Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Sunday, September 14, 2014

Part II อดีตที่หวนคืน: Chap 10



หลังจากที่ เฮอร์ไมโอนี่ พามัลฟอยไปที่ห้องพยาบาลเพื่อได้รับการตรวจสายตาอีกครั้ง
พวกเขาก็กลับมายังห้องที่มีประตูทรงกลมบานใหญ่ และพบกับหญิงสาวผู้มาเยือน
 สองคนผู้ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกัน นั่งรอพวกเขาอยู่ ..รีอา และรีแอน

“ไง กลับมากันช้าจังนะพวกเธอ” รีแอนทักขึ้น

“เธอเข้ามาได้ไงน่ะ” มัลฟอยถามขณะนั่งลงบนโซฟา ข้างๆเฮอร์ไมโอนี่

“นั่นไม่สำคัญหรอก เดรโก” รีอากล่าว “เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย จริงมั้ย ในงานน่ะ”

“อืม แล้วพวกเธอมาทำอะไรที่นี่”

“ก็ธุระนิดหน่อย หน้าที่ของเราน่ะ หลังจากทำให้ ครอบครัวของเรากลับมารัก
ใคร่กันเหมือนเดิมได้แล้ว” รีอาพูดด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความหมายอะไรบางอย่างไว้

“นั่นอะไรน่ะเฮอร์ไมโอนี่” รีแอนชี้ไปยังล็อกเกตที่เวทมนต์แปลงสภาพมันให้เข้ากับชุด
ราตรีส่องประกายล้อแสงไฟของเธอ “ขอดูหน่อยได้มั้ย”

“ได้สิ”

“ว้าว มันสวยจัง” รีอาอุทาน “และมันก็ดูมี..”

“มนต์วิเศษ ซ่อนอยู่” รีแอนต่อท้ายคำของรีอา “มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ”

“เป็นไปไม่ได้หรอก มันเป็นของมักเกิ้ลนะ มันไม่น่าจะเป็นไปได้” มัลฟอยขัด
 และเอาล็อกเกตของเขา ที่เหมือนกับของเฮอร์ไมโอนี่ แต่ไม่ได้แปลงสภาพให้พวกเธอดู

“ได้สิ เดรโก หากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผูกพันธ์ด้วยใจ หรือมีคุณค่าในแบบที่ไม่สามารถจะอธิบายได้
อย่างเช่น มิตรภาพ.. ความรัก.. ความผูกพันธ์..”

“นั่นเธอจะทำอะไรน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าสายสร้อยล็อกเกตที่อยู่ในมือ
ของรีแอนและรีอา ถูกยืดออกด้วยเวทมนต์

“เราจะมาพิสูจน์กัน” รีแอนกล่าว พลางหลิ่วตาให้น้องสาวฝาแฝดของเธอ

“พิสูจน์อะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้น

“ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไงล่ะ” รีอาตอบ “ฉันรู้สึกได้ว่าพวกเธอ ผูกพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
หากแต่มีอะไรบางอย่างมาปิดกั้นมันไว้” รีอาพูดพร้อมคล้องสายสร้อยทั้งสองให้เฮอร์ไมโอนี่
และมัลฟอย เพื่อเชื่อมทั้งสองไว้ด้วยกัน

“เรื่องนั้นเรารู้อยู่แล้วน่า..ถึงแม้ว่าจะเพิ่งรู้ก็เถอะ” มัลฟอยกล่าวพลางขยับสายล็อกเกตไปมา
 “แล้วเราจะพิสูจน์ไปเพื่ออะไรล่ะ”

“นายไม่อยากจะจำอดีตได้หรอกเหรอ เดรโก” รีแอนกล่อม เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตามองรีอาและรีแอนอย่างสงสัย

“เดี๋ยวสิ เรายังไม่ได้บอกเธอเลยว่า เราจำไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ กล่าวเสียงเรียบ แต่สิ่งที่เธอรับรู้ต่อมาคือ

แสงสีฟ้าเรืองรองเปล่งประกายจากล็อกเกตทั้งสองก่อนจะวูบดับลงพร้อมกับสติของเธอและเขา

. . . . . . . .


