หลังจากที่มัลฟอยออกไปทำงานแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่าเธอสมควรจะหาอะไรทำก่อนที่เธอจะเบื่อตายเสียก่อนระหว่างที่อยู่ที่นี่ เพราะว่าตั้งแต่ที่เธอเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยนั้น เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งและนอนเท่านั้น!
เฮอร์ไมโอนี่เลยวานให้เอล์ฟประจำบ้านตัวหนึ่งพาเธอไปส่งที่ห้องสมุดที่เธอเพิ่งมากับมัลฟอยเมื่อวาน และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่จมอยู่กับกองหนังสือที่เธอต้องการอ่านได้ไม่นานนัก ก็มีคนมาขัดจังหวะเสียก่อน
“มีแขกมาหานายหญิงครับ” เอล์ฟตัวหนึ่งพูด มันปรากฏกายขึ้นตรงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่อย่างรวดเร็วจนหญิงสาวสะดุ้ง
“มาหาฉันเหรอ?” เธอพึมพำอย่างแปลกใจ
“ครับ แขกทั้งสองเสั่งให้เรียนนายหญิงว่าเขาชื่อ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ รอน วีสลีย์ ครับ” เมื่อเอล์ฟพูดเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็เบิกตากว้างอย่างดีใจ
“แฮร์รี่กับรอนมางั้นเหรอ!” เธออุทาน เลิกสนใจเจ้าหนังสือตรงหน้าทันที “ช่วยพาฉันไปหาเขาหน่อยสิ”
*************************************************
ชายหนุ่มทั้งสองคนพากันนั่งรอเพื่อนรักของเขาอยู่ที่ห้องนั่งที่แสนกว้างขวางและโอ่อ่า และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มทั้งสองได้มีโอกาสเข้ามาเหยียบคฤหาสน์มัลฟอย
“ห้องกว้างเป็นบ้าเลย” รอนพูดพลางเดินสำรวจรอบห้องนั่งเล่นที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา
“พวกมัลฟอยนี่นิยมอะไรเวอร์ ๆ เสมอ เลยแฮะ” รอนพูดพลางเบ้ปากใส่รูปวาดสีน้ำมันของ เดรโก มัลฟอย และพ่อแม่ของเขาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้องนั่งเล่น
“นายว่าไหมว่าทำไมเอล์ฟพวกนั้นถึงไปตามเฮอร์ไมโอนี่นานจัง” แฮร์รี่พูดอย่างสงสัย เขากำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่พอ ๆกับเตียงนอน
“นั่นสิ สงสัยเจ้าซีดมัลฟอยอาจจะจับเฮอร์ไมโอนี่ขังไว้ที่หอคอยที่ไหนซักแห่งล่ะมั้ง เธอจะได้ลงมาเจอใครไม่ได้” รอนบ่นอย่างหงุดหงิดที่ต้องเข้ามาเหยียบคฤหาสน์ตระกูลมัลฟอยทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยคิดจะเข้าใกล้มันเลยแม้แต่น้อย
“นายกำลังจะพูดว่ามัลฟอยจับเฮอร์ไมโอนี่ขังไว้ในหอคอยที่มีหน้าต่างบานเดียวเป็นทางออกแบบในนิทานน่ะเหรอ แล้วทีนี้มัลฟอยจะขึ้นไปหาเธอยังไงล่ะ” แฮร์รี่เอ่ยอย่างอารมณ์ดี
“ถ้าขังไว้ในหอคอยอย่างในนิทาน ก็ต้องให้เฮอร์ไมโอนี่หย่อนผมลงมารับล่ะมั้ง แต่ถ้าทำอย่างนั้นมัลฟอยคงต้องเดือดร้อนแน่ ๆ ” รอนพูดพลางเอามือกุมท้อง และหัวเราะไม่หยุด
“ทำไมล่ะรอน” แฮร์รี่ถามอย่างสนอกสนใจ
“ก็เพราะว่าผมของเฮอร์ไมโอนี่อาจจะพันคอเจ้าหัวทองนั่นเสียก่อนมันจะปีนขึ้นไปถึงน่ะสิ” รอนพูดกลั้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“แต่นั่นคงเป็นข่าวดีของนายน่ะสิรอน” แฮร์รี่พูด เขาหัวเราะตัวงอได้ไม่นาน รอยยิ้มบนหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็จางหายไปเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ยืนหน้าง้ำหน้างออยู่ที่ทางเข้าห้องนั่งเล่น
“นายเจอปัญหาหนักแล้วสิรอน” แฮร์รี่กระซิบ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ย่างสามขุมเข้ามาหาพวกเขา
