Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 9: การพบกันของเพื่อนรักและแผนการของมัลฟอย

หลังจากที่มัลฟอยออกไปทำงานแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่าเธอสมควรจะหาอะไรทำก่อนที่เธอจะเบื่อตายเสียก่อนระหว่างที่อยู่ที่นี่  เพราะว่าตั้งแต่ที่เธอเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยนั้น  เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งและนอนเท่านั้น!

เฮอร์ไมโอนี่เลยวานให้เอล์ฟประจำบ้านตัวหนึ่งพาเธอไปส่งที่ห้องสมุดที่เธอเพิ่งมากับมัลฟอยเมื่อวาน  และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่จมอยู่กับกองหนังสือที่เธอต้องการอ่านได้ไม่นานนัก  ก็มีคนมาขัดจังหวะเสียก่อน

“มีแขกมาหานายหญิงครับ” เอล์ฟตัวหนึ่งพูด  มันปรากฏกายขึ้นตรงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่อย่างรวดเร็วจนหญิงสาวสะดุ้ง

“มาหาฉันเหรอ?” เธอพึมพำอย่างแปลกใจ

“ครับ  แขกทั้งสองเสั่งให้เรียนนายหญิงว่าเขาชื่อ  แฮร์รี่  พอตเตอร์  กับ  รอน วีสลีย์ ครับ” เมื่อเอล์ฟพูดเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็เบิกตากว้างอย่างดีใจ

“แฮร์รี่กับรอนมางั้นเหรอ!” เธออุทาน  เลิกสนใจเจ้าหนังสือตรงหน้าทันที “ช่วยพาฉันไปหาเขาหน่อยสิ”



*************************************************



ชายหนุ่มทั้งสองคนพากันนั่งรอเพื่อนรักของเขาอยู่ที่ห้องนั่งที่แสนกว้างขวางและโอ่อ่า  และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มทั้งสองได้มีโอกาสเข้ามาเหยียบคฤหาสน์มัลฟอย

“ห้องกว้างเป็นบ้าเลย” รอนพูดพลางเดินสำรวจรอบห้องนั่งเล่นที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา

“พวกมัลฟอยนี่นิยมอะไรเวอร์ ๆ เสมอ  เลยแฮะ” รอนพูดพลางเบ้ปากใส่รูปวาดสีน้ำมันของ  เดรโก  มัลฟอย  และพ่อแม่ของเขาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้องนั่งเล่น

“นายว่าไหมว่าทำไมเอล์ฟพวกนั้นถึงไปตามเฮอร์ไมโอนี่นานจัง” แฮร์รี่พูดอย่างสงสัย  เขากำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่พอ  ๆกับเตียงนอน

“นั่นสิ  สงสัยเจ้าซีดมัลฟอยอาจจะจับเฮอร์ไมโอนี่ขังไว้ที่หอคอยที่ไหนซักแห่งล่ะมั้ง  เธอจะได้ลงมาเจอใครไม่ได้” รอนบ่นอย่างหงุดหงิดที่ต้องเข้ามาเหยียบคฤหาสน์ตระกูลมัลฟอยทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยคิดจะเข้าใกล้มันเลยแม้แต่น้อย

“นายกำลังจะพูดว่ามัลฟอยจับเฮอร์ไมโอนี่ขังไว้ในหอคอยที่มีหน้าต่างบานเดียวเป็นทางออกแบบในนิทานน่ะเหรอ  แล้วทีนี้มัลฟอยจะขึ้นไปหาเธอยังไงล่ะ” แฮร์รี่เอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“ถ้าขังไว้ในหอคอยอย่างในนิทาน  ก็ต้องให้เฮอร์ไมโอนี่หย่อนผมลงมารับล่ะมั้ง  แต่ถ้าทำอย่างนั้นมัลฟอยคงต้องเดือดร้อนแน่ ๆ ” รอนพูดพลางเอามือกุมท้อง  และหัวเราะไม่หยุด

“ทำไมล่ะรอน” แฮร์รี่ถามอย่างสนอกสนใจ

“ก็เพราะว่าผมของเฮอร์ไมโอนี่อาจจะพันคอเจ้าหัวทองนั่นเสียก่อนมันจะปีนขึ้นไปถึงน่ะสิ” รอนพูดกลั้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“แต่นั่นคงเป็นข่าวดีของนายน่ะสิรอน” แฮร์รี่พูด  เขาหัวเราะตัวงอได้ไม่นาน  รอยยิ้มบนหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็จางหายไปเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ยืนหน้าง้ำหน้างออยู่ที่ทางเข้าห้องนั่งเล่น

