Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Wednesday, September 10, 2014

Chapter 11: จุดสิ้นสุดของเรื่องราว(At the end)



“เสื้อคลุมลูกมันสั้นขึ้นขนาดนี้แล้วหรือนี่” มิสซิสนาร์ซิสสา มัลฟอย พูดกับลูกชายขณะที่เธอมาช่วยแต่งตัวให้เขา
ในเช้าวันที่นายมัลฟอยจะพาเขาไปซื้อของที่ตรอกไดแอกกอน - - ปีนี้พวกเขาไปที่ตรอกเร็วกว่าทุกครั้งเพราะ
นายมัลฟอยเกลียดที่จะต้องเบียดเสียดกับคนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คน” ที่อาจจะเป็นพวกมักเกิ้ล

เดรโก มัลฟอย กางแขนแล้วหมุนมองตัวเองในกระจก - - แขนเสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่สั้นขึ้นมาจากข้อมือพอสม
ควรและชายเสื้อคลุมก็สั้นเกินไปเสียแล้ว
“ผมเพิ่งตัดไปเมื่อปีก่อนนี่เอง” เด็กชายพูด
“ลูกสูงเท่าไหร่แล้ว” เธอถาม
“ผมจำไม่ได้” เดรโกตอบ แต่ก็พอเดา ๆ ในใจว่าคงมากกว่าเดิมหลายเซนติเมตร
“ถ้าไปกับพ่อคราวนี้ก็ให้เขาพาไปตัดด้วยดีกว่า” มารดาบอกเขา
“พ่อไม่ไปกับผมหรอก เขาไปตรอกนอกเทิร์นแล้วทิ้งผมไว้ที่ไดแอกอนทุกที” เดรโกพูดเสียงเบื่อแล้วถอดเสื้อคลุมออก
“แต่ลูกก็จัดการเองได้ไม่ใช่เหรอ” คุณนายมัลฟอยหยิบเสื้ออีกตัวที่ยาวกว่าตัวเดิมเล็กน้อยมาให้

“ก็ - - งั้นล่ะครับ” เขารับมาสวม
เสียงนายมัลฟอยตะโกนเรียกจากข้างล่าง เดรโกเดินลงไปทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะกล่าวลาแม่

“มัวทำอะไรอยู่!” บิดาถามเสียงฉุนเมื่อเห็นบุตรชายเดินลงมา

“แม่บอกให้ผมตัดเสื้อคลุมใหม่” เดรโกบอก เขายกแขนให้พ่อดูว่าแขนของเขาพ้นออกจากเสื้อคลุมออกมามากแล้ว

“แกต้องไปจัดการเอาเอง ฉันไม่มีเวลานักหรอก” นายมัลฟอยบอกห้วน ๆ 

“ผมรู้ พ่อไม่ค่อยว่าเรื่องผม” เด็กชายประชด

นายมัลฟอยเอาไม้เท้าที่ถือไว้ตลอดจ่อไปที่คอบุตรชายทันทีแล้วพูดเสียงเข้ม

“ฉันไม่ชอบให้แกบ่นเป็นยายแก่ ถ้าฉันได้ยินเสียงแกบ่นอีกคำฉันจะไม่เอาแกไว้แน่ - - ไปกันได้แล้ว!”

********

ตรอกไดแอกอนปีนี้ก็เหมือนกับทุกปีที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ทุกคนที่มาที่นี่เกือบทั้งหมด
จะเป็นพ่อมด หรืออาจจะเป็นมักเกิ้ล (ผู้ไม่มีเวทมนตร์) ก็ได้ ถ้ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งในบ้านเป็นพ่อมดหรือแม่มด
 และที่สำคัญคือพวกเขาเป็นผู้ไม่นิยมศาสตร์มืดเหมือนกัน

ร้านตัดเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้นซึ่งเป็นร้านประจำของนักเรียนฮอกวอตส์ส่วนใหญ่กำลังต้อนรับ
ลูกค้าคนหนึ่ง - - อีกราวหนึ่งสัปดาห์จึงจะเปิดเทอมแต่ก็มีเด็กบางคนมาตัดเสื้อคลุมแล้วเพราะมีเวลา

“หนูอยากจะตัดให้มันยาวเผื่อไปอีกหน่อยค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์บอกกับเจ้าของร้านขณะที่เธอยืนอยู่
บนแป้นรองเท้าเตี้ย ๆ และมาดามมัลกิ้นกำลังกลัดเข็มให้ได้ความยาวพอเหมาะกับตัวเธอ 

ครั้งนี้เฮอร์ไมโอนี่มาคนเดียว ไม่มีแฮร์รี่หรือรอนมาเป็นเพื่อนเหมือนทุกครั้ง และพ่อแม่ของเธอก็ไม่ว่างเสีย
ด้วยแต่เธอก็ตัดสินใจมาเอง และเมื่อตอนเช้ามืดเธอก็ได้ทดลองใช้บริการรถเมล์อัศวินราตรีเป็นครั้งแรก
 เป็นการเดินทางที่แปลกและสนุกดีจนเธอคิดว่าต่อไปคงได้ใช้บริการบ่อยขึ้น

“เราจะเผื่อให้จ้ะ แต่อย่างหนูคงไม่ต้องเผื่อมากหรอก ส่วนใหญ่เราจะเผื่อมาก ๆ สำหรับเด็กผู้ชาย” มาดามพูดพลางยิ้ม

“ทำไมคะ”

“อายุขนาดพวกเธอ เด็กผู้ชายจะโตเร็วกว่ามาก” เธอบอกแล้วกลัดเข็มต่อ

เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบ ๆ ร้านซึ่งไม่มีพนักงานคนอื่นเลย เมื่อเธอถามมาดามก็ตอบว่า

“เขาลากลับบ้านกันหมด - - ฉันยุ่งตั้งแต่เช้า พอบ่ายถึงได้สบายหน่อยแต่คงต้องใช้เวลาหน่อยนะจ๊ะ”
มาดามมัลกิ้นบอกแล้วถอดเสื้อคลุมที่วัดได้ขนาดแล้วบนตัวของเด็กหญิงออกเพื่อไปเย็บให้เรียบร้อย 
เฮอร์ไมโอนี่ยืนรออยู่บนแป้นรองเท้าตามลำพัง เมื่อเจ้าของร้านเดินหายเข้าไปที่หลังร้านพร้อมเสื้อคลุม 
เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น เด็กหญิงหันไปมอง

“มัลฟอย!” เธอร้องเมื่อเห็นลูกค้าคนใหม่

“ฉันรู้หรอกน่าว่าฉันนามสกุลอะไร” อีกฝ่ายพูดอย่างรำคาญแล้วเดินมายืนที่แป้นรองเท้าข้างเธอ

“เธอมาทำอะไรที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างระแวง

“ฉันคงซื้อไม้กวาดได้สักด้ามที่ร้านนี้มั้ง” มัลฟอยพูดกวน ๆ แล้วถอดเสื้อคลุมที่ตัวเองสวมอยู่ลงกองกับพื้น

เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอย นอกจากเสื้อคลุมสีดำแล้ว ชุดข้างในของเขาก็เป็นสีดำหมด เสื้อคอกลมแขนยาวขนาดพอดีตัว
 กางเกงขายาว หรือแม้แต่รองเท้าก็เป็นสีดำ

“ถึงจ้องไปฉันก็ไม่ถอดอีกแล้วล่ะ” มัลฟอยหันมาพูดเสียงเจ้าเล่ห์

เด็กหญิงหน้าเป็นสีชมพูจัด

“ใครเขาจ้องนายกัน!” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง

มาดามมัลกิ้นเดินออกมาจากหลังร้านพอดี แต่เธอยังไม่ได้ถือเสื้อคลุมของเฮอร์ไมโอนี่ออกมาด้วย

