Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 5: ความรู้สึกของเฮอร์ไมโอนี่และความหวังของมัลฟอย

หลังจากที่มัลฟอยไปส่งเฮอร์ไมโอนี่ที่ห้องนอนแล้วเขาก็ตรงไปที่ห้องสมุดเพื่อสะสางงานที่ค้างไว้ให้เสร็จเรียบร้อย  เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่มัลฟอยก็แทบไม่เป็นอันทำงานเลย  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประชุมหรือนัดพบลูกค้าเขาก็สั่งยกเลิกทั้งหมด  เพราะในตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเขามากไปกว่าผู้หญิงที่เขารักอีกต่อไปแล้ว

มัลฟอยนั่งทำงานได้เพียงครู่เดียวเขาก็รู้ตัวว่าเขาไม่อาจมีสมาธิอยู่กับแผ่นกระดาษมากมายตรงหน้าได้  ในเมื่อใจของเขานั้นมันคอยแต่จะคิดถึงเรื่องอื่น  ซึ่งเรื่อง ๆ นั้นก็ไม่พ้นเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่หรอก  มัลฟอยวางปากกาขนนกในมือลง  เขาเลิกสนใจเอกสารตรงหน้าแล้วเพราะตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสับสน  เขาไม่อาจทำงานได้ทั้ง ๆ ที่เขาไม่มีสมาธิแบบนี้  มัลฟอยเงยหน้าขึ้นมองกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา  มันเป็นรูปคนละใบกับที่อยู่บนโต๊ะทำงานที่บริษัท  ในกรอบรูปนั้นเป็นรูปคู่ที่เฮอร์ไมโอนี่ถ่ายคู่กับมัลฟอย  ในรูปทั้งสองต่างยิ้มอย่างมีความสุขซึ่งรูป ๆ นี้ถ่ายตอนพวกเขาฮันนีมูนครั้งแรกกัน

มัลฟอยหยิบรูปนั้นขึ้นมาดูใกล้ ๆ พร้อมทั้งสัมผัสมันเบา ๆ ด้วยปลายนิ้ว  ราวกับว่าเขาโหยหาที่จะได้เฮอร์ไมโอนี่คนเดิมของเขากลับมาเหลือเกิน

แต่มัลฟอยกลับไม่รู้ว่าความปรารถนาของเขาจะสามารถเป็นจริงได้หรือไม่



*************************************************



เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบ ๆ ห้องนอนใหญ่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด  เพราะใจหนึ่งเธอก็รู้สึกประหม่าและไม่คุ้นเคยกับที่นี่  แต่อีกความรู้สึกหนึ่งของเธอก็บอกเธอว่า  เธอคุ้นเคยกับสถานที่นี้เป็นอย่างดี  แต่จะไม่ให้คุ้นเคยได้อย่างไร  ก็เธอนอนในห้องนี้มาตลอดเวลาสามปี  เธอกับมัลฟอย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หน้าของเฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มเปลี่ยนสี  นั่นสินะ  เธออยู่ที่ห้องนี้มากับมัลฟอยตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา  เธอมองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง  ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทรุดตัวลงบนเตียงสี่เสาขนาดใหญ่

เธอกับมัลฟอยนอนเตียงนี้ด้วยกันมาตลอดอย่างนั้นเหรอ  เธอคิดก่อนที่จะล้มตัวลงนอน  และซุกกายลงในผ้านวมผืนใหญ่  ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่  เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม  เธอได้แต่ซุกตัวลงนอนในเตียงที่อบอุ่นนี้  และหลับไปในทันที



“นายหญิงครับ  นายหญิงครับ”

“หือ” เฮอร์ไมโอนี่สะลึมสะลือ  เธอได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาเรียก

“นายหญิงครับ” เสียงแหลมเล็กนั้นดังขึ้นอย่างเกรง  ๆ เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมาก็พบเอล์ฟตัวหนึ่งยืนอยู่ที่พื้นข้าง ๆ เตียงของเธอ

“นายท่านให้มาตามนายหญิงไปทานอาหารเย็นครับ” เอล์ฟตัวนั้นพูดในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงทำหน้างง ๆ อยู่    นายหญิงงั้นเหรอ  เธอคิด

“เดี๋ยวผมจะนำทางนายหญิงไปครับ  นายท่านสั่งว่าให้ผมพานายหญิงไปส่งด้วยตัวเอง” เอล์ฟตัวนั้นพูดซ้ำ  และผายมือเป็นเชิงเชิญให้เฮอร์ไมโอนี่เดิน  เฮอร์ไมโอนี่ลุกจากเตียงด้วยอาการงัวเงีย  เธอเกำลังเดินไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ

จริงสินะ ตอนนี้เราอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยนี่  เฮอร์ไมโอนี่คิดก่อนจะหันไปบอกเอล์ฟประจำบ้านว่าให้รอเธอซักพักนึง  เฮอร์ไมโอนี่จึงเข้าไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่  ก่อนที่จะเดินตามมันไปที่ห้องอาหาร

เอล์ฟตัวนั้นพาเฮอร์ไมโอนี่ลงมายังชั้นล่าง  มันพาเธอเดินผ่านทางเดินและห้องหับมากมายกว่าจะมาถึงห้องอาหารที่มีมัลฟอยนั่งรออยู่บนโต๊ะอาหารตัวยาวที่มีขนาดเกือบเท่าโต๊ะประจำบ้านที่ฮอกวอตส์  บนโต๊ะนั้นมีจานเงินวางอยู่มากมาย  และจานแต่ละใบบรรจุอาหารต่าง ๆ ไว้จนพูนจาน

“เธอทำอะไรอยู่น่ะ” มัลฟอยบ่นที่เฮอร์ไมโอนี่ลงมาช้า

“ขอโทษฉันนอนหลับอยู่” เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา  ซึ่งก่อนที่เธอจะนั่งมีเอล์ฟประจำบ้านตัวหนึ่งกระวีกระวาดมาเลื่อนเก้าอี้ให้

“ทานสิ  ฉันสั่งให้ห้องครัวทำอาหารพิเศษเลยนะ” มัลฟอยพูดพลางตักตับบดให้เธอ “เธอดูซูบไปนะ เฮอร์ไมโอนี่  ต้องทานเยอะ ๆ หน่อย”

“แต่อาหารพวกเนี้ย  มันเยอะขนาดเอาไปเลี้ยงทีมฟุตบอลได้เลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  และเธอก็เพิ่งนึกได้ว่ามัลฟอยไม่รู้จัก ‘ ฟุตบอล ’ “ฉันหมายถึง  ทีมควิดดิชน่ะ” เธอแก้

“อาหารพวกนี้ไม่ได้มีไว้ให้คนพวกนั้นกินเสียหน่อย ฉันสั่งมาเพื่อเธอต่างหากล่ะ” มัลฟอยพูดพลางตักอาาหารมากมาย  บางอย่างก็เป็นอาหารที่เธอไม่เคยกินลงบนจานของเธอ

“ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะทานอาหาร

“ฉันจะทำให้ภรรยาของฉันมันผิดตรงไหนกัน” มัลฟอยเถียง  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นหน้าขึ้นสีเมื่อมัลฟอยพุดคำว่า ‘ ภรรยาของฉัน ’

“แต่….”

“ไม่มีแต่ทั้งนั้นแหละ  เธอต้องดูแลสุขภาพดี ๆ รู้มั้ยเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูดพลางตักอาหารใส่จานเธออีก  และอาหารแต่ละอย่างที่เขาให้เธอกินนั้นล้วนเป็นของแพงทั้งนั้น  ไข่ปลาคาเวียร์  ซุปกุ้งล็อปเตอร์  ไก่งวง  หอยนางรมอบซอส  ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับว่าเธออยู่ในภัตราคารอาหารฝรั่งเศสก็ไม่ปาน

“นี่  ปกติแล้วเรากินของแพง ๆ กันอย่างนี้ทุกมื้อเลยเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“ก็ไม่ทุกมื้อหรอก  เพราะเธอคิดว่ามันฟุ่มเฟือย  แต่คราวนี้ฉันถือว่าเป็นการต้อนรับเธอกลับบ้าน” มัลฟอยพูด

“แต่ฉันแค่ไปนอนโรงพยาบาลแค่ไม่กี่คืนเองนะ” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง

“แค่นอนโรงพยาบาลคืนเดียวก็ถือว่าไม่ได้กลับบ้านแล้ว  เธอรู้มั้ยว่าตอนที่เธอไม่อยู่ฉันคิดถึงเธอแค่ไหน” มัลฟอยพูดความรู้สึกของเขาออกไปตามตรง  จนทำเอาเฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบไป

“เอ่อ  ขอโทษที่พูดอะไร แบบนั้น  ออกไป” มัลฟอยพูด

“ทำไมล่ะ  จะขอโทษฉันทำไม” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย  ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกแปลก ๆ ที่มัลฟอยพูดก็เถอะ

“แล้วเธอไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง  เรื่องที่ฉันพูดแบบนั้นน่ะ” มัลฟอยพูด “ฉันรู้ว่าเธอคงรับไม่ได้เมื่อรู้ว่าเธอแต่งงานกับฉัน  เพราะเราเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน”

