Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Part I เมืองบนฟ้า: Chap 5


เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงที่โซฟาหน้าเตาผิงพร้อมกับแฮร์รี่และรอน ด้วยความเหนื่อย เธอเลื่อนมือมาที่คอเพื่อที่จะคลำหา ล็อกเกตอันที่เธอใส่ไว้ประจำ อันที่..ชายผู้หนึ่งได้มอบให้ก่อนที่เขาจะจากไปในที่อันไกลแสนไกล
 นับตั้งแต่นั้นเธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาอีก แต่เธอก็ใส่มันไว้ ล็อกเก็ต สัญลักษณ์หยินกับหยาง
 ทว่าตอนนี้มันไม่ได้อยู่บนคอของเธออย่างที่ควรจะเป็น ก่อนที่การพูดคุยของรอนและแฮร์รี่จะเริ่มขึ้น
 เธอก็วิ่งถลาไปยังหอนอนของเธออย่างรวดเร็ว ประตูหอเปิดออก

“ไง เฮอร์ไมโอนี่” ลาเวนเดอร์ทัก แต่เธอไม่ได้ทักตอบ แต่รื้อค้นกระเป๋าของเธอที่มีคนขนขึ้นมา
ให้แล้วอย่างเร่งรีบไม่เว้นแม้แต่เตียงนอนที่เธอยังไม่ได้ล้มตัวลงนอนเลยแม้แต่น้อย ก็วันนี้เป็นวันแรกที่มาถึงฮอกวอตส์นี่

“หาอะไรหรอ เฮอร์ไมโอนี่” ปาราวตีถาม แต่คำตอบที่เธอได้รับจากเฮอร์ไมโอนี่ก็คือ

“ไม่มี ไม่มี นี่ก็ไม่มี ฉันเอาไปไว้ไหนนะ” 

“หาครุกแชงค์หรอ ฉันยังไม่เห็นมันเลยนะ” ทันใดเธอก็หยุดการกระทำทุกอย่าง 
ยกเว้นความคิดและลมหายใจ เธอคว้ากระดาษกับปากกา จากนั้นเธอก็วิ่งออกจากหอกริฟฟินดอร์ 
ไม่สนใจแฮร์รี่หรือรอนที่เรียกเธอ และปล่อยความงงงวยไว้ข้างหลัง


เฮอร์ไมโอนี่วิ่งอย่างรีบร้อน มองหาใครคนหนึ่งซึ่งเธอเดาไม่ถูกเลยว่าเวลานี้เขาจะไปอยู่ที่ไหน 
เขาอาจจะกลับหอไปแล้ว เธอคิดว่าถ้าเธอหาเขาไม่เจอ ….

“เมี้ยว!” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เธอตื่นออกจากความคิด และพบว่า เธอวิ่งผ่าน เขาคนนั้นมาแล้ว
 และที่เธอแปลกใจคือ เขาถือกรงที่ใส่ครุกแชงค์มาด้วย แต่กว่าที่เธอจะหยุด เธอก็วิ่งทะลุผ่าน นิก
 ผีหัวเกือบขาดไปแล้ว

“ขอโทษค่ะนิก หนูกำลังรีบ” แล้วเธอก็กลับมาประจันหน้ากับเขา..มัลฟอย

“ไง ยัยขี้ลืม” เขาพูดพลางยื่นกรงที่ใส่ครุกแชงค์ให้เธอ “ใครจะไปคิดว่าเธอจะเอาสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์เลี้ยงเช่น แมว ใส่ไว้ในกระจกใบหนึ่ง”

เขาชูกระจกบานเล็กให้เธอดู กระจกบานที่ใส่สัมภาระของเธอมาจากบ้าน ใช่ มันเป็นความช่วยเหลือจากมัลฟอย และอีกครั้งหนึ่งที่เขารับปากเธอจะจัดการข้าวของของเธอให้ตอนที่อยู่บนรถไฟด่วนฮอกวอตส์ 

“ก็..ลืม นั่นแหละ ขอบใจ” เธอตอบ ออกจะอายนิดๆ “แต่นายก็ไม่ได้เตือนฉันนี่ตอนที่เอาของไปใส่ไว้ในนั้นน่ะ”

“ฉันไม่ใช่พนักงานขนของนะ เกรนเจอร์ที่จะมา เช็คของให้เธอน่ะ”

“เออๆ ว่าแต่นายแน่ใจนะว่าเอาของของฉันออกมาหมดแล้วน่ะ”

