Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Chapter 31: Brilliant Words (END)

คำพูดอันชาญฉลาด (Brilliant Words)


          เฮอร์ไมโอนี่ผุดขึ้นนั่งด้วยอาการสะดุ้ง แล้วกลิ้งตัวออกจากเตียงนอนอย่างว่องไว กองหนังสือที่เธอผลักไปไว้ปลายเตียงเมื่อคืนก่อนหกคะเมนอยู่ที่พื้นห้อง เสียงดังทำให้เธอหยุด
ชะงัก;เธอไม่ได้นอนเกินเลยเวลาไป เธอไม่ได้สายสำหรับการสอบต่างๆ เธออยู่ที่บ้านและ
ฮอกวอตส์ได้ทำการสอบเสร็จสิ้นไปแล้วเกือบจะสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
         
         เฮอร์ไมโอนี่ล้มตัวกลับลงบนเตียงนอนพร้อมด้วยเสียงครางหงุดหงิด  เธอได้ตื่นนอนแบบนี้ทุกวันนับตั้งแต่พ่อแม่ของเธอนำตัวเธอมาจากฮอกวอตส์  เฮอร์ไมโอนี่เพียงแค่ไม่สามารถทำให้ตัวเธอเองมั่นใจได้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องขึ้นแต่เช้ามืดเพื่อแต่งตัวไปกินอาหารเช้าในห้องรับประทานอาหาร หรือเร่งรีบออกจากห้องสมุดสำหรับอีกไม่กี่นาทีก็จวนเจียนเริ่มการเรียนการสอน
         
          เธอยังต้องปรับตัวในการอยู่บ้านสำหรับช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ ถึงแม้ว่าโรงเรียนได้ปิดเทอมแล้วอย่างเป็นทางการ เฮอร์ไมโอนี่ยังคงรู้สึกว่าเธอควรจะอยู่ที่นั่น ทำการสอบต่างๆ ของเธอให้เสร็จ หรือเข้าสอบ ว.พ.ร.ส.
          
