Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Chapter 5: Hagrid wants a word

แฮกริดต้องการคำตอบ (Hagrid wants a word)

         
เฮอร์ไมโอนี่ยกกระเป๋าของเธออย่างระวังแล้วห่อตัวนิดๆ เมื่อรู้สึกเจ็บที่หลังของเธอ มาดามพอมฟรี่ย์อาจสามารถซ่อมแซมกระดูกหลายท่อนได้ภายในเวลาไม่กี่นาที แต่ขบวนการทั้งหมดนี้ได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในความเจ็บปวดมากพอควร เธอใช้เวลาสองวันอยู่ในปีกสถานพยาบาลกับมัลฟอย   หลังจากเช้าวันแรกในบรรยากาศเงียบมึนตึง ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ได้เข้ามาคุยกับพวกเขาในตอนบ่ายถัดมา ด้วยสีหน้ากังขาเขามองไปที่เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยผู้ที่ได้ก่อเรื่องราวขึ้นมา ก่อนที่อาจารย์ใหญ่จากไปเขาได้ถามเฮอร์ไมโอนี่ว่ามีอะไรอื่นอีกที่เธออยากเพิ่มเติมหรือไม่ ความสงสัยชัดเจนอยู่ในแววตาวิบวับของเขา แต่เขาดูเหมือนไม่โกรธมีเพียงอารมณ์ขบขันเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงแรงกระตุ้นลึกๆ ให้บอกความจริงแก่เขา บอกทุกสิ่งทุกอย่างแก่เขา แต่เมื่อเธอนึกถึงมัลฟอยกำลังนอนบาดเจ็บและเลือดไหลท่วมอยู่ที่พื้น นึกถึงว่าเธอหันหลังเพื่อวิ่งหนีและปล่อยเขาทิ้งไว้อย่างไร เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นด้วยความกลัว แล้วศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็ออกจากปีกสถานพยาบาลเงียบๆโดยไม่รอคำตอบจากเฮอร์ไมโอนี่
         
เฮอร์ไมโอนี่พยายามย้ายกระเป๋าหนังสือไปยังไหล่อีกข้างของเธอและพบว่ามันเจ็บพอกัน เธอเคลื่อนออกจากเวิ้งเล็กๆ ไปด้านข้างของทางเดินระเบียง พยายามหลีกเลี่ยงการกระแทกจากนักเรียนทั้งหลายที่อยู่รอบๆ เธอ แฮร์รี่และรอนคอยช่วยเหลือเธอเรื่องกระเป๋าหนังสือ แต่เวลานี้เธออยู่บนเส้นทางไปเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ ในขณะที่พวกเขาเดินไปอีกด้านหนึ่งของโรงเรียนเพื่อเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์(Divination) เฮอร์ไมโอนี่ดูนาฬิกาของเธอ;ชั้นเรียนกำลังจะเริ่มอีกไม่กี่นาทีแล้ว เธอสูดหายใจลึกๆ เตรียมจะแบกกระเป๋าขึ้นบนหลังของเธอเมื่อมีเสียงหนึ่งตะโกนเรียก
         
“สวัสดี เฮอร์ไมโอนี่ เธอกำลังทำอะไร? กำลังซ่อนตัวจากสัตว์ประหลาดหรือว่ามัลฟอย?” เฟร็ด และจอร์จ วีสลี่ย์ กำลังยืนอยู่ที่นั่นและยิ้มกว้างให้เธอ
         
ความจริงที่ว่า แมนติคอร์จะถูกเก็บไว้อยู่บนที่ดินของโรงเรียนได้ถูกปิดบังโดยเหล่าคณาจารย์ แน่นอนทุกคนทราบเรื่องของมัน ถึงแม้ว่ารู้รายละเอียดเพียงนิดหน่อย;เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยได้ปฏิเสธพูดเรื่องราวนี้กับใครทั้งนั้น นักเรียนหลายคนแค่กำลังสงสัยว่ากริฟฟินดอร์คนหนึ่งกับสลิธีรินอีกคนหนึ่ง ไปทำอะไรที่ข้างนอกด้วยกันหลายชั่วโมง?
         
