Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Chapter 19: Back To The Hospital Wing

กลับไปสถานพยาบาล (Back To The Hospital Wing)


          “โอ้ แฮร์รี่ ระวัง!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกอย่างเต็มที่ แม้ว่าเสียงเธอถูกกลืนหายไปท่ามกลางเสียงร้องตะโกนของฝูงชน
          เมื่อไม้กวาดของแฮร์รี่บินโฉบอยู่ด้านล่างหนึ่งในบีทเทอร์ของทีมเรเวนคลอ และเขาดึงขึ้นได้ทันเวลาเพื่อหลบหลีกลูกบลัดเจอร์ที่กำลังไล่ตามติดเขา
          เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและนั่งกลับลงไปข้างจินนี่ เธอเพิ่งจะหายใจได้คล่องแค่แป๊บเดียว ก่อนที่หนึ่งในเชสเซอร์ของทีมเรเวนคลอขี่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งเธอและจินนี่ต้องลุกขึ้นยืนอีกหนพร้อมกับร้องตะโกนใส่รอน “ระวัง เขาอยู่ด้านขวา!” เสียงร้องเตือนหลายเสียงจากพวกกริฟฟินดอร์ไม่จำเป็นเลยจริงๆ เพราะว่ารอนรับลูกบอลได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ตีส่งมันหมุนคว้างจากไปด้วยท่าทางรำคาญ
          “นี่มันกำลังกลายเป็นการแข่งขันที่ยาวนานอย่างแท้จริง” จินนี่แสดงความคิดเห็นเมื่อพวกเธอนั่งลงอีกครั้ง
          “ฉันคิดว่ามันเป็นหนึ่งในเกมส์ที่ยาวนานที่สุดของฮอกวอตส์ซึ่งเคยมีมาเกือบสามสิบปีนี้” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ พร้อมกับก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ ดวงอาทิตย์กำลังเริ่มคล้อยไปอยู่ด้านหลังหมู่แมกไม้หนาทึบ การแข่งขันได้เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว
          “แฮร์รี่ควรจะชนะเกมส์นี้ได้อย่างง่ายดาย เราเห็นลูกสนิชตั้งสองครั้งแล้ว แต่เขาไม่ต้องการเผยให้โชรู้” จินนี่พึมพำอย่างไม่ชอบใจ
          เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองไปที่เพื่อนเธออย่างระวัง “จิน ฉันไม่คิดว่าแฮร์รี่จะแพ้โดยเจตนาหรอกนะ” ความจริงแล้วเฮอร์ไมโอนี่มั่นใจเลยทีเดียวว่า แฮร์รี่จะไม่มีวันยอมแพ้อย่างตั้งใจ แม้ว่าเป็นการต่อสู้กับโช “เขาแค่กำลังให้โอกาสอย่างนักกีฬาแก่เธอก็เป็นไปได้” เธอเสนอแนะอย่างหว่านล้อม
          จินนี่มีท่าทางไม่ประทับใจและจ้องเขม็งไปที่ซีกเกอร์ของทีมเรเวนคลอเมื่อเธอบินโฉบผ่านไป “ไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไรในตัวหล่อน” เธองึมงำเบาๆ แล้วมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับเสริมว่า “อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าฉันแคร์หรอกนะ”
          เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าไม่ผูกมัดตัวเอง จินนี่อ้างมานานว่าได้ละทิ้งการเทิดทูนบูชาแฮร์รี่ไว้ด้านหลังแล้ว แต่เฮอร์ไมโอนี่สงสัยบ่อยๆ ว่าเธอปล่อยมันไปไกลแค่ไหน จินนี่ยังคงหลงรักเขาอยู่อย่างเห็นได้ชัด และแฮร์รี่ที่น่าสงสารไม่ได้รับรู้เลย อันที่จริงไม่ใช่ว่าเฮอร์ไมโอนี่มีเวลาสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ เธอหรอก เพราะนอกจากเรื่องการเรียนและโครงการวิชาตัวเลขมหัศจรรย์แล้ว แน่นอนยังมีเดรโกอีกด้วย  เสียงตะโกนใกล้ๆ กะทันหันเมื่อเฟร็ดเกือบจะชนเข้ากับเชสเซอร์คนหนึ่ง ทำให้เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่อ้าปากด้วยความตกใจกลัว