          เธอไม่เต็มใจจากมา แต่พ่อแม่ของเธอยืนกรานเมื่อพวกเขามาถึงฮอกวอตส์ในที่สุด  ดัมเบิลดอร์ได้ไปรับพวกเขามาจากฮอกส์มี้ดสถานที่ที่พวกเขาขึ้นรถไฟจากลอนดอนมาลง
          ทันทีที่เห็นใบหน้าตัดสินใจแน่วแน่ของมารดา ทำให้หมดความหวังสำหรับการโต้แย้ง เมื่อสามีภรรยาเกรนเจอร์วิ่งถลาเข้ามาในสถานพยาบาล มารดาเธอจ้องเขม็งมาที่เฮอร์ไมโอนี่ประหนึ่งว่ากำลังตำหนิเธอสำหรับการตกอยู่ในสภาพยุ่งยากนี้ แล้วจากนั้นก็ระเบิดน้ำตาออกมา เฮอร์ไมโอนี่ไม่คุ้นชินกับการเห็นมารดาวิตกว้าวุ้นอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์แบบนี้ พ่อแม่ของเธอทั้งสองคนดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย อาศัยอยู่ในชานเมืองลอนดอนอย่างสงบ เรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับคนทั้งคู่คือการเป็นแม่มดของเฮอร์ไมโอนี่ และพวกเขาได้ยอมรับเรื่องนั้นด้วยความอบอุ่นและเป็นมิตร ไม่มีเกรนเจอร์คนไหนถูกมองว่าเป็นพวกพลุ่งพล่านชอบระเบิดอารมณ์ แต่นี่แม่ของเฮอร์ไมโอนี่กำลังกำมือลูกสาวเพียงคนเดียวของหล่อนอย่างขวัญเสีย และถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างมากว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่?
          มีเสียงเบาๆ ชนกับบานประตูห้องนอนของเฮอร์ไมโอนี่ เธอลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง  ครุกแชงส์แทรกตัวเข้ามาในห้อง เบคอนมันเยิ้มชิ้นบางถูกงับแน่นอยู่ในปาก มันกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนแล้วหย่อนเบคอนลงบนหมอนของเฮอร์ไมโอนี่ ระหว่างที่มันชะงักเพื่อเลียขนสีส้มตั้งชี้โด่เด่ของมันให้เรียบลงก่อนหันความสนใจกลับมาที่มื้ออาหารของมัน
          “อาหารเช้าเสร็จแล้วหรือ ครุกแชงส์?” เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงฟ่อเหมือนแมวแล้วขย้ำขยี้เล่นขนแมวของเธอ สงสัยว่าไขมันจากเบคอนต้องเปื้อนปลอกหมอนสีฟ้าของเธอ
          เจ้าแมวไม่ให้คำตอบ เฮอร์ไมโอนี่เลื่อนตัวออกจากเตียงอีกครั้ง ดึงเสื้อไหมพรมตัวหนึ่งมาสวมทางศีรษะ เธอคิดเสมอว่าบิดาเธอชอบทำให้บ้านเย็นเกินไปหน่อยแม้แต่ในฤดูร้อน เธอมุ่งหน้าลงบันไดพร้อมกับจมอยู่ในความคิด
          เธอไม่ได้เห็นทั้งแฮร์รี่และรอนมากนักก่อนออกจากฮอกวอตส์ พ่อแม่ของเธอต้องการพาเธอกลับบ้านทันที;เพื่อนๆ ของเธอได้เพียงแค่จัดการดักพบพวกเธอในห้องโถงทางเข้าบนเส้นทางออกของพวกเธอ  เธอไม่ได้เห็นเดรโกนับตั้งแต่เขาออกจากสถานพยาบาลไปได้แค่แป๊บเดียวก่อนที่พ่อแม่ของเธอมาถึง  ไม่ใช่ว่าเฮอร์ไมโอนี่คาดหวังให้เขาพบกับพ่อแม่ของเธอ เธอมีความลำบากใจในการนึกภาพเดรโกกำลังพยักหน้าอย่างสุภาพ ในระหว่างที่พ่อของเธออธิบายความรู้เรื่องกลไกเกี่ยวกับศัลยกรรมฟันอย่างละเอียด แต่เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งอย่างรุนแรงเมื่อเขาจับมือเธอมาบีบแน่น จากกนั้นก็หายตัวไปด้านหลังผ้าม่านลินินสีขาว เขาดูท่าทางเกือบ จะกลัวสัมผัสเธอ กลัวว่าเธออาจแตกหักได้  เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะคว้าแขนที่ล่าถ้อยของเขาไว้และดึงตัวเขากลับลงมาบนเตียงกับเธอ เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าจริงๆ แล้วเธอนั้นห่างไกลจากความเปราะบางแค่ไหน ทว่าในเวลาไม่นานก่อนที่การกระทำอันอาจหาญจะถูกทำให้สำเร็จ การสำนึกในความถูกต้องเหมาะสมของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งถูกอบรมเลี้ยงดูก็ผุดขึ้นมา แล้วเดรโกก็จากไปพร้อมกับสิ่งต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่รู้จักจบสิ้นอย่างน่ากลัว
         
 เฮอร์ไมโอนี่มาถึงตีนบันไดและเดินผ่านห้องรับแขกขนาดใหญ่ทางด้านขวา มุ่งหน้าตรงไปห้องครัวสถานที่ที่กลิ่นหอมของอาหารเช้ากำลังลอยตลบมาตามทางเดินเพื่อต้อนรับเธอ  ไม่น่าประหลาดใจที่สามีภรรยาเกรนเจอร์มีระเบียบและประสิทธิภาพเท่ากับลูกสาวของพวกเขา อาหารเข้าถูกทำเสร็จออกมาเวลาเจ็ดโมงตรงทุกๆ เช้า ยกเว้นสำหรับวันเสาร์ซึ่งเป็นเวลาที่พ่อแม่ของเธอจะไปเดินเล่นยามช้าด้วยกัน ดังนั้นอาหารเข้าจึงถูกเลื่อนออกไปจนถึงสิบโมง มันเป็นแบบนี้มานานตราบเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่จำได้ แต่ตารางเวลาประจำวันช่างมีชีวิตชีวาขึ้นมาภายหลังจากบ้านมาอยู่ที่ฮอกวอตส์ได้ครึ่งปี แผนการรับประทานอาหารของเธอขึ้นอยู่กับตารางเรียนของเธอกับความปรารถนาของแฮร์รี่และรอน
          