“ฉัน…”

“ฉันรู้ว่าเธอคิด  เฮอร์ไมโอนี่  และเธอก็คงลำบากใจที่ต้องมาอยู่ใกล้ชิดฉันแบบนี้  แต่ฉันปล่อยให้เธอไปอยู่ที่อื่นไม่ได้” มัลฟอยพูด  แววตาสีซีดของเขาฉายแววเศร้าออกมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป  เงียบกันไปซักครู่

“ฉันรักเธอมากเลยเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  “ฉันหมายถึง  ก่อนที่ฉันจะความจำเสื่อมน่ะ”

“มาก  และฉันเองก็รักเธอมากเหมือนกัน” มัลฟอยพูด

“เหรอ  ทำไมฉันจำไม่เห็นได้เลยว่าฉันเคยรักใคร” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “แปลกนะ  ทั้ง ๆ ที่เป็นหัวใจของฉันเองแท้ ๆ แต่มันกลับไม่จดจำเรื่องสำคัญอย่างนี้ไว้” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางสะอื้น

“อย่าร้องเฮอร์ไมโอนี่  อย่าร้อง”  มัลฟอยร้องห้ามเธอ “แล้วก็อย่าโทษตัวเองด้วย  ไม่อย่างนั้นฉันก็คงผิดเหมือนกัน” มัลฟอยพูด  และเฮอร์ไมโอนี่ก็มองเขาอย่างสงสัย

“เธอผิดอะไรมัลฟอย  คนที่ผิดคือฉันต่างหาก  คนที่จำอะไรไม่ได้ก็คือฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ผิดซิ  ฉันผิดที่ดูแลเธอไม่ได้  และทำให้เธอต้องร้องไห้ไงล่ะ”  มัลฟอยพูด “ทั้ง ๆ ที่ฉันเคยสัญญาไว้กับเธอว่า  จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีก  แต่เธอคงจำไม่ได้สินะ” เขาพูด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าช้า  ๆ อย่าว่าแต่เรื่องสัญญิงสัญญาเลย  แม้แต่เรื่องวันแต่งงานเธอยังจำไม่ได้ซักนิดเดียว

“ช่างมันเถอะเฮอร์ไมโอนี่  ช่างมันเถอะ” มัลฟอยพึมพำอย่างเห็นใจ



หลังอาหาร  มัลฟอยเดินมาส่งเธอที่ห้องนอนใหญ่

“พักผ่อนเยอะ ๆ นะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะออกไปทำงาน  อาจจะกลับดึกหน่อยนะ  ถ้าเธอต้องการอะไรก็เรียกเอล์ฟเอาละกัน” มัลฟอยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่

“เธอก็รู้นี่ว่าฉันจะไม่ใช้พวกมันทำงาน” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง

“เธอแค่ใช้มันชงกาแฟหรือทำอาหารมันไม่ตายหรอก  หรือเธอจะทำเองงั้นเหรอ” มัลฟอยถามด้วยรอยยิ้มกวน ๆ ตามแบบฉบับของเขา

“ช่างฉันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างงอน ๆ ทำไมเธอถึงคิดว่ามัลฟอยทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้ก็ไม่รู้

“เฮอร์ไมโอนี่”

“อะไร” เฮอร์ไมโอนี่พูดและมัลฟอยก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป  เขาได้แต่มองตาเธอด้วยแววตาสีซีดของเขา  จนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับถูกแผดเผาด้วยแววตาคู่นั้น  ตอนนี้แก้มของเธอกลายเป็นสีจัดไปแล้ว

และแล้วมัลฟอยก็ค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เหญิงสาว  ก่อนที่จะบรรจงจูบเธอที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา

“ราตรีสวัสดิ์นะ” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงราวกับกระซิบ  ทำเอาเฮอร์ไมโอนี่นั้นทำอะไรไม่ถูกจากการกระทำของเขาเมื่อครู่ และมัลฟอยก็หมุนตัวกลับและเดินไปตามระเบียงทางเดิน  โดยทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ที่มีใบหน้าสีแดงก่ำไว้เบื้องหลัง

เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี  เมื่อตอนนี้หัวใจของเธอเต้นราวกับจะระเบิดออกจากอก  แต่ความรู้สึกที่แสนอบอุ่นยังคงตราตรึงอยู่กับเธอ  กับรอยจูบนั้น

ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้มันเป็นอย่างเดียวกับที่เธอเคยรู้สึกมาก่อนหรือเปล่า



