก็บมันขึ้นมา บรรทัดต่างๆ ของตัวเลขมากมายกระจายอยู่เต็มหน้ากระดาษ แต่มีอย่างอื่นด้วยเช่นกัน เมื่อเธอยกหนังสือขึ้นแสงเปลวไฟสะท้อนเหมือนเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน เฮอร์ไมโอนี่มองเห็นเป็นครั้งแรกว่า มีภาพ

วาดน้ำหมึกเล็กๆ อยู่ข้างล่างมุมกระดาษ เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะและค้นหาแว่นขยายอันเล็กที่พวกเขาใช้ช่วยในการถอดรหัสลายมือตัวเล็กมากๆ  เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงไปที่หนังสือและตรวจสอบภาพวาดเล็กๆ อย่างระมัดระวัง;มันดูคล้ายกับเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง มันเก่าและมีรอยเปื้อน แต่เธอสามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่ปรากฏเป็นมังกรนั่งกางปีกตัวหนึ่ง หน้าผากเฮอร์ไมโอนี่เป็นรอยย่นเธอขมวดคิ้วจมอยู่กับความคิด ภาพนี้ดูคุ้นตา เธอกล้าสาบานว่าเธอเคยเห็นมันที่ไหนสักแห่ง

          เฮอร์ไมโอนี่หยิบแผ่นกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง และลอกลายภาพนั้นอย่างรวดเร็วให้ดีที่สุดเท่าที่เธอทำได้ เธอใช้เวลานานพอที่จะทำเครื่องหมายหน้ากระดาษในหนังสือก่อนออกจากห้องไป และเริ่มต้นค้นหาไปตามชั้นหนังสือต่างๆ  ไม่พบอะไรเลยในนักตัวเลขมหัศจรรย์โบราณ(Ancient Arithmancist), โลกอดีตเวทมนตร์(A Mgical Past), หรือหนังสือประติมานวิทยาของพ่อมด(A Wizard’s Book of Iconography) ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งและมองไปที่กำแพงอย่างว่างเปล่า พยายามรวบรวมเรื่องราวว่าทำไมมังกรตัวเล็กนั่นดูมันคุ้นตาภายในหัวเธอ ช่วงที่เธอกำลังนั่งคิดอยู่พวกฮัฟเฟิลพัฟชั้นปีที่เจ็ดกลุ่มหนึ่งเดินผ่านโต๊ะเธอไป

          “ใช่ แม่ไม่สนใจที่ฉันจะเป็นมือปราบมาร(an auror) เหมือนกัน แต่เนื่องจากการตายของเซดริกเมื่อปีที่แล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแค่นั้นเอง” เด็กหนุ่มผมสีทรายกำลังพูด

          “อู้วว์ แต่ว่ามันไม่น่าอันตรายมากหรือ?” หนึ่งในพวกเขาถามอย่างกลั้นหายใจ เมื่อเลี้ยวไปมุมหนึ่งและลับสายตาไปจากการมองเห็น

          เสียงพวกนี้จางหายไปเรียบร้อยสักพักแต่เฮอร์ไมโอนี่ยังนั่งต่อไป แสงประกายวาบฉับพลันเหมือนเข้ามาในดวงตาเธอ เธอลุกขึ้นยืนอย่างว่องไวและรีบลงไปที่ทางเดินเช่นกัน เธอใช้เวลาแค่นาทีเดียวในการหาชั้นหนังสือที่ถูกต้อง;เฮอร์ไมโอนี่รู้จักห้องสมุดนี้ดีขึ้นใจ ครั้งที่สองนี้ใกล้เคียงกับการค้นหาที่บ้าคลั่งเมื่อเธอมองหาชื่อเรื่องหนังสือ หลังจากนั้นเธอก็พบมัน;

การบังคับใช้กฎหมายเวทมนตร์:อดีต, ปัจจุบัน, & อนาคต(Magical Law Enforcement:Past, Present, & Future)

          เธอเดินกลับไปที่ห้องของพวกเขา หมกมุ่นอยู่กับหนังสือเล่มนี้อย่างเต็มที่ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของเธอ และไม่แม้แต่สังเกตเห็นว่าเธอได้ปล่อยให้ประตูเปิดทิ้งไว้  เดรโกปรากฏตัวในเวลาต่อมา กระเป๋าหนังสือเขาเต็มไปด้วยของจากห้องครัว เขามองประตูที่เปิดทิ้งไว้อย่างพิศวงก่อนเดินเข้าไป

          “เฮอร์ไมโอนี่?” เขาถามเมื่อมาถึงโต๊ะ

          เธอเงยขึ้นมองเขา ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “เดรโก ฉันเจอบางอย่างแล้ว”

TBC

No comments:

Post a Comment