“หวัดดี เฮอร์ไมโอนี่ เราดีใจจังที่ได้เจอเธอ” รอนพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนหน้าหงิกอยู่
“สบายดีไหมเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ถามเมื่อหญิงสาวทิ้งตัวลงลงบนโซฟาด้วยท่าทีโกรธ ๆ
“ก็ดี ถ้าเกิดไม่มีใครบางคนแถวนี้หาเรื่องตลกงี่เง่ามาเล่าเสียก่อนน่ะ” หญิงสาวพูดพลางค้อนรอน
“โถ่ เฮอร์ไมโอนี่ เราแค่ล้อเธอเล่นเท่านั้นเอง” รอนพูด
“นั่นสิ เฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยไปไหนเสียล่ะ” แฮร์รี่ถามพลางมองไปรอบคฤหาสน์อย่างระแวดระวัง
“ไปทำงานน่ะ วันนี้เขาจะกลับดึกหน่อย พวกนายเลือกเวลามาได้ดีจริง ๆ” เฮอร์ไมโอนี่พูดยิ้ม ๆ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังส่งสายตาขุ่นมัวให้รอนเหมือนเดิม
“งั้นเหรอ แล้วเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ ฉันหมายถึงอาการของเธอน่ะ” แฮร์รี่ถามอย่างเป็นห่วง
“อาการเหรอ เอ่อ ก็เหมือนเดิมแหละ แฮร์รี่ ฉันก็ยังจำเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเศร้า
“ไม่ได้ซักนิดเลยเหรอ ฉันหมายความว่า ซักนิดเดียวน่ะ อย่างวันที่เธอได้จดหมายแต่งตั้งเป็นประธานนักเรียนน่ะ ฉันเห็นว่าเธอออกจะดีใจกับมัน” รอนร่ายยาว แต่เมื่อเขาเห็นสายตาห้ามปรามที่ถูกส่งมาจากแฮร์รี่ รอนก็ยอมเงียบโดยดี
“ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ฉันจำเรื่องที่พวกเธอพูดไม่ได้เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเศร้าสร้อย
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย นั่นไม่ใช่ความผิดของเธอเฮอร์ไมโอนี่ ถ้าจำไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ” แฮร์รี่ปลอบใจเธอ ทำนองเดียวกับที่มัลฟอยเคยพูดกับเธอ
“แล้ววันนี้พวกนายไม่ไปทำงานเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจที่เพื่อนรักของเธอทั้งสองมาหาเธอได้ในเวลาทำงานอย่างนี้
“หัวหน้าให้เราหยุดงานได้วันนึงน่ะ ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดพลางทิ้งตัวลงบนโซฟาหนานุ่ม ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างงง ๆ
“ขอบคุณฉัน?” เธอพูดอย่างสงสัย
“คือว่าหัวหน้าของเราน่ะ เขาให้เราหยุดงานเพื่อมาเยี่ยมเธอน่ะ” แฮร์รี่อธิบาย “และเขาก็ฝากนี่มาให้ด้วย” แฮร์รี่พูดพลางส่งซองจดหมายสีน้ำตาลที่มิสเตอร์แฮมเบิร์กฝากเขามาให้เฮอร์ไมโอนี่ให้เธอ และเฮอร์ไมโอนี่ก็รับมันมาพร้อมกับฉีกมันออกอ่าน
ถึง คุณ เฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอย
ผมในฐานะหัวหน้ามือปราบมารขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณระหว่างที่คุณปฎิบัติหน้าที่ให้กับกระทรวงเวทย์มนตร์ ทางกระทรวงเวทย์มนตร์จึงอนุญาติให้คุณลางานเพื่อพักฟื้นร่างกายได้จนกว่าคุณจะหายเป็นปรกติ
ด้วยความปรารถนาดี
ริชาร์ด แฮมเบิร์ก
หัวหน้ามือปราบมาร
“หัวหน้าที่พวกเธอพูดถึงก็คือคุณแฮมเบิร์กนี่ใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งเงยหน้าขึ้นจากจดหมายและมองไปยังเพื่อนของทั้งสองของเธอ
“ใช่ เขาเป็นหัวหน้ามือปราบมาร เป็นหัวหน้าของพวกเรา รวมทั้งเธอด้วยเฮอร์ไมโอนี่” รอนตอบเธอ
“เธอจำเขาได้ไหม” แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างจนใจ นอกจากเรื่องที่ฮอกวอตส์ในตอนที่เธออยู่ปี 5 แล้ว หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ
“งั้นก็ช่างมันเถอะเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดอย่างปลอบโยนและพยายามเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“ปรกติแล้วเวลามัลฟอยไม่อยู่แล้วเธอทำอะไรล่ะ” แฮร์รี่ถาม
“เอ่อ ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ฉันทำหรอก แต่โชคดีที่เมื่อวานมัลฟอยพาฉันไปที่ห้องสมุดมา มันน่าทึ่งมาก ๆ เลยล่ะ ที่นั่นมีหนังสือที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมดเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างตื่นเต้นราวกับเด็ก ๆ
“หนังสือน่าสนใจงั้นเหรอ” รอนพูดพลางเบ้ปาก “น่าสนใจอย่างศาสตร์มืดเนี่ยนะ”
“ผิดแล้วล่ะรอน ที่ห้องสมุดน่ะมีหนังสือดี ๆ เยอะทีเดียวเลย ที่สำคัญมันไม่ใช่หนังสือเกี่ยวกับศาสตร์มืดด้วย แต่มันเกี่ยวกับการป้องกันศาสตร์มืดต่างหาก” เฮอร์ไมโอนี่พูดในขณะที่รอนพึมพำอะไรออกมาอย่างหงุดหงิดแต่เฮอร์ไมโอนี่ฟังไม่ถนัด
“แปลกนะ ที่บ้านหลังนี้จะมีหนังสือป้องกันตัวจากศาสตร์มืด” แฮร์รี่พูดอย่างมีเหตุผล “อย่างมัลฟอยไม่น่าจะอ่านหนังสือแบบนั้น”
“ความจริงหนังสือพวกนั้นเขาไม่ได้อ่านหรอก แต่สั่งมาเพื่อฉันต่างหาก” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่ว
“เธอกำลังจะบอกว่าเจ้าซีดนั่นสั่งหนังสือป้องกันตัวจากศาสตร์มืดมาให้เธออ่านงั้นเหรอ” รอนพูด
“ใช่ ไม่เพียงเท่านั้นนะ เขายังสร้างห้องสมุดให้ฉัน เอ่อ ฉันหมายความว่าเขาปรับปรุงห้องสมุดเก่าของพ่อเขาที่ใช้เก็บหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์มืดขึ้นใหม่ และสั่งหนังสือที่ฉันสนใจมาไว้แทนน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“อย่างนั้นเหรอ งั้นก็แสดงว่าเจ้าหัวทองนั่นรักเธอมากเลยสินะ เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมองเขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อยที่เรียกมัลฟอยว่า ‘ เจ้าหัวทอง ’
“ก็คงอย่างนั้นมั้ง เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขาก็ดีกับฉันมากเลยล่ะ จนบางครั้งฉันยังคิดสงสัยเลยว่า เขาใช่มัลฟอยจริง ๆ หรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“เขาจะดีกับเธอก็ไม่เห็นแปลกนี่เฮอร์ไมโอนี่ เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วนะ อย่าลืมสิ” แฮร์รี่พูดอย่างอ่อนโยน
“นั่นสินะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดราวกับเพิ่งนึกออกว่าเธอกับมัลฟอยแต่งงานกันแล้ว “แต่ฉันก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดีนั่นแหละ ฉันหมายถึงฉันรู้สึกว่าเขาไม่ใช่มัลฟอยที่ฉันรู้จักคนเดิมอีกต่อไปแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่ว
“นี่แล้วเธออยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง” แฮร์รี่ถาม เขาพยายามจะเปลี่ยนเรื่องคุยไปให้ไกลจากเรื่องของมัลฟอยมากที่สุด เพราะยิ่งเขาได้ยินเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ความทรงจำเก่า ๆ นั้นก็เข้ามารบกวนจิตใจของเขาอยู่ทุกครั้งไป
ใช่ แฮร์รี่ยังคงรู้สึกอย่างเดิมกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานไปกับมัลฟอยแล้วก็ตาม แม้ว่าในใจของเธอจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาไปมากกว่าคำว่าเพื่อน
หรือแม้ว่าเธอจะไม่รักเขาเลยซักนิดเดียว!
