Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Monday, July 20, 2015

Chapter 4: จดหมายจากดัมเบิลดอร์



เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ทุกคนในบ้านโพรงกระต่าย ต่างก็เตรียมตัวกันเพื่อจะไปบ้านที่กริมโมเพซ
 ซึ่งเป็นสภาพที่ชุลมุนวุ่นวาย

“แฮร์รี่ รอน เอาข้าวของที่จะต้องใช้ที่ฮอกวอตส์ไปเลย เราจะไม่กลับมาที่นี่อีก”

“ทำไมล่ะฮะ” แฮร์รี่ร้อง

“ศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ไม่อยากให้เราพักที่นู้น ที่นี้ บ่อยๆ” เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ
 เพราะกำลังยุ่งอยู่กับอาหารเช้า “โอ้ย... แล้วสาวๆไปไหนกันล่ะ ยังไม่ลงมาอีกเหรอ”

“ยังเลยฮะแม่” รอนฟ้อง เป็นเวลาเดียวกับที่ จินนี่ และ เฮอร์ไมโอนี่ ลงบันไดมา ทันได้ยินประโยคของรอน

“พวกเรามาแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่บอก สายตาที่ส่งไปให้รอนนั้น น่ากลัวจนขนที่ต้นคอแฮร์รี่ตั้งชัน

“แฮร์รี่ นายว่า เฮอร์ไมโอนี่ มีหูทิพย์รึเปล่าเนี่ย” รอนแอบกระซิบถามแฮร์รี่

“ดีเลย อาหารเสร็จพอดี” นางวิสลีย์ว่า พลางวางจานไส้กรอกลงบนโต๊ะ
“เอ้าช่วยกันยกหน่อย จะได้กินมั้ยเนี่ยวันเนี่ย”

ทุกคนรีบกระวีกระวาดไปช่วยนางวิสลีย์ยกอาหาร เพราะเกรงว่าเธอจะให้พวกเขากินระเบิดแทนอาหารเช้า
แล้วรีบทานอาหารอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดทุกคน(รวมทั้ง ลูปิน และมู้ดดี้) ก็มาถึงบ้านเลขที่ 12 กริมโมเพซ โดยรถเมล์อัศวินราตรี
 (รอนแหวะเอาไส้กรอกออกมา ระหว่างทางที่รถกระโดดจากบ้านซอยพรีเว็ตไปลอนดอน)

บานประตูสีเทาค่อยๆปรากฎขึ้นช้าๆ ทุกคนทยอยกันเข้าไปข้างใน ซึ่งมีสภาพไม่แตกต่างไปจาก
ครั้งที่พวกเขามาพักเมื่อคริสต์มาตร์เลย แม้แต่ภาพของ มิสซิส แบล็ก ก็ยังคงติดแน่นถาวรอยู่ที่เดิม

วินาทีที่พวกเขาเข้ามา เฮอร์ไมโอนี่ก็แอบเหลือบมองแฮร์รี่ทางหางตา ซึ่งเขามีสภาพไม่ต่างอะไรจาก
ซากตัวกรินดี้โลว์เลย เธอรู้สึกสงสาร แฮร์รี่ จับใจ

“อ้าว... ว่าไงจ๊ะ แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่” ท็องค์ทักอย่างร่าเริง แม้หน้าตาจะหมองคล้ำยิ่งนัก
มีรอยคล้ำรอบดวงตาของเธอทั้งสองข้าง ครั้งนี้ผมของเธอตรงยาวและเป็นสีส้มสด “มอลลี่ มู้ดดี้ และ ลูปิน”

“หวัดดีฮะ/ค่ะ”

“งั้นพวกเราไปก่อนนะนิมฟาเดอร่า” ลูปินเอ่ยขึ้นช้าๆ ดูเขาเหนื่อยอ่อนเหลือเกิน
ราวกับเขาไปกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่ามาทุกคืน