*************************************************



วันรุ่งขึ้นมัลฟอยไปทำงานแต่เช้าเพราะเขาต้องการเข้าไปเคลียร์งานที่ค้างไว้ให้เสร็จ

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณมัลฟอย”  แซม  เลขาของมัลฟอยกล่าวทักทายเขาขณะที่มัลฟอยไปถึงบริษัท

“เช่นกันแซม  เมื่อวานเป็นไงบ้าง” เขาถามถึงเรื่องที่บริษัท  เพราะเมื่อวานเขาไม่ได้แวะเข้ามาเลย  มัลฟอยเดาได้ว่าจะต้องมีเอกสารกองเท่าภูเขาเลาการอให้เขาเซ็นต์อยู่แน่ ๆ เลย

“ก็วุ่นวายเล็กน้อยครับ  มีคนไม่น้อยที่ไม่พอใจเรื่องที่คุณยกเลิกการประชุมอย่างกระทันหัน” แซมตอบด้วยท่าทีที่แฝงไปด้วยความเคร่งเครียดไม่น้อย

“งั้นเหรอ  แล้ววันนี้ล่ะ  มีอะไรบ้าง” มัลฟอยพูดอย่างสบาย ๆ ราวกับว่าเรื่องที่เขาทำมันเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในโลก

“ก็มีเอกสารจำนวนหนึ่งส่งมาจากแผนกต่าง ๆ ครับ” แซมพูดพลางโบกไม้กายสิทธิ์หนึ่งครั้ง  เอกสารต่างกองโตก็ปรากฏลงบนโต๊ะทำงานของมัลฟอย

“พวกเขารายงานว่าจำเป็นต้องให้คุณเซ็นต์ภายในวันนี้” แซมพูดเสริม

“งั้นเหรอ  มีแค่นี้ใช่ไหม  แล้วตารางเวลาวันนี้ล่ะ” มัลฟอยพูดก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่อย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรไกัยการได้เห็นงานกองเท่าภูเขาที่อยู่ตรงหน้า  เพราะปกติแล้วสำหรับมัลฟอยนั้นงานแค่นี้ถือว่ายังน้อยด้วยซ้ำ

“ครับ  ตอนสิบเอ็ดโมงมีประชุมกับฝ่ายขาย  บ่ายโมงตรงคุณมีนัดกับคุณแมกเคอร์สัน  เรื่องการตกลงการซื้อขายสินค้าในไตรมาตรที่สามนี้ครับ” แซมรายงานมัลฟอยจากสมุดบันทึกที่อยู่ในมือของเขา “และมีนัดทานอาหารเย็นกับคุณราล์ฟเวลส์ที่  เลอ  ฟา  ยอง  ตอนทุ่มตรง”

“งั้นเหรอ” มัลฟอยเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิดหลังจากฟังแซมร่ายรายการงานที่เขาต้องทำในวันนี้ “ช่วยเลื่อนนัดของคุณราล์ฟเวลส์ไปก่อนได้ไหม” เขาพูด  ความจริงเขาก็ไม่อยากปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่บ้านคนเดียวนักหรอก

“เกรงว่าจะไม่ได้หรอกครับ  เพราะว่าคุณราล์ฟเวลส์เพิ่งส่งจดหมายมาคอนเฟิร์มนัดเมื่อครู่เองครับ”

“อ๋อ  ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก  แซม” มัลฟอยพูด  ความจริงเขาอยากจะรีบ ๆ กลับบ้านไปอยู่ใกล้ ๆ เฮอร์ไมโอนี่ให้เร็วที่สุด  เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถออกจากบริษัทได้ในขณะที่งานของเขารัดตัวอย่างนี้

“แล้วช่วยยกเลิกตั๋วไปมัลดีฟส์ด้วยนะ  ฉัยว่าจะไม่ไปแล้ว” มัลฟอยพูดขณะที่กำลังตรวจตราเอกสารตรงหน้า

“ทำไมล่ะครับ” แซมถามอย่างแปลกใจ  เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เจ้านายของเขารอคอยมากที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นการไปฮันนีมูนครั้งที่สองของเขากับภรรยาในอาทิตย์หน้า

“นั่นมันเรื่องของฉันแซม” มัลฟอยพูดเสียงเรียบ

“แต่ผมจ่ายเช็คค่าที่พักกับค่าเดินทางไปแล้ว  ถ้าคุณยกเลิก…..”