“สวัสดีจ้ะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย - - ส่วนของแม่หนูคนนี้ต้องรออีกหน่อย ก็อย่างที่บอกจ้ะ วันนี้ฉันทำงานคนเดียว”
 มาดามมัลกิ้นเดินไปหยิบม้วนผ้าที่อยู่ใกล้มือมากางออกแล้วพาดบนตัวมัลฟอยก่อนจะลงมือกลัดเข็ม

“เผื่อให้ยาวครับ” มัลฟอยบอกเธอ

“ไม่ต้องห่วงจ้ะ” มาดามบอกแล้วหันไปยิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่

หลังจากวัดได้ความยาวตามที่ต้องการแล้วมาดามมัลกิ้นก็บอกเด็กชายขณะถอดชุดที่ได้ออก

“รอหน่อยนะจ้ะ แต่ของแม่หนูฉันจะเร่งให้ อีกห้านาทีก็คงได้”

“หนูรับพร้อมเขาก็ได้ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่รีบบอก

มัลฟอยเลิกคิ้วมองเธอขณะที่มาดามมัลกิ้นยิ้มให้เธออย่างขอบคุณก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในหลังร้านอีกครั้ง
 เฮอร์ไมโอนี่หันไปอธิบายกับมัลฟอย

“น่าเห็นใจออก เธอทำงานคนเดียวนะวันนี้ - - แล้วฉันก็ไม่รีบด้วย”

เด็กชายไหวไหล่แล้วชี้ไปที่หน้าต่าง

“ถึงจะรีบก็คงไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ”

ฝนเม็ดใหญ่ ๆ ตกลงมากระทบกับหน้าต่าง คนภายนอกวิ่งหาที่หลบฝนกันวุ่นวาย

*****2******

“ตายแล้ว ฉันไม่ได้เอาร่มมาด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกน่า” มัลฟอยว่า เขาเองก็ไม่มีเหมือนกัน

สายฝนเทลงมาหนักขึ้นกว่าเดิม ภายนอกจึงไม่มีคนเดินอยู่ - - ในเมื่อฝนไม่มีทางทางว่าจะหยุด 
พวกเขาจึงได้รับช็อกโกแลตร้อน ๆ สองถ้วยจากมาดามมัลกิ้นแทนชุดที่สั่งตัด

“พวกเธอนั่งกันในนี้ไปพลาง ๆ ก็ได้นะจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจอะไรหรอก” มาดามพูดอย่างใจดีแล้วเชิญพวกเขา
ไปนั่งที่เก้าอี้นวมแสนสบายที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของร้านที่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ก่อนที่เธอจะเดินกลับไปหลังร้านอีกครั้ง
 วันนี้เธอดูยุ่งมาก

“มาคนเดียวเหรอ เกรนเจอร์” มัลฟอยถามอีกฝ่าย

“ฮื่อ” เด็กหญิงตอบ “ฉันชำนาญทางแล้ว”

“อีกตั้งอาทิตย์กว่าจะเปิดเทอม กะจะไม่มาอีกแล้วหรือไง” เขาว่าพลางยกแก้วช็อกโกแลตขึ้นดื่ม

“ฉันจะมากับแฮร์รี่แล้วก็รอนอีกครั้ง ตอนใกล้ ๆ เปิดเทอม”

มัลฟอยกระแทกแก้วกับโต๊ะ

“เหรอ!” เขารับห้วน ๆ - - เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้ตัวเขากำลังหงุดหงิดอีกแล้วเมื่อเธอพูดถึงแฮร์รี่

“แล้ว - - แล้วเธอล่ะ มาคนเดียวหรือเปล่า” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ใช่” มัลฟอยตอบ เขาไม่อยากบอกว่าพ่อทิ้งเขาไว้ที่นี่คนเดียว

สายฝนด้านนอกบางลงแล้ว เฮอร์ไมโอนี่เอื้อมมือไปที่กระจกหน้าต่างที่อยู่ติดกับเก้าอี้นั่ง แล้ววาดรูปหน้ายิ้มลงบน
ไอน้ำที่หน้าต่าง

“ไร้สาระ” มัลฟอยพึมพำ

แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้สนใจจะหันมาเถียงกับเขาเพราะเธอกำลังมองออกไปด้านนอกที่กำลังดูวุ่นวายราวกับว่าเกิด
อุบัติเหตุขึ้น เหล่าพ่อมดแม่มดที่ยืนอยู่ข้างนอกกำลังจับกลุ่มซุบซิบกัน และทุกคนมีท่าทางกังวลและหวาดกลัว

“มีอะไรเหรอ” มัลฟอยลุกขึ้นมาดูใกล้ ๆ 

“ไม่รู้เหมือนกัน - - เหมือนเกิดเรื่อง” 

มาดามมัลกิ้นลุกลนเดินออกมาจากหลังร้านออกไปรวมกลุ่มกับพ่อมดและแม่มดด้านนอก
 เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยมองหน้ากันอย่างสงสัย
“เขามีอะไรกันน่ะ” เด็กหญิงพึมพำ

“แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่” มัลฟอยมองสีหน้าคนข้างนอกแล้วเดา

มาดามมัลกิ้นหน้าซีดลงแล้วเดินเข้ามาในร้าน

“หนูจ๋า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เขาว่ากันว่า ซีเรียส แบล๊กปลอมตัวเข้ามาปนกับคนในตรอกไดแอกอน” เธอบอกกับมัลฟอย
และเฮอร์ไมโอนี่

“ซีเรียส แบล๊กน่ะเหรอคะ” เด็กหญิงถามอย่างแปลกใจ

“ใช่แล้วจ้ะ เอ่อ - - ฉันคงต้องรีบปิดร้านแล้วล่ะ พวกเธอก็รีบกลับบ้านทันทีเถอะนะจ๊ะ จะเป็นอันตราย 
ฉันจะไปหยิบชุดมาให้เดี๋ยวนี้เลยนะ” มาดามพูดจบก็แทบจะวิ่งไปหยิบชุดมาให้ทั้งสอง 

เฮอร์ไมโอนี่กล่าวขอบคุณแล้วเดินออกมาจากร้านพร้อมกับมัลฟอย คนอื่น ๆ ดูวุ่นวายเพราะแตกตื่นกับข่าวที่ได้รับมา
 เด็กหญิงรู้ดีอยู่แล้วเรื่องแบล็ก จึงถอนใจออกมา
“ข่าวลือมากกว่า ไม่น่าตกใจกันเลย”
“เธอรู้ได้ยังไง” มัลฟอยถาม
เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก

“ฉันเดาเอาน่ะ - - ก็แบล็กกำลังหนีอยู่ ไม่น่าจะมาเพ่นพ่านแถวนี้นี่นา อาจจะถูกจับ”

“ใครจะไปรู้ว่าเจ้าฆาตกรนั่นคิดอะไร” เด็กชายว่า

“แบล็กไม่ใช่ฆาตกร” เฮอร์ไมโอนี่เถียงออกไปโดยไม่ทันคิด

“ปกป้องแม้กระทั่งพ่อทูนหัวเจ้าพอตเตอร์รึเนี่ย!” มัลฟอยพูดเสียงดัง

“มัน - - มันไม่เกี่ยวว่าเขาเป็นพ่อทูนหัวของแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่รีบแก้ตัว

มัลฟอยพ่นลมหายใจพรืดแล้วเดินหนีเธอไปที่ปากทางของตรอกได้แอกอน เฮฮร์ไมโอนี่รีบเดินตามแต่ตรงทาง
ออกนั้นแน่นขนัดไปด้วยกลุ่มคน มีพ่อมดที่สวมเครื่องแบบของกระทรวงเวทมนตร์ยืนอยู่สองคน 
และกำลังกันผู้คนที่กำลังพยายามออกจากตรอกให้ได้

“ใจเย็น ๆ ครับ ทางกระทรวงได้รับแจ้งว่านักโทษหลบหนีซีเรียส แบล็กจะผ่านมาแถวนี้”