“อรุณสวัสดิ์ ลูกรัก” พ่อแม่ของเธอประสานเสียงพร้อมกัน เมื่อเธอปรากฏตัวตรงทางเข้าประตู
          
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ แม่-พ่อ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
         
 สามีภรรยาเกรนเจอร์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ พวกเขาค้นพบมานานแล้วว่าชีวิตแต่งงานของพวกเขามีความสุขมากขึ้นเยอะ เวลาที่พวกเขาแต่ละคนมีหนังสือพิมพ์ยามเช้าเป็นของตนเอง มากกว่าพยายามรออย่างอดทนให้อีกคนหนึ่งอ่านมันให้เสร็จ สองหัวข้อข่าวอย่างเดียวกันหันหน้าเข้าใส่เฮอร์ไมโอนี่จากแต่ละด้านของโต๊ะอาหาร เธอตักไข่กับเบคอนสองสามชิ้นใส่จานของเธอ แต่เธอไม่ได้กำลังรู้สึกหิวเลย
        
  เธอได้คุยกับแฮร์รี่และรอนเรียบร้อยแล้วหลังจากมาถึงบ้าน ตามความเป็นจริงคือจดหมายฉบับหนึ่งกำลังรอเธออยู่แล้วก่อนเธอมาถึงที่นั่น ถึงแม้การคัดค้านต่างๆ ว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บขนาดนั้น บิดาเธอก็อุ้มเธอขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องของเธอ และที่นั่นเจ้าพิกตัวน้อยกำลังคอยอยู่อย่างหงุดหงิด จดหมายที่นกฮูกขี้ตื่นนำมานั้นประกอบด้วยตัวหนังสือเพียงสองสามบรรทัดจากเพื่อนๆ ของเธอ แต่อย่างไรก็ตามมันทำให้รู้สึกปิติยินดี  แฮร์รี่และรอนสัญญาว่าจะให้ทุกๆ รายละเอียดเลือดอาบของการสอบต่างๆ ของพวกเขา และเสริมว่าการเรียนหนังสือจะไม่เหมือนเดิมเมื่อปราศจากสมุดโน้ตเขียนด้วยรหัสน่าสนใจของเธอ จดหมายนี้นำรอยยิ้มมาสู่ใบหน้าของเธอเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ส่งตามมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
          แต่เธอไม่ได้รับข่าวคราวจากเดรโกเลย
          โอ้ แต่เธอติดตามข่าวของเดรโก เธอยังรับหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตที่ถูกส่งมาทุกเช้า และเป็นเวลาหลายวันนับจากการออกเดินทางของเธอ การตายของลูเซียส มัลฟอยถูกขึ้นหน้าหนึ่งทุกวัน มารดาเธอไม่ต้องการให้เฮอร์ไมโอนี่อ่านมันพร้อมกับร้องว่าเธอหมดเรื่องเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่เฮอร์ไมโอนี่ยืนกราน
         
 อาจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์รักษาคำพูดของเขา เพราะว่าทั้งเฮอร์ไมโอนี่หรือเดรโกไม่เคยถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์ ในตอนแรกการตายของเขาถูกลงรายละเอียดเหมือนว่าไม่ทราบสาเหตุ หนังสือพิมพ์รายงานว่าเขากำลังไปสมทบกับเพื่อนสองสามคนเพื่อการประชุมเรื่องธุรกิจที่ฮอกส์มี้ด พระเจ้าไม่อนุญาตให้มีการกล่าวถึงผู้เสพความตายคนอื่นๆ  สุดท้ายพวกเจ้าหน้าที่สรุปว่าการตายของเขาเป็นอุบัติเหตุ สาเหตุมาจากการทำงานอย่างบกพร่องภายในไม้กายสิทธิ์ของเขา เฮอร์ไมโอนี่สงสัยว่าการทำงานอย่างบกพร่องอะไรที่อาจถูกค้นพบภายในไม้กายสิทธิ์ของลูเซียส มัลฟอย  ต้องถูกนำเพิ่มเติมภายหลังการมรณกรรมของเขา
        
  พิธีฝังศพได้ถูกจัดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่เธอออกจากโรงเรียน  ลูเซียสถูกฝังอยู่ในสุสานของตระกูลซึ่งเป็นที่อาศัยของผู้ตายนับแต่อดีตบนขอบเขตผืนที่ดินตระกูลมัลฟอย  หนังสือพิมพ์
เดลี่พรอเฟ็ตรายงานว่ามันเป็นหนึ่งในงานพิธีฝังศพที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของทศวรรษนี้ เป็นรองแค่เพียงงานของเบ็ตตี้ เบ็ตเชล บุคคลโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบในสังคมและเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารแม่มดรายสัปดาห์  เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลามากซึ่งเธอยอมรับว่าเฝ้ามองรูปภาพเวทมนตร์ของเดรโกกับแม่ของเขาขณะที่พวกเขานั่งอย่างเคร่งขรึมต้อนรับผู้คน ซึ่งลงอยู่ในเดลี่พรอเฟ็ต
วันต่อมาหลังพิธีฝังศพ แต่ภาพของเดรโกไม่เคยเงยหน้าขึ้นมาจากภาระหน้าที่อันเศร้าหมองของเขา
        
  ภายหลังพิธีฝังศพอย่างดีเยี่ยมที่คอร์นีเรียส ฟัดจ์  เป็นผู้กล่าวสรรเสริญด้วยตัวเขาเองแล้ว พวกผู้อ่านเริ่มหมดความสนใจในการตายของเขา ทางเดลี่พรอเฟ็ตได้เลื่อนบทความต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตและความตายอย่างอับโชคของเขาไปไว้ที่หน้าในของหนังสือพิมพ์ หน้าที่สองจากนั้นหน้าที่สี่และไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่พบว่าไม่มีการกล่าวถึงเขาอีกเลย
          เธอเขี่ยไข่ไปรอบจานอาหารด้วยส้อม ทำเป็นกองสีเหลืองเล็กๆ  มันเพียงแค่ไม่อาจสาธยายออกมาได้ เธอควรใช้เวลาของเธอให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ ทบทวนการเรียนสำหรับการสอบ ว.พ.ร.ส. ที่เธอน่าจะได้รับในสัปดาห์หน้า  เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจ
          เสียงกระพือปีกทะลุผ่านหน้าต่างไม่แม้แต่ทำให้พ่อแม่ของเธอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ได้ เมื่อนกฮูกของเดลี่พรอเฟ็ตถลาตรงมาที่โต๊ะอาหาร แต่ก่อนที่มันจะแตะพื้นนกฮูกอีกตัวซึ่งมีสีเทาเข้มและตัวใหญ่ก็ร่อนผ่านมันไปอย่างโอหัง มันลงจอดตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ และงับจงอยปากตัวเองเสียงดังใส่นกฮูกตัวแรก ประหนึ่งว่าเจ้านั่นกำลังบุกรุก มันหันความสนใจกลับมาที่เฮอร์ไมโอนี่เมื่อนกฮูกของเดลี่พรอเฟ็ตถอยไปรอตามลำดับ นกฮูกสีเทายื่นขามันออกมาอย่างโอ้อวดและคอยให้เฮอร์ไมโอนี่เอาจดหมายที่ผูกอยู่ตรงนั้นไป
          รอยยิ้มของการรับรู้แจ่มชัดอยู่บนใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้จักเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่น่าจะมีนกฮูกโอ้อวดตัวแบบนี้ “เดรโก” เธอกระซิบขณะที่เปิดจดหมาย
          “เดรโก?” มารดาเธอถามพร้อมกับเหลือบมองข้ามส่วนบนของหนังสือมาที่เธอ
          “พ่อจำไม่ได้ เดรโก” บิดาเธอเสริมขึ้นจากอีกด้านของโต๊ะ มีร่องรอยของความสนใจอยู่ในน้ำเสียงของเขา