          “ฟังนะ เขากำลังมองมาที่เธออีกแล้ว” จินนี่กระซิบ เมื่อพวกเธอนั่งลง
          “อะไร? ใครกำลังมองมา?” เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยความสับสน
          “แน่นอนว่ามัลฟอยนะซิ อย่าบอกฉันว่าเธอไม่สังเกตเห็นนะ” จินนี่มองเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่เชื่อถือ และถอนหายใจด้วยความขุ่นเคือง “ฟังนะ เธอหมดหวังแล้ว เขาอยู่ตรงนั้น”
          เฮอร์ไมโอนี่หันตามทิศทางที่จินนี่กำลังมองอยู่และพบว่าเดรโกกำลังนั่งอยู่ในส่วนถัดไป เด็กหนุ่มสลิธีรินกำลังจับตาดูเธออย่างชัดเจน
          “เขาต้องการอะไร?” จินนี่ถามด้วยน้ำเสียงเกือบจะตื่นตระหนก
          “ฉันไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเรียบๆ เมื่อเธอมองกลับไปที่เขา เขายืนขึ้นทันทีและออกเดินลงบันไดมา หยุดชะงักที่ด้านล่างเพื่อส่งสายตาเรียกร้องอย่างมากมาให้เธอ “เดี๋ยวฉันจะกลับมา จินนี่”
          “อะไรนะ? แต่เรื่องการแข่งขันจะว่ายังไง?” จินนี่คว้าแขนเฮอร์ไมโอนี่ไว้
          “ฉันจะกลับมา จิน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างหนักแน่น และดึงแขนเธอคืนมา
          เฮอร์ไมโอนี่หันหลังให้กับการมองอย่างไม่เห็นด้วยของจินนี่และตามหลังเดรโกไป เขาหันหลังกลับมาข้างใต้ชั้นที่นั่งที่อยู่ด้านบน และกำลังยืนพิงเสาต้นหนึ่งอย่างสบายอารมณ์ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาใกล้เธอไม่สามารถบอกได้ว่า เขากำลังยิ้มอย่างจริงใจหรือกำลังยิ้มหยันใส่เธอกันแน่ เฮอร์ไมโอนี่เดินตรงไปที่เขาและรอให้เขาพูด แต่แทนที่จะพูดเดรโกกลับปัดปอยผมเธอไปด้านหลังและโน้มตัวมาจูบเธอ
          “เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไร?” เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เธอถอยหลังห่างจากเขา “คนทั้งโรงเรียนกำลังนั่งอยู่เหนือเรา เธอบ้าไปแล้วใช่ไหม?”
          ไม่มีความสงสัยในเวลานี้ว่าเดรโกกำลังยิ้มหยัน “ฉันไม่กังวลหรอก เพื่อนๆ กริฟฟินดอร์ตัวน้อยของเธอทั้งหมดกำลังจับตาดูการแข่งขันอยู่”
          “แล้วพวกสลิธีรินตัวน้อยของเธอว่ายังไง? พวกเขากำลังเดินก้มหน้าอยู่ที่ไหนหรือ?” เฮอร์ไมโอนี่ล้อเลียนเขา
          เดรโกฉีกยิ้มกว้าง “อาจกำลังจับตาดูทีมเรเวนคลออยู่ก็เป็นไปได้ ฉันคิดว่างั้นนะ”
          “เธอต้องการอะไร เดรโก?” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด
          “คือว่า” เดรโกขยับมาใกล้เธอมากขึ้น “ข้อความตอนหนึ่งที่ฉันได้แปลเมื่อคืนก่อนไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องวิธีการปรุงยาเลย แต่มีคาถามากมายแทนนะซิ ฉันคิดว่าพวกมันเป็นเวทมนตร์แต่ฉันไม่แน่ใจทั้งหมดนัก”
          “จริงหรือ?” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างตื่นเต้น จนถึงเวลานี้พวกเขาพบแค่เรื่องการปรุงยาในหนังสือของโอ’แลรี่ การค้นพบว่าเขาได้ทำการปรุงยาก็น่าตื่นเต้นพอแล้ว แต่การคิดสร้างเวทมนตร์ของตัวเขาเองนี่นะ?