“แล้วทำไมไม่ให้พวกเรากลับบ้านล่ะ! - - จะมากักตัวพวกเราไว้ทำไมตั้งคืนหนึ่ง” พ่อมดคนหนึ่งพูดอย่างมีอารมณ์

“เพราะเขาอาจจะปลอมตัวมาเป็นพวกคุณคนใดคนหนึ่งน่ะสิครับ ขอความร่วมมือด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัย

ของทุคน ถ้าซีเรียส แบล็กปลอมตัวมาจริง ๆ เราก็จะจับเขาได้ที่นี่ ดังนั้นเราจึงต้องให้พวกคุณพักที่นี่คืนหนึ่งก่อน 

แล้วทางกระทรวงจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบพรุ่งนี้ ทางเราจะจ่ายค่าที่พักให้ครับ” พ่อมดเจ้าหน้าที่ขอร้องอย่างสุภาพ

หลายคนพึมพำอย่างไม่พอใจว่าทางกระทรวงทำงานช้าเกินไป - - พวกเขาต้องค้างในตรอกแห่งนี้ตั้งหนึ่งคืนเพื่อรอ

เจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว แต่เพื่อความปลอดภัยก็ไม่มีทางเลือก 

“ทำงานกันช้าอย่างนี้นะซี่ - - ตอนที่ตัวโปเกรบินมาอาละวาดอยู่เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ไม่รู้จัดการกันไปหมดหรือยัง”

แม่มดคนหนึ่งบ่นขณะที่แยกย้ายกันไปหาที่พักตามร้านต่าง ๆ พร้อมกับคนอื่น ๆ

มัลฟอยเดินไปพูดกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังเฝ้าประตูคนนั้น

“คุณหนูมัลฟอย” เขาทักอย่างนอบน้อม

“พ่อฉันไม่มีทางยอมให้ฉันนอนที่นี่แน่!” เขาพูดเสียงดัง

“คุณมัลฟอยจะค้างที่ตรอกนอกเทิร์นครับและจะมารับคุณหนูพรุ่งนี้ ทางเรายอมให้ออกไม่ได้จริง ๆ และก็ยอมให้ใคร

เข้ามาไม่ได้เช่นกัน - - มันอันตรายครับ”

เด็กชายสะบัดหน้าเดินกลับเข้าไปในตรอก เฮอร์ไมโอนี่เดินตามเขาไปติด ๆ

“ตกลงเราต้องนอนที่นี่เหรอเนี่ย” เธอถาม

“ใช่! พ่อฉันไม่มีทางจบเรื่องนี้ง่าย ๆ หรอก ฉันไม่มีทางยอมนอนในตรอกซอมซ่อนี่แน่!” มัลฟอยยังเดินด้วยความ
เร็วเท่าเดิม

“เราต้องเชื่อฟังกระทรวง - - เธอหยุดเดินซะทีได้ใหม!” เด็กหญิงคว้าเสื้อคลุมเขาไว้

มัลฟอยยอมหยุด แล้วหันมามองอีกฝ่ายที่หอบเพราะเดินไล่เขามาไกล

“เราไม่มีทางต่อรองเขาได้หรอก ทำตามที่เขาบอกดีกว่า - - เชื่อฉันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกเขา มัลฟอยถอนใจยาว

“ก็ได้” 

********3******* 

“พวกเธอมาถูกที่แล้ว” ทอมผู้เป็นเจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่วยิ้มให้เห็นเหงือกที่ไม่มีฟันสักซี่
 เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยเดินมาถามเขาถึงห้องพักที่พวกเขาจะนอนในคืนนี้

แฮร์รี่เคยมานอนพักที่ร้านนี้ตอนปีสาม แน่นอนว่าเขาเล่าให้เฮอร์ไมโอนี่ฟัง เธอจึงรู้ว่าที่ไหนมีห้องพักและก็แน่นอน

อีกว่าเธอไม่ได้บอกมัลฟอยเรื่องที่เธอรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีห้องพัก (เขาจะได้โกรธอีกปะไรถ้ารู้ว่าเพราะแฮร์รี่บอก)

 ภายในร้านหม้อใหญ่รั่วมีคนเยอะกว่าทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นห้องรับประทานอาหารข้างล่าง หรือแม้แต่บนบันไดก็

มีคนเดินลงมาเป็นระยะเพราะที่นี่ถูกใช้เป็นที่พักในคืนนี้ของอีกหลาย ๆ คน

“นี่กุญแจห้องของพวกเธอนะ” เจ้าของร้านยื่นกุญแจสองดอกให้เฮอร์ไมโอนี่ด้วยมือที่เหี่ยวย่นเหมือนใบหน้า

“เหลือสองห้องสุดท้ายพอดี - - ถ้าไม่ใช่เพราะแบล็กล่ะก็คนคงไม่เต็มอย่างนี้”

ทอมยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ

“แล้วฉันก็จำเธอได้นะ เธอคือเพื่อนของแฮร์รี่พอตเตอร์ผู้มีชื่อเสียง เขาเคยมาพักที่นี่ตอนปีสาม - - เป็นเกียรติจริง ๆ”

มัลฟอยพึมพำเบา ๆ แต่เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเขาพูดว่า - - “เชอะ” หรืออะไรทำนองนั้น

“ทำไมเราต้องค้างด้วยล่ะคะ” เด็กหญิงพูดอย่างไม่พอใจนัก เธอรู้เรื่องซีเรียสแบล็กดี แต่เธอไม่สามารถตะโกน
บอกให้ใคร ๆ รู้ เช่น พูดว่า - - “เฮ้! พวกคุณ จะกลัวทำไมกัน ฉันเคยเจอเขาแล้ว แบล็กเป็นผู้บริสุทธิ์นะ”

“แม่หนู เธอไม่รู้ว่าซีเรียส แบล็กน่ากลัวขนาดไหน” ทอมพูดอย่างเคร่งขรึม “ปลอดภัยที่สุดแล้วที่จะรอให้กระทรวง

เวทมนตร์จัดการส่งตัวผู้เชี่ยวชาญมาพรุ่งนี้ - - อย่างไรเสียฉันก็ชื่นชมที่กระทรวงทำงานกันอย่างเต็มที่นะ

 อย่างตอนตัวโปเกรบินมาอาละวาดที่นี่ พวกเขายังจัดการเสีย - - เอ้อ ฉันคิดว่า เรียบร้อยดีแล้ว” ทอมพูดด้วยน้ำ

เสียงที่พยายามเหมือนให้ดูมั่นอกมั่นใจแล้วเขาก็เปลี่ยนเรื่อง

“อาหารเย็นเราก็เตรียมไว้แล้ว พวกเธอไปทานกันที่ห้องอาหารนะ” เจ้าของร้านชี้ไปที่ห้องเล็ก ๆ ที่มีคนอยู่เต็ม

ซุปร้อน ๆ ถูกยกมาวางบนโต๊ะ เฮอร์ไมโอนี่ยกช้อนขึ้นมาถือ แล้วชวนอีกฝ่ายคุย

“ฉันเพิ่งนอนที่ร้านนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย - - เธอล่ะเคยพักที่ตรอกไดแอกอนหรือนอกเทิร์นบ้างหรือเปล่า” เธอถาม

“ไม่เคย มันไม่ใช่ที่สำหรับนอนพักนะที่นี่น่ะ” เด็กชายบิขนมปังที่นำมาเสิร์ฟพร้อมกันออกเป็นสองส่วนแล้วยื่น

ให้เฮอร์ไมโอนี่ เธอมีท่าทางแปลกใจเล็กน้อยที่ได้รับจากเขา แต่ดูเหมือนมัลฟอยไม่ได้สนใจ

