เดรโก มัลฟอย เบื่อหน่ายเป็นอย่างยิ่งที่เขาไม่สามารถสลัด ซิลเวีย เดอ เวซอง ที่เดินอยู่ข้าง ๆ ให้พ้นทางไปได้ เพราะยัยนี่เกาะติดเขามาตั้งแต่ขึ้นรถไฟมาฮอกมี้ดส์นี่แล้ว ตอนแรกมัลฟอยคิดว่า แพนซี่ พาร์กินสัน นั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่เขาขยาดที่สุดแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามัลฟอยจะเปลี่ยนความคิดไปเสียแล้ว
“นี่น่ะเหรอฮอกมี้ดส์ที่ใคร ๆ เขาอยากไปเที่ยวกันนักหนา” ซิลเวียพึมพำ “ก็แค่ตรอกเล็ก ๆ ที่มีร้านรวงก็เท่านั้น” เธอพูดพลางเบ้หน้าอย่างรังเกียจเมื่อต้องมาเดินเบียดเสียดกับคนจำนวนมากซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะมีพวกเลือดสีโคลนปะปนอยู่ก็ได้
“ถ้าเธอไม่ชอบก็กลับโรงเรียนไปสิ” มัลฟอยพูดพลางปัดมือของวิลเวียที่เกาะเกี่ยวเขาอยู่ออกห่าง ๆ
“ไม่ล่ะ ฉันอยากเข้าร้านนั้น” ซิลเวียพูดพลางลากมัลฟอยไปที่ร้านขายเครื่องประดับร้านหนึ่ง ซึ่งมัลฟอยนั้นเดินตามไปอย่างเบื่อหน่าย ( สุด ๆ )
ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่ ( หลังจากที่ไรอันขอคู่กับเธอ )
“เอ่อ” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก
“คุณยังไม่ต้องตอบผมก็ได้นะครับ” ไรอันพูด “ผมรู้ว่าคุณลำบากใจ”
“ฉันขอคิดดูก่อนได้ไหม” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“ได้ครับ” ไรอันรับคำพร้อมกับรอยยิ้มที่มีร่องรอยความกังวลใจอยู่
“เอ่อ เราไปเดินดูของในร้านนั้นกันไหม” เฮอร์ไมโอนี่พูดเพื่อคลายความอึดอัดที่ครอบคลุมทั้งสองอยู่และเดินนำเข้าไปในร้ายขายเครื่องประดับที่อยู่ไม่ไกลนัก
ในร้านซิลเวียกำลังหยิบเครื่องประดับชิ้นแล้วชิ้นเล่ามาดู โดยมีมัลฟอยที่ทำหน้าเซ็งสุด ๆ เหน็บอยู่ข้าง ๆ “เธอว่าชิ้นนี้สวยไหม เดรโก” ซิลเวียพูดพลางชูสร้อยเงินที่มีจี้รูปหัวใจสีดำห้อยอยู่ ส่วนมัลฟอยนั้นทำสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป
“แล้วชิ้นนี้ล่ะ” ซิลเวียหยิบกำไลเงินที่ทำเป็นรูปงูขดตัวไปมามาให้มัลฟอยดู
“ถ้าเธออยากจะดูของก็ดูไปละกัน ฉันไม่มีความคิดเห็น” มัลฟอยพูดอย่างรำคาญพร้อม ๆ กับแกะมือของซิลเวียออกจากแขนตัวเองและกำลังจะเดินออกจากร้าน แต่สายตาของเขาก็กลับสะดุดเข้ากับสิ่ง ๆ หนึ่ง
แหวนทองคำขาววงหนึ่งที่มีเพชรเม็ดเล็ก ๆ เรียงกันเป็นรูปหัวใจ
เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเข้ามาในร้าน และเธอก็ต้องตื่นตากับเครื่องประดับจำนวนมากมายที่เรียงรายกันอยู่บนชั้นอย่างสวยงาม ถึงแม้เฮอร์ไมโอนี่จะไม่ชอบใส่เครื่องประดับซักเท่าไหร่นัก แต่เธอคิดว่าเธอควรจะซื้อมันซักชิ้นเพื่อใส่ไปงานเลี้ยงเต้นรำ เฮอร์ไมโอนี่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ร้านราวกับเธอตัดสินใจอยู่ว่าเธอจะเลือกดูเครื่องประดับชิ้นไหนก่อนดี แต่แล้วสายตาของเธอก็มาหยุดลงที่เด็กหนุ่มผมบลอนด์ซึ่งก็คือมัลฟอยนั่ยเอง เขากำลังยืนอยู่มุมหนึ่งของร้านในมือถือเครื่องประดับชิ้นหนึ่งไว้ เหมือนกับว่าเขากำลังตัดสินใจว่าควรจะซื้อเจ้าของที่เขากำลังเลือกอยู่ดีหรือไม่