ความมืดและความเงียบสงัดปกคลุมทุกท้องที่ สาวน้อยขยับตัวบนพื้นไปมา
นัยน์ตาสีน้ำตาลมองกราดไปทั่ว พบเพียงแต่ความมืดสนิท ความไม่ไว้วางใจในสถานที่ทำให้เธอ
ผู้นี้ควานหาไม้กายสิทธ์แล้วพึมพำคาถา

“ลูมอส”

แสงไฟนวลอ่อนปรากฏขึ้นทันใด สาดส่องลงบนพื้นที่ทำจากไม้เนื้อดี แต่ไม่ได้ทำให้เธอเห็นสภาพรอบๆ
ของที่แห่งนี้เลย เฮอร์ไมโอนี่เดินไปมาอย่างใช้ความคิด มือหนึ่งพบว่าล็อกเกตของเธอยังคงสวมอยู่ที่คอ
 สาวน้อมกำมันไว้แน่น นึกไม่พอใจที่สองสาวพี่น้องฝาแฝดทำกับและมัลฟอย..

‘ใช่ แล้วมัลฟอยล่ะ..’ เธอนึกพลางเดินหน้าไปเรื่อยๆ อย่างไร้ทิศทาง และกุมสติของตนไม่ให้ฟุ้ง
ซ่านว่า เธอกำลังหลงทางอยู่ในความมืด..

ทันใด เธอแสงแวบวับไปมาตรงหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด
แสงสีเหลืองนวลตรงหน้ามันใหญ่ขึ้น และเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และ…

โป๊ก!!!

“โอ้ยย ใครบ้าเอาอะไรมาตั้งไว้ตรงนี้!!” เสียงแว่วชายหนุ่มร้องโอดครวญซะดังลั่น
 และคุ้นสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ “เจ็บชะมัด”

“มัลฟอย!!” สาวน้อยตะโกนด้วยความดีใจ แต่เธอสามารถมองเห็นได้เพียงที่ยื่นออกมาข้างหน้า
ของเขาเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่ทาบมือของเธอกับมัลฟอยไว้ เพื่อบ่งบอกว่าเธออยู่ตรงนี้ และทันใดนั้น!

ความมืดทั้งหลายมลายหายไปสิ้น แทรกขึ้นด้วยแสงสว่างจนทั้งสองแทบปรับสายตาไม่ทัน
 มือของทั้งคู่กุมกันไว้แน่น ขณะที่เพ่งหาว่าเกิดอะไรขึ้น

ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย ยืนอยู่กลางห้องทรงกลมขนาดย่อมเหนือพื้นไม้
 ภายในห้องตกแต่งด้วยสีที่ดูน่ารัก คล้ายบ้านทีทำจากขนมหวาน หากแต่ไม่ใช่

 สูงขึ้นไปเหนือศีรษะขึ้นไป เป็นโคมระย้า ไม่ใหญ่โตและงดงาม แต่สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้มองเห็นก็คือ
สิ่งที่ห้อยต่ำลงมาจากโคมไฟนั่น มีรูปร่างแปลกประหลาดและทำมาจากผลึกแก้วใส
 รอบๆมีประตูไม้หลายขนาด ทุกบานล้วนแล้วถูกล็อกนั้นยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว

วัยรุ่นทั้งสองหันมาสบตากันชั่วขณะหนึ่ง

“เอ้อ..เราจะทำยังไงกันต่อล่ะ” มัลฟอยเอ่ย แต่สายตาของเฮอร์ไมโอนี่มองตรงไปยังประตูที่ไร้การลงกลอนใดๆ..

สาวน้อยก้าวเท้าตรงไปยังประตูบานนั้นก่อนที่จะสัมผัสกับมัน แสงรอบข้างกลับสลัวลง
 ไม่มืดมิด เนื่องด้วยสิ่งที่ห้อยต่ำลงมาจากโคมระย้า ส่องแสงเจิดจรัสไปทางประตูเบื้องหน้าของทั้งสอง
 ที่ปรากฏคำจารึกขึ้นมา.. มันค่อยๆแง้มออก ก่อนที่เกิดแรงดึงดูดจากประตูบานนั้น..