“แน่สิ ฉันเพิ่งจะตรวจดูเอง ไม่งั้นฉันก็ไม่เอา เจ้าแมวขนฟูมาคืนเธอหรอก” เขาตอบ 

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอ..ต้องทำอะไรหายแหงๆเลย”

“พูดเหมือนนายเอาไปอย่างนั้นแหละ” เธอจ้องเขาเขม็ง

“แสดงว่าฉันถูก”

“แล้วนายเอามันไปใช่มั้ย” เธอถาม น้ำเสียงเจือความรีบร้อน

“ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าฉันเอาไป” เขาตอบเสียงยานคางกวนอารมณ์ “และอีกอย่างฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอทำอะไรหายน่ะ”

“สร้อยล็อกเกตน่ะ นายเห็นมันบ้างมั้ย” เธอพูดเสียงอ่อยอย่างหมดหวัง แล้วถอนหายใจเมื่อเห็นเขาส่ายหน้า

“ลืมไว้ที่บ้านรึป่าว ยัยบ๊อง” เขาถาม

“อาจเป็นไปได้” เธอกล่าวแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษจากนั้นก็ปล่อยครุกแชงค์ออกมาจากกรง มันปิดขี้เกียจ แล้วครางน้อยๆเมื่อนายหญิงของมันลูบหัว แล้วผูกกระดาษนั้นไว้กับปลอกคอ 

“เอาไปให้แฮร์รี่ นะครุกแชงค์” เธอกล่าว มันร้องครั้งหนึ่งก่อนจะเดินไปที่หอกริฟฟินดอร์

“เฮอะ ส่งสารให้ พอตเตอร์” มัลฟอยเอ่ย “เธอจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะเข้าไปในหอได้โดยไม่มีคนช่วย”

“ไม่รู้สิ แต่แฮร์รี่บอกว่า เคยเห็นมันอยู่ที่สนามตอนดึกๆน่ะ มันคงหาทางของมันได้แหละ” 
เธอกล่าวก่อนจะย่อส่วนกรงของครุกแชงค์ด้วยไม้กายสิทธิ์ แล้วเก็บใส่กระเป๋า“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนล่ะขอบใจนายมาก”

“อืม แล้วนั่นเธอจะไปไหนน่ะ” เขาถามเมื่อเห็นเธอเดินไปคนละทางกับครุกแชงค์ 

“ส่งจดหมายน่ะ” เธอตอบแล้วโบกมือให้เขา 

. . . . . . . . .  . . . . .  

เฮอร์ไมโอนี่ยังคงเรียนหนักเหมือนเดิม เธอแวะเข้าห้องสมุดแทบทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่แฮร์รี่และรอนไปซ้อมควิชดิช แน่ล่ะเมื่อโอลิเวอร์ วู้ด จบไป ตำแหน่ง กัปตันทีมควิชดิชของบ้านกริฟฟินดอร์ก็ตกเป็นของ แองเจลินา จอห์นสัน แต่เธอก็เป็นได้แค่ปีเดียว เพราะเธอได้จบการศึกษาจากฮอกวอตส์ไปแล้ว
 ดังนั้นตำแหน่งนี้จึงตกเป็นของ แฮร์รี่ ซึ่งเล่นในตำแหน่ง ซีกเกอร์ ส่วนรอนก็เล่นในตำแหน่งคีปเปอร์
 และพวกเขายังได้ จินนี่ น้องสาวของรอน มาเล่นในตำแหน่ง เชสเซอร์อีกด้วย

หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่ได้จัดเวลาในการเรียนของเธอให้เข้าที่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในฮอกวอตส์ และทำหน้าที่ พรีเฟ็ค อย่างดีที่สุด 

ทางด้านมัลฟอย กัปตันทีมควิชดิชบ้านสลิธีริน หลังจากเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเสร็จเขาก็เดินตรงไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อรับประทานอาหาร หลังจากที่ไล่ให้แครบและกอยล์เอากระเป๋าไปเก็บที่หอ 
เขาเดินผ่านทางเดินที่ไม่ค่อยจะมีคนผ่าน และกำลังจะเดินเลี้ยวตรงหัวมุม 

โครม! เสียง ของที่มีน้ำหนักตกลงบนพื้นจากทางด้านหลัง เขาจึงหันไปดู ปรากฏว่าเป็น

เฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่บนพื้นหินเย็นๆ รอบๆตัวมีหนังสือตกอยู่หลายเล่ม และอุปกรณ์เครื่องเขียนของเธอ