“อย่าเรียกฉันว่า นิมฟาเดอxxxะ รีมัส” ท็องค์ร้อง ลูปินยิ้มจางๆให้เธอ
ผงกหัวพอเป็นมารยาท แล้วออกไปพร้อมกับมู้ดดี้

“หนุ่มแฝดไปไหนซะล่ะ”

“อยู่เฝ้าร้าน เกมกลวิสลีย์ อยู่น่ะ เดี๋ยวดึกๆจะตามมา” นางวิสลีย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
พลางเดินเข้าไปในครัวโดยไม่รีรอ มีเด็กๆเดินตามเข้าไป พร้อมกับท็องค์

“ท็องค์คะ” เฮอร์ไมโอนี่เรียก

“มีอะไรจ๊ะ”

“เอ่อ... บัคบีคไปไหนแล้วล่ะคะ”

“บัคบีค... “ เธอใช้ความคิดเล็กน้อย “อ้อ... ฮิปโปกริฟฟ์ใช่มั้ย”
รอนพยักหน้ารับหงึกงัก

“คือ... ซิเรียสไม่อยู่แล้ว” ท็องค์เหล่มองแฮร์รี่แวบหนึ่ง “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็เลยขอยืมตัวไปหน่อยน่ะ
 ฉันจะบอกให้เลย บัคบีคน่ะ ดูเหมือนจะเหลือแต่ซากแล้วล่ะ”

แฮร์รี่ดูเหมือนจะสนใจภาพของมิสซิสแบล็กที่อยู่ข้างหลังท็องค์เป็นพิเศษ

“เอ้อ... อาเทอร์ยังไม่กลับมาอีกเหรอ” นางวิสลีย์รีบเปลี่ยนเรื่อง

“ยัง... ยังเลย เอาล่ะ เธอมาเปลี่ยนเวรแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะมอลลี่”

นางวิสลีย์ถอนหายใจยาวๆ  ก่อนจะถามขึ้น

“เธอจะไม่พักก่อนเหรอ ท็องค์”

“ไม่ล่ะ มอลลี่ เดี๋ยวฉันต้องไปช่วยคิงสลีย์ทำงานที่กองต่ออีก” เธอตอบ
 พลางส่ายหัวปฎิเสธ แล้วหันหลังไปทางประตู แต่ก็ต้องหันกลับมาอีกครั้งเมื่อเธอนึกบางเรื่องออก

“เด็กๆจ๊ะ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ฝากนี่มาให้” เธอบอก พลางยื่นจดหมายให้เฮอร์ไมโอนี่
 แล้วส่งยิ้มกว้างให้ทีหนึ่ง ก่อนจะออกไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องของ มิสซิสแบล็ก
เพราะเธอสะดุดขาที่แขวนเสื้อคลุมล้ม

“ขอโทษ... ขอโทษนะมอลลี่”

“ไม่เป็นไรหรอกท็องค์ เธอรีบๆไปเหอะ” นางวิสลีย์บอก พลางรีบวิ่งไปดึงม่านปิด
 เพื่อให้ มิสซิสแบล็กเงียบเสียงลง ท็องค์จึงออกไป

“จดหมายว่าอะไรบ้างน่ะ เฮอร์ไมโอนี่” รอนถามอย่างตื่นเต้นขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังแกะ
จดหมายออกจากซอง แล้วกางออกเพื่ออ่านให้ฟัง

‘เฮอร์ไมโอนี่ (แฮร์รี่ รอน และจินนี่ ถ้าพวกเธออยู่ตรงนั้นนะ)

ฉันอยากจะรู้ว่าพวกมักเกิ้ล เขามีวัฒนธรรมอะไรมั้ยในวันฮัลโลวีนน่ะ
คือว่าพวกเดิร์มสแตรงค์และโบส์บาตง จะมาที่ฮอกวอตส์ช่วงนั้นพอดี’

“เดิร์มสแตรงค์กับโบส์บาตงจะมาฮอกวอตส์เหรอ” รอนร้องอย่างตกใจ
 และหันไปมองหน้าเพื่อนที่งงไม่แพ้กัน ยกเว้นเฮอร์ไมโอนี่ เขาจึงถามเธอ