“มันเป็นที่พักสำหรับพวกพ่อมดแม่มดต่างเมืองที่ไม่รู้ว่าเป็นพวกหนีคดีหรือว่ามีความผิดติดตัวอะไรบ้างหรือเปล่า”

เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า แต่ในใจก็คิดว่ามัลฟอยอาจจะแขวะเธอว่า - - แต่แฮร์รี่เคยมาพักที่อย่างนี้

หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้วพวกเขาก็เดินขึ้นไปที่ห้องพักชั้นสอง มีป้ายเขียนหมายเลขห้องเขียนอยู่คือห้อง
 11 กับ 12 เฮอร์ไมโอนี่ยื่นกุญแจให้มัลฟอย พวกเขาพักห้องติดกัน เด็กชายรับมาถือแล้วดูกุญแจในมือ

“ฉันไม่มีกุญแจเข้าห้อง” เขาพูดหน้าตาเฉย

เฮอร์ไมโอนี่ทำท่างงสุดขีด - - ก็เขาถืออะไรอยู่ล่ะ

“นี่ไง” มัลฟอยชูกุญแจให้อยู่ในระดับสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ เขากำมือและดีดนิ้ว เมื่อแบมือออกให้เธอดูก็ไม่มีกุญแจแล้ว

“อย่ามาทำเจ้าเล่ห์กับฉันนะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง มัลฟอยทำท่ายียวน

“อยากหาไหมล่ะ” เขากางแขนให้ค้นตัว

เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงก่ำ - - อีกแล้วหรือนี่!

“งั้นก็นอนที่พรมเช็ดเท้านี่ก็แล้วกัน!” เด็กหญิงไขกุญแจห้อง - - เหมือนกับผิดดอกเพราะไขไม่ออก!

“เธอให้กุญแจฉันผิด ที่หายไปคือกุญแจห้องเธอต่างหาก - - เอากุญแจห้องฉันมา” มัลฟอยพูดแล้วแกล้งแบมือ

“ไม่มีทาง” เด็กหญิงพูดเสียงดัง หน้าแดงขึ้นอีก ตอนนี้จะให้ทำยังไงก็ได้เพื่อจะเอากุญแจคืนมาหรือถ้าขอ
ได้อีกก็คือเล่นงานมัลฟอยซักที

“ฉันล้อเล่นน่า” เขาพูดเมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเธอ แล้วมัลฟอยก็เอื้อมมือมาที่ผมของเฮอร์ไมโอนี่ แล้วทำเหมือน
ดึงกุญแจออกมาจากผมอีกฝ่าย

“เอาไปสิ” เขายื่นให้

หลังจากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ภายในห้องมีเตียงนอนสบายและเฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊กขัดเงามันปลาบสองสามชิ้น
 เด็กหญิงถอดเสื้อคลุมออกพาดที่เก้าอี้ ถอดรองเท้าและถุงเท้าออกก่อนจะทิ้งตัวลงนอน 

ความเงียบสงบในตรอกไดแอกอนทำให้เธอเริ่มรู้สึกง่วงจัด เด็กหญิงหลับตาลง คืนนี้เธอต้องฝันดีแน่ ๆ - - 

“แง…!!! - - แง้…!!!”

เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้จ้าของเด็กเล็ก ๆ จากชั้นล่าง เธอคว้าเสื้อคลุมแล้วเดินออกจากห้องลง
ไปตามที่มาของเสียง เมื่อเดินลงมาถึงเคาน์เตอร์ของทอมก็เห็นหญิงสาวกำลังเขย่าตัวเด็กทารกในวงแขนอย่าง
ไม่ค่อยสบายใจนัก ที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็คือเด็กชายและเด็กหญิงอายุราวสองสามขวบ

“ไม่มีห้องว่างเลยจริง ๆ หรือคะ” เธอถามเจ้าของร้าน “ฉันกับลูก ๆ เดินหาที่พักกันนานแล้วค่ะ แต่ก็ไม่มีที่ว่างเลย” 
หญิงสาวพูดเสียงเศร้า และเขย่าตัวเจ้าหนูในวงแขนที่ยังร้องไห้อยู่

“ฉันเสียใจจริง ๆ แต่ห้องพักของเราเต็มหมดแล้ว” ทอมพูดอย่างหมดทาง เขาก็สงสารหญิงคนนี้เหมือนกัน

“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“คุณผู้หญิงท่านนี้กำลังหาที่พักให้เธอและลูก ๆ อยู่น่ะ” ทอมเล่า “แต่ที่ร้านก็เต็มหมดแล้วแม้แต่ห้องรับแขก”

เฮอรืไมโอนี่มองหญิงสาวและลูกอีกสามคนอย่างสงสาร ท้ายที่สุดเด็กหญิงก็ตัดสินใจ

“รอเดี๋ยวนะคะ” เธอเดินเร็ว ๆ กลับขึ้นไปที่ชั้นสอง เมื่อไปถึงห้องของตัวเองเธอกลับเคาะห้องของมัลฟอยที่อยู่ข้าง ๆ
 แทน เด็กชายเปิดประตูออกมาพลางขยี้ตา เขาขมวดคิ้วนิดหนึ่งเมื่อเห็นอีกฝ่าย

“เกรนเจอร์ - - มีอะไร” มัลฟอยถาม

“เอ่อ คือว่าฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พยายามเรียบเรียงคำพูด ไม่รู้ว่ามัลฟอยจะยอมหรือเปล่า

เมื่อเห็นอีกฝ่ายอึกอัก เขาก็แกลังถาม

“คิดถึงฉันหรือไง เข้ามาสิ”

“ออกมาเร็ว” เด็กหญิงตัดสินใจบอก

“ข้างในดีกว่ามั้ง” เขาว่า

“ออกมาเถอะน่า” เฮอร์ไมโอนี่ดึงเขา

“ในห้องดีกว่า” มัลฟอยตั้งท่าจะดึงเธอเข้าไปในห้องตัวเอง - - ไม่รู้ว่าเขาตีความไปถึงไหน

“หยุดพูดเพ้อเจ้อซะที!” เด็กหญิงตะโกนแล้วนึกขึ้นได้ว่าคนอื่นคงกำลังนอนอยู่จึงขู่เขาเสียงค่อย
 “ออกมาแล้วลงไปข้างล่างกับฉันเร็ว”

มัลฟอยถอนใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมในห้องมาสวมก่อนจะเดินตามเธอลงมา

******4******

เฮอร์ไมโอนี่เดินนำมัลฟอยลงมาที่ชั้นล่าง แล้วเธอก็เดินไปหาหญิงสาวที่ยังคงยืนรออยู่ตรงเคาน์เตอร์

“ใช้ห้องของหนูก็ได้ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ยื่นกุญแจให้

มัลฟอยเลิกคิ้วด้วยความงง หญิงคนนั้นมีท่าทางเกรงใจ

“ฉันไม่อยากรบกวน” เธอเขย่าตัวลูกน้อยที่อุ้มอยู่

“รับไปเถอะค่ะ” เด็กหญิงดึงมืออีกฝ่ายมารับกุญแจ

หญิงสาวอึกอักแต่ลูกน้อยที่ร้องไห้อยู่ในวงแขนกับเด็กชายหญิงสองคนก็ท่าทางอ่อนเพลียมาก
 เธอจึงยอมรับกุญแจจากเฮอร์ไมโอนี่มาโดยดี

“แล้วหนูจะไปนอนที่ไหนล่ะจ๊ะ” หญิงสาวถาม 

“หนูไปนอนกับเพื่อนได้” เฮอร์ไมโอนี่บอกให้เธอสบายใจ แล้วหันไปมองมัลฟอยไม่ให้พูดว่า “ผมเอง” ออกมา