          “ฉันคิดว่าเราควรไปที่ห้องสมุดและทำงานกันต่อ” เดรโกพูดตบท้าย
          “ตอนนี้หรือ? ฉันไปตอนนี้ไม่ได้หรอก เราอยู่ในระหว่างการแข่งขัน”
          นัยน์ตาสีเทาของเดรโกเข้มขึ้นและเขาทำหน้าบึ้งใส่เธอ “เธอรู้ว่าพอตเตอร์ที่รักผู้วิเศษของเธอจะหาลูกสนิชได้แม้ว่าเขาต้องใช้เวลาในการทำเช่นนั้น ฉันแทบไม่เห็นว่ามีประโยชน์ที่จะอยู่เพื่อเฝ้าดูเลย”
          “ฉันต้องอยู่และให้กำลังใจรอนและแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างเฉียบขาด
          “พวกเขาไม่สังเกตเห็นหรอกถ้าเธอออกไป อาจไม่แม้แต่ใส่ใจถ้าเธอทำก็เป็นไปได้”  เดรโกบอกเธออย่างเย็นชา
          เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาอย่างโมโห เสียงพวกเขาดังขึ้นกว่าเดิม เธอเหลือบมองไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขายังอยู่กันตามลำพัง เธอหันกลับมาหาเขาและพูดอย่างสงบว่า
          “ฉันจะไปและดูการแข่งขันให้จบกับจินนี่ หลังจากนั้นฉันจะไปห้องสมุดตราบเท่าที่เธอหยุดพูดสิ่งต่างๆ ที่ทำให้ฉันอยากเสกคาถาใส่หน้าอวดดีของเธอ”
          การมองของเดรโกดูร้ายกาจมากขึ้น “แล้วฉันควรทำอะไรในระหว่างนั้นล่ะ เกรนเจอร์?”
          “ฉันไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่หันหลังให้เขา “ ทำไมเธอไม่สร้างกับดักหนูที่ดีกว่านี้สักอันล่ะ?”
__________________
            ความรู้สึกเป็นสุขในการได้รับชัยชนะเหนือการแข่งขันยังไม่ยอมหลับไหลภายในหอคอย
กริฟฟินดอร์ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่รวบรวมหนังสือทั้งหลายของเธอและมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุด หลังจากหนึ่งชั่วโมงกว่าของการเล่น ในที่สุดแฮร์รี่ได้บินพุ่งลงไปซึ่งทำให้เกือบทุกคนลุกขึ้นยืนด้วยความกลัว จนกระทั้งเขาทะยานขึ้นมาในวินาทีสุดท้ายพร้อมกับลูกสนิชในมือ  แฮร์รี่เปลี่ยนมาใส่เครื่องแต่งกายสีแดงสดเมื่อเขาจับมือกับโช  จินนี่ควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยความเดือดดาลซึ่งมากพอที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้  ส่วนมัลฟอยก็มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เขาดูเหมือนคิดอย่างจริงจังว่าเธอจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อเขาบอกเธอ
          “เฮอร์ไมโอนี่? เธอกำลังจะออกไปหรือ?”