การเวลายิ่งเนิ่นนาน อดีตกาลเริ่มลางเลือน

ใจเรานี้แชเชือน เยือนอดีตเปลี่ยนแปลงกาล

มนุษย์เราหาย้อนได้ด้วยเวลาที่หมุนผ่าน

จะแก้หาได้การยุ่งยากล้นเหนือกำลัง

ชะตาฟ้าลิขิต ให้รู้คิดสิ่งสำคัญ

อนาคตของคู่กันกำหนดได้โดยตัวเรา


. . . 

ลูกบอลกลมๆลูกหนึ่ง ลอยขึ้นกลางอากาศแล้วล่วงลงสู่มือของเด็กหญิงตัวน้อย
ดวงตาสีตาลจับจ้องไปยังแขกผู้มาเยือนที่กำลังพูดคุยกับพ่อแม่ของเธออยู่กลางสวน

 เขาเป็นเด็กชายที่อายุมากกว่าเธอราวสิบปีได้ หันมามองเธอแวบหนึ่งแล้วหันกลับไป
เด็กหญิงยังคงเล่นลูกบอลต่อไปในขณะที่รอให้ใครสักคนมาเล่นกับเธอ ด้วยความไม่พอใจนั้น

 ทำให้ลูกบอลลอยสูงขึ้นกว่าเดิมและไม่ได้ล่วงลงสู่มือของเด็กหญิงอย่างเคย แต่กลับตกลงบนพื้น
หญ้าก่อนที่จะกระเด้งขึ้นอีกครั้งไปยังพุ่มไม้ที่ขึ้นกั้นแบ่งเขตแดนระหว่างบ้านสองหลัง

 เด็กน้อยวิ่งตามลูกบอลที่กระเด้งxxxนไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจเสียงเรียกของเด็กชายผู้เป็นลูกพี่
ลูกน้องของเธอ เธอมุดเข้าไปในพุ่มไม้รกๆนั่น เนื่องด้วยความตัวเล็กเธอ สายตามองหาลูกบอลของเธอ
 พลันโสตประสาทก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างหน้า เสียงของเด็กชายกับ..ดูเหมือนจะเป็นพี่เลี้ยงหรือคนใช้

“กลับเข้าบ้านเถอะครับ นายน้อย” เสียงนั้นเจือด้วยความกังวล “เดี๋ยวคุณป้าจะตามหานะครับนายน้อย”

“เขาไม่ทำอย่างนั้นหรอกน่า” เด็กชายตอบอย่างหงุดหงิด “เขาไม่สนใจฉันสักนิด”

ทันใดลูกบอลก็กระเด้งขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ตกลงบนหัวของเด็กชาย ทำให้เขาร้อง

“โอ้ย! นั่นใครน่ะ” ตามด้วยเสียงขยับตัวในพุ่มไม้ของเด็กหญิงทำให้เด็กชายเริ่มหวาดระแวง
ในขณะที่พี่เลี้ยงของเขา..ตากลมโตสีเขียวเบิกกว้าง หูที่เหมือนค้างคาวกระดิกฟังเสียง..

เอลฟ์ประจำบ้านรีบหาที่กำบังหลบซ่อนแต่ไม่ทัน ผมสีน้ำตาลหยิกฟูของเด็กหญิงเต็มไปด้วยเศษ
กิ่งไม้ใบหญ้า และดวงตาสีน้ำตาลของเธอโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ เธอมองไปทั่วๆ ความประหลาดใจเข้า
 มารุมล้อมทั้งสอง แม้กระทั่งเอลฟ์

“สวัสดี เอ่อ ฉันขอลูกบอลคืนได้มั๊ย” เด็กหญิงจ้องมองลูกบอลที่เด็กชายหยิบขึ้นมาเมื่อครู่

“เธอ เป็นใครน่ะ”เด็กชายถามมือลูบบริเวณศีรษะ แล้วขยับเข้าไปใกล้เด็กหญิงที่ซุกตัวอยู่ในพุ่มไม้
 ก่อนที่เขากำลังจะได้คำตอบ ดวงตาสีเทาซีดมองไปทั่วบริเวณนั้น แล้วมาสะดุดอยู่ที่ งูตัวหนึ่ง
 กำลังจ้องมองพวกเขา และดูเหมือนกำลังไตร่ตรองว่าจะจู่โจม..




TBC



No comments:

Post a Comment