“ขอบใจหนูมากจริง ๆ” หญิงคนนั้นกล่าวแล้วเดินขึ้นไปได้ไปก่อนพร้อมกับลูก ๆ 

มัลฟอยมองจนเธอเดินลับตาไปแล้วก็หันมาหาเฮอร์ไมโอนี่ - - ทันใดนั้นเองก็มีเงาบางอย่างแว่บผ่านตาของเขา
ไปทางด้านหลังเด็กหญิง มัลฟอยคว้าตัวเธอให้เบี่ยงหลบทันที

“อะไร!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เด็กชายก้มมองด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่แต่นอกจากเงาของเธอแล้วก็ไม่มีอย่างอื่น

“ฉันเห็นอะไรก็ไม่รู้” 

หลังจากที่เขาจ้องอยู่สักพักก็ไม่มีอะไรขยับเขยื้อนอีก มัลฟอยค่อยปล่อยเธอ

“ตาฝาดมั้ง - - แต่เราจะเอาไงต่อล่ะทีนี้” เขาถาม

“ฉันจะนอนตรงนี้เอง” เฮอร์ไมโอนี่หมายถึงตรงเคาน์เตอร์รับแขก เพราะเธอเป็นตัวตั้งตัวตีให้แม่ลูกเหล่านั้นไปนอน
ที่ห้องของเธอเอง พูดจบเธอก็จะแยกไป มัลฟอยดึงแขนอีกฝ่ายไว้ทันซะก่อน

“ไปนอนกับฉันก็ได้”

เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพูมองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง - - ต่างฝ่ายต่างเงียบ มัลฟอยเห็นท่าทางของเธอก็พูดพลางหัวเราะ

“คิดไปถึงไหนเนี่ย”

“เปล่าสักหน่อย!” เฮอร์ไมโอนี่พูด - - แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าตอบรับทันทีล่ะก็มัลฟอยต้องตีความหมายประโยคของเขา
ไปอีกทางหนึ่งแน่

แล้วทั้งสองก็เดินขึ้นบันไดไปด้วยกัน ภายในห้องก็ตกแต่งแบบเดียวกันแต่มีขนาดเล็กกว่าห้องของเฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อย 
อาจจะเป็นเพราะว่าห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายที่สุดทางเดินแล้ว ไม่สามารถขยายขนาดได้อีก 

เฮอร์ไมโอนี่ถอดเสื้อคลุมแล้วหยิบหมอนมาวางไว้บนพื้น โชคดีที่มีหมอนพอสำหรับทุกคน - - เศร้าจัง
 เธอทำให้มัลฟอยเดือดร้อนแน่ ๆ เด็กหญิงคิดอย่างไม่สบายใจ

“เกรนเจอร์ - - เกรนเจอร์!”

เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง แล้วรีบหันไปมองเขา มัลฟอยแปลกใจที่เห็นเธอเหม่อลอย

“เป็นอะไรของเธอ ฉันเรียกตั้งนาน” เขาถอดเสื้อคลุมออกบ้าง แล้วเอาไปแขวนที่เก้าอี้ปลายเท้า

“เปล่า - - เปล่า มีอะไรเหรอ” เธอถอนใจเฮือก รู้สึกจิตใจหดหู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เธอไม่ต้องนอนพื้นหรอก ฉันยกเตียงให้ ไปนอนซะ” เด็กชายพูดแล้วหลบจากเตียงให้เธอเดินไปนอนแทน

“แต่ว่า เธอเดือดร้อนเพราะฉันนะ” เด็กหญิงพูดพลางก้มหน้า

“เธอเป็นอะไรไปน่ะ” มัลฟอยขมวดคิ้วถาม - - อีกฝ่ายมีท่าทางแปลก ๆ 

“ไม่มีอะไร อย่าลำบากเพราะฉันอีกเลย ฉัน - - ฉันจะนอนตามที่เธอบอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินไปที่เตียง
 เด็กหญิงทิ้งตัวลงนอนแล้วพยายามข่มตาให้หลับ มัลฟอยรู้สึกสงสัยในท่าทางของเธอแต่ก็ล้มตัวลงนอนบ้าง

เฮอร์ไมโอนี่พยายามหลับตาลง - - แต่เธอก็รู้สึกแปลก ๆ สมองเริ่มคิดถึงเรื่องโศกเศร้าที่ผ่านมาในชีวิต
 แต่ความง่วงก็ทำให้เธอไม่สามารถลุกขึ้นมาปรับจิตใจได้ เด็กหญิงรู้สึกหม่นหมองจนถึงขนาดคิดไปว่าการที่เธอ
นอนไม่หลับก็เพราะเธอนั้นไม่ได้ความเสียเลย

แล้วเธอก็ฝัน - - ฝันเห็นตัวเองยืนอยู่เพียงลำพัง รอบตัวมืดสนิท และอ้างว้าง มองไม่เห็นสิ่งใด 

“ที่นี่ที่ไหนกัน” เธอถามตัวเอง

ทันใดนั้นเองด้านหน้าออกไปเธอก็เห็นคนสองคนเดินอยู่ด้วยกัน

“แฮร์รี่! รอน! ฉันอยู่ตรงนี้” เฮอร์ไมโอนี่วิ่งไปเรียกพวกเขา

เด็กชายทั้งสองคนหันมามองเธอด้วยแววตาเย็นชา

“เธอเป็นใครยายหัวฟู” แฮร์รี่พูด

“ฉะ - - ฉันเองไง เฮอร์ไมโอนี่” เธอละล่ำละลักพูด แฮร์รี่กับรอนมองหน้ากัน

“เสียใจ เราไม่รู้จักเธอ เธอเป็นมักเกิ้ลนี่นา” รอนว่าแล้วทั้งสองก็เดินจากไป

“ไม่ - - ไม่! รอน แฮร์รี่! พาฉันไปด้วย ช่วยฉันด้วย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกเพื่อน แต่พวกเขาไม่หันกลับมาอีกเลย 
แม้ว่าเธอจะพยายามวิ่งไล่ให้ทัน แต่ทั้งสองกลับไกลออกไปทุกที เธอทรุดลงด้วยความเหนื่อยอ่อน

“อย่าทิ้งฉันไป ช่วยฉันด้วย…” เธอเริ่มร้องไห้

คน ๆ หนึ่งมายืนตรงหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่เงยศรีษะขึ้นมองเขาแล้วก็ร้อง

“มัลฟอย! เธอพาฉันออกไปที!”

อีกฝ่ายยิ้มเยาะ - - เป็นรอยยิ้มที่เธอเคยเกลียดจับใจ

“ยายเด็กเลือดสีโคลนโสโครก! ไปให้พ้น - - น่ารังเกียจที่สุด!” 

เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง มัลฟอยหัวเราะเสียงดัง เขาหันหลังเดินจากเธอไปอีกคน

“ไม่ ไม่! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” เธอเอามือปิดหูแล้วตะโกนเสียงดัง

ทันใดนั้นเองเฮอร์ไมโอนี่ก็ลืมตาขึ้น - - แต่หัวใจของเธอไม่ปกติเสียความเศร้าที่หนักอึ้งเหมือนก้อนหินราว
กับบรรจุอยู่ในอกจนเต็ม น้ำตาไหลพรากลงมาอาบแก้ม เธอหยัดกายลุกขึ้นแล้วเอามือปิดหน้า

“ฉันมันไม่ได้เรื่อง - - ไร้ประโยชน์”

เด็กหญิงหันไปมองมัลฟอยที่นอนอยู่บนพื้นข้าง ๆ แต่เขาหายไปเสียแล้ว - - หายไปไหน? มีเพียงผ้าห่มกองอยู่ตรงปลายเท้า

“เขาหนีฉันไปแล้ว! เขาหนีฉันไปจริง ๆ“ เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วทันใดนั้นเอง
 เธอก็ได้ยินเสียงร้องเรียกจากนอกหน้าต่าง

“เกรนเจอร์ - - ลงมานี่เร็ว”

เด็กหญิงรีบชะโงกหน้าออกไปที่หน้าต่างซึ่งติดกับเตียงนอนอยู่แล้ว - - มัลฟอยยืนโบกมืออยู่ข้างล่าง 
เขาสวมเสื้อคลุมเรียบร้อย ดวงตาคู่นั้นของเขาส่งประกายอยู่ในความมืด

“ลงมาหาฉันสิ เกรนเจอร์” เขาเรียกเธอซ้ำ “เธอไม่ได้ไร้ค่า ฉันอยู่ตรงนี้ ลงมาหาฉันเร็ว”

เด็กหญิงลุกพรวดออกจากเตียงลงไปหาเขาโดยไม่ทันคิด - - ถ้าเพียงแต่เธอสังเกตสักนิด
 ก็จะเห็นว่าเสื้อคลุมของมัลฟอยนั้น ยังคงพาดอยู่ที่เก้าอี้!