“นายเจอปัญหาหนักแล้วสิรอน” แฮร์รี่กระซิบ  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ย่างสามขุมเข้ามาหาพวกเขา

“หวัดดี  เฮอร์ไมโอนี่  เราดีใจจังที่ได้เจอเธอ” รอนพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนหน้าหงิกอยู่

“สบายดีไหมเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ถามเมื่อหญิงสาวทิ้งตัวลงลงบนโซฟาด้วยท่าทีโกรธ ๆ

“ก็ดี  ถ้าเกิดไม่มีใครบางคนแถวนี้หาเรื่องตลกงี่เง่ามาเล่าเสียก่อนน่ะ” หญิงสาวพูดพลางค้อนรอน

“โถ่  เฮอร์ไมโอนี่  เราแค่ล้อเธอเล่นเท่านั้นเอง” รอนพูด

“นั่นสิ  เฮอร์ไมโอนี่  มัลฟอยไปไหนเสียล่ะ” แฮร์รี่ถามพลางมองไปรอบคฤหาสน์อย่างระแวดระวัง

“ไปทำงานน่ะ  วันนี้เขาจะกลับดึกหน่อย  พวกนายเลือกเวลามาได้ดีจริง ๆ” เฮอร์ไมโอนี่พูดยิ้ม ๆ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังส่งสายตาขุ่นมัวให้รอนเหมือนเดิม

“งั้นเหรอ  แล้วเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ  ฉันหมายถึงอาการของเธอน่ะ” แฮร์รี่ถามอย่างเป็นห่วง

“อาการเหรอ  เอ่อ  ก็เหมือนเดิมแหละ  แฮร์รี่  ฉันก็ยังจำเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเศร้า

“ไม่ได้ซักนิดเลยเหรอ  ฉันหมายความว่า  ซักนิดเดียวน่ะ  อย่างวันที่เธอได้จดหมายแต่งตั้งเป็นประธานนักเรียนน่ะ  ฉันเห็นว่าเธอออกจะดีใจกับมัน” รอนร่ายยาว  แต่เมื่อเขาเห็นสายตาห้ามปรามที่ถูกส่งมาจากแฮร์รี่  รอนก็ยอมเงียบโดยดี

“ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ฉันจำเรื่องที่พวกเธอพูดไม่ได้เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเศร้าสร้อย

“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย  นั่นไม่ใช่ความผิดของเธอเฮอร์ไมโอนี่  ถ้าจำไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ” แฮร์รี่ปลอบใจเธอ  ทำนองเดียวกับที่มัลฟอยเคยพูดกับเธอ

  “แล้ววันนี้พวกนายไม่ไปทำงานเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจที่เพื่อนรักของเธอทั้งสองมาหาเธอได้ในเวลาทำงานอย่างนี้

“หัวหน้าให้เราหยุดงานได้วันนึงน่ะ  ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดพลางทิ้งตัวลงบนโซฟาหนานุ่ม  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างงง ๆ

“ขอบคุณฉัน?” เธอพูดอย่างสงสัย

“คือว่าหัวหน้าของเราน่ะ  เขาให้เราหยุดงานเพื่อมาเยี่ยมเธอน่ะ” แฮร์รี่อธิบาย  “และเขาก็ฝากนี่มาให้ด้วย”  แฮร์รี่พูดพลางส่งซองจดหมายสีน้ำตาลที่มิสเตอร์แฮมเบิร์กฝากเขามาให้เฮอร์ไมโอนี่ให้เธอ  และเฮอร์ไมโอนี่ก็รับมันมาพร้อมกับฉีกมันออกอ่าน



ถึง  คุณ  เฮอร์ไมโอนี่  มัลฟอย

   

    ผมในฐานะหัวหน้ามือปราบมารขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณระหว่างที่คุณปฎิบัติหน้าที่ให้กับกระทรวงเวทย์มนตร์  ทางกระทรวงเวทย์มนตร์จึงอนุญาติให้คุณลางานเพื่อพักฟื้นร่างกายได้จนกว่าคุณจะหายเป็นปรกติ