“เธอจะไปไหน?” เฟร็ดถามเธอ
         
“ไปเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์” เธอตอบพร้อมกับยิ้มให้พวกเขา
         
“เรากำลังไปเรียนวิชาการแปลงร่าง(Transfiguration) มันไม่ไกลจากชั้นเรียนของเธอมากนัก เราจะช่วยพาเธอไปที่นั่น” จอร์จพูด
         
“มานี่ ฉันถือนั่นให้เธอเอง” เฟร็ดเดินมาข้างหน้าและเอากระเป๋าของเฮอร์ไมโอนี่ไป พร้อมกับเสียงอุ้บดังขึ้นเขากระแทกเข้ากับกำแพง
         
          “โอ้โห! เฮอร์ไมโอนี่ เธอแบกอะไรอยู่ในกระเป๋ากันเนี่ย?”
         
          “มานี่เฟร็ด ให้ฉันช่วย” จอร์จก้าวมาข้างหน้าแล้วคว้าสายกระเป๋าอีกด้าน เขางอเข่าเกือบจะถึงพื้น “ไม่สามารถ...ถือ...ไหว”
         
          เฮอร์ไมโอนี่ยกแขนกอดอกและมองพวกเขา มีประกายงงๆ ในดวงตาของเธอ “มันไม่ได้หนักขนาดนั้นซะหน่อย” เธอบอกพวกเขา
         
          “เธอกำลังพูดล้อเล่นรึ จอร์จ? เธอต้องมีห้องสมุดทั้งห้องอยู่ในกระเป๋าใบนี้” เฟร็ดพยายามทำท่าออกแรงอย่างเต็มที่ขณะยกกระเป๋าของเธอ
         
          จอร์จยืนพิงกำแพง พยายามจับสายกระเป๋าให้กระชับขึ้น
         
          “เธอต้องเป็นเด็กสาวที่แข็งแรงที่สุดในโลกเลย เฮอร์ไมโอนี่”
         
          เฟร็ดงอเข่าลง กำลังเลียนแบบท่าทางเจ็บปวด “ฉันคิดว่าฉันลากอะไรสักอย่าง” เขาส่งเสียงร้องครวญดังเกินความจริง ทำให้ดึงดูดสายตาจากพวกนักเรียนที่เดินผ่านมา
         
          “โอ้ เธอกำลังเล่นไร้สาระเกินไปแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่ตวาดใส่พวกเขา “เอามันมานี่ ฉันจะจัดการเอง”
         
          “ไม่ได้ ไม่ดีนะสาวน้อย!” เฟร็ดกระโดดขึ้นยืนอย่างง่ายดาย
         
          “ในฐานะอัศวินเสื้อเกราะของเธอ เราต้องทำให้แน่ใจว่าเธอถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย” จอร์จคำนับให้เธอ
         
          พร้อมกับถอนหายใจยาวๆ เฮอร์ไมโอนี่ตามเฟร็ดและจอร์จตรงไปที่ชั้นเรียน พวกเขาแบกกระเป๋าหนังสือของเธอราวกับรูปภาพนักบุญล้ำค่า เมื่อพวกเขาเดินผ่านห้องโถงและตะโกนให้นักเรียนคนอื่นๆ ได้ยิน
         
          “เปิดทางให้เลดี้เฮอร์ไมโอนี่ และห้องสมุดอันโอ่อ่าของเธอ”
         
          เฮอร์ไมโอนี่ลูบหน้าผากของเธอ ฉากการแสดงที่คู่แฝดกำลังสร้างอยู่นี้มีประโยชน์หลายอย่างในตัวมันเอง เหล่านักเรียนต่างเปิดทางเพื่อดูขบวนแห่นี้ และเฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องกังวลเรื่องกระแทกกับคนอื่นๆ อีกต่อไป เธอยื่นมือขอกระเป๋าเมื่อพวกเขามาถึงประตูห้องเรียนของเธอ แต่เฟร็ดและจอร์จไม่ฟังมัน พวกเขาคุ้มกันเธอเข้าไปในห้องจนถึงที่นั่งของเธอ มัลฟอยอยู่ที่นี่เรียบร้อยแล้ว กำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาวิจารณ์ เฟร็ดและจอร์จต่างก็มอบสายตาประสงค์ร้ายให้เขา ก่อนหันกลับมาหาเฮอร์ไมโอนี่และคำนับเธออีกครั้ง
         
          “เวลาใดก็ตามที่เธอต้องการการรับใช้แบบอัศวินของเรา แค่บอกให้เรารู้เท่านั้น” พวกเขากล่าวด้วยความพร้อมเพรียงกัน
         