          เธอหยุดมือไว้ด้านหลังช่องรูปภาพเหมือนที่กำลังจะผลักมันเปิด “แค่แป๊บเดียวเท่านั้น
แฮร์รี่” เธอพูดพร้อมชำเลืองข้ามไหล่มาที่เพื่อนของเธอในชุดสีแดงเข้ม
          “มัลฟอยอีกแล้วหรือ?” เขาพยายามซ่อนความไม่เห็นด้วยในน้ำเสียงเขา
          “ไม่ใช่มัลฟอยหรอกนะ หนังสือพวกนี้สำคัญอย่างแท้จริง พวกมันสำคัญกับฉัน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ต้านทานแรงกระตุ้นที่จะพุ่งผ่านช่องรูปภาพเหมือนและละทิ้งการสนทนาไร้ค่านี้ไปซะ
          แฮร์รี่ไขว้แขนกอดอกในท่าแบบเฉพาะของเฮอร์ไมโอนี่ “และเขาก็สำคัญสำหรับเธอด้วยเหมือนกันใช่ไหม?”
          เฮอร์ไมโอนี่หน้าร้อนผ่าวและมองไปที่พื้น พยายามอย่างหนักเพื่อหาคำพูดมาอธิบายสิ่งที่เธอรู้สึกกับเดรโกอย่างแท้จริง หลายครั้งที่เธออยากโยนทุกอย่างใส่เขา แต่แล้วเธอก็พบว่าทั้งหมดที่เธอต้องการคือได้อยู่ใกล้เขา พูดคุยกับเขา “ใช่” เธอกระซิบออกมาในที่สุด “ใช่ ฉันคิดว่าเขาเป็น”
          แฮร์รี่เริ่มต้นเพื่อพูดบางอย่าง แต่ปฏิกิริยาแรกของเขาต่อข่าวใหม่นี้จะเป็นอะไรก็ตาม
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้รับรู้  เฟร็ดและจอร์จ วีสลี่ย์ได้ปรากฏตัวผ่านช่องรูปภาพเหมือนพร้อมกับแบกขนมหวานมากมายมาจากห้องครัว  ฝูงชนกลุ่มใหญ่ออกันอยู่ตรงทางเข้า และเฮอร์ไมโอนี่หายไปจากสายตาของแฮร์รี่  เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจว่าตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะไป เธอหันหลังและดันตัวเองผ่านกลุ่มคนและออกไปสู่โถงทางเดิน
          เมื่อมองลอดหน้าต่างโค้งที่เธอเดินผ่านไป เฮอร์ไมโอนี่สามารถเห็นดวงดาวมากมายกำลังเปล่งประกายระยิบระยับ เธอไม่ทราบสถานที่ตั้งแน่นอนของฮอกวอตส์อย่างแท้จริง แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่ามันต้องอยู่บนสถานที่ที่สูงพอสมควร ดวงดาวไม่เคยดูเหมือนใกล้ขนาดนี้ที่หน้าต่างบ้านเธอ แต่ที่นี่บางครั้งเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าถ้าเธอแค่โน้มตัวออกไปไกลกว่านี้อีกนิด และยื่นมือออกไปมากกว่านี้อีกหน่อย เธออาจเอามันมาได้สักดวงจากบนท้องฟ้า อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเฮอร์ไมโอนี่มีความคิดเพ้อฝันเรื่องเด็ดดวงดาวจากท้องฟ้าบ่อยนัก แต่มันเป็นเรื่องยากไม่ใช่ว่าจะมีค่ำคืนแบบคืนนี้อีก สายลมหนาวเย็นพัดผ่านป่าต้องห้ามมาแต่ไกลทำให้ด้านหน้าของหมู่แมกไม้เก่าแก่กระเพื่อมไหว หิมะตกเบาๆ ลงบนพื้นดินและช่วยสะท้อนแสงของดวงดาวกลับขึ้นไปหาพวกมันเอง เฮอร์ไมโอนี่ดึงผ้าคลุมไหล่ให้กระชับรอบตัวมากขึ้นและมุ่งตรงไปยังห้องสมุด