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เห็นมัลฟอยอยู่ในร้าน เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี เธอควรจะทำเป็นไม่เห็นเขาแล้วเดินดูของต่อไป หรือควรจะเดินออกจากร้านดี
ถ้าเฮอร์ไมโอนี่เลือกที่จะเดินออกจากร้านไปเธอคงไม่ได้เห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหรอก เพราะว่าเมื่อเธอยืนมองมัลฟอยอยู่ได้ไม่นานนัก เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นซิลเวียเดินเข้ามาหามัลฟอย
“อยู่นี่เองหรือเดรโก” ซิลเวียพูด และเมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ในมือมัลฟอย
“แหวนวงนี้สวยจัง” เธอพูดพลางหยิบแหวนจากมือมัลฟอยไปลองกับนิ้วเธอ และในตอนนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้แล้วว่าเจ้าสิ่งที่มัลฟอยเลือกอยู่ในมือมันคืออะไร
“เดรโก เธอรู้ใจฉันจริง ๆ” ซิลเวียพึมพำพร้อมยิ้มกว้าง เธอกำลังใส่แหวนวงนั้นเข้ากับนิ้วของเธอ ส่วนมัลฟอยนั้นเบือนหน้าหนีเธออย่างเบื่อหน่าย และเขาก็ได้หันมาเห็นเฮอร์ไมโอนี่ยืนมองเข้ามาจากทางเข้าร้านด้วยแววตาที่ปวดร้าว
“เกรนเจอร์!” มัลฟอยตะโกนเรียก แต่ทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขาเห็นเธอ ๆ ก็รีบเดินออกจากร้านทันที
“เกรนเจอร์!” มัลฟอยเรียกซ้ำ พลางเดินผ่าฝูงชนออกไปหาเฮอร์ไมโอนี่ทันที
เฮอร์ไมโอนี่เดินหนีมัลฟอยอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับไรอันที่เดินตามเธอมาติด ๆ เมื่อเธอเดินมาถึงช่วงหนึ่งของถนนที่ผู้คนค่อนข้างเบาบาง เฮอร์ไมโอนี่ก็หยุดเดิน
“เกรนเจอร์” มัลฟอยที่เดินตามเธอมาตลอดเรียกชื่อเธอ พร้อม ๆ กับที่เฮอร์ไมโอนี่หันไปหาเขา
“เกรนเจอร์ ฉันมีเรื่องต้องพูดกับเธอ” มัลฟอยพูด มองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาวิงวอน แต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นนิ่งเงียบ “เธอเข้าใจผิด” มัลฟอยพูด ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมองเขาด้วยดวงตาสีน้ำตาลของเธอที่ดูเหมือนจะปราศจากความรู้สึกใด ๆ
“ฉันเข้าใจอะไรผิดเหรอ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงเย็นเยียบ ส่วนมัลฟอยนั้นชะงักเพราะท่าทีเย็นชาของเด็กสาว
“เรื่อง เรื่องที่เธอเห็นที่ร้าน” มัลฟอยละล่ำละลัก
“อ๋อ เรื่องที่เธอจะซื้อแหวนให้แม่คู่หมั้นของนายน่ะเหรอ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ประชด
“เกรนเจอร์ ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นเธอ…..” มัลฟอยพยายามอธิบาย
“เข้าใจผิด” เฮอร์ไมโอนี่ต่อให้ “ฉันขี้เกียจจะรับฟังคำแก้ตัวไร้สาระของนายแล้วมัลฟอย และฉันก็คิดว่าฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเย็นชา
“เกรน…”
“เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่มีอะไรที่ต้องพูดกับนายอีกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ตบท้าย มองมัลฟอยด้วยสายตาเย็นชาที่สุด “ไปกันเถอะไรอัน” เธอหันไปพูดกับไรอัน และขณะที่พวกเขาทั้งสองกำลังจะเดินจากไป มัลฟอยก็เอามือคว้าแขนเฮอร์ไมโอนี่ไว้