          “เขาเป็น” เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เพราะว่าเธอคิดไม่ออกว่ามีคำไหนที่เหมาะสมสำหรับสิ่งที่เดรโกเป็น “เขาเป็นเพื่อนของหนูที่โรงเรียนค่ะ” เธอแก้ไขให้ถูกต้องในที่สุด
          แม่ของเฮอร์ไมโอนี่พับหนังสือพิมพ์ แล้วส่งสายตาตั้งคำถามมาให้ลูกสาวของเธอ แต่เฮอร์ไมโอนี่จะไม่อยู่ให้ซักถาม เธอคว้าขนมปังปิ้งลูกเกดแผ่นหนึ่งขึ้นมาจากจานก่อนวิ่งเตลิดขึ้นบันไดไป  พ่อแม่ของเธอแลกเปลี่ยนสายตากันและยิ้มอย่างรู้ทันก่อนหันกลับไปที่หนังสือพิมพ์ของพวกเขา
          จดหมายถูกเขียนบนแผ่นกระดาษสีขาวสะอาด ตราประจำตระกูลลายนูนแสดงภาพมังกรกำลังพ่นไฟถูกประทับอยู่ที่มุมหนึ่งของกระดาษ เฮอร์ไมโอนี่มองอย่างไม่เข้าใจไปที่ตัวอักษรเป็นระเบียบที่เดรโกใช้ เธอไม่แน่ใจว่าควรมองมันอีกครั้งหรือไม่ แต่ว่ามันอยู่ที่นั่น


เฮอร์ไมโอนี่,

          ฉันตั้งใจจะเขียนมาก่อนหน้านี้แต่มีหลายอย่างยุ่งวุ่นวายที่คฤหาสน์แห่งนี้อย่างที่เธอคงจินตนาการได้ เธอเชื่อไหมว่าความวุ่นวายทั้งหมดนี้คือทุกคนกำลังตรวจสอบเกี่ยวกับการตายของเขา? และการแสดงช่วงสั้นๆ ที่พิธีฝังศพนั้นไปไกลมากกว่าที่ฉันได้คาดไว้ กระนั้นฉันจะไม่รู้สึกแปลกใจถ้าครึ่งหนึ่งของบรรดาแขกเหรื่อผู้เป็นห่วงเป็นใยของเราอยู่ที่นั่น เพื่อทำให้แน่ใจว่าตาแก่น่ารังเกียจคนนี้ได้ตายแล้วจริงๆ มากกว่าการมาแสดงความเคารพของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย
        