          “ขอบคุณนะหนุ่มๆ ฉันจะจดจำไว้” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้ แล้วพวกเขาเดินจากไป
         
          “ว้าว! เป็นฉากที่เร้าใจอย่างมากเลย พวกวีสลี่ย์ต้องการใช้เงินมากหรือไงถึงให้การบริการแก่เลือดสีโคลน?” การพูดจาดูถูกของมัลฟอยทำให้ผิวหนังของเฮอร์ไม่โอนี่รู้สึกคันยิบๆ
         
          “หุบปากซะ มัลฟอย ฉันไม่อยากมีอารมณ์ เราใช้เวลาสองวันที่เงียบสงบอย่างน่ามหัศจรรย์ในปีกสถานพยาบาล เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้หรือไง?” เธอพูดอย่างนุ่มนวล พยายามอย่างหนักไม่ติดเหยื่อล่อของเขา
         
          “ถ้าเธอต้องการแบบนั้น เกรนเจอร์” มัลฟอยหันความสนใจของเขาไปที่ศาสตราจารย์เวคเตอร์
         
          เวลาเรียนที่เหลือผ่านไปอย่างไม่น่าตื่นเต้น เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยนั่งกันอย่างสงบพร้อมกับคัดลอกงานต่างๆ หน้าต่างหลายบานถูกเปิดไว้แต่ไม่มีสายลมพัดผ่านเลยในวันนี้ ทำให้ข้างในร้อนอบอ้าว  เฮอร์ไมโอนี่คิดว่านี่อาจเป็นหนึ่งในหลายวันสุดท้ายของฤดูร้อน ก่อนอากาศหนาวเย็นจะเริ่มขึ้นก็เป็นได้ เธอถกแขนเสื้อคลุมของเธอขึ้นพยายามทำให้ตัวเองเย็นสบายและจดงานต่อไป จากทางหางตาของเขา มัลฟอยสังเกตรอยแดงก่ำเปื้อนอยู่บนแขนขาวซีดของเธอ;เขารู้ว่าเป็นฝีมือของเขา มัลฟอยรู้สึกถึงอารมณ์แปลกๆ ไหลผ่านตัวเขาอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะหนึ่งเขาคิดว่ามันคือความเสียใจ แต่มันก็จากไปอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ค่อยแน่ใจนัก
         
          เวลาเลิกเรียนมาถึงอย่างรวดเร็ว ศาสตราจารย์เวคเตอร์แจกแผ่นงานต่างๆ ให้พวกนักเรียนไปทำงานต่อ เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะไปแล้วเมื่อตระหนักว่าศาสตราจารย์เวคเตอร์ไม่ได้แจกงานให้พวกเขาสักแผ่น
         
          “เออ...ศาสตราจารย์เวคเตอร์ค่ะ?” เฮอร์ไมโอนี่เดินลงมายืนอยู่ตรงโต๊ะอาจารย์ของเธอ “คุณลืมให้งานกับเราค่ะ?”
         
          “อันที่จริงแล้ว มิสเกรนเจอร์ ฉันมีอย่างอื่นอยู่ในใจสำหรับเธอและมิสเตอร์มัลฟอย” อาจารย์ยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
         
          มัลฟอยเดินลงมายืนถัดจากเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้สึกว่าเขากำลังยืนใกล้เธออย่างน่าอึดอัด แขนของเขาเกือบจะโดนแขนของเธอ เธอมองเขาอย่างไม่ชอบใจแล้วก้าวถอยห่างจากเขาแต่มัลฟอยดูเหมือนไม่ได้สังเกต
         
          “ฉันกำลังตรวจงานของพวกเธอ เธอแน่ใจนะว่าส่งมันคืนภายในอาทิตย์ที่แล้ว?” ศาสตราจารย์เวคเตอร์จ้องพวกเขา เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่มัลฟอย พวกเขาสบตากันแล้วมัลฟอยยักไหล่ให้เธอ
         
          “ไม่ใช่ค่ะ ศาสตราจารย์” เฮอร์ไมโอนี่พูด “หนูคิดว่าเป็นวันนี้ อุบัติเหตุทำให้เราสับสนค่ะ”
         
          “นั่นไม่ใช่ประเด็น มิสเกรนเจอร์” ศาสตราจารย์เวคเตอร์เดินลากเท้าผ่านไปยังชั้นวางแผ่นกระดาษ แล้วนำกระดาษสองสามแผ่นกลับมาซึ่งเฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเป็นของเธอกับมัลฟอย
         