“ซุ่มซ่ามอีกแล้ว ยัยเลือดสีโคลน เกรนเจอร์” มัลฟอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ให้ช่วยมั๊ย”

“ไม่ ไม่ต้อง ขอบใจ นายจะไปไหนก็ไปเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเธอรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้านิดๆ 
ดูเหมือนความเจ็บจะทวีคูณขึ้นกว่าตอนก่อนเปิดเทอม แล้วเธอก็เริ่มเก็บของใส่กระเป๋า

“ก็ตามใจเธอ”แล้วเขาก็จากไป

เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืนอย่างยากเย็น และก็ต้องลงไปนั่งกับพื้นอีก เธอเจ็บจนน้ำตาคลอ

“โอ๊ย อะไรจะโชคร้ายขนาดนี้ ดันมาเจ็บที่เดิมอีก คลานไปดีกว่ามั้ง” เธอคลานไปได้นิดเดียวก็หยุดเพราะ
เธอรู้สึกเจ็บที่หัวเข่า เธอเลยพยายามลุกขึ้นและเดินกระโผกกระเผกต่อไป
 เมื่อเธอเดินผ่านมุมทางเดินก็ต้องตกใจที่มีใครมาประครองเธอไว้

“เฮ้ย..นี่นายมายืนทำอะไรตรงนี้ “เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจ

“ก็ยืนดูยัยเลือดสีโคลนซุ่มซ่ามน่ะสิ” มัลฟอยตอบแล้วพาเธอไปที่ห้องพยาบาล “เธอนี่ชอบทำอะไรปัญญาอ่อน”

“นี่นาย ถ้านายหมายถึงตอนที่ฉันคลานล่ะก็ ฉันทำเพราะ จะได้บรรเทาอาการเจ็บ แล้วอย่ามาหาว่าฉัน
เป็นพวกปัญญาอ่อน” มัลฟอยเบ้หน้า เพราะต้องฟังเธอบ่นซะยาว

“แล้วเธอ หาล็อกเกตเจอรึยัง” เขาเปลี่ยนเรื่อง

“ยังเลย ฉันส่งจดหมายไปหา พ่อกับแม่ให้ช่วยหาแล้วแต่ยังไม่ได้รับจดหมายตอบกลับมา”

“อ้อ เธอคงใช้นกฮูกของโรงเรียนล่ะสิ มันก็เลยส่งช้าไปหน่อย”

“ใครว่าล่ะฉันยืมเฮ็ดวิก นกฮูกของแฮร์รี่น่ะ แล้วอีกอย่าง พ่อแม่ฉันคงมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ
เดินทางกลับจากต่างประเทศน่ะ พวกเขาเป็นอย่างนี้บ่อยๆ”

“ฉันว่าเธอกลัวว่าฉันจะกล่าวหาว่าเจ้านกฮูกของพอตเตอร์จะทำงานอืดอาดยืดยาดมากกว่า”
 และนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่ตอบอะไร เนื่องจากเธอก็รอจดหมายจาก
พ่อแม่อย่างกระวนกระวายใจ และในบางครั้งเธอก็อดคิดอย่างนั้นไม่ได้เหมือนกัน
 แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าจะเลือกใช้ พิก ของรอน คือเธอมั่นใจในตัวเฮ็ดวิกมากกว่าพิก
 เผลอๆ เจ้าพิกนี่แหละจะทำให้พ่อแม่เธอหัวใจวายขณะผูกจดหมายตอบกลับมา

เมื่อมาถึงห้องพยาบาล มาดามพอมฟรีย์ก็จัดการทายาให้เธอ เธอยืนยันที่จะให้เฮอร์ไมโอนี่
นอนพักที่ห้องพยาบาล แต่เฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธ โดยอ้างว่า เธอมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ
 และเธอก็รีบลากมัลฟอย ออกมา

“มีงานต้องทำเยอะงั้นหรอ” มัลฟอยพูดขึ้น “ข้ออ้างมากกว่า”

“เงียบเถอะน่า ฉันไม่อยากนอนที่ห้องพยาบาล หรือนายอยากอยู่ก็ตามสบาย”

ทั้งสองมาถึงห้องโถงใหญ่ มัลฟอยพาเฮอร์ไมโอนี่ไปส่งที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
 ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่หลายๆคน 