“เธอทำหน้าอย่างงั้น แสดงว่ารู้มาก่อนสินะ”

“มันแน่อยู่แล้วล่ะรอน” เธอตอบด้วยสีหน้าหยิ่งๆที่ปั้นขึ้นมา

“แม่หนูผู้รอบรู้ ก็ลองบอกพวกเรา คนแคระทางสมองทั้งสามซะหน่อยได้มั้ย” รอนถาม น้ำเสียงประชดประชันเต็มที

“ก็ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ท่านอยากให้ชาวต่างชาติ กับทางเรา เชื่อมสัมพันธ์กันน่ะสิ”
 เธอตอบ ด้วยสายตาที่ดูถูกซึ่งก็ปั้นขึ้นมาอย่างหลอกๆเช่นกัน “จะได้มีพวกชาวต่างชาติมาเข้ากับภาคีมากๆ

มันจะได้เปรียบพวก โวลเดอร์มอร์ ไงล่ะ (รอนสะดุ้งสุดตัว เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เอ่ยชื่อจอมมารออกมา)
โธ่รอน เห็นแก่สวรรค์เถอะ เธอพูดชื่อเขาซะที มันไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้นหรอกนะ”

“ช่างฉันเถอะ เธอน่ะอ่านต่อได้แล้ว” เขาบอกอย่างหงุดหงิด เฮอร์ไมโอนี่ตวัดสายตาที่มองดู
เหมือนสายตาของมักกอนนากัลมากกว่าจะเป็นของเธอ มาให้รอน ก่อนจะเริ่มอ่านต่อไป

 ‘ก็เลยอยากจะทำอะไรให้มันเซอร์ไพร์พวกเขา (แน่นอนว่านักเรียนฮอกวอตส์ของฉันด้วย)
 ช่วยเขียนตอบกลับมากลับเฮ็ดวิก…  ’

“เขารู้ชื่อนกฮูกฉันได้ไงน่ะ” แฮร์รี่ร้อง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา เฮอร์ไมโอนี่จึงอ่านต่อให้จบ

‘... มากับเฮ็ดวิกอย่างเร็วที่สุด ฉันจะได้รีบส่งจดหมายไปหานักเรียนทุกคนก่อนจะเปิดเทอม

                                                                                     รักและเป็นห่วง
ศาตราจารย์ ดัมเบิลดอร์’

เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าจากจดหมายขึ้นมองแฮร์รี่ เพราะเขาก็รู้จักวัฒนธรรมของพวกมักเกิ้ลดีไม่แพ้เธอ

“พวกเขาทำอะไรนะ ในวันฮัลโลวีน”

“ทำอะไรเหรอ... “ แฮร์รี่คิ้วขมวดเข้าหากัน ขณะที่พยายามใช้สมาธิ
 คิดถึงวันฮัลโลวีนกับพวกเดอร์สลีย์ ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำอันเลวร้ายทั้งนั้น...

 เขาไม่เคยได้เสื้อผ้าสำหรับที่แต่งเป็นผี ปิศาจไปขอขนมพวกผู้ใหญ่เลย มีครั้งหนึ่ง
เขาถึงกับยอมเอาผ้าห่มไปพันรอบตัว แต่งตัวเป็นมัมมี่ เพื่อไปขอขนม

ซึ่งสุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อดัดลีย์และเพื่อนที่ชั่วร้าย รู้สึกว่าการวิ่งไล่แฮร์รี่เป็น
เรื่องที่น่าสนุกมากกว่า การแต่งเป็นผีไปขอขนมมิสซิสฟิก หลังจากครั้งนั้น
 เขาก็ไม่เคยฉลองวันฮัลโลวีนกับพวกเดอร์สลีย์อีกเลย