          “มีบางอย่างผิดเกี่ยวกับมันหรือครับ ศาสตราจารย์?” มัลฟอยถามสั้นๆ น้ำเสียงที่ใช้ถามนั้นเฮอร์ไมโอนี่คงไม่กล้าให้ตัวเองถาม
         
          “ตรงกันข้าม มิสเตอร์มัลฟอย งานทั้งหมดยอดเยี่ยม ฉันไม่คิดว่าเธอคนใดคนหนึ่งกำลังแข่งขันกันในชั้นเรียนของฉันนะ ดังนั้นปัญหาคือฉันจะทำอะไรกับเธอทั้งสองคนดี?” ศาสตราจารย์เวคเตอร์ถามพวกเขา คราวนี้เป็นมัลฟอยที่มองเฮอร์ไมโอนี่ เธอยักไหล่ให้เขาและหันความสนใจกลับไปที่ศาสตราจารย์เวคเตอร์
         
          “ฉันได้สนทนากับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ และท่านแจ้งให้ฉันทราบถึงสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาไม่นานนี้ในเขตหวงห้ามของห้องสมุด เราได้รับของสะสมโบราณเกี่ยวกับแผ่นงานและต้นฉบับต่างๆ ที่เขียนโดยพ่อมดชราคนหนึ่งหลายศตวรรษก่อน ฉันแน่ใจว่าส่วนใหญ่ของมันน่าเบื่ออย่างเหลือร้าย แต่บางส่วนของมันอาจมีประโยชน์” เธอมองตรงไปที่เฮอร์ไมโอนี่ และถัดมาที่มัลฟอย ขบขันอย่างเห็นได้ชัดกับสีหน้าสับสนของพวกเขา
         
          “อาจารย์ใหญ่ต้องการให้ฉันตรวจค้นแผ่นงานเก่าๆ เหล่านี้ และดูว่าพวกมันมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไหม ฉันไม่อยากใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องสมุดเลยจริงๆ แต่ฉันคิดว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่เธอสองคนต้องการ มันจะเป็นการท้าทายที่มากกว่าอะไรก็ตามที่เราจะทำในชั้นเรียน ฉันต้องเตือนเธอว่ามันจะยากมากๆ แต่เธอทั้งคู่เป็นนักเรียนที่เฉลียวฉลาด ฉันได้พูดเรื่องนี้กับอาจารย์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว และท่านเห็นว่าเป็นความคิดที่ดีสำหรับเธอทั้งคู่ในการตรวจค้นแผ่นงานเหล่านี้เช่นกัน” เธอยิ้มให้พวกเขา และรอคอยคำตอบ
         
          เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกมึนงง;นี่เป็นความรับผิดชอบใหญ่มากที่พวกเขากำลังจะได้รับ โอกาสในการทำงานที่ไม่ต้องถูกควบคุมจริงๆ ในเขตหวงห้ามของห้องสมุด เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงความคาดหวังกำลังก่อตัวขึ้นเมื่อคิดถึงกองแผ่นงานเก่าแก่เต็มไปด้วยฝุ่นจำนวนมากมาย กำลังรอคอยให้ถูกเปิดและค้นหาอยู่ในกล่องใหญ่หลายใบ
         
          “เราต้องทำจริงๆ หรือครับ ศาสตราจารย์?” มัลฟอยถามอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่เห็นเหมือนมีประกายแวบในดวงตาสีเงินของเขา เธอรู้ว่าเขารู้สึกสนใจเหมือนกัน
         
          “ใช่แล้ว แผ่นงานพวกนี้จำเป็นต้องแยกหมวดหมู่ และเขียนแผนผังออกมา หลายร้อยปีก่อนตัวเลขมหัศจรรย์เป็นเวทมนตร์ที่แตกต่างออกไปเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน สำหรับเธอสองคนต้องสามารถค้นหาความแตกต่างเหล่านี้ได้เป็นคนแรก มันน่าตื่นเต้นจริงๆ” เธอยิ้มกว้างให้พวกเขา และรู้สึกพอใจเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มตอบกลับมา มัลฟอยเพียงแค่ผงกศีรษะให้เธอเท่านั้น
         