“เฮอร์ไมโอนี่ เกิดอะไรขึ้น” แฮร์รี่ถาม

“นายน่าจะดูแลเพื่อนนายให้มากกว่านี้นะ พอตเตอร์ วีสลีย์”

“แค่ขาแพลงน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แล้วจึงหันไปขอบใจมัลฟอย

“ขาแพลง อะไร เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเธอก็ขาแพลง แล้วก็มาเป็นอีกอย่างงั้นหรอ” รอนถาม

“อะไรนะ นี่เธอล้มอีกครั้งก่อนหน้านี้อีกหรือ” มัลฟอยถาม

“อืม ถ้านับตอนก่อนเปิดเทอม ทั้งหมดก็สามครั้งได้”

“แต่..”

“อ๊ะ เดรโกมาอยู่นี่เอง” เสียงแจ๋นๆของแพนซี่ พาร์กินสัน ก็ดังขึ้น “ไงยัยเลือดสีโคลน ขาพิการอย่างงั้นหรือ ช่างน่าสมเพศอะไรเช่นนี้” 

“ถ้าฉันพิการ เธอคงจะเป็นอัมพาต เพราะสมองคิดเป็นแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบโต้
 “แล้วอีกอย่าง เราไม่รับสายซ้อนน่ะ พาร์กินสัน อ้อ เธอคงจะไม่เข้าใจล่ะสินะ
 ในเมื่อเธอเคร่งเรื่องสายเลือดอะไรของเธอนั่นน่ะ มันก็ทำให้เธอไม่รู้เรื่องอะไรมากไปกว่าที่เธอรู้อยู่อย่างนี้”

พาร์กินสัน อยากจะกรีดร้องให้ขาดใจ แต่มัลฟอยดึงเธอออกไป ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม..

“แล้ว ขาเธอเป็นไงบ้าง” แฮร์รี่ถาม

“ก็ดีขึ้นแล้ว” แล้วเธอก็ตักอาหารใส่จาน

“แล้วมัลฟอย..”

“เขาไปเจอฉัน ตอนล้มพอดีน่ะ”

“ดูท่าทาง เขาค่อนข้างเป็นห่วงเธอนะ”

“เฮอะ นายนั่นน่ะนะ จะมาเป็นห่วงฉัน ไม่มีทาง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยความรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า 

“วีสลีย์ พอตเตอร์” เสียงศาสตราจารย์มักกอนนากัลดังมาจากที่โต๊ะอาจารย์ “ฉันขอพบ เธอและลูกทีมควิชดิช บ้านกริฟฟินดอร์ทุกคน ภายใน ห้า นาที”

แฮร์รี่และรอนรีบจัดการอาหารตรงหน้า แล้วจากไป เฮอร์ไมโอนี่จึงเดินกับหอเพียงลำพัง
 ไม่ลำพังซะทีเดียว เมื่อมัลฟอยเข้ามาหาเธอ แล้วยื่นมือให้เธอ

“ไปส่งมั๊ย” 

ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยื่นมือไปจับมือมัลฟอยโดยไม่ลังเล

ทั้งสองเดินมาใกล้หอกริฟฟินดอร์

“นายส่งฉันตรงนี้แหละ” เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วหันหน้าไปหาเขา “ขอบใจมาก”

“อืมม จะเดินก็ระวังด้วยล่ะ ยัยซุ่มซ่าม”

“นายไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก”

“ฉันไม่ได้ห่วงเธอซักหน่อย” มัลฟอยพูดแล้วก้มหน้าลงมาหาเธอใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
 แค่จะแกล้งเธอเท่านั้นเหลืออีกแค่นิ้วเดียวเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นแรง เธอทำอะไรไม่ถูกในหัว
ของเธอกำลังคิดที่จะทำอะไรซักอย่าง เธอยื่นมือไปที่หน้าของเขาแทนที่จะดันออกแต่กลับบีบจมูกของเขา 

“ทำอะไรของเธอ ปล่อยนะ ฉันหายใจไม่ออก” เขาทำเสียงอู้อี้ เธอปล่อยเขา แต่เขาก็ยังไม่ถอยออกห่าง
 เธอจึงบีบแก้มของเขา เหมือนที่ผู้ใหญ่ชอบทำกับเด็กหน้าตาน่ารัก แทน

