Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Sunday, September 14, 2014

Part II อดีตที่หวนคืน: Chap 6



“เดรโกเป็นอะไรหรือคะ ศาสตราจารย์” พาร์กินสันถาม

“เป็นอะไรน่ะหรือ ก็ตาบอดไงล่ะ!” มัลฟอยตะโกนลั่นทำให้เธอผงะไป แน่นอนในเมื่อเขาอารมณ์ไม่ดีอย่างนี้ ใครล่ะจะปามเขาได้ “และผมไม่ต้องการให้ใครมาดูแล!!”

“สงบสติหน่อย มิสเตอร์มัลฟอย” สเนปกล่าวอย่างเรียบๆในน้ำเสียงทุ้มหนักของเขา

“เธอต้องมีคนคอยดูแล และฉันจะขอให้พวกเธอ..” ดัมเบิลดอร์กล่าวพลางมองไปยังนักเรียนจากบ้านสลิธีรินทั้งสามคน “ช่วยดูแลเขาหน่อย ยังดีที่ช่วงนี้ เป็นวันหยุดคริสต์มาส ยังไม่มีเรียน”

“แต่หนู..” พาร์กินสันอึกอัก เธอจะคอยดูแลคนเจ้าอารมณ์อย่างมัลฟอยเนี่ยนะ นั่นไม่ต่างอะไรกับให้ไปอยู่กินกับโทรล์ภูเขาเลย ไม่ใช่เพียงเธอเท่านั้นที่มีอาการกระอักกระอ่วน ทั้งแครบและกอยล์ก็ด้วยเช่นกัน
 มัลฟอยรู้สึกได้

“ผมไม่ต้องการให้ใครมาดูแลผม! ผมอยู่ของผมเองได้” เขาตวาด 

“อยู่เองได้หรอ ฉันล่ะนึกภาพนั้นในหัวได้ง่ายๆเลยล่ะ คงไม่ต้องให้บอกหรอกนะว่ามันเป็นยังไง”
 เฮอร์ไมโอนี่แทรกขึ้น 

“แล้วยังไง ฉันจะเป็นยังไงก็ช่างฉันสิ เกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ” ดวงตาสีซีดที่ดูเลื่อนลอยหันมา
ยังต้นเสียงที่อยู่ไม่ไกลจากเขาเลย “เธอคงไม่อยากมาดูแลฉันหรอกน่า”

“แน่ล่ะฉันอยาก” เธอตอบโดนไม่สนใจเสียงของแฮร์รี่และรอนที่หลุดออกมาจากปากว่า “เธอล้อเล่นแน่ๆ”

จากคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ ทำให้อารมณ์ของเขาผ่อนคลายลงไปบ้าง

“อย่าทำอะไรที่ต้องลำบากใจเลย เกรนเจอร์ เธอไม่อยากที่จะต้องตามติดฉันไปทุกที่หรอก”

“ที่ไม่อยากน่ะ นายต่างหาก” เธอเถียง

“ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์คะ” เสียงของศาสตราจารย์มักกอนนากัลดังขึ้น
 “เชิญทางนี้หน่อยค่ะ เรามีเรื่องต้องพูดคุยกัน คุณด้วย เซเวอร์รัส”

เสียงประตูห้องพยาบาลปิดลง แต่ยังคงได้ยินเสียงถกเถียงของเหล่าอาจารย์

“มิสเกรนเจอร์ได้เวลาทายาแล้ว” มาดามพรอมฟรีย์เรียกเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเดินไปหาเธอทันที 
มัลฟอยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่มันก็กระจ่างเมื่อรอนพูดขึ้น