          “เอาล่ะ พวกเราพบกันหลังอาหารเย็นวันนี้ เวลาสองทุ่มที่ห้องสมุด ฉันจะปรึกษาหารือรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังจากเธอทั้งคู่” ศาสตราจารย์เวคเตอร์เอาแผ่นกระดาษของเธอกลับไปด้วยและหันหลังจากไป
         
          เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเดินตามหลังไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกร่าเริงเหลือเกิน นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยม เธอรักวิชาตัวเลขมหัศจรรย์และได้รับโอกาสในการทุ่มเทเต็มตัวเช่นนี้ มันช่างน่าตื่นเต้น ใบหน้าหนึ่งปรากฏขึ้นภายในใจของเธอ มัลฟอย เธอต้องทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ร่วมกับมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่หยุดอย่างกระทันหันเมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ มัลฟอยซึ่งกำลังก้าวตามหลังเธอมาเพื่อเอากระเป๋าของเขา ไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการหยุดชะงักของเธอ เขาชนใส่เธอและเฮอร์ไมโอนี่ล้มไปข้างหน้ากำลังจะฟาดพื้นแล้ว เมื่อเธอรู้สึกว่าแขนของเขารัดรอบเอวเธอ ลมหายใจปะทะถูกเธอขณะที่กิริยาฉับไวของเธอหยุดฉับพลัน มัลฟอยจับเธอตั้งตรงแต่ไม่ได้ปล่อยทันที;เขาดูเหมือนกำลังสำรวจเธออยู่ เฮอร์ไมโอนี่สบตากับเขา
         
          “ขอบคุณ” เธอพูดอุบอิบ แล้วมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
         
          มัลฟอยปล่อยตัวเธอและสะบัดอย่างโมโหผ่านเธอไป เขาคว้ากระเป๋าที่โต๊ะแล้วเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบออกไปจากห้อง เฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ที่เดิม ความรู้สึกสั่นกระพือแปลกๆ ภายในท้องของเธอ เธอมองลงที่พื้นหินจมอยู่กับความคิด มัลฟอยได้ทำตัวเกือบจะสุภาพ ใช่แล้ว สุภาพเท่าที่มัลฟอยทำได้
         
          “เฮอร์ไมโอนี่?”
         
          เธอเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ และเห็นแฮร์รี่กับรอนกำลังเดินมาหาเธอ
         
          “เราพบเฟร็ดและจอร์จระหว่างทางไปทานอาหารกลางวัน พวกเขาบอกว่าเธอต้องใช้เวลายุ่งกับกระเป๋าของเธอแต่เช้าแล้ว” แฮร์รี่ยิ้มให้เธอ เอากระเป๋าของเธอจากโต๊ะและโยนมันขึ้นบนไหล่ของเขา รอนยืนอยู่ข้างหลังเขากำลังพึมพำบางอย่างเกี่ยวกับศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ อาจารย์วิชาพยากรณ์ศาสตร์ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง
         
          “รอน!”
          รอนยิ้มแหยๆ ให้เฮอร์ไมโอนี่ “ขอโทษ เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะต้องไม่เชื่อแน่เรื่องจำนวนการบ้านที่เธอให้พวกเรา และไม่มีเหตุผลด้วย!”
         
          “จริงๆ นะรอน เธอคงจะให้เป็นสองเท่าเพราะว่านายบอกกับซีมัสว่า ศาสตราจารย์ ทรีลอว์นีย์ควรจะอยู่ในเซนต์มันโก(St.Mungo) แล้วเธอแอบได้ยินนะซิ” แฮร์รี่ตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
         
          “โอ้...จริงด้วย ฉันคิดอย่างงั้นเหมือนกัน” รอนพูดยิ้มๆ “โอ๊ย ฉันหิวข้าวแล้ว พวกเราไปทานอาหารกลางวันกันเถอะ”
         
          “เฮอร์ไมโอนี่ เรากำลังจะไปคุยกับแฮกริดระหว่างเวลาหยุดพักของเรา” แฮร์รี่บอกเธอ
         
          “ดีเลย ฉันต้องการถามเรื่องแมนติคอร์” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ขณะพวกเขาเดินผ่านห้องโถง
         