          มีนักเรียนไม่มากนักยังคงอ้อยอิ่งอยู่ระหว่างกองหนังสือและหีบลังสูงตระหง่าน แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจเฮอร์ไมโอนี่เป็นพิเศษ เมื่อเธอมุ่งหน้าไปทางด้านหลังที่ว่างเปล่าและขึ้นบันไดวนเล็กๆ ไป ความจริงแล้วตอนที่เธอตรงลงไปทางเดินแคบๆ อย่างเงียบๆ ที่นำไปยังห้องของพวกเขา นักเรียนบางคนที่ยังเหลืออยู่ได้ตรงไปทางมาดามพินซ์ที่อยู่ใกล้ประตู
          เฮอร์ไมโอนี่ชะงักมือไว้บนลูกบิดประตูทองแดงและสูดลมหายใจลึกๆ  เสียงเบาๆ จากข้างล่างเลือนหายไปเมื่อประตูใหญ่เหวี่ยงปิดลงและเฮอร์ไมโอนี่ดึงประตูเปิด
          เธอไม่ได้ยินเสียงการร่ายเวทมนตร์เมื่อมันเสร็จสิ้นลง แต่ว่าคาถานี้ได้ส่งให้เธอลอยถลาถอยหลังไปยังราวบันไดซึ่งยากที่จะหลบได้อย่างแน่นอน เฮอร์ไมโอนี่นอนมึนงงอยู่เป็นเวลาหลายนาที;ลำแสงสว่างจ้าที่ดูเหมือนกระแทกใส่เธอยังคงเป็นประกายวิบวับอยู่ภายในดวงตาเธอ เธอพยายามสะบัดศีรษะเพื่อทำให้มันชัดเจนแต่กลับพบว่าสิ่งนี้ยิ่งทำให้เธอเวียนศีรษะมากขึ้นเท่านั้น
          “เฮอร์ไมโอนี่?” น้ำเสียงวิตกกังวลเสียงหนึ่งสามารถได้ยินผ่านแสงอันแสบร้อน “เฮอร์ไมโอนี่ เธอสบายดีหรือเปล่า?”
          เฮอร์ไมโอนี่หยีลูกตาและพบว่าแสงนั้นได้จางลงจนเธอสามารถเห็นสีหน้ากังวลของเดรโก
          “เธอทำอะไร?”
          “เธอสบายดีหรือเปล่า เธอยืนไหวไหม? นรกบ้าอะไร เธอถึงได้เปิดประตูเข้ามาแบบนั้น!” ใบหน้าเดรโกซีดเผือดกว่าปกติ
          เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาลงพยายามปิดกั้นแสงสว่างซึ่งยังคงดูเหมือนเปล่งแสงร้อนผ่าวอยู่รอบตัวเธอ มีความเจ็บปวดแปลบปลาบภายในหัวของเธอ และเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกวิงเวียนหน้ามืด “เธอกำลังทำอะไรอยู่?” เธอถามเขาลอดฟันที่ขบกันแน่น
          “ฉันรู้สึกเบื่อที่คอยเธอ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจทดสอบคาถาบางอันที่ฉันได้บอกเธอไปเมื่อก่อนหน้านั้น” เดรโกกำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ เพื่อช่วยเธอให้ลุกขึ้นยืน
          “เธอเลยตัดสินใจทดสอบพวกมันกับฉันงั้นซิ?” เธอตวาดใส่และพบว่าหน้าผากเธอมีบาดแผลกำลังเลือดไหลเล็กน้อยลงมาที่แก้มเธอ
          “อ้าว เธอกำลังอารมณ์เสียใช่ไหมเนี่ย” เดรโกพูดเมื่อเขาช่วยเธอให้ยืนได้ในที่สุด
          เฮอร์ไมโอนี่สามารถยืนได้ด้วยตัวเองเพียงแค่แป๊บเดียวก่อนเธอเป็นลมไป เดรโกคว้าตัวเธอไว้และช้อนเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างง่ายดาย
          “นั่นไง ฉันจะพาเธอไปที่สถานพยาบาล” เดรโกพูดอย่างหนักแน่นเมื่อเขาอุ้มเธอไว้
          “ฉันไม่จำเป็นต้องไปที่สถานพยาบาล” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึงขังทีเดียว ในขณะที่กำลังพยายามหลีกเลี่ยงอ้อมแขนเขาอย่างไม่ประสบผลสำเร็จ