“ฉันไม่ให้เธอไป” มัลฟอยพูด ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั่นพยายามจะแกะมือของมัลฟอยออก
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนาย มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเย็นชาก่อนที่จะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเด็กหนุ่มและเดินหายไปฝูงคน
“คุณไม่เป็นไรนะครับ” ไรอันพูด
“ฉันอยากกลับโรงเรียน” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“งั้นกลับก็ได้ครับ” ไรอันพูดพลางมองเธออย่างอ่อนโยน เขาเลื่อนมือไปกุมมือที่สั่นเท่าของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ ซึ่งเธอก็ไม่มีท่าทีปฏิเสธเขาแต่อย่างใด
เพราะว่าทั้งสองไม่มีผ้าคลุมล่องหนพวกเขาจึงแอบเข้าไปในร้านฮันนี่ดุ๊กซ์ไม่ได้เนื่องจากพวกเขากลัวว่าจะถูกจับได้หากบุ่มบ่ามเดินเข้าไปหลังร้าน เพราะฉะนั้นมีทางเดียวที่พวกเขาจะกลับโรงเรียนได้ก็คือ ใช้ทางลับที่อยู่ที่เพิงโหยหวน
เมื่อไรอันแน่ใจว่าจะไม่มีใครเห็นเข้าทั้งสองแล้วเขาและเฮอร์ไมโอนี่จึงเข้าไปในเพิงโหนหวนซึ่งมีสภาพเหมือนบ้านคนที่ถูกทิ้งร้างมานานจนเก่าและทรุดโทรม และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มีร่องรอยของการถูกทำลาย
“ผมได้ยินมาว่าที่นี่เป็นบ้านที่มีผีดุที่สุดในอังกฤษ” ไรอันพูด เขาพยายามชวนเฮอร์ไมโอนี่คุยมาตลอดทางที่เดินพวกเขามาที่นี่ แต่เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่นิ่งเงียบ
“เหลวไหลทั้งเพ” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ
“อะไรนะครับ” ไรอันถาม
“เรื่องที่เธอบอกได้ยินมามันเหลวไหลทั้งเพ” เฮอร์ไมโอนี่บอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เหลวไหลจริง ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำด้วยน้ำเสียงเช่นเดิมพร้อม ๆกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ส่วนไรอันนั้นทรุดตัวลงข้าง ๆ เธอและโอบไหล่เธอไว้ ซึ่งเขาก็ไม่ลืมที่จะลูบศีรษะของเธออย่างปลอบประโลม
“ทำไมทุกอย่างมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ
“ทำไมเขาถึงทำกับฉันอย่างนี้อย่างนี้” เธอเอ่ยซ้ำ
“คุณรักเขามากใช่มั้ยครับ” ไรอันถาม แต่เด็กสาวไม่ตอบเขา เธอได้แต่นิ่งเงียบ
“ผมเข้าใจครับว่าการผิดหวังในความรักมันเป็นอย่างไร” ไรอันพูด ดวงตาเหม่อลอย “ผมรู้ว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหน ความจริงแล้วผมเองก็ไม่ต่างจากคุณหรอก” เมื่อไรอันพูดจบเฮอร์ไมโอนี่ก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา
“เธอหมายความว่ายังไง ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย ดวงหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั้นจ้องมองเขาอยู่ ส่วนไรอันนั้นหลับตาลงอย่างครุ่นคิด และเมื่อเขาลืมตาขึ้น
“ผมบอกว่าผมเองก็เจ็บปวดไม่ต่างจากคุณเลย และคนที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้ก็คือคุณ” ไรอันพูดออกมาในที่สุด “ผมรักคุณ เฮอร์ไมโอนี่”
เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าไรอันด้วยความแปลกใจเป็นที่สุดเมื่อเขาพูดจบ
“เธอหมายความว่ายังไง ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ถามซ้ำ และผละตัวจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม
“หมายความอย่างที่ผมบอกไปนั่นแหละครับ” ไรอันพูด “ผมรักคุณ”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ผมก็ไม่รู้” ไรอันตอบเธอ “ผมรู้แค่ว่าตอนนี้ผมรักคุณ”
“ทั้ง ๆ ที่เธอรู้ว่าฉัน เอ้อ รักใครเนี่ยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ครับ ผมรู้ แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ไหว ผมรักคุณจริง ๆ ” ไรอันพูด ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นนิ่งเงียบ
“ผมรู้ดีว่าผมไม่ควรบอกคุณ มันทำให้คุณลำบากใจ” ไรอันพูดต่อ “แต่ผมทนไม่ได้ที่เห็นคุณร้องไห้ เห็นคุณเสียใจ ผมทนไม่ได้เลยที่เห็น เดรโก มัลฟอย ทำกับคุณแบบนั้น”
“ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
“ผมเคยคิดด้วยนะครับว่าถ้าคนที่คุณรักเป็นผมได้ก็ดี และถ้าเป็นมันอย่างนั้นผมก็จะไม่ทำให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้เลย” ไรอันพูดมองเข้าไปในแววตาเธอ
“ไม่ได้หรอกไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธ “ฉันรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร มันไม่มีทาง เอ้อ เป็นไปได้” เฮอร์ไมโอนี่พูด ถึงไรอันอาจจะดีกับเธอมากกว่ามัลฟอยก็ตาม แต่คนที่เธอรักจริง ๆ ก็คือมัลฟอย นั่นเป็นเรื่องที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้เลย
“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันรักเธอไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่สารภาพ
“เพราะคุณรักมัลฟอย” ไรอันพูด
“เพราะฉันยังรักมัลฟอยอยู่ต่างหากล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่แก้ “เพราะว่าฉันยังลืมเขาไม่ได้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันเลยรักคนอื่นไม่ได้”
“แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะรักคนอื่นไม่ได้ตลอดไปนี่ครับ” ไรอันพูด “มันคงจะมีซักวันที่คุณจะลืมเขาได้ ถ้าคุณต้องการที่จะลืมเขาจริง ๆ ”
ลืมมัลฟอยงั้นเหรอ เธอต้องการจะลืมเขาจริง ๆ หรือเปล่านะ เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด
“อย่างน้อยให้ผมได้เป็นอยู่อย่างนี้ก็พอ” ไรอันพูด “ให้ผมได้อยู่ใกล้ ๆ คุณอย่างเดิมได้ไหมครับ” ไรอันถามเธอเหมือนเขากลัวว่าความรู้สึกเฮอร์ไมโอนี่จะเปลี่ยนไปจากเดิมกับเขาหากเขาสารภาพรักเธออกไปแล้ว
และเฮอร์ไมโอนี่ก็ยิ้มน้อย ๆ “ได้สิไรอัน” เธอตอบ “ทุกอย่างระหว่างเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”