          ตลอดเวลาอาหารกลางวัน เฮอร์ไมโอนี่บอกพวกเขาเกี่ยวกับโครงการวิชาตัวเลขมหัศจรรย์อันใหม่ของเธอ ทั้งแฮร์รี่และรอนกำลังทำอย่างดีที่สุดเพื่อแสดงท่าทางสนใจเล็กน้อย เธอทานอาหารกลางวันไปได้ครึ่งหนึ่ง รู้สึกว่ามีบางคนกำลังมองเธออยู่ เธอค่อยๆ หันศีรษะอย่างไม่ใส่ใจมากนักเพื่อมองไปรอบๆ เธอสะดุดกับประกายผมสีบลอนด์เงิน แล้วดวงตาสีน้ำตาลของเธอพบกับดวงตาสีเทาคู่หนึ่ง มัลฟอยกำลังจ้องเขม็งมาที่เธอ
         
          “ฉันช่วยชีวิตเขา แต่เขาเกลียดฉันมากกว่า” เธอพึมพำเบาๆ แล้วหันกลับไปทานอาหารกลางวันต่อ
         
          การเดินไปกระท่อมของแฮกริดครั้งนี้แตกต่างกว่าครั้งก่อนอย่างมากสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ พระอาทิตย์ยามบ่ายสาดแสงลงมาขณะที่พวกเขาเดินเล่นอย่างไม่รีบร้อนข้ามสนามหญ้า มีนักเรียนหลายคนกระจัดกระจายอยู่บนสนาม กำลังสนุกสนานกับอากาศอบอุ่นสบายครั้งสุดท้ายก่อนฤดูใบไม้ผลิจะเริ่ม
         
          แฮกริดยืนอยู่ด้านนอกกระท่อม กำลังขุดร่องผักของเขา เงยหน้าขึ้นมองเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้และตะโกน
         
          “กำลังคิดถึงพวกเธอสามคนเลย”
         
          เขานำทั้งสามคนเข้าไปในกระท่อม เจ้าเขี้ยวผุดลุกขึ้นโถมใส่แฮร์รี่อย่างรวดเร็ว ชนเขาถอยไปพิงกำแพง แฮร์รี่ยิ้มกว้างและเริ่มต้นเกาหลังหูของเจ้าสุนัขล่าหมูตัวใหญ่ ทันทีที่ประตูปิดแฮกริดหันมาหาเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยแววตาสำรวจค้นหา
         
          “เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เฮอร์ไมโอนี่? ลงมาข้างล่างนี้กับมัลฟอยชั่วร้าย? และฉันไม่อยากได้ยินเรื่องขยะทั้งหลายว่าต้องการถามคำถามกับฉันหรอกนะ” ดวงตากลมเล็กจิ๋วของ
แฮกริดจ้องเธอ
         
          เฮอร์ไมโอนี่ไขว้แขนกอดอกและมองไปที่พื้นกระท่อม แฮกริดมองข้ามศีรษะของเธอไปที่รอนและแฮร์รี่ซึ่งยักไหล่ทั้งสองคน
         
          “เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน” แฮร์รี่เสริม รอนเพียงแต่ถลึงตาใส่เธอเท่านั้น
         
          “อ่า..ใช่เลย ลงมาข้างล่างนี้แล้วปล่อยมันหนีไป เธอเคยคิดได้ฉลาดกว่านี้นะเฮอร์ไมโอนี่” ด้วยคำพูดของแฮกริด เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงอย่างเดือดดาล และตวาดใส่เขากลับไป
         
          “หนูไม่ได้ปล่อยมันออกไป! หนูรู้ว่าเจ้านั่นคืออะไร!” เฮอร์ไมโอนี่ทำตาถมึงทึงใส่เพื่อนๆ ของเธอ
         
          “ถ้างั้นมัลฟอยเป็นคนปล่อยมัน!” รอนร้องตะโกนอย่างลิงโลด “เราจะไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัล และเธอจะบอกความจริงกับอาจารย์ แล้วมัลฟอยจะถูกไล่ออกในที่สุด” รอนกระโดดขึ้นยืน มีสีหน้าร่าเริงบนใบหน้าตกกระของเขา เขาเกือบจะถึงประตูแล้วเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เปล่งเสียงเรียกเขา
         
          “รอน ฉันทำไม่ได้ ฉันเสียใจ แต่ฉันทำไม่ได้” รอนหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังสนใจรองเท้าของเธอเป็นอย่างมาก
         