“แฮร์รี่ เธอจะคิดอีกนานมั้ย ฉันจะได้ไปนอนสัก 2-3 ตื่นก่อน” เฮอร์ไมโอนี่แหวใส่
 “ฉันรู้สึกว่า มีการแต่งชุดเป็นผีไปขอขนมพวกผู้ใหญ่ใช่มั้ย”

“ใช่ เป็นปีศาจก็ได้นะ”

“เป็นวัฒนธรรมที่ประหลาดดีนะ พวกมักเกิ้ลเนี่ย” นางวิสลีย์โผล่ศีรษะเข้ามาบอก แล้วหายวับไปอีก

“งั้นฉันไปบอกดัมเบิลดอร์ก่อนนะ” เฮอร์ไมโอนี่บอก ก่อนจะเอาข้าวของขึ้นไปข้างบน
 ด้วยคาถายกของ ซึ่งใช้ได้ผลดีทีเดียว

ในที่สุด เธอก็ขึ้นมาถึงห้องที่เธอเคยพักกับจินนี่อยู่ ซึ่งเป็นห้องที่กว้างไม่เบา
ถ้าเทียบกับห้องของ จินนี่ ที่บ้านโพรงกระต่าย หรือแม้แต่ห้องของเธอเองก็ตาม

เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหากระดาษเขียนจดหมายจากในลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือ
 ซึ่งเธอก็เจอแต่กระดาษที่พอเขียนตัวหนังสือลงไปแล้ว ก็จะดัดแปลงตัวหนังสือนั้นเป็น

คำหยาบขึ้นมาทันที เธอจึงตัดสินใจ เอากระดาษจากในxxxบของเธอจะดีกว่า
 แต่แล้ว เธอก็ต้องชะงัก เมื่อความคิดที่ปกติจะแล่นปรื๋อเข้ามาในสมองอันชาญฉลาดของเธอ กลับหนีหายไปหมด

“แล้วใครจะมาช่วยฉันคิดล่ะเนี่ย” เธอพึมพำอยู่คนเดียว และแล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมอง...

“แอ็กซีโอ” เฮอร์ไมโอนี่ร่ายคาถา ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปหาสมุดสีชมพูหวานแหววของเธอ

ขณะเดียวกันนั้นเอง มัลฟอยที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่ในห้องรับประทานอาหารของปราสาทมัลฟอย
 ที่ปราศจากมนุษย์ ยกเว้นเพียงเขาผู้เดียว แน่อยู่แล้ว นาร์ซิสซาร์ ผู้เป็นแม่ มัวแต่ไปวิ่งเรื่องของนายมัลฟอยอยู่
จึงไม่ได้มาทานอาหารพร้อมกับลูกชายมาหลายวันแล้ว

ด้วยความกังวลของมัลฟอย ที่เกรงว่า เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เขียนหาเขา เขาจะไม่รู้
 เวลาที่เขาไม่ได้อยู่ในห้อง เขาจึงนำสมุดเล่มสีฟ้าของเขาติดตัวไปทุกที่...

และแล้ว แสงสีฟ้าก็เปล่งออกมาจากสมุด ทำเอาเขาสำลักนมยกใหญ่

‘เฟเร็ต’

‘ว่าไง... นี่เธอรู้บ้างมั้ย เธอเกือบจะฆาตกรรมฉันซะแล้วนะเนี่ย’

‘ทำไมล่ะ’

‘ช่างเถอะ ไม่สำคัญนักหรอก ว่าแต่เธอมีอะไรรึเปล่า’

‘มี... มีสิ ฉันอยากจะปรึกษาอะไรนายหน่อยน่ะ’

‘อะไรเหรอ’ เขาดื่มนมที่เหลือจนหมดรวดเดียว

‘คือว่า ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ น่ะ… ‘ เด็กชายนิ่วหน้าเมื่อชื่อดัมเบิลดอร์โผล่ขึ้นมา
 ‘ท่านถามฉันว่า วันฮัลโลวีนน่ะ พวกมักเกิ้ลทำอะไรกันบ้าง’