ตลอดทางกลับมาที่โรงเรียนทั้งเฮอร์ไมโอนี่และไรอันต่างนิ่งเงียบ พวกเขาไม่รู้ว่าจะหาเรื่องอะไรมาพูดดีหลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่ไป ถึงแม้ว่าทำไมทุกอย่างมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วยจะรับปากไรอันว่าทุกอย่างระหว่างพวกเขาจะเป็นเหมือนอย่างเดิม แต่มันก็ยากที่จะทำอย่างนี้ได้ในทันทีหลังจากที่ไรอันเพิ่งสารภาพรักกับเธอ ตลอดทางเฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆที่เกิดขึ้นในวันที่แสนยุ่งเหยิงนี้ ตั้งแต่เรื่องมัลฟอยไปจนเรื่องของไรอันที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อกี๊ เฮอร์ไมโอนี่ยอมรับว่าเธอตกใจที่จู่ ๆ ไรอันมาบอกเธอว่าเขาหลงรักเธอมาตลอด และแน่นอนที่มันจะสร้างความอึดอัดใจให้เธอ แต่เธอก็พยายามที่จะทำตัวปกติที่สุดเหมือนอย่างที่เธอเคยพูดไว้ แต่ความจริงแล้วความรู้สึกที่เธอมีต่อไรอันนั้นก็ยังเหมือนเดิม ถึงแม้เธอจะรู้สึกแปลก ๆ ไปบ้างแต่ในความรู้สึกของเธอไรอันก็ยังคงเป็นเพื่อนของเธอเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
และคงจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ด้วย
หลังจากเสียเวลาเดินอยู่ในอุโมงค์ลับที่มืดชื้นนานพอสมควรทั้งสองก็มาถึงโรงเรียนในเวลาบ่าย ๆ พวกเขาเริ่มรู้สึกเหนื่อย และเฮอร์ไมโอนี่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่มีอาหารเที่ยงตกถึงท้องเลย
เฮอร์ไมโอนี่และไรอันพากันไปที่ห้องโถงเพื่อทานอาหารและพวกเขาก็พบว่ามันปราศจากผู้คน ( เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่กลับจากฮอกมี้ดส์ ) แต่อาหารบนจานทองนั้นไม่ได้ว่างเปล่าเลย เมื่อไปถึงเฮอร์ไมโอนี่และไรอันก็ลงมือกินอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยปราศจากเสียงพูดคุยกัน และในขณะที่ทั้งสองกำลังทานอาหารกันอยู่ ไรอันก็เอ่ยปากขึ้นมาทำลายความเงียบ
“ไหนคุณรับปากว่าระหว่างคุณกับผมจะเป็นอย่างเดิมไงครับ เฮอร์ไมโอนี่” ไรอันถามเธอด้วยรอยยิ้ม
“แต่ตั้งแต่เรากลับมาคุณก็ไม่คุยกับผมเลย” เขาพูด
“เอ่อ ฉันกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่น่ะ ขอโทษนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“เรื่องมัลฟอยใช่ไหมครับที่คุณคิดอยู่” ไรอันถามอย่างรู้ทัน
“เอ่อ ก็ ใช่แหละไรอัน ฉันคิดเรื่องเขา” เฮอร์ไมโอนี่สารภาพ เธอไม่อยากจะโกหกเขา
“คุณไม่คิดจะตัดใจจากเขาใช่ไหมครับ” ไรอันพูด
“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่แก้ตัว “ฉันแค่ยังลืมเขาไม่ได้ ฉันกำลังสับสนอยู่”
“เขาทำกับคุณอย่างนั้นคุณยังจะรักเขาอีกหรือครับ” ไรอันท้วง
“ฉันรักเขาไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่พูด “แม้ว่าเขาจะทำอย่างนั้นกับฉัน ๆ ก็ยังรักเขาอยู่ ฉันก็เหมือนเธอไม่ใช่หรือไรอัน เธอก็รักฉันทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฉันรักคนอื่น” เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ผมขอโทษ” ไรอันพูดเมื่อเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่อารมณ์เสีย “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณโกรธ”
“เปล่า ฉันเองก็ต้องขอโทษเธอไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอรู้สึกว่าเธอพูดกับเขาแรงไป