          “แน่นอนว่าเธอต้องไม่ทำแบบนั้น เธอแทบไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง และดูซิเธอกำลังเลือดไหลไม่หยุดด้วย แม่สาวกริฟฟินดอร์ผู้เคร่งครัด” เดรโกปฏิเสธที่จะปล่อยเธอลง
          “โอ้ หยุดพูดที มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำอย่างโมโห
__________________
          “ฉันคิดว่ามันเป็นพวกเวทมนตร์ทำให้งงงันนะ” เดรโกบอกเธอ ขณะที่มองขึ้นไปบนเพดาน
          เฮอร์ไมโอนี่ชำเลืองไปดูเขาจากที่เธอกำลังนอนอยู่  “อึมม์ มันใช้การได้ดีทีเดียวเลย พิจารณาจากที่เธอไม่เคยได้ฝึกฝนมันมาก่อน”
          “ฉันเสียใจที่เกือบจะทำให้เธอล้มหมดสติ ฉันคิดว่าคาถาจะสร้างแสงสว่างเท่านั้นเหมือนกับคาถาจุดไฟ(Lumos spell) ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันจะทำบางอย่างที่ร้ายกาจแบบนี้ หรือว่าเธอกำลังจะเปิดประตูเข้ามา” เดรโกนั่งลงและมองมาที่เตียงของเธอ
          เฮอร์ไมโอนี่ดึงผ้าห่มขึ้นมาสูงอีกนิดหนึ่ง กำลังรู้สึกถึงการเปิดเผยอย่างแปลกประหลาดในชุดเสื้อคลุมของสถานพยาบาล “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ทำมันด้วยความตั้งใจหรอก ฉันคิดว่านับจากนี้เป็นต้นไป เมื่อเราทดสอบคาถาพวกนี้ เราควรจะทำมันด้านนอกของโรงเรียน”
          เดรโกเลื่อนลงจากเตียงที่เขานั่งอยู่และเข้ามาหาเธอ “จริงหรือ? เธอยังคงต้องการทดลองพวกมันหลังจากเกิดเรื่องขึ้นนี่นะ? ฟังนะมันอาจจะเลวร้ายกว่าเดิม ฉันคิดว่าฉันทำการแปลได้ค่อนข้างแม่นยำสำหรับผลลัพธ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น”
          “ก็ได้” เธอทวนเบาๆ “มันใช้สร้างแสงสว่าง”
          “นั่นถูกต้อง” เดรโกเห็นด้วย
          เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองไปที่ประตูห้องทำงานของมาดามพอมฟรี่ย์  เฮอร์ไมโอนี่จะหายดีแน่นอน พวกเขาบอกกับหล่อนว่าเฮอร์ไมโอนี่ได้หกล้ม พวกเขาไม่แน่ใจว่าหล่อนเชื่อหรือไม่ แต่นางพยาบาลของโรงเรียนดูเหมือนกังวลเกี่ยวกับบาดแผลเหล่านี้มากกว่าเสมอ แทนที่จะเป็นอุบัติเหตุซึ่งเป็นสาเหตุของพวกมัน
          เดรโกปักหลักตัวเองอยู่ที่ริมเตียงของเธอและยิ้มกว้างให้เธอ มันเป็นสีหน้าที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเสมอว่าทำให้ไม่สบายใจมากๆ เธอพยายามกระเถิบหนีไปข้างหลังให้ไกล แต่ว่าไม่มีที่ว่างมากนักบนเตียงเล็กนี้
          “มาดามพอมฟรี่ย์จะโกรธมากถ้าหล่อนมาพบว่าเธอยังคงอยู่ที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว ตระหนักถึงความมืดภายในห้องและเสื้อคลุมบางๆ ที่เธอใส่อยู่