“ก็ดีแหละ แต่ฉันลำบากเวลาเดินไปไหนมาไหนในคฤหาสน์นิดหน่อยน่ะ ฉันยังจำทางไม่ค่อยได้เลย มันวกวนน่าดู” เฮอร์ไมโอนี่พูดและเล่าเรื่องที่เธอมักสับสนว่าห้องอาหารไปทางไหนหรือเรื่องที่หาทางกลับห้องไม่ถูกให้เพื่อนทั้งสองฟัง แฮร์รี่ก็ฟังโดยดีหรอก แต่รอนนี่สิที่ทำหน้าเหมือนจะอาเจียนทุกครั้งที่ได้ยินเฮอร์ไมโอนี่พูดชื่อมัลฟอย
“ให้ตายเถอะ เฮอร์ไมโอนี่ เธออยู่ในบ้านหลังนี้ไปได้ยังไง บรรยากาศอึมครึมจะตายไป” รอนพูดเสียงขึ้นจมูก เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาอย่างสงสัย
“อึมครึมยังไงกัน ฉันว่ามันก็ อยู่ได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“ฉันขอไปอยู่ในอัซคาบันยังดีกว่าอยู่ที่นี่เลย” รอนพูดพลางทำท่าทีสยดสยองราวกับเห็นผู้คุมวิญญาณปรากฏกายขึ้นตรงหน้า
“งั้นเหรอ รอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงประชด “แล้วที่ไหนล่ะที่เธอคิดว่าหน้าอยู่เนี่ย”
“ก็บ้านฉันไง” รอนพูดโดยไม่ต้องคิด “ถึงจะเล็กไปซักหน่อย แต่ก็ดีกว่าคฤหาสน์ผีสิงนี่” เขาว่า
“เธอน่าจะได้เห็นบ้านรอนตอนนี้นะ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูด
“ทำไมเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เฟร็ดกับจอร์จเอาเงินที่ได้จากการขายของตลกของเขามาปรับปรุงบ้านให้เราใหม่น่ะ” รอนเล่า “แต่ฉันก็ยอมรับว่ามันเจ๋งจริง ๆ เธอน่าจะได้ไปบ้านฉันนะ เฮอร์ไมโอนี่”
“งั้นก็ไปซิ” เฮอร์ไมโอนี่รับคำชวนอย่างนึกสนุก
“แล้วเธอจะไปได้เหรอ แล้วถ้ามัลฟอยรู้ล่ะ” แฮร์รี่เตือน เฮอร์ไมโอนี่นั้นทำสีหน้าลังเล
“เขาบอกว่าจะกลับมาเย็น ๆ ออกไปเดี๋ยวเดียวคงไม่เป็นไรมั้ง ฉันก็อยากออกไปเจอคนอื่น ๆ ด้วยนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูด ในขณะที่รอนนั้นทำหน้าเหลือเชื่อเมื่อเธอลากเพื่อนทั้งสองไปที่เตาผิง
“เฮ้ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันนึกว่าเจ้าซีดมัลฟอยจะล่ามโซ่เธอไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนเสียอีก” รอนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ส่งกระถางผงฟลูให้เขา
“เธอก่อนเลยรอน”
*************************************************
“คุณมัลฟอยครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น แซม เลขาของมัลฟอยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับจดหมายในมือ “จากคุณราล์ฟเวลส์ครับ”
“แล้วเขาว่ายังไงบ้างล่ะ” มัลฟอยพูด เขากำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพร้อมกับแฟ้มเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะ
“เอ่อ คุณราล์ฟเวลส์ปฏิเสธในการเลื่อนนัดของคุณครับ คุณมัลฟอย คุณราล์ฟเวลส์บอกว่าเขาจะหันไปทำธุรกิจกับบริษัทอื่นที่มีประธานบริษัทรักษาเวลานัดกว่านี้ครับ” แซมพูด
“แล้วเขาจะเสียใจ” มัลฟอยพูดอย่างเย็นชา และไม่ได้แยแสเรื่องที่เขาจะเสียลูกค้ารายใหญ่ไปเพราะการยกเลิกนัดสำคัญของเขาเลยแม้แต่น้อย
“แล้วนอกจากนี้มีข่าวอะไรอีกไหม” มัลฟอยพถามขณะกำลังอ่านแฟ้มเอกสารอยู่
“ไม่มีครับ มีแค่ข่าวของคุณราล์ฟเวลส์เท่านั้นครับที่สำคัญ” แซมรายงาน
“แล้วตารางวันนี้ล่ะ” มัลฟอยถามถึงตารางการทำงานของเขาในวันนี้
“ตอนเที่ยงมีนัดทานข้าวกับคุณแม็กมันลินที่ร้านอาหาร เอล ฟา เยล ตอนบ่านสองโมงตรงมีประชุมกับแผนกประชาสัมพันธ์ และตอนบ่ายสามโมงตรงก็มีประชุมกับฝ่ายการตลาด” แซมรายงานตารางเวลาทำงานของมัลฟอยที่ดูจะไม่ค่อยเยอะมากนัก หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาพยายามเร่งเคลียร์งานให้เสร็จเสียตั้งแต่หลายวันก่อน เพื่อที่อาทิตย์หน้าเขาจะได้ไปพักร้อนกับเฮอร์ไมโอนี่
“งั้นวันนี้ฉันก็กลับเร็วได้สิ” เขาพูด แววดีใจฉายอยู่ในดวงตาสีซีดของเขาแวบหนึ่ง
“ใช่ครับ คุณจะได้กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง” แซมพูดเสริม
“งั้นฉันคงต้องรีบทำงานเสียแล้วล่ะ เพราะว่าฉันต้องรีบกลับไปจัดกระเป๋า และก็ต้องรีบกลับไปบอกเฮอร์ไมโอนี่ด้วย” มัลฟอยพึมพำพลางจินตนาการถึงการที่เขาจะได้ใช้วันหยุดทัง้สัปดาห์กับเฮอร์ไมโอนี่เพียงสองคน มันคงวิเศษน่าดูทีเดียว
“คุณยังไม่ได้บอก เอ่อ คุณมัลฟอยเรื่องการเดินทางครั้งนี้หรือครับ” แซมถามอย่างแปลกใจ
“ยังเลย แซม” มัลฟอนตอบ “ฉันกะว่าจะเซอร์ไพรส์เธอน่ะ เพราะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่สามของเรา” มัลฟอยพูด
“งั้นจะให้ผมจองห้องอาหารไว้ให้ไหมครับ เผื่อคุณกับเธออยากจะออกไปทานข้าวข้างนอก” แซมพูด
“ไม่ล่ะ แซม ฉันอยากดินเนอร์อยู่ที่บ้านมากกว่า อีกอย่างเธอก็ยังไม่หายจากความจำเสื่อมด้วย ฉันเลยไม่ค่อยอยากพาเธอออกไปตะลอน ๆ เท่าไหร่” มัลฟอยพูด
“งั้นหรือครับ แต่ผมว่าคุณควรต้องรีบบอกเธอนะครับ เพราะว่าพวกผู้หญิงสามารถจัดกระเป๋าเดินทางได้วุ่นวายและนานจนคุณไม่อยากเชื่อทีเดียว” แซมเตือนเขา
“มันก็อาจจะจริงแซม แต่มันไม่ใช่กับเธอ” มัลฟอยตอบพลางนึกถึงเฮอร์ไมโอนี่ ว่าเธอจะทำหน้ายังไงนะเมื่อเขาบอกว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเขาและเธอ และเซอรไพร์สเธอด้วยการทัวร์มัลดีฟส์ตลอดสัปดาห์ แค่เพียงคิดเท่านั้นมัลฟอยก็นั่งอมยิ้มอย่างมีความสุข โดยที่เขาหารู้ไม่ว่าทุกอย่างที่เขาคิดอาจจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเสมอไป!
TBC
No comments:
Post a Comment