“ช่างมันเถอะครับ” ไรอันพูดอย่างสบาย ๆ แต่ดวงตาแฝงแววเศร้าเอาไว้ “คุณคงจะรักเขามากจริง ๆ ใช่ไหมครับ” ไรอันถาม และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า ไรอันก็รู้ว่าระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยนั้นไม่มีที่ว่างให้เขาแทรกเลยจริง ๆ หรือว่าเขาควรจะตัดใจจากเธอดี
“ผมอยากถามอะไรคุณอีกครั้งได้ไหมครับ” ไรอันถาม
“ได้สิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“คุณจะไปงานเต้นรำกับผมได้ไหมครับ เฮอร์ไมโอนี่” ไรอันถามเธออีกรอบ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นทำหน้าครุ่นคิด และในที่สุดเธอก็ตอบออกมา
“ได้สิ ไรอัน ฉันจะไปงานกับเธอ”
มัลฟอยรีบออกมาจากรถไฟทันทีที่มันเข้าจอดที่ชานชาลา เขาตรงไปที่ปราสาทอย่างรีบเร่งเพื่อตามหาตัวเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยนั้นรีบไปที่ห้องสมุดในทันที เพราะคิดว่าเธอจะอยู่ที่นั่นแต่เมื่อเขาไปถึงก็พบว่าห้องสมุดนั้นไม่มีใครอยู่เลยนอกจากมาดามพินซ์ผู้เป็นบรรณารักษ์ และเมื่อเขาถามเธอก็ได้คำตอบมาว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้มาห้องสมุดเลยในวันนี้ หลังจากนั้นมัลฟอยก็รีบไปตามหาเธอที่อื่น ๆ ที่เขาคิดว่าเธอจะอยู่ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเธอ ( เขาไม่คิดว่าจะไปถามเด็กกริฟฟินดอร์หรอกว่าเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่ไหน )
“เธอไปอยู่ที่ไหนเกรนเจอร์” มัลฟอยพึมพัมกับตัวเอง
หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่รับปากว่าจะไปงานคู่ไรอันแล้วพวกเขาก็นัดแนะการซ้อมเต้นรำกันในวันนั้นเลย เพราะว่าทั้งสองต้องเต้นเปิดฟลอร์ในวันงานในและก็เหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เท่านั้นกว่าจะถึงวันงาน เพราะฉะนั้นพวกเขาจำเป็นที่จะต้องซ้อมตั้งแต่วันนี้เลย
เฮอร์ไมโอนี่กับไรอันไปที่ระเบียงทางเดินชั้นต่าง ๆ เพื่อหาห้องเรียนที่ว่างและกว้างพอสำหรับซ้อมเต้นรำ และเมื่อพวกเขากำลังเดินหาห้องเรียนอยู่ที่ชั้นสามนั้นบนผนังที่ว่างเปล่าอยู่ ๆ มันก็ปรากฏเป็นประตูสีเงินวิบวับ
“นี่มันห้องต้องประสงค์นี่” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ
“เฮอร์ไมไอนี่” ไรอันเรียกเด็กสาว ที่กำลังเดินเช้าไปใกล้ประตูสีเงินนั่น
“ไรอัน ฉันคิดว่าเราเจอที่ซ้อมแล้วล่ะ” เธอพูดพลางผลักประตูเข้าไปในนั้น
เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องต้องประสงค์พวกเขาก็ถึงกับตกตะลึง เพราะในห้องนั้นถูกจัดแต่งเป็นฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่ พร้อมกับมีเครื่องเสียงตั้งอยู่มุมหนึ่ง รอบ ๆ ห้องนั้นเต็มไปด้วยหนังสือ ‘ คู่มือการเต้นรำ ’ ‘ เทคนิคการเต้นลีลาศ ’ และ ‘ วิธีเต้นรำอย่างง่าย ๆ ’ ส่วนอีกฝากหนึ่งของห้องก็มีตู้ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและรองเท้าส้นสูงสำหรับใส่เต้นรำอยู่