          “นางพยาบาลจอมวุ่นวายคนนั้นไม่ทำให้ฉันกังวลหรอก อย่างไรก็ตามมันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงผ่านกำแพงนั่นเข้าไปในห้องทำงานของเธอ ตอนอยู่ชั้นปีที่สาม แครบบ์และฉันเสกกระโถนสองสามใบให้คอยตามเจ้าเด็กงี่เง่ากริฟฟินดอร์คนหนึ่งที่ชอบถือกล้องถ่ายรูปไปทั่วห้องเลย พวกมันทำเสียงดังโครมครามชนกับกำแพง กระแทกกับตู้หลายใบ แต่มาดามพอมฟรี่ย์ไม่ได้ยินอะไรเลย ช่างตลกสิ้นดีจริงๆ” เดรโกหัวเราะ
          เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เดรโกอย่างไม่เห็นด้วย แต่เธอก็ไม่ได้โกรธจริงจัง อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมรับมันกับใครสักคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่กับเดรโก แต่มีหลายครั้งที่เธอถูกยั่วใจให้เสกคาถาใส่โคลินด้วยตัวเธอเอง เขาคอยวิ่งวุ่นไปทั่วเสมอ ดักพบระหว่างทาง เที่ยวถ่ายรูปแฮร์รี่มากมาย มีครั้งหนึ่งเขาเคยชนขวดน้ำหมึกสีม่วงทั้งขวดของลาเวนเดอร์หกใส่การบ้านวิชาเวทมนตร์ของเธอด้วย       
          เฮอร์ไมโอนี่ยกมือข้างหนึ่งสัมผัสเบาๆ ตรงอาการบวมนิดๆ ที่หน้าผากเธอ  มาดามพอมฟรี่ย์ได้รักษาบาดแผลให้ทันทีและทุกอย่างด้วย เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสบายดีและไม่คิดว่ามันจำเป็นเลยจริงๆ สำหรับเธอที่ต้องพักค้างคืนในปีกสถานพยาบาลแต่ว่านางพยาบาลยืนกราน ห้องนี้ว่างเปล่าเหลือแค่เฮอร์ไมโอนี่กับเดรโกที่กำลังมองตรงมาที่เธอ ด้วยท่าทางที่ทำให้เธอรู้สึกเข่าอ่อนเสมอ
          “เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มแต่หยุดลงเมื่อเขาโน้มตัวลงมาจูบเธอ มือข้างหนึ่งของเขาช้อนใบหน้าเธออย่างนุ่มนวล  มันทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจบ่อยๆ ว่าเขาสามารถอ่อนโยนได้เช่นนี้
ลมหายใจเธอเริ่มถี่เร็วขึ้นและเดรโกโน้มลงมาใกล้เธอมากขึ้น อีกมือหนึ่งของเขาลากต่ำลงมาหามือของเธอ รอยนิ้วมือเขากำลังทิ้งรอยสัมผัสแผ่วเบาบนแขนเธอก่อนมือเขากุมรอบมือเธอ
          “ออกห่างจากเธอซะ!”
          เสียงตะโกนตามมาเกือบจะทันทีจากหนุ่มผมแดงที่กระแทกเดรโกลงไปที่พื้น เฮอร์ไมโอนี่มองด้วยความตกใจกลัวเมื่อรอนชกกำปั้นตรงไปที่คางของเดรโก
          “รอน หยุดนะ!” เธอร้องกรี๊ด ขณะพยายามอย่างเต็มที่ลากตัวเองออกจากผ้าห่ม
          รอนไม่สนใจเฮอร์ไมโอนี่ อย่างไรก็ตามเขายังทุบตีเดรโกต่อไป ผู้ซึ่งดูเหมือนมึนงงจนไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับมันมากไปกว่าดิ้นรนเพื่อหนีออกจากใต้ร่างวีสลี่ย์ที่บ้าระห่ำ
          “รอน!” เฮอร์ไมโอนี่ไถลลงจากเตียงและคว้าแขนเขาไว้ได้ก่อนที่เขาจะต่อยอีกครั้ง “รอน หยุดเสียที!”
          “หยุดรึ?” รอนชะงักและมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ รู้สึกสับสน “แต่เขากำลังทำร้ายเธอนะ!”
          เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงก่ำและเห็นแฮร์รี่กำลังยืนอยู่ที่ปลายเตียงของเธอ ลักษณะท่าทางระมัดระวังแสดงให้เห็นบนใบหน้า “ไม่ใช่รอน เขาไม่ได้กำลังทำอันตรายฉัน” เธอจัดการกระซิบผ่านปากที่แห้งผาก
          “เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?” รอนถามเรียบๆ กลัดกลุ้มว่าจะแสดงอาการโกรธหรืออาการตกใจดี
          “ฉัน...ฉัน...” เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านรอนไปที่เดรโก เขากำลังมองเธออย่างใจจดใจจ่อ ไม่รับรู้ถึงเลือดที่กำลังไหลลงมาจากริมฝีปากเขา
          แสงสว่างส่องผ่านตัดความมืดของห้องพยาบาลอย่างฉับพลัน มาดามพอมฟรี่ย์ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟตรงประตูห้องทำงานของเธอ สีหน้าท่าทางโกรธเกรี้ยวอย่างมาก “เกิดเรื่องอะไรกันขึ้นที่นี่? ชกต่อยกันหรือ? การชกต่อยไม่อนุญาตในโรงเรียนนะ!”
          รอนก้าวถอยจากเดรโก และเฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นว่าเขากำลังเดินกะเผลก
          “มิสเกรนเจอร์กลับไปที่เตียงของเธอ และพวกเธอสามคนถูกกักบริเวณ” ไม่มีเด็กหนุ่มคนไหนโต้แย้ง นางพยาบาลดูท่าทางว่าเธอสามารถพ่นตะปูออกมาได้ “เธอ เกิดอะไรขึ้นกับขาของเธอ?” หล่อนถามรอน
          “ผมหมุนเข่าตัวเองเพื่อแสดงให้ดีนดูว่าผมสกัดลูกควัฟเฟิลเมื่อเช้าวันนี้ได้อย่างไรนะครับ” รอนพึมพำ
          “ดีจริง ไปที่ห้องทำงานฉัน ส่วนเธอ” หล่อนหันมาที่เดรโก “บาดแผลน่ารังเกียจที่ริมฝีปากเธอ ไปตรงนั้นคอยฉันที่ห้องโน้น”
          เดรโกเหลือบมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ จากนั้นเข้าไปในห้องเล็กซึ่งปรากฏว่าถูกใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เป็นส่วนใหญ่
          “และมิสเตอร์พอตเตอร์ แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่สถานพยาบาลถ้าปราศจากการเยี่ยมเยียนจากเธอ เอาล่ะเกิดอะไรขึ้น?” มาดามพอมฟรี่ย์ถามอย่างเฉียบขาด
          “ไม่มีครับ ผมแค่ช่วยพารอนมาที่นี่” แฮร์รี่บอกเธอ
          นางพยาบาลพยักหน้าให้แล้วชี้ไปที่ประตู “ออกไปได้” นี่คือทั้งหมดที่เธอพูด  แฮร์รี่หันหลังและออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว นางพยาบาลมองเขม็งมาที่เฮอร์ไมโอนี่แล้วดึงผ้าม่านปิดรอบเตียงของเธอ
          เฮอร์ไมโอนี่นอนจ้องขึ้นไปบนเพดาน กำลังปรารถนาว่าเธอไม่น่าจะต้องถูกปล่อยทิ้งไว้ที่สถานพยาบาลเลย รอนและแฮร์รี่จะพูดอะไรกับเธอในวันพรุ่งนี้นะ? และแย่ยิ่งกว่านั้นเรื่องเกี่ยวกับเดรโก? เธอเคยเห็นท่าทางที่เขามีปฏิกิริยาเมื่อแพนซี่มาเห็นพวกเขาด้วยกันที่โถงทางเดิน และมันไม่ได้ร้ายแรงนัก แต่ทว่าเรื่องนี้? เป็นเวลานานมากก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทำให้ตัวเธอหลับตาลงได้

TBC

No comments:

Post a Comment