“เอาแก้มนุ่มๆของนายออกไปห่างๆฉันเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยใบหน้าที่มีสีเข้ม
 มัลฟอยจับมือข้างหนึ่งของเฮอร์ไมโอนี่ไว้

“ไม่ล่ะ เธอบอกว่านุ่มนี่ ทำไมไม่ลองหอมดูบ้างล่ะ”เขาพูด ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงยิ่งขึ้น
 ไม่ต่างจากเขาที่เขากล้าพูดออกมา 

“ฉันไม่ได้บอกว่ามันน่าหอมซักหน่อย เพ้อเจ้อ” เธอพูด เขาก้มลงมาอีกนิดเพื่อจะแกล้งเธอเล่น
 แต่เฮอร์ไมโอนี่ชักไม้กายสิทธิ์ชี้มาที่เขาแล้วโบกไปมา

“ฉันแกล้งเธอเล่นหรอกน่า” เขาบอก

“ไม่ต้องบอกก็รู้ ขอบใจที่มาส่ง” เธอโบกมือลาเขา แล้วจากมา


. . . . . . . . . . . 

“เฮอร์ไมโอนี่ ทำไมไม่รอเราล่ะ แล้วเธอมาได้ยัง เจ็บขาไม่ใช่หรอ” รอนถาม

“คงไม่ใช่มัลฟอยหรอกนะที่พาเธอมาส่งน่ะ” แเฮร์รี่ถาม

“รู้ได้ไง”

“เป็นอย่างที่คิดจริงด้วย”

“คือเขาเดินผ่านเราไป ตอนเราเดินมาเกือบถึงน่ะ”

“เฮอร์ไมโอนี่ มันชักจะยังไงๆอยู่นา”

“อะไรคือยังไงๆ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“เราสงสัยว่ามันมีแผนอะไร ที่มาทำดีกับเธอน่ะ” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด

“หรือว่าเธอหลงรักหมอนั่นเข้าแล้ว” รอนกล่าวสีหน้าบ่งบอกความกังวลและไม่พอใจ

“จะบ้าเหรอรอน ทำไมฉันต้องไปหลงรักเขาด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างตกใจ “และฉันก็ไม่โง่พอที่จะ
ไม่นึกว่าทำไมเขาถึงมาทำดีกับฉันหรอกนะ เอาน่าอย่ากังวลไปเลย ฉันดูแลตัวเอง และเอาตัวรอดได้”

แต่กระนั้น แฮร์รี่และรอน ยังคงวิตกห่วงความปลอดภัยของเพื่อนสาวของเขา


. . . . . . . . .


ขณะที่ แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ กำลังจะไปห้องโถง สิ่งที่สาวน้อยรอคอยก็มาถึง 
เมื่อเฮ็ดวิกล่อนลงบนแขนของแฮร์รี่ รอให้เฮอร์ไมโอนี่แกะจดหมายและถุงผ้ากำมะหยี่สีแดงเล็กๆ
ออกจากขาของมัน เธอลูบขนของมันด้วยความดีใจ ก่อนที่มันจะบินจากไป
เธอรีบเปิดถุงผ้านั้นออก แล้วเธอก็พบมัน ล็อกเกตที่เธอเฝ้ารอ และจะไม่รอช้าอีกต่อไปเธอสวม
มันทันทีโดยซ่อนมันไว้ในเสื้อ แล้วแกะจดหมายออกอ่านโดยไม่ฟังเสียงค้านของรอนที่ว่า

“เธอจะมายืนอ่านอะไรตรงนี้ เฮอร์ไมโอนี่” แต่พวกเขาก็รอเธออ่านมันจนจบ

“เฮ้อ แม่เจอล็อกเกตของฉันในห้องน้ำน่ะ ไปกันเถอะ” เธอพูดขณะที่เธอกำลังเก็บจดหมาย 
แต่ก็ยังมีคนเดินมาชนเธอ จนเธอต้องก้าวไปสองสามก้าวแล้วหันมามองคนที่ชนเธอ

“ขอโทษ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงประชด

“ทำไมเธอต้องขอโทษฉันด้วยล่ะ”

“ก็ที่ฉันมายืนขวางทางนายไง อะไรกันที่ออกจะกว้างเดินยังไงมาชนคนอื่นน่ะ”

“ฉันพอใจน่ะ”มัลฟอยตอบแบบกวนๆ “ว่าแต่คิดยังไงถึงมายืนเป็นถังขยะหน้าห้องโถงอย่างนี้ล่ะ”