          “ทำไมเธอทำไม่ได้?” แฮร์รี่ถามเธอแค่นั้น
         
          “ฉัน...ฉันแค่ทำไม่ได้ ฉันเสียใจ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการเหมือนกัน ฉันชอบที่ไม่ต้องเห็นมัลฟอยอีกเลย แต่ฉันทำไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่รับรู้ถึงความตั้งใจแน่วแน่ของเธอที่ไม่บอกเรื่องมัลฟอย อีกครั้งที่เธอเห็นใบหน้าซีดเผือดของเขา และได้ยินเสียงเบาๆ น่ากลัวในหัวเธอที่บอกให้เธอทิ้งเขาไว้ “ฉันแค่ทำไม่ได้ รอน”
         
          “แฮกริด มันมาจากที่ไหนครับ?” แฮร์รี่หวังว่าคงผ่านเรื่องมัลฟอยไปได้ พวกเขาควรหลีกเลี่ยงการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่ง
         
          “เออ...ฉันไม่คิดว่าควรบอกเธอเรื่องนั้น” แฮกริดเริ่มทำให้ตัวเองไม่ว่างกับการทำความสะอาดถ้วยน้ำชาหลายใบ
         
          “แฮกริด เจ้านั่นเกือบจะฆ่าเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย มันไม่เหมือนพวกสัตว์ประจำถิ่น พวกมันไม่ใช่ ใช่ไหมเฮอร์ไมโอนี่?” แฮร์รี่หยุดเพื่อมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งสั่นหัวอย่างรวดเร็ว “ผมหมายความว่าเจ้าสัตว์นี่มาลงเอยอยู่ในสนามหญ้าของคุณได้อย่างไรครับ? ใครนำมันมา?”
         
          “ฟังนะ มันไม่ใช่เรื่องของเธอเลย เธอไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องที่พ่อมดชั่วร้ายเหล่านี้วุ่นวายอยู่” แฮกริดหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ทันที แล้วหันไปมองแฮร์รี่, รอน, และเฮอร์ไมโอนี่ “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์คิดว่า พวกเขากำลังปล่อยพวกสัตว์อันตรายออกมา”
         
          “แต่ทำสำเร็จแล้วได้อะไร?” เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา เมื่อเขายื่นถ้วยน้ำชามาให้เธอ
         
          “ฉันไม่รู้ สร้างปัญหาให้ทางกระทรวงมั้ง?” แฮกริดส่งถาดคุกกี้หินมาให้ แต่พวกเขาปฏิเสธอย่างสุภาพ
         
          “พวกเขาไม่ได้คัดเลือกเหล่าสัตว์ประหลาดได้ดีมากนัก จริงไหม? แย่ชะมัด! เจ้าสัตว์นี่ไม่แม้แต่กัดแขนมัลฟอยให้ขาดไปเลย น่าปล่อยให้ฆ่าเขาคนเดียวนะ” รอนยิ้มแฉ่งให้แฮร์รี่ แต่เฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนเครียดนิดหน่อย
         
          “รอน อย่าพูดแบบนั้น!” เธอตวาดใส่เขา
         
          “ทำไมเธอกำลังพูดปกป้องมัลฟอยเวลานี้?” รอนตวาดใส่เธอกลับ
         
          “ฟังนะ เธอไม่ได้อยู่ที่นั่น เธอไม่ได้เห็นมัน มีเลือดมากเกินไปและเจ้า...เจ้าสัตว์นั่น... และ..." เสียงเฮอร์ไมโอนี่ขาดหายไป เมื่อเธอก้มมองถ้วยน้ำชาของเธอ แฮกริดโน้มตัวมาและตบหลังเธอเบาๆ อย่างสุภาพ
         
          “เธอสบายดีนะ เฮอร์ไมโอนี่?” แฮกริดถามเธออย่างอ่อนโยน
         
          “ค่ะ หนูสบายดี ขอบคุณค่ะ แฮกริด” เฮอร์ไมโอนี่ดูนาฬิกาของเธอ แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างโล่งอก “โอ้...ดูเวลาซิ ชั้นเรียนต่างๆ กำลังจะเริ่มภายในไม่กี่นาที่แล้ว ลาก่อนค่ะ แฮกริด!” ก่อนที่รอน, แฮร์รี่, หรือแฮกริดจะพูดอะไรกับเธอ เฮอร์ไมโอนี่ได้เผ่นออกจากประตูไปแล้ว

TBC

No comments:

Post a Comment