********5********

“มัลฟอย - - มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เรียกชื่อเขาแทบจะตลอดทางที่เดืนลงมา ภายในร้านนั้นมืดและไม่มีคนเดิน
ไปเดินมาเลยเพราะเป็นเวลาดึกมากแล้ว จนในที่สุดเธอก็เดินออกมานอกร้าน มัลฟอยยังคงยืนรออยู่ที่เดิม

“มาหาฉันสิเกรนเจอร์” เขาเรียกอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่วิ่งไปหาเขาทันที 

มัลฟอยจับไหล่เธอไว้สองข้าง แล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย

“ฉันฝันร้าย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางสะอื้น ริมฝีปากของเธอเองก็สั่นระริก “ฝันร้ายเหลือเกิน - - มัน - - เหมือนจริงมาก”

“ฝันร้ายเหรอ” มัลฟอยถามเสียงเย็น “เหมือนจริงมากเลยใช่ไหม” 

รอยยิ้มประหลาดปรากฏขึ้นบนหน้าของเด็กชาย แต่เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังกลัวจนทำอะไรไม่ถูกนั้น
 ไม่ได้สังเกต เด็กชายรั้งร่างเธอมากอดก่อนจะซบหน้าลงบนลำคอของอีกฝ่าย

"กลัวเหรอเกรนเจอร์ กลัวมากเลยสินะ"

ทันใดนั้นเองเขาก็ค่อย ๆ อ้าปากออกเผยให้เห็นฟันคมกริบซี่เล็ก ๆ เรียงกัน เฮอร์ไมโอนี่ยังคงไม่รู้เรื่องรูราว
จึงยังกอดเขาอยู่

“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะอยู่กับเธอ” มัลฟอยพูดอยู่ริมหูของเด็กหญิง ดวงตาลุกวาว - - ฟันแหลมคมที่เรียงกันของเ
ขากำลังจะสัมผัสต้นคอของอีกฝ่าย!

ปัง!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นแล้วร่างของเด็กชายก็ปลิวหวือจากเฮอร์ไมโอนี่ เด็กหญิงล้มลงนอนแน่นิ่งกับพื้นทันที

มัลฟอยอีกคนยืนหอบด้วยความโกรธอยู่ตรงประตูร้านหม้อใหญ่รั่วพร้อมกับไม้กายสิทธิ์ในมือ!

“กล้าปลอมเป็นฉันเชียวรึ ไอ้โปเกรบินกระจอก!”

มัลฟอยคนแรกที่กระเด็นไปไกลค่อย ๆ เปลี่ยนร่างกลายเป็นปีศาจตัวเต็มไปด้วยขน หัวขนาดใหญ่เรียบเป็นสีเทา
 สูงไม่ถึงหนึ่งฟุต มัลฟอยตัวจริงโกรธจัด

“สตูเปฟาย!" เขาฟาดไม้เสียงดังควับ เจ้าโปเกรบินตัวร้ายส่งเสียงร้องดังลั่นแล้วกระเด็นไปไกลขึ้นอีก

เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนพื้น มัลฟอยยังไม่หยุดแค่นั้น เขาเดินไปหาโปเกรบินซึ่งสลบอยู่ แล้วเตะ
โครมเข้าทีตัวมัน 

“แก! - - แก!" เขายั้งตัวเองไม่อยู่จึงกระทืบเข้าที่ตัวมันหลายต่อหลายครั้ง 

"เกิดอะไรขึ้น - - โอ! แม่หนู” ทอมเจ้าของร้านที่ถือตะเกียงเดินออกมา มีท่าทางตกใจเมื่อเห็นสภาพของเฮอร์ไม
โอนี่ที่นอนแน่นิ่ง เขารีบเดินเข้ามาประคองเด็กหญิง แล้วพูดกับมัลฟอย

“พอก่อนเถอะพ่อหนู ฉันจะจัดการมันให้ เธอรีบพาเพื่อนเธอไปที่ห้องก่อนเถอะ”

มัลฟอยยืนหอบหายใจอยู่กับที่ เจ้าโปเกรบินตัวนั้นนอนนิ่งอยู่ใต้เท้าของเขา ตัวแบนติดพื้น
 สภาพเหมือนพรมเช็ดเท้าเก่า ๆ ไปเสียแล้ว - - เขาเดินมาช่วยประคองเฮอร์ไมโอนี่

“เกรนเจอร์! เกรนเจอร์! ตื่นเร็ว!” เขาเรื่มเขย่า

“อย่ารุนแรง พ่อหนู พาเธอไปที่ห้องก่อนเร็ว” ทอมว่าแล้วก็เสกเชือกออกมาเพื่อจะไปมัดเจ้าโปเกรบินวายร้าย

มัลฟอยประคองเฮอร์ไมโอนี่ที่หมดสติไปบนห้องชั้นสองอย่างทุลักทุเล พอเขาวางตัวเธอลงที่เตียง
 สักพักเด็กหญิงก็เริ่มขยับตัวอย่างทุรนทุราย เขาจับมือเธอไว้อย่างเป็นห่วง

“คงฝันร้าย” ทอมว่า เขาลากเจ้าโปเกรบินตามหลังมาด้วย “เดี๋ยวฉันจะเอามันไปมัดไว้ข้างล่าง - - ไหน 
ให้ฉันดูอาการแม่หนูหน่อย”

เด็กหญิงขยับตัวไปมาอีกครั้ง ทอมเอามือจับหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเธอด้วยดวงตาสงสาร

“ปกติถ้าจัดการเจ้าโปเกรบินได้แล้วก็จะหายนี่นา - - เขาเคยกินยาอะไรที่มีผลต่อความฝันไหม”

มัลฟอยขมวดคิ้ว - - ฝัน - - น้ำยาฝันร้าย!

“น้ำยาฝันร้าย เขาเคยกินไปนานแล้ว แล้วก็กินยาแก้แล้วด้วย” เด็กชายตอบ

“ถ้ารักษาแล้วก็ไม่มีผลอีกแล้วนี่นา” ทอมพึมพำ “เจ้าโปเกรบินตัวนี้มันไม่ธรรมดา - - ก็ปกติมันแปลงร่างได้ซะทีไหน
 เพื่อนเธอคงกำลังเบลอ เลยเห็นเป็นเธอจริง ๆ”

ทันใดนั้นเองเฮอร์ไมโอนี่ก็กรีดร้องแล้วดิ้นพราด ๆ มือตะกุยอากาศ

“เกรนเจอร์!" มัลฟอยตกใจ เขาคว้ามือเธอมาจับไว้ แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ร้องไห้ทั้งที่ยังหลับ

“ผม - - ผมเคยให้เขาดื่มเข้าไปเอง”

“พ่อหนู! นั่นมันผิดกฏหมาย!" ทอมร้อง “เธอมีน้ำยาฝันร้ายได้ยังไง”

มัลฟอยไม่ได้สนใจจะตอบ อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้เค้นความจริงจากเขา จึงถามแทน

“เธอไปอยู่ไหนตอนที่เขาโดนมันเล่นงาน” 