  แม่ของฉันสบายดี ทุกอย่างที่แพนซี่ได้พูดเป็นเรื่องโกหก เธอคิดถูกแล้ว หล่อนรู้สึกดีเสียยิ่งกว่าดีอย่างที่มันปรากฏ มันน่าจะดูเหมือนว่าหล่อนค่อนข้างจะชอบพอเป็นมิตรกับโค้ช
สอนควิดดิชของหล่อนที่สโมสร  ชอบพอเป็นมิตรอาจไม่ใช่คำที่แรงพอสำหรับมัน ประมาณว่าแม่ของฉันกำลังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลายๆ อย่างที่คนไม่ใช่แม่หม้ายเขาทำกัน หล่อนรับมือกับการจากไปของลูเซียสได้ดีมากๆ  ความจริงคงดีเหลือเกินถ้าหากว่าเราได้ฝังเขาลงในพื้นดิน ฉันคิดว่าหล่อนอาจจะกำลังเต้นรำบนหลุมศพของเขาทุกคืน หรือบางทีแม้แต่หลายอย่างที่รุ่มร่ามมากกว่านั้นกับโค้ชของหล่อน แต่ฉันไม่อยากสาธยายเรื่องนั้น
          บรรดาพวกทนายความไปลงนรกซะ ไม่มีใครคาดคิดว่าเงินและที่ดินจะถูกถ่ายโอนมาเป็นของฉันในวัยหนุ่มเช่นนี้ แต่ฉันแทบไม่บ่นเลย ฉันรู้สึกสนุกสนานยินดีที่กลายเป็นผู้มั่งคั่งร่ำรวยอย่างน่ารังเกียจ และเวลานี้ทั้งหมดมันอยู่ในชื่อของฉัน ลูเซียสไม่เคยไว้ใจแม่ของฉันเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ   ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจเลยที่ทรัพย์สมบัตเกือบจะทั้งหมดกลายมาเป็นของฉัน
          การสอบผ่านไปด้วยดีโดยเฉพาะวิชาการปรุงยา มันช่างตลกสิ้นดี เจ้าไข่เน่าลองบัตท่อมทำน้ำยาของเขาหกและทำให้เสื้อคลุมของสเนปละลายหายไปตั้งครึ่งหนึ่ง เป็นไปได้แน่นอนว่าเธอไม่คิดว่าทั้งหมดนี้มันตลกดีใช่ไหม? ฉันสามารถนึกภาพเธอกำลังบอกฉันไม่ให้หัวเราะเยาะใส่ลองบัตท่อมได้ ฉันคิดว่าเขาอดไม่ได้จริงๆ ที่เป็นคนปัญญาอ่อน
          ฉันกำลังคิดว่าบางทีเมื่อเธอรู้สึกดีขึ้นพอจะทำอะไรได้ เธออาจอยากมาเยือนและชมคฤหาสน์หลังนี้ พักอยู่สักวันหรือสองวันถ้าเธอเต็มใจ ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอต้องกำลังคิดอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ฉันกล้าขอให้เธอมาเยี่ยมสถานที่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความไม่เสมอภาคทั้ง
หลายกับอุบายเล่ห์เหลี่ยมเลวทรามและน่ากลัวมากมาย  แต่เพียงคิดว่าสนุกแค่ไหนที่อาจทำให้
ลูเซียสหัวหมุนอยู่ในหลุมฝังศพของเขาได้
          เพียงแค่พิจารณาเกี่ยวกับมัน ฉันมีงานทั้งหมดของเราอยู่ที่นี่ ดัมเบิลดอร์ส่งมันมาให้วันรุ่งขึ้นหลังจากฉันมาอยู่ที่บ้าน เขาต้องฉลาดมากๆ หรือไม่ก็บ้าสุดๆ มากกว่าที่ฉันเชื่อ อันที่จริงแล้วบางทีมันเป็นการผสมผสานของทั้งสองอย่าง  แต่ถ้าดัมเบิลดอร์ยังเห็นด้วยกับการทำงานด้วยกันของเรา แล้วเธอจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร? ยังไงซะเขาก็เป็นฮีโร่ของเธอรองจากพอตเตอร์ เพียงแค่พิจารณาเกี่ยวกับมัน
                                                                                                                                  เดรโก


          เฮอร์ไมโอนี่พับจดหมายแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่ที่โต๊ะหนังสือ รอยยิ้มกระจายอยู่บนใบหน้าของเธอ และเธอรู้สึกดีขึ้นกว่าที่เธอเคยรู้สึกในหลายวันมานี้ แต่การไปที่คฤหาสน์รึ? เธอไม่รู้ว่าถ้าเธอตอบรับสำหรับเรื่องนั้น กำแพงเลือดบริสุทธิ์ทั้งหลายจะผุดขึ้นมาและบดขยี้ตัวเธอสำหรับความกล้าบ้าบิ่นของเธอหรือไม่?
        