“เฮอร์ไมโอนี่ ได้แผลมานิดหน่อยน่ะ” รอนกล่าว

“แขนถลอกตอนหน้าทิ่มน่ะ” แฮร์รี่เสริมต่อ

“ใครถามพวกนายไม่ทราบ” มัลฟอยตอบอย่างวางท่า 

“เอ่อ เดรโก..” แพนซี่พูดขึ้น

“อย่ายุ่งกับฉันน่า!” เขาตะโกน แล้วเขาก็ได้ยินเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินกลับมา
 พร้อมกับเหล่าอาจารย์ที่ออกไปเมื่อครู่ 

“เอาล่ะ มิสเตอร์ มัลฟอย มันจำเป็นจริงที่เธอจะต้องมีคนคอยดูแล ในเมื่อเธอไม่ยอมอยู่ที่ห้องพยาบาลนี่”  มักกอนนากัลกล่าว “ดังนั้น เราจะเลือกผู้ดูแลให้เธอ”

“ยังไงฮะ” แล้วเขาก็ได้คำตอบเมื่อรู้สึกว่าใครเอาอะไรมาสวมศีรษะเขา

‘ไง พ่อหนุ่ม’ เสียงนี้เขาเคยได้ยินเมื่อตอนอยู่ปีหนึ่ง เขายังจำมันได้ดี เสียงที่ส่งเขาไปยังบ้านสลิธีริน 

‘ใช่ฉันคือหมวกคัดสรร และหน้าที่ของฉันตอนนี้ คือเลือกผู้ที่จะมาดูแลเธอ’

‘ผมไม่ต้องการ..’

‘แน่สิเธอต้องการ..ใครคนนั้น..เฮอร์มีเหรอ เธอคือใครล่ะขอฉันเข้าไปดูหน่อย’

เฮอร์มีหรอ ใช่สิ ความฝันเมื่อครู่นี้ เขายังไม่ลืมมันเลย ถึงแม้ว่าจะจำได้ไม่หมดก็เถอะ..

‘อา..คนนี้แหละเหมาะที่สุด’

‘ใครกัน อย่าเพิ่งเลือกนะ บอกผมก่อนสิ’ เขาถามหมวกคัดสรรอย่างร้อนรน
 ที่จริงเขารู้ว่าคนที่เขาต้องการคือใครโดยไม่ต้องใช้หมวกคัดสรรเลย แต่..เขาไม่อยาก..ให้เธอต้องลำบาก

แต่เจ้าหมวกใบเก่าคร่ำครึนี่ไม่ฟังคำพูดของเขาเลย 

“เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์!!” มันตะโกนออกมาซะลั่นห้องพยาบาล ทำเอาเขาแทบอยากจะฉีกมันให้ขาดเป็นชิ้นๆ

“เอาล่ะ เป็นอันตกลง” ดัมเบิลดอร์กล่าว “พรุ่งนี้ เธอเตรียมย้ายหอได้เลยทั้งสองคน”

“แต่..” มัลฟอยเตรียมจะเถียง

“หนูต้องย้ายด้วยหรอคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้น 

“ใช่ แต่ไม่ต้องห่วง เธอจะกลับไปที่หอก็ได้ แต่ต้องให้หายห่วงเรื่องเขา” ดัมเบิลดอร์กล่าว 

“แต่ศาสตราจารย์คะ ทำไมต้องให้ เดรโกย้ายออกมาต่างหากล่ะคะ” พาร์กินสันถามขึ้น

“ก็เขาบอกว่า เขาไม่อยากนอนอยู่ในห้องพยาบาลเหมือนคนป่วย แต่เขาต้องได้รับการตรวจจาก
มาดามพรอมฟรีย์เป็นประจำ เพื่อความสะดวกน่ะ” เขาอธิบายแล้วถอนหายใจให้กับเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้น
 “เอาล่ะ ต้องขอตัวก่อน เด็กๆฉันมีธุระต้องทำ อ้อ เซเวอร์รัส และมิเนอร์ว่า คุณช่วยส่งเด็กกลับหอด้วย 
ราตรีสวัสดิ์ทุกคน”