“คิดว่าฉันจะสนใจกับเงินแค่นั้นเหรอ  แซม” มัลฟอยพูด  ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง  สำหรับคนอย่างเดรโก  มัลฟอย  แล้วเงินค่าทริปไปทัวร์มัลดีฟล์นั้นถือเป็นเรื่องเล็ก  แม้ว่ามันจะเป็นทริปที่พาคุณไปพักโรงแรมระดับระดับห้าดาวก็ตามที

“ถ้าอย่างนั้นอาทิตย์หน้าคุณก็จะมาทำงานอย่างเดิมหรือครับ” แซมถามอย่างสงสัย

“ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจเลยแซม  เอาเป็นว่าฉันจะบอกล่วงหน้าถ้าฉันจะเข้าบริษัทแล้วกันนะ” มัลฟอยพูดพลางกลับไปสนใจเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง

“มีอะไรเกิดขึ้นหรือครับ  เป็นเรื่องเกี่ยวกับภรรยาของคุณหรือเปล่าครับ  คุณมัลฟอย”  แซมถามขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ  เพราะการถามอย่างนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการละลายละล้วงเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น  ซึ่งความจริงแล้วมัลฟอยก็คิดเช่นนั้น  ถ้าคนที่ถามเขาเป็นคนอื่น  แต่เผอิญว่าคน ๆ นี้กลับเป็นแซม  ลูกน้องคนสนิทของเขาที่เขาไว้ใจมากที่สุด

“ใช่   แซม  เกิดเรื่องขึ้นกับเธอ” มัลฟอยพูดพลางถอนใจ  แซมสังเกตได้ว่าดวงตาของมัลฟอยแฝงแววเศร้าไว้อยู่  แววตาที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากเจ้านายของเขาคนนี้

“มันเกิดอุบัติเหตุน่ะ  แล้วเธอก็สูญเสียความทรงจำไป” มัลฟอยพูดออกมาโดยพยายามที่จะเก็บอารมณ์  “เธอจำเรื่องราวของฉันไม่ได้”

“ผมเสียใจด้วยครับ” แซมพูดด้วยใความจริงใจ  อันที่จริงเขาไม่เคยเห็น  เดรโก  มัลฟอย  เป็นแบบนี้มาก่อน  เพราะในวงการธุรกิจเขานั้นเปรียบเสมือนเจ้าชายหิมะ  เยือกเย็น  เด็ดขาด    เขาเดินหน้าทำธุรกิจอย่างไม่ไว้หน้าใคร  เขาไม่เคยเกรงกลัวอะไร  ไม่เคยหวั่นไหวกับสิ่งใดมาก่อน  ยกเว้นก็แต่  ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ  เฮอร์ไมโอนี่

“ขอบใจนะแซม” มัลฟอยพูดพยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจากวังวนความเศร้านั้นเสีย  ความจริงมัลฟอยเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แซมฟัง  ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นเพียงลูกน้องของเขาคนหนึ่งเท่านั้น  และที่สำคัญคนอย่างเขาไม่เคยเล่าเรื่องในใจให้ใครฟังมาก่อน

“แล้วคุณจำทำอย่างไรต่อไปครับ” แซมถามอย่างเป็นห่วง  ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาเคยเห็นเจ้านายของเขากระวนกระวายได้ถึงเพียงนี้

“ไม่รู้สิ” มัลฟอยตอบอย่างจนปัญญา “ถ้าความทรงจำของเธอยังไม่กลับคืนมา  ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป  ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้กับฉันได้นานซักเท่าไหร่” มัลฟอยพูดอย่างจนใจ  ความหวาดกลัวนั้นวิ่งเข้ามาจับหัวใจเขาอีกครั้ง  เขากลัวว่าเฮอร์ไมโอนี่จำไม่สามารถจำเรื่องราวทั้งหมดไปตลอดชีวิต

“งั้นคุณก็ทำให้เธอรักคุณอีกครั้งสิครับ  ถ้าคุณไม่สามารถทำให้ความทรงจำของเธอกลับมาได้  และคุณไม่อยากจะสูญเสียเธอไปคุณก็ต้องทำให้เธอหลงรักคุณอีกครั้งให้ได้” แซมพูด  และเพราะคำพูดของเขาก็ทำให้มัลฟอยฉุกคิดขึ้นได้

ทำให้เธอหลงรักเขาอีกครั้งงั้นเหรอ

“นายก็พูดถูกนะแซม  เห็นจะมีแต่ทางนี้เท่านั้นแหละที่ฉันพอจะทำได้” มัลฟอยพูดอย่างมุ่งมั่น

ถ้าเขาทำให้ความทรงจำของเธอกลับมาไม่ได้  เขาก็ต้องทำให้เธอหลงรักเขาอีกครั้งให้ได้

เพราะนั่นเป็นเพียงทางเดียวที่จะเหนี่ยวรั้งเธอไว้กับเขาได้!

TBC

No comments:

Post a Comment