‘แล้วทำอะไรบ้างล่ะ’ เด็กชายแกล้งทำเป็นอยากรู้ ทั้งที่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว
อย่างที่เรียกได้ว่า ไม่น่าจะทำได้ เมื่อคิดว่าต้องทำอะไรที่เกี่ยวกับ มักเกิ้ล

‘ก็ พวกมักเกิ้ลเด็กๆจะแต่งตัวเป็น พวกปิศาจนะ แล้วก็ไปขอขนมพวกผู้ใหญ่กัน
 สนุกดีเหมือนกันล่ะ ฉันเองก็เคยทำ’

‘งั้นเหรอ’

‘อื้ม... แล้วท่านก็อยากจะเอาวัฒนธรรมนี้ มาต้อนรับ นักเรียนจาก เดิร์มสแตรงค์ และโบส์บาตงน่ะ นายว่าดีมั้ย’

“ ’อย่าเชียวนะ’ ” เด็กชายอุทานขึ้น พร้อมกับตัวหนังสือที่เขียนออกไปโดยไม่รู้ตัว

‘หมายความว่าไง’ เฮอร์ไมโอนี่ชุนกึก ‘นายยอมรับอะไรก็ตามที่เป็นมักเกิ้ลไม่ได้ใช่มั้ย
 งั้นนายก็คงยอมรับฉันไม่ได้เช่นกันสินะ’

‘ออทเทอร์... ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันน่ะยอมรับได้อยู่แล้ว’
 มัลฟอยโกหกหน้าซื่อๆ ‘เพียงแต่ว่า ฉันกลัวว่าคนอื่นจะรับไม่ได้ต่างหาก ไม่ได้หมายถึงฉันซะหน่อย’

‘ยอมรับไม่ได้เหรอ’

‘ใช่สิ เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะยอมรับอะไรที่เป็นมักเกิ้ล
ได้เหมือนกับเธอหรอกนะ’ เด็กชายบอกราวกับว่าเขากำลังสอนเด็กอนุบาลว่า 1+1 เท่ากับ 2 ‘แล้วอีกอย่างนะ

 วัฒนธรรมที่เธอว่าเนี่ย มันเป็นของเด็กไม่ใช่เหรอ แล้วพวกเรานี่ก็เด็กซะเหลือเกินนะ
ยังไงๆ ฉันก็ว่ามันไม่เข้าท่าเลย เธอคิดอย่างอื่นจะดีกว่านะออทเทอร์

‘แต่มีวัฒนธรรมที่ผู้ใหญ่ทำเหมือนกันนะ’

‘อย่าเลย ถึงยังไง ฉันก็ยืนยันคำเดิม’ มัลฟอยบอกอย่างดื้อดึง

‘ก็ได้... งั้นนายก็ช่วยคิดหน่อยสิ’ ในที่สุดเด็กหญิงยอมจำนนจนได้

เป็นเวลานานพอดูทีเดียวที่ทั้งสองเงียบไป ไม่มีใครเขียนอะไรลงไป ในที่สุด
 มัลฟอยก็ทำลายความเงียบอันน่าอึดอัดนี้ไป

‘เธอว่าพวกมักเกิ้ลแต่งตัวเป็นอะไรนะ ในวันฮัลโลวีนน่ะ’ เด็กชายถามขึ้น เผื่อจะมีไอเดียอะไรดีๆขึ้นมาบ้าง

‘แต่งตัวเป็น ปิศาจ... ‘

“ปิศาจเหรอ ใช่สิ ทำไมฉันถึงได้โง่ขนาดนี้เนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่เคาะหัวตัวเองอย่างแรง

‘เฟเร็ต ฉันรู้แล้ว ว่าจะทำอะไร’

‘ทำอะไรเหรอ’

‘เราก็ให้นักเรียนแต่งตัวเป็นพวกปิศาจสิ แบบพวกงานแฟนซีไง
แล้วก็ประกวดกัน ใครถูกใจกรรมการ ก็จะได้รางวัลน่ะ ดีมั้ย’