“แต่ศาสตราจารย์ฮะ..” มัลฟอยเรียก แต่ก็พบว่า เขาเดินออกไปเสียแล้ว

“พักเถอะมิสเตอร์ มัลฟอย” มักกอนนากัลกล่าว “ส่วนพวกเธอ ตามฉันมา”

“เดี๋ยวฮะ ศาสตราจารย์” มัลฟอยเรียกเธอไว้ “เอ่อ ผมขอจานสีทองที่เคยเอาไปทัศนศึกษาได้มั้ยฮะ”

“เอ้อ ได้สิ” มักกอนนากัลตอบอย่างไม่แน่ใจ แต่ที่เขาแน่ใจคือเสียงหัวเราะของเฮอร์ไมโอนี่ ใช่
 เมื่อตอนกลับมาจากเมืองบนฟ้า เขาจำเป็นต้องคืนจานสีทองที่ให้อาหารทุกอย่างที่เขาอยาก ให้เธอไป

แล้วทุกคนก็ทยอยออกจากห้องพยาบาล ทิ้งให้เขาอยู่กับความมืด และความเงียบเหงา เขาไม่เข้าใจเลยว่าโชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับเขา กับการที่เขาต้องเสียดวงตาไป..ไม่สามารถมองเห็นอะไรทั้งสิ้น 
นอกจากความมืด ถ้าหากตอนนี้เขามองเห็น ภาพที่เขาเห็นคงจะเป็นห้องพยาบาลที่มีแสงสลัวๆจากแสงไฟ และที่แตกต่างจากเดิมคงเป็น ภาพเบลอๆ ที่กลบด้วยน้ำใสๆปิ่มๆขอบตาซึ่งบัดนี้เหม่อลอยกว่าเก่าอย่างเห็นได้ชัด…
.

. . . . . . . .  


“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายจะตามฉันมาทำไม” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับเพื่อนรักทั้งสอง 
ระหว่างนั่งถักหมวกไหมพรมให้เอลฟ์ประจำบ้าน อย่างไม่หยุดยั้ง

“เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่” รอนตอบ “แล้วอีกอย่าง เราไม่มีอะไรทำ”

“แล้วปกตินายทำอะไรกันล่ะ”

“ปกติ ในช่วงคริสต์มาส อืม ตอนปีหนึ่งเราอยู่ในหอกริฟฟินดอร์ นั่งเล่นหมากรุกกันโดยไม่มีเธอที่กลับบ้านไป” แฮร์รี่กล่าว “แล้วเรายังต้องหาข้อมูลของ นิโคลัส เฟมเมลอีก”

“ตอนปีสอง เรา อยู่ด้วยกัน กับเธอและ เอ่อ เมอร์เทิล” รอนพูดพลางชำเลืองมองไปทางมัลฟอย 
“ส่วนปีสาม เอ้อ ถึงเราทะเลาะกันนิดหน่อย แต่เราก็อยู่ด้วยกัน

“ส่วนปีสี่ เธอก็อยู่กับเรา เล่นปาหิมะใส่กันอยู่แถวๆทะเลสาบกัน และล่าสุด ตอนปีห้า เธอก็อยู่กับเรานี่ที่โรงพยาบาลวิเศษ เซนต์มังโก”

“แล้วปีนี้ จะให้เราทิ้งเธอไว้กับมัลฟอยสองคนได้ยังไงกัน”

“ขอบใจ” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยไม่สนใจเสียงฮึดฮัดไม่พอใจของมัลฟอยที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวยาว ในขณะที่พวกเธอนั่งอยู่บนพื้นพรมนุ่มสบาย 