“โอ้โห” ไรอันอุทานพลางเดินดูไปรอบ ๆ ห้อง “เยี่ยมไปเลยครับห้องนี้”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
“ผมว่าเราเริ่มซ้อมกันดีกว่าครับ” ไรอันพูดพลางเดินไปเปิดเพลง
“อือ” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าตอบ
มัลฟอยตามหาเฮอร์ไมโอนี่มานานแล้วแต่เขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ นี่เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะ เขาครุ่นคิดอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ฮอกมี้ดส์ และเขาก็ทรุดตัวลงนั่งตรงบันไดด้วยความเหนื่อย เขาไม่น่าไปฮอกมี้ดส์กับยัยซิลเวียนั่นเลย เขาน่าจะไล่เธอไปให้พ้นทางตั้งแต่ตอนขึ้นรถไฟแล้ว ความจริงเขาก็รอเฮอร์มไอนี่อยู่ที่ชานชาลานะ แต่ว่าเขาก็ไม่เห็นเธอมาเสียที มัลฟอยคิดว่าเธอจะไม่ไปแล้วแต่เธอกลับไปโผล่อยู่ที่ฮอกมี้ดส์กับไอ้เจ้าครัมนั่นได้ยังไงนะ มัลฟอยเองก็สงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้อย่างเดียวก็คือหาตัวเธอให้เจอแล้วก็อธิบายว่าที่จริงเรื่องมันเป็นยังไง มัลฟอยหลับตาลงอย่างครุ่นคิด ถ้าเขาไม่ปล่อยเธอไปก็ดีสินะ ถ้าตอนที่เขาอยู่ที่ฮอกมี้ดส์เขาไปปล่อยเธอไปกับเจ้านั่นก็ดีหรอก แต่เมื่อเขานึกถึงสายตาของเธอที่จ้องมองเขา ความเย็นชาที่เขาได้รับจากสายตาที่เธอมองเขา มัลฟอยก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ที่เขาต้องทำตอนนี้คือหาเธอให้เจอเท่านั้น
ที่เขาต้องการก็แค่หาเธอให้เจอ
และแล้วประตูสีเงินวิบวับบานหนึ่งก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้ามัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มซ้อมเต้นรำได้เป็นเวลาซักพักหนึ่งแล้ว และเธอก็พบว่าหารเต้นรำโดยใส่รองเท้าาส้นสูงนั้นมันลำบากแค่ไหน ( เฮอร์ไมโอนี่ลองใส่รองเท้าส้นสูงซ้อมเต้นรำเพื่อจะได้ชินกับรองเท้า ) และเนื่องจากการห่างเหินการเต้นรำมานาน ( 1 ปี ) ทำให้การซ้อมครั้งนี้สร้างความลำบากให้เธอพอสมควร เพราะเธอมักจะลืมท่าเต้นหรือนับจังหวะผิดเอาดื้อ ๆ หรือาจจะเป็นเพราะเฮอร์ไมโอนี่เพิ่งเต้นรำกับไรอันเป็นครั้งแรกมันเลยทำให้เธอประหม่าอย่างเห็นได้ชัด แน่นอน จะไม่ให้เธอประหม่าได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อเธอต้องมาเต้นรำกับผู้ชายที่เพิ่งสารภาพรักเธอไปเมื่อครู่นี้
เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอกับไรอันอยู่ใกล้กันมากในขณะเต้นรำ มากพอที่เขาจะได้กลิ่นหอมจากกายของเด็กหนุ่ม และมากพอที่เธอจะเห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาได้อย่างชัดเจน แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้สบตาเขาเท่าไหร่นักหรอก เธอจงใจหลบตาเขาด้วยซ้ำ
“อุ๊ย” เฮอร์ไมโอนี่สะดุดรองเท้าตัวเองอีกครั้ง และผลก็คือเธอข้อเท้าพลิกเพราะตกจากร้องเท้าส้นสูง
“เฮอร์ไมโอนี่” ไรอันถลาเข้าไปรับตัวเธอไว้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดดังปัง
มัลฟอยยืนอยู่ตรงนั้น กำลังมองเฮอร์ไมโอนี่กับไรอันตระคองกอดกันอยู่
TBC
No comments:
Post a Comment