‘ก็... ดี’

“กว่าเก่า” เด็กชายเสริม เพราะอย่างน้อย ก็ไม่ใช่อะไรที่เป็นมักเกิ้ลซะทีเดียว (ในโลกเวทมนตร์ก็มีงานแฟนซีเช่นกัน)

‘งั้นเป็นอันตกลง นายเตรียมรับจดหมายอีกฉบับจากฮอกวอตส์ได้เลย’
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างพอใจในตนเอง ให้กับหน้ากระดาษสมุด

‘แน่อยู่แล้ว’ มัลฟอยรับคำ แต่ริมฝีปากแบะออก ถึงยังไง เขาก็ไม่ต้องใช้วัฒนธรรมของพวกมักเกิ้ลแบบเต็มๆ

‘งั้น ฉันขอไปเขียนหา ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ก่อนนะ’

‘หืม... ใช้เสร็จแล้วก็เฉดหัวทิ้งเลยนะ’
‘ไม่หรอก ขอบใจนายด้วยนะ’

‘ให้มันได้ยังงี้สิ’

‘งั้นฉันไปจริงๆนะ’

“ ‘เดี๋ยว’ “ อีกครั้งที่เขาร้องขึ้น พร้อมกับตัวหนังสือ

‘อะไรเหรอ’

‘คือ... ‘ เขาหยุดเพียงแค่นั้น

‘อะไรล่ะ คือ ที่ว่าเนี่ย’ เด็กหญิงเริ่มเดือด

‘คือ... ‘ เด็กชายอั้มอึ้ง ‘เธอจำที่ฉันขอเธอไปงานเลี้ยงเต้นรำวันคริสมาตร์ได้มั้ย’

‘ได้สิ’ เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ใบหน้าเป็นจุดศูนย์รวมของเลือดทั้งตัว ‘ทำไมเหรอ’

‘เปล่าหรอก แค่เตือนน่ะ เผื่อว่าเธอจะลืม’ เด็กชายบอก ใบหน้าเป็นสีจัด

‘ฉันจะลืมได้ไงล่ะ จะได้เห็นนายทั้งที’

‘เรื่องนี้ลืมไม่ได้เชียวนะ’

‘มันแน่อยู่แล้ว ฉันอยากเห็นใจจะขาด ภาวนาแค่ไม่ให้ฉันลงแดงตายอยู่หน้างานละกัน’
 เด็กหญิงประชด ‘ฉันไปจริงๆๆๆๆๆๆๆ แล้วนะคราวนี้’

‘บาย’

‘บาย’

ทั้งสองปิดสมุดลง เฮอร์ไมโอนี่หยิบกระดาษขึ้นมาเขียนจดหมายถึงดัมเบิลดอร์

เธอจรดปลายปากกาลงที่หัวกระดาษ...


‘ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์

หนู เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ นะคะ  ที่ศาสตราจารย์ถามหนูเรื่อง
งานวันฮัลโลวีนน่ะค่ะ พวกมักเกิ้ลที่เป็นพวกเด็กๆจะแต่งตัวเป็น ภูติ ผี ปีศาจ ไปขอขนมพวกผู้ใหญ่ค่ะ

แต่ถ้าถามหนู หนูไม่คิดว่าจัดแบบนี้จะดีนักหรอกค่ะ เพราะมีคนจำนวนมากที่รับ
 วัฒนธรรมของพวกมักเกิ้ลไม่ได้ แถมพวกหนูก็ไม่ใช่ว่าจะเด็กๆแล้ว

หนูขอเสนอศาสตราจารย์ว่า ให้พวกนักเรียน แต่งตัวเป็นปิศาจ
 ไปในงาน แล้วก็จัดการประกวดขึ้น ตั้งรางวัลให้น่าสนใจ
 ถ้าใครถูกใจกรรมการก็ได้รางวัลไป เอาซัก 4 รางวัลก็พอค่ะ