  มีเสียงเคาะประตูห้องเธอเบาๆ  มารดาเธอมองเข้ามาข้างใน “เฮอร์ไมโอนี่ ของนี้มาถึงหนูหลังจากหนูลุกออกจากโต๊ะอาหาร” ในมือของเธอคือพัสดุที่ห่อกระดาษไว้
          เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเธอรับห่อของมาจากมารดาเธอ  ไม่เข้าใจว่าทำไมใครบางคนส่งของบางอย่างมาให้เธอ มารดาเธอเดินกลับออกไปปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่มีความเป็นส่วนตัว
       
   เธอดึงกระดาษออกอย่างระมัดระวัง คอยดูให้พัสดุห่อกระดาษนี้อยู่สุดปลายแขน เธอเรียนรู้พอสมควรในโลกเวทมนตร์ว่าอย่าไว้ใจสิ่งต่างๆ ที่ราคาหน้าตา แต่เมื่อกระดาษคลายออก เธอจำหนังสีเขียวเข้มที่เข้าปกหนังสือได้ เฮอร์ไมโอนี่ดึงส่วนที่เหลือของกระดาษออกอย่างตื่นเต้น และจ้องเขม็งไปที่ชื่อของตัวเธอเองซึ่งถูกประทับอยู่ตรงด้านหน้าของมัน ส่วนที่ขลิบริมด้วยสีแดงเข้มและเขียนตัวหนังสือสีทองเป็นชื่อเรื่อง การแปล(A Translation) และข้างใต้นั่นเป็น ชุดที่ 1 บันทึกประจำวันของเกรกอเรียส โอ’แลรี่ โดย เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และเดรโก มัลฟอย(Volume I of the Gregorius O’Leary Journals by Hermione Granger and Draco Malfoy)
        
  เธอจ้องเขม็งลงไปที่มันด้วยความไม่เชื่อ เธอเปิดหนังสือเล่มนี้ด้วยสองมือที่กำลังสั่น และเริ่มพลิกผ่านหน้ากระดาษต่างๆ อย่างรวดเร็ว พวกมันถูกเขียนด้วยลายมือ;ของเดรโกอีกครั้งและเต็มอยู่แค่ครึ่งเล่มเท่านั้น ส่วนที่เหลือถูกปล่อยว่างและโล่ง บนหน้าแรกสุดเขาเขียนข้อความถึงเธอ
          
“มันเป็นฉบับร่างหยาบๆ เท่านั้น เราได้รับมอบหมายให้เก็บรักษาการค้นพบต่างๆ ของเราไว้เป็นความลับนิดหน่อย แต่ดัมเบิลดอร์คิดว่าภายในหนึ่งหรือสองปี เราอาจจะตีพิมพ์เป็นหนังสือได้จริงๆ ฉันได้เริ่มต้นลงมือทำงานต่อทันทีที่เธอจากโรงเรียนไป ฉันคิดว่ามันออกมาได้ดีมากๆ”
          
มีมากกว่านั้น เป็นแค่คำพูดไม่กี่คำ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ค่อยแน่ใจแต่เธอคิดว่าเขาได้เพิ่มเติมพวกมันเข้ามาตอนท้ายหลังจากการพิจารณาไตร่ตรองอย่างมาก ตัวอักษรเอียงๆ ของเขาดูแปลกแตกต่างกว่าส่วนอื่นของข้อความ เฮอร์ไมโอนี่ตกลงใจว่าเธอจะถามเขาเมื่อเธอไปที่คฤหาสน์ เพราะว่าเธอได้ตัดสินใจอย่างทันควันว่าเธอจะไป  สุดท้ายแล้วเธอจะไม่ไปได้อย่างไร? สำหรับประโยคปิดท้ายข้อความของเขา คือคำเล็กๆ อันชาญฉลาดสามคำ

            “ฉันคิดถึงเธอ”




The End

No comments:

Post a Comment