พวกเธอนั่งอยู่ในห้องที่มีประตูทางเข้าเป็น ลายสลักทรงกลม ซึ่งเมื่อบอกรหัสผ่านแล้ว
 มันจะหมุนไปมาอยู่รอบหนึ่งก่อนจะหยุดนิ่ง แล้วแยกออกจากกันเป็นครึ่งวงกลม
 เผยให้เห็นภายในห้องที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามและอบอุ่น พื้นห้องปูด้วยพรมแสนนุ่มสบาย 
ด้านขวาของประตู มีเตียงสี่เสาอยู่หลังม่านผืนบางที่ผูกเก็บไว้เป็นอย่างดี ถัดไปทางด้านซ้ายของประตูก็เป็น เตียงสี่เสาอีกหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่หลังม่านเช่นกัน และ ประตูอีกบานหนึ่งซึ่งนำทางไปสู่ห้องน้ำ
 ส่วนด้านหน้าที่พวกเขาอยู่เยื้องไปทางขวา มีโซฟาตั้งอยู่ ด้านหน้าของมันเป็นโต๊ะไม้ เตี้ยๆ ตัวหนึ่ง
 ที่มีแจกันดอกไม้วางประดับตกแต่ง พร้อมกองหนังสือตั้งหนึ่ง ของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งบ่งบอกได้ว่
า สัมภาระทั้งหมดถูกนำมาไว้ที่นี่เรียบร้อย เพราะถ้าสังเกตที่โต๊ะข้างเตียงจะพบข้าวของที่วางเรียง
ไว้เหมือนที่หอบ้าน ราวกับย้ายเฟอร์นิเจอร์มาทั้งอย่างนั้น

และตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามา เฮอร์ไมโอนี่ต้องพามัลฟอยเดินวนเวียนอยู่รอบห้องเพื่อให้ชินกับทางเดิน
 ซึ่งก็ทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก และลงท้ายด้วยการขว้างปาข้าวของละบายอารมณ์เป็นการณ์ใหญ่
 อาจเป็นเพราะเขาเดินไปเตะโดนโต๊ะบ้าง ขาเตียงบ้าง หรือไม่ก็เพราะมีแฮร์รี่และรอนที่ตามเธอ
มาอยู่ในห้องนั้นด้วยก็เป็นได้ ทำให้เธอต้องไล่พวกเขาออกไป แต่มัลฟอยก็ยังไม่หยุด
 เธออยู่ห่างจากเขาคนละฟากของห้อง มีไม้กายสิทธ์เป็นอาวุธ เผื่อมีอะไรลอยละลิ่วมาทางเธอ

“มัลฟอย หยุดเถอะน่า” เธอกล่าวพร้อมเอามือปิดหูแน่น เมื่อแจกันประดับโต๊ะกระแทกกับพื้นตามมาด้วยเหยือกน้ำ ที่มีน้ำอยู่ครึ่งหนึ่ง “อย่านะ” 

“เธอนั่นแหละหุบปากซะ เกรนเจอร์” เขาตวาดแล้วข้าวมันอย่างแรง 
เด็กสาวเอาแขนกำบังใบหน้าของตนไว้ ทำให้เศษกระเบื้องที่กระเด็นมาบาดถูกแขน 

“โอ๊ย” เธอร้องเสียงดัง แต่ไม่ทำให้ผู้ที่บังคับตัวเองไม่ได้หยุดชะงักเลย
 เขาคว้าของใกล้ตัวขึ้นมาอีกอย่าง เขาไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร ในเมื่อเขาหยิบมันขึ้นได้ เขาขว้างทิ้งในทันที 

“เฮ้ย นั่นมันหนังสือสุดหวงของฉันนะ” เธอกล่าว มันเป็นหนังสือรู้ทุกเรื่อง ที่ซันสตาร์
 ไฮแลนด์มอบให้กับเธอ “หนังสือ แอกซีโอ”

พลันหนังสือก็ลอยหลุดมือของเขาตรงมายังเธอ แต่แล้วของที่เธอไม่คาดว่ามันจะเป็นชิ้นสุดท้ายก็มาอยู่ในมือเขา
 แต่เธอจะทำให้มันเป็นชิ้นสุดท้ายที่เขาจะขว้างปาล่ะ