ยังไง ศาสตราจารย์ก็ช่วยเอาไปพิจารณาด้วยนะคะ

                                                                                             ด้วยความเคารพนับถือ

                                                                                            เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์’

เธออ่านจดหมายทวนอีก 2 รอบ แล้วลงไปในห้องทานอาหาร ขอยืมเฮ็ดวิกจากแฮร์รี่ เพื่อมาส่งจดหมาย

“เธอคิดออกแล้วเหรอ เฮอร์ไมโอนี่ ว่าจะจัดงานอะไร” แฮร์รี่ถามขึ้นทันที

“มันแน่อยู่แล้ว”

“งั้นเธอก็บอกเราหน่อยสิ” รอนร้องอย่างตื่นเต้น

“ไม่เอาหรอก รอน เดี๋ยวเธอก็ไม่ตื่นเต้นน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างไว้ตัว

“เธอนี่ นับวันจะเหมือนแม่ฉันซะแล้ว” รอนพึมพำ ทว่าก็ยังเข้าหูเฮอร์ไมโอนี่อยู่ดี
 ก่อนที่จะเกิดศึกสงครามขึ้น แฮร์รี่จึงรีบยุติสงครามครั้งนี้ ด้วยการให้เฮอร์ไมโอนี่ยืมเฮ็ดวิกไป อย่างไม่รีรอ

“ขอบใจนะแฮร์รี่” เธอบอกเรียบๆ แต่สายตาที่มองรอนกลับตรงกันข้าม แล้วเชิดออกไปจากห้อง

“รอน แม่ได้ยินนะ” นางวิสลีย์ส่งเสียงดุๆมาให้รอน...

ไม่กี่นาทีต่อมา เฮอร์ไมโอนี่ก็มาปรากฏอยู่ที่ริมหน้าต่างในห้องของเธอ
 เตรียมพร้อมสำหรับการปล่อยเฮ็ดวิกออกไปส่งจดหมาย

“ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์นะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกกับนกฮูกสาว
ขณะที่มันทิ้งตัวไปในอากาศ ปีกทั้งสองกางออกเพื่อโผบิน “ระวังตัวด้วยนะ เฮ็ดวิก”
 เธอตะโกนบอก ในระหว่างที่มองดูมันบินไปจนลับสายตา

****************************************

เช้าวันต่อมา ในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารเช้าอยู่ในห้องทานอาหาร
นางวิสลีย์ก็เข้ามาพร้อมกับจดหมายจากฮอกวอตส์ทั้ง 4 ฉบับ

“เอ้ารอน นี่ของลูก” เธอบอก พลางยื่นจดหมายให้ทีละคน “นี่ของจินนี่ แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่จ๊ะ”

“ขอบคุณค่ะ/ฮะ คุณนายวิสลีย์” แฮร์รี่ และ เฮอร์ไมโอนี่บอกพร้อมกัน ขณะที่รับจดหมายมา

“โอ้โห... เนี่ยเหรอ เฮอร์ไมโอนี่ ที่เธอไม่ยอมบอกพวกเราเมื่อวาน” รอนร้องกึ่งทึ่งกึ่งโกรธ

เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่พยักหน้าให้เท่านั้น เพราะเธอก็กำลังอ่านจดหมายอย่างถี่ถ้วน ไม่คิดว่าจดหมายจะมารวดเร็วเช่นนี้

“งานแฟนซีชุดผี” จินนี่ครางเบาๆ

“เจ๋งมั้ยล่ะจินนี่”

“สุดยอดเลยค่ะ หนูชอบจัง”

แต่ทั้งสองหารู้ไม่ว่าในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังชื่นชมกับความคิดของตน
 และจินนี่ที่กำลังชื่นชมความคิดของเฮอร์ไมโอนี่อยู่นั้น แฮร์รี่และรอนมองหน้ากัน
 สีหน้าราวกับ ชาตินี้เขาจะไม่มีวันได้ฉลองงานวันคริสมาตร์อีกแล้ว




TBC

No comments:

Post a Comment