เมื่อเขากล่าวจบเสียงหัวเราะของลูกสมุนทั้งสองก็ดังขึ้น พวกเขาเดินไปหัวเราะไปแล้วหายเข้าไปในห้องโถง

“แก” เสียงรอนดังขึ้นที่ด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่ และรู้สึกได้ว่าเขาต้องพุ่งตัวผ่านเธอไปเป็นแน่

“นี่นายว่างมากหรือไง ถึงได้มาหาเห็บใส่ตัวอยู่อย่างนี้น่ะ” เธอพูดพร้อมกับฉุดรั้งรอนไว้ไม่ให้พลุ่งเข้าใส่ 
โดยมีแฮร์รี่ช่วยฉุดด้วยอีกคน

“นี่เธอหาว่าฉันเป็นหมาอย่างนั้นหรือ ยัยเลือดสีโคลน” 

“นั่นนายพูดเองต่างหาก”

การทะเลาะวิวาทนี้คงจะไม่จบง่ายๆถ้าไม่ได้เสียงของศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่ดังไปทั่วบริเวณ

‘พรีเฟ็คที่ได้รับเลือกให้ไปทัศนศึกษานอกสถานที่ กรุณามาพร้อมกันที่ห้องพักครู’


“แล้วเจอกัน” เฮอร์ไมโอนี่บอกแฮร์รี่ และรอน แล้วออกเดินโดยมีมัลฟอยตามไปด้วย 
แต่แล้วเมื่อกำลังจะถึงบันได มัลฟอยก็มากอดคอเธอไว้ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก

“เฮ้ย!!” แล้วจับเขาทุ่มลงกับพื้น โชคดีที่แถวนั้นมีแค่แฮร์รี่ และรอนที่จับตาดูมัลฟอยอยู่นั้น
 จ้องมองตาค้างมาที่เฮอร์ไมโอนี่ 

“ฉ..ฉันรู้แล้วว่าเธอเอาตัวรอดได้” รอนกระซิบแฮรรี่ ด้วยอาการอึ้งไม่ต่างกัน

“โอ๊ย เธอทำอะไรของเธอน่ะ ฉันเจ็บนะ โอยยย” มัลฟอยร้อง โอดครวญ

เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เธอเลยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

“เอ้อ ฉันขอโทษ”

เฮอร์ไมโอนี่ว่าแล้วยื่นมือให้เขาจับแล้วฉุดให้เขายืนขึ้น แต่มัลฟอยไม่ยอมเจ็บตัวฟรี 
เขาดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปจูบเธอโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อึ้งทำอะไรไม่ถูก 
เช่นเดียวกับ แฮร์รี่และรอน ที่ตัวแข็งไปทั้งตัว ด้วยความที่คาดไม่ถึง

“นายทำอะไรของนาย” เฮอร์ไมโอนี่พูดหลังจากที่ผลักเขาออก แต่เขายังไม่ยอมปล่อยมือเธอ
 เธอทั้งโกรธทั้งอาย ยิ่งเมื่อเห็นแฮร์รี่และรอนยืนตัวแข็ง ทำให้เธอแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
 “ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ” แต่มัลฟอยก็ยังไม่ปล่อย เขาหันไปยิ้มให้แฮร์รี่และรอนแบบเย้ยๆ
 เฮอร์ไมโอนี่ฉุดเขาเดินเพื่อไปห้องพักครู ปล่อยให้แฮร์รี่และรอนยืนอยู่ตรงนั้น 

ระหว่างทางไปห้องพักครูเฮอร์ไมโอนี่ไม่พูดอะไรกลับมัลฟอยเลย จนกระทั่งเขาดึงเธอให้เลี้ยวที่ทางแยก

“นั่นนายจะไปไหน” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างหงุดหงิด

“ทางลัดน่ะ” มัลฟอยตอบ

“นายจะปล่อยมือฉันได้รึยัง” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“ทำไมฉันต้องปล่อย ในเมื่อฉันพอใจ” 

“แต่ฉันไม่พอใจด้วยนี่” ใช่ว่าคำพูดของเธอจะทำให้เขาปล่อยมือหากแต่ทั้งสองได้มาถึงห้องพักครูแล้ว

“เธอสายนะ มิสเกรนเจอร์ มิสเตอร์มัลฟอย” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยขึ้น

“ขอโทษค่ะ/ครับ”