ด้วยความปรารถนาดี

ริชาร์ด  แฮมเบิร์ก

หัวหน้ามือปราบมาร



“หัวหน้าที่พวกเธอพูดถึงก็คือคุณแฮมเบิร์กนี่ใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งเงยหน้าขึ้นจากจดหมายและมองไปยังเพื่อนของทั้งสองของเธอ

“ใช่  เขาเป็นหัวหน้ามือปราบมาร  เป็นหัวหน้าของพวกเรา  รวมทั้งเธอด้วยเฮอร์ไมโอนี่” รอนตอบเธอ

“เธอจำเขาได้ไหม” แฮร์รี่ถาม  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างจนใจ  นอกจากเรื่องที่ฮอกวอตส์ในตอนที่เธออยู่ปี 5 แล้ว  หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ

“งั้นก็ช่างมันเถอะเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดอย่างปลอบโยนและพยายามเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

“ปรกติแล้วเวลามัลฟอยไม่อยู่แล้วเธอทำอะไรล่ะ” แฮร์รี่ถาม

“เอ่อ  ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ฉันทำหรอก  แต่โชคดีที่เมื่อวานมัลฟอยพาฉันไปที่ห้องสมุดมา  มันน่าทึ่งมาก ๆ เลยล่ะ  ที่นั่นมีหนังสือที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมดเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างตื่นเต้นราวกับเด็ก ๆ

“หนังสือน่าสนใจงั้นเหรอ” รอนพูดพลางเบ้ปาก “น่าสนใจอย่างศาสตร์มืดเนี่ยนะ”

“ผิดแล้วล่ะรอน  ที่ห้องสมุดน่ะมีหนังสือดี ๆ เยอะทีเดียวเลย  ที่สำคัญมันไม่ใช่หนังสือเกี่ยวกับศาสตร์มืดด้วย  แต่มันเกี่ยวกับการป้องกันศาสตร์มืดต่างหาก” เฮอร์ไมโอนี่พูดในขณะที่รอนพึมพำอะไรออกมาอย่างหงุดหงิดแต่เฮอร์ไมโอนี่ฟังไม่ถนัด

“แปลกนะ  ที่บ้านหลังนี้จะมีหนังสือป้องกันตัวจากศาสตร์มืด” แฮร์รี่พูดอย่างมีเหตุผล “อย่างมัลฟอยไม่น่าจะอ่านหนังสือแบบนั้น”

“ความจริงหนังสือพวกนั้นเขาไม่ได้อ่านหรอก  แต่สั่งมาเพื่อฉันต่างหาก” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่ว

“เธอกำลังจะบอกว่าเจ้าซีดนั่นสั่งหนังสือป้องกันตัวจากศาสตร์มืดมาให้เธออ่านงั้นเหรอ” รอนพูด

“ใช่  ไม่เพียงเท่านั้นนะ  เขายังสร้างห้องสมุดให้ฉัน  เอ่อ  ฉันหมายความว่าเขาปรับปรุงห้องสมุดเก่าของพ่อเขาที่ใช้เก็บหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์มืดขึ้นใหม่  และสั่งหนังสือที่ฉันสนใจมาไว้แทนน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“อย่างนั้นเหรอ  งั้นก็แสดงว่าเจ้าหัวทองนั่นรักเธอมากเลยสินะ  เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมองเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อยที่เรียกมัลฟอยว่า ‘ เจ้าหัวทอง ’

“ก็คงอย่างนั้นมั้ง  เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขาก็ดีกับฉันมากเลยล่ะ  จนบางครั้งฉันยังคิดสงสัยเลยว่า  เขาใช่มัลฟอยจริง ๆ หรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“เขาจะดีกับเธอก็ไม่เห็นแปลกนี่เฮอร์ไมโอนี่  เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วนะ  อย่าลืมสิ” แฮร์รี่พูดอย่างอ่อนโยน

“นั่นสินะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดราวกับเพิ่งนึกออกว่าเธอกับมัลฟอยแต่งงานกันแล้ว “แต่ฉันก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดีนั่นแหละ  ฉันหมายถึงฉันรู้สึกว่าเขาไม่ใช่มัลฟอยที่ฉันรู้จักคนเดิมอีกต่อไปแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่ว

“นี่แล้วเธออยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง” แฮร์รี่ถาม  เขาพยายามจะเปลี่ยนเรื่องคุยไปให้ไกลจากเรื่องของมัลฟอยมากที่สุด  เพราะยิ่งเขาได้ยินเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร  ความทรงจำเก่า ๆ นั้นก็เข้ามารบกวนจิตใจของเขาอยู่ทุกครั้งไป

ใช่  แฮร์รี่ยังคงรู้สึกอย่างเดิมกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่  ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานไปกับมัลฟอยแล้วก็ตาม  แม้ว่าในใจของเธอจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาไปมากกว่าคำว่าเพื่อน

หรือแม้ว่าเธอจะไม่รักเขาเลยซักนิดเดียว!