“นั่นอะไรน่ะ” เธอถามอย่างแทบไม่เชื่อสายตา จากสิ่งที่เขาคว้ามาจากโต๊ะข้างเตียง และตั้งท่าจะปา

“ตุ๊กตาหมี..” เฮอร์ไมโอนี่พูด เขาชะงักในทันที พร้อมกับรอยแดงๆที่เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา “..แอกซีโอ”

และแล้วเจ้าตุ๊กตาหมีก็พุ่งฉิวไปหาสาวน้อยผู้เรียกมัน มันเป็นตุ๊กตาหมีขนปุย ขนาดไม่ใหญ่และ
ไม่เล็ก ทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่สังเกตนะ มันตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงของเขาแท้ๆ

“อะ..เอาคืนมานะ เกรนเจอร์” เขาหอบ

“ลิซิเรีย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ เธอจำมันได้ดีทีเดียว

“ช่าย เธอรู้ชื่อมันได้ยังไง” เขากล่าว

“มันเคยเป็น..ของฉัน” เธอพูดอย่างเลื่อนลอย 

“หยุดนะ.. อย่าเดินเข้ามานะ” เธอร้องเสียงดังเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินมาที่เธอ 
“มันมีเศษแก้วเต็มพื้นไปหมด เดี๋ยวมันจะบาดเท้านาย ฉันเพิ่งได้มาหนึ่งแผล”

เขาหยุดชะงักทันที อารมณ์ที่พลุ่งพลาดของเขาทำให้เธอได้แผล “เอ้อ ฉัน..ฉันขอโทษ”

“ไม่เป็นไรหรอก” เธอถอนใจ แล้วลงมือเก็บกวาด ด้วยไม้กายสิทธ์ จากนั้นเธอจึงเดินไปหาเขา แล้วฉุดให้เขานั่งลง

“นายได้มาจากไหนนะ” เธอถามถึงตุ๊กตาหมี 

“เอ้อ ไม่รู้สิ เท่าที่จำได้ก็มีอยู่แล้ว”

“ฉันคงเป็นคนให้นายเองแหละ รู้มั้ยว่าฉันหามันตั้งนาน” เธอลูบขนมันอยู่พักหนึ่งก่อนจะส่งคืนให้เขา

“เอ้อ ถ้าเธออยากได้มันคืน..” เขายื่นกลับมาให้เธอ 

“แต่ก่อนใช่ ตอนนี้ไม่ใช่ ฉันแค่อยากจะแน่ใจว่ามันไม่ได้หายไปไหนก็เท่านั้น” 
เธอกล่าวพลางมองแววตาอันเลื่อนลอยของเขา “ฉันให้นาย และฉันก็ดีใจที่นายเก็บมันไว้อย่างดี”

“อันที่จริงฉันต้องซ่อนมันไว้ในกล่องใต้เตียงน่ะ” เขากล่าวพลางก้มหน้า เขาออกจะรู้สึกเขินเล็กน้อย 
“ถ้าพ่อเห็นฉันนอนกอดตุ๊กตาหมีละก็..”

“เอาเถอะ” เธอหัวเราะแล้วคว้า ‘ลิซิเรีย’ ไปจากมือของเขา “ฉันเอาไปเก็บให้”

“ได้เวลาอาหารแล้ว จากจานสีทองใบโปรดของนาย” เธอกล่าวพลางหัวเราะ “มักกอนนากัลฝากมาให้น่ะ
 เธอว่าจานใบนี้เป็นของนาย ไม่ต้องเอาไปคืนเธออีก”

“ดี” เขาเริ่มยิ้ม หลังจากที่ความขุ่นเคืองในอารมณ์หายไป
 และไม่จำเป็นที่เขาจะต้องมองเห็น แค่เพียงความคิดเขานึกถึงรอยยิ้มอันสดใสร่าเริงของเฮอร์ไมโอนี่ออก…..


TBC

No comments:

Post a Comment