“ยังไงก็แล้วแต่ความชักช้าของเธอทั้งสอง ทำให้เสียเวลาในการจับคู่ ที่ที่พวกเธอจะไปก็คือ
 เมืองบนฟ้า และเมืองใต้บาดาล ฉันก็เลยให้ อันโทนี่ โกลด์สตีน จากบ้านเรเวนคลอ และฮันนาห์
 อับบอตต์จากบ้านฮัพเฟิลพัฟ ไปเมืองใต้บาดาลด้วยกัน ดังนั้นเธอทั้งสองก็ได้ไปเมืองบนฟ้า 
ออกเดินวันพรุ่งนี้หลังอาหารเย็นเจอกันที่หน้าปราสาท อ้อ หลังจากวันที่เธอกลับมา
 ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า ‘เกมกลผู้วิเศษ’ให้นักเรียนทุกคนร่วมสนุก
 รับรองว่าพวกเธอไม่พลาดกันหรอก ระหว่างที่พวกเธอไม่อยู่ พรีเฟ็คที่เหลือจะช่วยกันเตรียมงาน
 อาจจะมีงานอีกเล็กน้อยที่จะให้เธอทำ แล้วไว้ค่อยแจ้งอีกที หลังจากที่เธอกลับมา เที่ยวให้สนุกนะ สวัสดี”

. . . . . . . . . . 

“เฮอะ นี่หรือทางลัดของนาย” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมัลฟอยหลังจากที่ออกมาจากห้องพักครูและเดินไปห้องโถง
ใหญ่เพื่อทานอาหารกลาง “สายไม่เป็นท่า แล้วโชคร้ายไปกว่านั้น เราได้ไปด้วยกัน แย่มาก”

“เงียบเถอะน่า ยัยขี้บ่น”

“ก็เพราะใครล่ะ นี่ฉันยังไม่หายโกรธนะ” เฮอร์ไมโอนี่หมายถึงเหตุการณ์ก่อนไปห้องพักครู

“ฮ่าๆ ก็ได้ฉันขอโทษ อะนี่” มัลฟอยพูดแล้วยื่นดอกไม้สีขาวให้เธอ
 ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาไปเอามาจากไหน แต่มันก็ทำให้เธอหายโกรธ เธอรับไว้แล้วเดินไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ 
และนั่งลงตรงข้ามรอนและแฮร์รี่ที่มองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ

“ไง” แฮร์รี่และรอนทักแบบเกรงๆ

“ฉันต้องออกเดินทางพรุ่งนี้หลังอาหารเย็น ไปเมืองบนฟ้า” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ไม่เลวนี่ ได้ไปกับใครล่ะ” 

“เอ่อ..” เฮอร์ไมโอนี่ลังเลที่จะตอบ “มัลฟอย”

“อะไรนะ!” ทุกคนรอบข้างหันมามองพวกเขาทั้งสามก่อนจะหันไปทำกิจกรรมของตนต่อ

“ฉันได้ยินผิดไปรึป่าว”

“นายได้ยินถูกแล้ว ฉันได้ไปกับมัลฟอย”

“แต่เพราะอะไร เธอคงไม่ได้จับฉลากได้เองหรอกนะ”

“ไม่อะ ยังไม่ได้จับ ฉันไปสายน่ะ มักกอนนากัลเลยจัดให้เรียบร้อย”

“เดี๋ยวนี้นี่ฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับมัลฟอยบ่อยมาก” รอนบ่น

“ช่าย” แฮร์รี่สนับสนุน “เรื่องที่ฉันแปลกใจ เธอทุ่มเจ้านั่นได้ยังไง”

“เอ่อ ก็แค่ตกใจน่ะ”

“ตกใจหรอ เฮอร์ไมโอนี่ เธอนี่ร้ายกว่าที่ฉันคิดแฮะ”

“แต่ฉันก็เอาตัวรอดได้ไม่ใช่หรอ” เฮอร์ไมโอนี่เถียง

“ช่าย แต่ก็ไม่มากพอ หลังจากนั้น” แฮร์รี่พูด และทำให้เฮอร์ไมโอนี่ร้อนที่ใบหน้า

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ

“เอ่อ แล้วเธอไปเอาดอกไม้มาจากไหนน่ะเฮอร์ไมโอนี่” รอนทำลายความเงียบ

“ทายสิ” เธอเริ่มไม่อยากจะบอกคำตอบ 

TBC

No comments:

Post a Comment