“ก็ดีแหละ  แต่ฉันลำบากเวลาเดินไปไหนมาไหนในคฤหาสน์นิดหน่อยน่ะ  ฉันยังจำทางไม่ค่อยได้เลย  มันวกวนน่าดู” เฮอร์ไมโอนี่พูดและเล่าเรื่องที่เธอมักสับสนว่าห้องอาหารไปทางไหนหรือเรื่องที่หาทางกลับห้องไม่ถูกให้เพื่อนทั้งสองฟัง  แฮร์รี่ก็ฟังโดยดีหรอก  แต่รอนนี่สิที่ทำหน้าเหมือนจะอาเจียนทุกครั้งที่ได้ยินเฮอร์ไมโอนี่พูดชื่อมัลฟอย

“ให้ตายเถอะ  เฮอร์ไมโอนี่  เธออยู่ในบ้านหลังนี้ไปได้ยังไง  บรรยากาศอึมครึมจะตายไป” รอนพูดเสียงขึ้นจมูก  เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาอย่างสงสัย

“อึมครึมยังไงกัน  ฉันว่ามันก็  อยู่ได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ฉันขอไปอยู่ในอัซคาบันยังดีกว่าอยู่ที่นี่เลย” รอนพูดพลางทำท่าทีสยดสยองราวกับเห็นผู้คุมวิญญาณปรากฏกายขึ้นตรงหน้า

“งั้นเหรอ  รอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงประชด  “แล้วที่ไหนล่ะที่เธอคิดว่าหน้าอยู่เนี่ย”

“ก็บ้านฉันไง” รอนพูดโดยไม่ต้องคิด “ถึงจะเล็กไปซักหน่อย  แต่ก็ดีกว่าคฤหาสน์ผีสิงนี่” เขาว่า

“เธอน่าจะได้เห็นบ้านรอนตอนนี้นะ  เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูด

“ทำไมเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก  แค่เฟร็ดกับจอร์จเอาเงินที่ได้จากการขายของตลกของเขามาปรับปรุงบ้านให้เราใหม่น่ะ” รอนเล่า “แต่ฉันก็ยอมรับว่ามันเจ๋งจริง ๆ เธอน่าจะได้ไปบ้านฉันนะ  เฮอร์ไมโอนี่”

“งั้นก็ไปซิ” เฮอร์ไมโอนี่รับคำชวนอย่างนึกสนุก

“แล้วเธอจะไปได้เหรอ  แล้วถ้ามัลฟอยรู้ล่ะ” แฮร์รี่เตือน  เฮอร์ไมโอนี่นั้นทำสีหน้าลังเล

“เขาบอกว่าจะกลับมาเย็น ๆ ออกไปเดี๋ยวเดียวคงไม่เป็นไรมั้ง  ฉันก็อยากออกไปเจอคนอื่น ๆ ด้วยนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูด  ในขณะที่รอนนั้นทำหน้าเหลือเชื่อเมื่อเธอลากเพื่อนทั้งสองไปที่เตาผิง

“เฮ้  เฮอร์ไมโอนี่  ฉันนึกว่าเจ้าซีดมัลฟอยจะล่ามโซ่เธอไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนเสียอีก” รอนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ  เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ส่งกระถางผงฟลูให้เขา

“เธอก่อนเลยรอน”



*************************************************



“คุณมัลฟอยครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น  แซม  เลขาของมัลฟอยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับจดหมายในมือ “จากคุณราล์ฟเวลส์ครับ”

“แล้วเขาว่ายังไงบ้างล่ะ” มัลฟอยพูด  เขากำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพร้อมกับแฟ้มเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะ

“เอ่อ  คุณราล์ฟเวลส์ปฏิเสธในการเลื่อนนัดของคุณครับ  คุณมัลฟอย  คุณราล์ฟเวลส์บอกว่าเขาจะหันไปทำธุรกิจกับบริษัทอื่นที่มีประธานบริษัทรักษาเวลานัดกว่านี้ครับ” แซมพูด

“แล้วเขาจะเสียใจ” มัลฟอยพูดอย่างเย็นชา  และไม่ได้แยแสเรื่องที่เขาจะเสียลูกค้ารายใหญ่ไปเพราะการยกเลิกนัดสำคัญของเขาเลยแม้แต่น้อย

“แล้วนอกจากนี้มีข่าวอะไรอีกไหม” มัลฟอยพถามขณะกำลังอ่านแฟ้มเอกสารอยู่

“ไม่มีครับ  มีแค่ข่าวของคุณราล์ฟเวลส์เท่านั้นครับที่สำคัญ” แซมรายงาน

“แล้วตารางวันนี้ล่ะ” มัลฟอยถามถึงตารางการทำงานของเขาในวันนี้

“ตอนเที่ยงมีนัดทานข้าวกับคุณแม็กมันลินที่ร้านอาหาร  เอล  ฟา  เยล  ตอนบ่านสองโมงตรงมีประชุมกับแผนกประชาสัมพันธ์  และตอนบ่ายสามโมงตรงก็มีประชุมกับฝ่ายการตลาด” แซมรายงานตารางเวลาทำงานของมัลฟอยที่ดูจะไม่ค่อยเยอะมากนัก  หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาพยายามเร่งเคลียร์งานให้เสร็จเสียตั้งแต่หลายวันก่อน  เพื่อที่อาทิตย์หน้าเขาจะได้ไปพักร้อนกับเฮอร์ไมโอนี่

“งั้นวันนี้ฉันก็กลับเร็วได้สิ” เขาพูด  แววดีใจฉายอยู่ในดวงตาสีซีดของเขาแวบหนึ่ง

“ใช่ครับ  คุณจะได้กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง” แซมพูดเสริม

“งั้นฉันคงต้องรีบทำงานเสียแล้วล่ะ  เพราะว่าฉันต้องรีบกลับไปจัดกระเป๋า  และก็ต้องรีบกลับไปบอกเฮอร์ไมโอนี่ด้วย” มัลฟอยพึมพำพลางจินตนาการถึงการที่เขาจะได้ใช้วันหยุดทัง้สัปดาห์กับเฮอร์ไมโอนี่เพียงสองคน  มันคงวิเศษน่าดูทีเดียว

“คุณยังไม่ได้บอก  เอ่อ  คุณมัลฟอยเรื่องการเดินทางครั้งนี้หรือครับ” แซมถามอย่างแปลกใจ

“ยังเลย  แซม” มัลฟอนตอบ “ฉันกะว่าจะเซอร์ไพรส์เธอน่ะ  เพราะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่สามของเรา” มัลฟอยพูด

“งั้นจะให้ผมจองห้องอาหารไว้ให้ไหมครับ  เผื่อคุณกับเธออยากจะออกไปทานข้าวข้างนอก” แซมพูด

“ไม่ล่ะ  แซม  ฉันอยากดินเนอร์อยู่ที่บ้านมากกว่า  อีกอย่างเธอก็ยังไม่หายจากความจำเสื่อมด้วย  ฉันเลยไม่ค่อยอยากพาเธอออกไปตะลอน ๆ เท่าไหร่” มัลฟอยพูด

“งั้นหรือครับ  แต่ผมว่าคุณควรต้องรีบบอกเธอนะครับ  เพราะว่าพวกผู้หญิงสามารถจัดกระเป๋าเดินทางได้วุ่นวายและนานจนคุณไม่อยากเชื่อทีเดียว” แซมเตือนเขา

“มันก็อาจจะจริงแซม  แต่มันไม่ใช่กับเธอ” มัลฟอยตอบพลางนึกถึงเฮอร์ไมโอนี่  ว่าเธอจะทำหน้ายังไงนะเมื่อเขาบอกว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเขาและเธอ  และเซอรไพร์สเธอด้วยการทัวร์มัลดีฟส์ตลอดสัปดาห์  แค่เพียงคิดเท่านั้นมัลฟอยก็นั่งอมยิ้มอย่างมีความสุข  โดยที่เขาหารู้ไม่ว่าทุกอย่างที่เขาคิดอาจจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเสมอไป!


TBC

No comments:

Post a Comment