“ผมลงไปหาน้ำกิน - - คลาดจากเขา แค่ไม่ถึงนาที” เด็กชายกุมขมับ สีหน้าปวดร้าว

ทอมเห็นสีหน้าของมัลฟอยก็สงสารจับใจ เขาพรวดพราดลากเจ้าโปเกรบินลงไปชั้นล่าง เขาหันมาสั่งอีกฝ่าย

“ฉันจะไปเรียกผู้เชี่ยวชาญในตรอกนี้มานะ - - เธอดูแลเขาไปก่อน” ว่าจบเขาก็แทบจะวิ่งลงบันไดไป

เหลือเพียงมัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในห้อง เขากุมมือเด็กหญิงแน่น - - เธอกำลังร้องไห้

“เกรนเจอร์ เธอเสียใจอะไร - - ตื่นมาเถอะ มาบอกฉัน” เขาเอามือของเธอมาแนบที่ใบหน้า

น้ำตายังคงไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทของเธอ

“ฉันขอโทษ ได้โปรดเถอะ - - เฮอร์ไมโอนี่ ตื่นขึ้นมามองฉัน” 

มัลฟอยเรียกชื่อเด็กหญิงเป็นครั้งแรก เขาบีบมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นอีก - - แต่ความอบอุ่นนั้นดูเหมือนจะ
ไม่ได้ถ่ายทอดถึงเธอเลย เด็กหญิงยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าที่ไม่มีใครรู้

************6******

ทอมกลับมาพร้อมกับพ่อมดที่สวมแว่นสายตาหนาเตอะ มือถือกล่องยามาด้วย พวกเขากระหืดกระหอบเข้า
ประตูมาที่ห้องของมัลฟอย ชายคนที่มาใหม่รีบไปนั่งข้างเฮอร์ไมโอนี่แล้วเอาหูฟังไปแนบที่อกของเธอ

“หัวใจเต้นแรงมาก ยังกับวิ่งมานาน” เขาบอกแล้วหยิบกระบอกฉีดยาออกมาจากระเป๋า

“ต้องฉีด - - ไม่งั้นแย่แน่” เขาบอกให้มัลฟอยถลกแขนเสื้อของเด็กหญิงขึ้น

ปลายเข็มถูกแทงเข้าไปในข้อพับแขนของเฮอร์ไมโอนี่ เด็กหญิงค่อย ๆ สงบลง ท่าทางสบายขึ้น 
ทุกคนในห้องถอนใจโล่งอก

“ทันเวลาพอดี - - แต่คืนนี้ต้องเฝ้าดูอาการด้วยนะ - - ไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ น้ำยาฝันร้ายมันผิดกฎหมายนะนี่” 

“โดนเจ้าตัวนั้นเล่นงานเข้าด้วย” ทอมพูดถึงตัวโปเกรบินที่ยังสลบเหมือดเพราะถูกเล่นงานด้วยเวทมนตร์ (และเท้า) 
ของมัลฟอย

“งั้นหรือมินาล่ะ” ชายที่เป็นผู้รักษาเด็กหญิงพูด “มันก็เลยไปกระตุ้นความเศร้าที่เคยมีตอนถูกน้ำยาฝันร้ายเล่นงานเข้าน่ะสิ 
โดนเล่นงานตอนนอนอีกด้วย”

มัลฟอยนั่งมองเธออยู่ข้างเตียง ทอมเห็นท่าทางของเขาก็พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน

“พ่อหนู ไม่ต้องกังวลหรอก เธอก็เห็นแล้วนี่ว่าเขาไม่เป็นไร”

เด็กชายพยักหน้าพลางถอนใจ - - เฮอร์ไมโอนี่ที่หลับสนิทด้วยท่าทางผ่อนคลายกว่าเดิมทำให้เขาคลายความเป็นห่วง
ไปได้มาก ทอมพูดต่อ

“เธอเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่า” เขาเดินไปเปิดตู้ในห้องแล้วหยืบเสื้อสีขาวออกมาให้มัลฟอย
 “เหงื่อท่วมตัวอย่างนั้นคงไม่สบายตัวสินะ”

“ไม่ต้องก็ได้” มัลฟอยว่าแล้วเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากให้ขึ้นไป 

“เธอเกลียดสีขาวเหรอ” ทอมถามพลางยิ้ม

“ไม่เกี่ยวสักหน่อย” มัลฟอยพูดห้วน ๆ แล้วรับชุดมาเปลี่ยน เขาถอดเสื้อเปลี่ยนตรงนั้น - - มันพอดีเป๊ะกับตัวเขา 

“เธอจะเฝ้าเขาใช่ไหม - - ฉันจะลงไปข้างล่างนะ มีอะไรก็เรียกได้ตลอดเวลา” ทอมพูดแล้วก็เดินออกไป

มัลฟอยเลื่อนเก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงออก เขามองเฮอร์ไมโอนี่ที่หลับสนิทแล้วก็ถอนใจ - - คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง
 เด็กชายคิด ดวงตาสีซีดของเขาเริ่มปรือเพราะความอ่อนเพลียหลังจากเมื่อสักครู่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากมาย
 ตอนนี้เขาก็ง่วงจัดและก็ดึกมากแล้วด้วย

มัลฟอยฟุบหลับไปกับโต๊ะท่ามกลางความเงียบสงบในตอนกลางคืนของตรอกไดแอกกอน

……………

เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น รอบตัวมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์นวลที่สาดส่องผ่านหน้าต่างด้านซ้ายมือมาที่เตียงพอดี
 เธอลำดับความคิดช้า ๆ ว่าตอนนี้เธออยู่ไหนและเกิดอะไรขึ้น - - ไม่นานเธอก็จำได้ทั้งหมด
 เธอจำได้ว่าเธอฝัน ฝันร้ายมาก แล้วก็เห็นมัลฟอยเรียกเธอข้างล่าง หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย - 
- เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายังคงมีดาวระยิบระยับ

เด็กหญิงหันไปมองข้าง ๆ ก็เห็นมัลฟอยนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะ เธอลุกขึ้นนั่งแล้วคิด - - เกิดอะไรขึ้น

“มัลฟอย - - มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เรียก

มัลฟอยขยับตัวแล้วยกศรีษะขึ้น เขาอ้าปากหาวแล้วพูด

“ฟื้นแล้วเหรอ เกรนเจอร์ รู้สึกเป็นยังไงบ้าง” 

“ไม่เป็นไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เธอถาม

“เธอโดนโปเกรบินเล่นงานน่ะสิ โดนตอนนอนพอดีเลยฝันร้ายมาก” มัลฟอยบอก

เฮอร์ไมโอนี่นึกออกเด็กหญิงเอามือปิดปากแล้วพูดเสียงสั่น

“ใช่แล้ว - - ฉัน - - ฉันฝันร้ายมาก เธอเรียกฉันแล้วฉันก็ลงไป”

“นั่นไม่ใช่ฉันซักหน่อย” เขาพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ เฮอร์ไมโอนี่

“แต่นี่ฉันตัวจริงแน่ ฉันเป็นห่วงเธอ - - “ 

แล้วเขาก็คว้าอีกฝ่ายมากอดแน่น เด็กหญิงตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว

“แทบตาย” เขาพูดจนจบประโยคในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นแตะ ๆ ที่หลังเขาแล้วพูด

“ขอบใจมาก”

มัลฟอยปล่อยเธอแล้วขยับมานั่งบนที่นอน เฮอร์ไมโอนี่นั่งพิงอกเขาขณะที่ทั้งคู่มองออกไปนอกหน้าต่าง
 เฮอร์ไมโอนี่รุ้สกึอบอุ่นและสบายใจมาก - - มัลฟอยเหมือนเก้าอี้ตัวใหญ่ ๆ เลย

“แฮร์รี่คงไปอยู่กับรอนแล้วมั้งตอนนี้” เด็กหญิงพูดเหมือนนึกออก

“ถ้าเธอพูดถึงเจ้าพอตเตอร์ต่อหน้าฉันอีกครั้งล่ะก็ฉันจะไม่นั่งเฉย ๆ อย่างนี้แน่!” มัลฟอยชักโมโห

เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพูแล้วบีบเขนมัลฟอย เธอหันมาสบตาอีกฝ่ายเหมือนขอโทษ เด็กชายถอนใจเฮือก

เมื่อสบตากันมัลฟอยก็ก้มหน้าลงมาชิด เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงเหมือนทุกครั้ง แล้วเขาก็กดริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปาก
ของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะยกศรีษะออกห่างเพื่อมองต่างฝ่ายให้ชัด 

มัลฟอยมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ เขายกมือของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาจูบ แล้วพูดเหมือนเตือนเด็กหญิง

“ขัดขืนตอนนี้ยังทันนะ” 

เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีแดงเข้ม ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี มัลฟอยก้มหน้าลงมาหาอีกครั้งพร้อมกับกอดเธอแน่นขึ้นอีก
 แต่เฮอร์ไมโอนี่ที่ทั้งเหนื่อยและเพลียเพราะฤทธิ์ยานั้นเริ่มง่วงจัด

“มัลฟอย - - ฉัน….ง่วงแล้ว - - ล่ะ” เธอพูดแล้วก็เงียบลงไปทันที

มัลฟอยแทบไม่เชื่อตาตัวเองเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ล้มตัวลงมาหาเขาอย่างหมดเรี่ยวแรงพร้อมกับหลับไปราวกับหมดสติ - 
- ปัทโธ่เอ๊ย! เขาพูดประโยคนี้ในใจอย่างฉุน ๆ แล้วถอนใจพรืด

*********8*********

เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า สายหมอกเย็นฉ่ำข้างนอกลอยผ่านหน้าต่างไป เด็กหญิงหันไปรอบ ๆ ก็ไม่มีใคร
อยู่อีกแล้ว เธอร้องเรียกมัลฟอย

“มัลฟอย” 

ไม่มีเสียงตอบกลับมา เธอรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็วแล้วคว้าเสื้อคลุมลงไปข้างล่างทันที

“อรุณสวัสดิ์ แม่หนู” ทอมที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ทัก มีลูกค้าคนหนึ่งนั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่ เมื่อเห็นเด็กหญิงกระหืดกระ
หอบวิ่งลงมาจากชั้นสอง เธอพยายามยัดแขนเข้าไปในแขนเสื้อให้เรียบร้อย เธอรีบมาเกาะที่เคาน์เตอร์

“มัลฟอย - - เพื่อนของหนูไปไหนแล้วคะ”

“เขาไปแล้วล่ะ” ทอมบอก “เขาบอกว่าเขาจะเดินไปหาพ่อที่ตรอกนอกเทิร์น - - ฝากโน๊ตไว้ด้วย” 
ชายเจ้าของร้านยื่นกระดาษให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่รับมาอ่านซึ่งก็เขียนไว้ว่า

“เกรนเจอร์ ฉันไปก่อนนะ ไม่ต้องห่วงไม่มีใครรู้เรื่องที่นี่หรอก แล้วเจอกันที่โรงเรียน มัลฟอย”

เฮอร์ไมโอนี่ร้อนรน เธอรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้บอกลาเขาให้ดีกว่านี้ ทอมพูดต่อ

“เขาเพิ่งออกไปได้ไม่นาน”

เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย 

“ตอนนี้ - - ยังทันนะ” ชายชรายิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“ค่ะ!" เฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกไปทันที

“โชคดีนะแม่หนู” ทอมอวยพร แล้วหันมามองลูกค้าที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงหน้าแล้วพูด

“จะรับกาแฟเพิ่มอีกไหมครับ"

เฮอร์ไมโอนี่วิ่งสุดฝีเท้าออกมาจากร้านหม้อใหญ่รั่ว สายหมอกเย็นฉ่ำรอบตัวทำให้ตรอกไดแอกอนดูแปลกไปจากเดิม 
และไม่มีคนเดินอยู่แถวนั้นเลยเพราะยังเช้าอยู่มาก

“มัลฟอย” เธอหยุดวิ่งเพื่อหอบหายใจ เด็กหญิงหันซ้ายขวามองหาเขาแต่ก็ไม่มีใครเดินอยู่แถวนั้นเลย 
เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินต่อไปด้านท้ายตรอกที่จะมีทางไปนอกเทิร์น

แล้วเธอก็เจอเขา - - มัลฟอยกำลังเดินไปเรื่อย ๆ เพียงลำพัง เด็กหญิงร้องเรียก

“มัล - - เดรโก!"

เด็กชายหยุดเดินแล้วหันมามองเจ้าของเสียง เขามีท่าทางแปลกใจที่เห็นเฮอร์ไมโอนี่

“เกรนเจอร์ ตามฉันมาเหรอ” เด็กชายถาม

“ใช่” เธอพูดได้แค่นั้นก็หอบฮัก 

“ฉันเขียนจดหมายทิ้งไว้แล้วนี่” มัลฟอยถามอีก

“ใช่” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหายใจได้เป็นปกติ เธอยืนตัวตรงแล้วมองเขานิ่ง

มัลฟอยมองตอบ เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร ทั้งสองคนมองกันนาน รอบตัวเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงน้ำค้างตอนเช้า
ที่กำลังพรมลงบนพื้นของตรอกไดแอกอน

“ถ้าไม่รู้เรื่องในใจฉันคงไม่จบง่าย ๆ ใช่ไหม” เด็กชายพูดแล้วกลอกตาขึ้นบน

เฮอร์ไมโอนี่มองเขานิ่ง เด็กชายลดสายตาลงมามองเธอ

“ฉันเคยถามเธอแล้วนี่ - - ว่าเธอเองล่ะ คิดยังไงกับฉันบ้าง”

มีรอยสีชมพูปรากฏขึ้นบนแก้มของเฮอร์ไมโอนี่ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นเคย มัลฟอยก้าวเท้าเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ 

ในที่สุด….

“ฉันรักเธอ - - ยายเลือดสีโคลน” 

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม ภาพของอีกฝ่ายพร่ามัวเพราะน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา มัลฟอยเห็นท่าทางของเธอก็ถามอย่างเสียอารมณ์

“มันน่าเศร้าขนาดนั้นเชียว”

“เปล่า - - เปล่าหรอก” เธอหัวเราะพลางใช้หลังนิ้วป้ายน้ำตาของตัวเอง

“ถ้าไม่ใช่” มัลฟอยอ้าแขน “ก็มานี่สิ”

เฮอร์ไมโอนี่โผเข้ากอดเขาทันที มัลฟอยคล้องแขนไว้รอบตัวเธออย่างแนบแน่น เด็กหญิงปล่อยน้ำตาให้ร่วงลงมาบน
ไหล่ที่เริ่มมีรูปร่างแบบผู้ชายจริง ๆ ของเขา 

“ตาเธอแล้ว” มัลฟอยค่อยคลายวงแขนออกแล้วมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขา แล้วแกล้งแหย่

“เอาไว้วันหลังแล้วกัน” เธอพูดจบก็หัวเราะ คิดว่าเขาต้องโกรธแน่ แต่อีกฝ่ายกลับยิ้ม

“คราวนี้ฉันจะเป็นฝ่ายรอให้เธอพูดบ้างก็ได้”

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขาอีกครั้ง น้ำตาเริ่มคลอด้วยความดีใจ 

ถึงแม้ไม่ตอบตอนนี้ แต่คำตอบก็อยู่ในใจแล้ว ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
 แต่ตอนนี้เธอรักเด็กผู้ชายตรงหน้าคนนี้

เดรโก มัลฟอย

TBC

No comments:

Post a Comment