Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Sunday, September 14, 2014

Part II อดีตที่หวนคืน: Chap 11


“อย่าขยับนะ” เขาเอ่ยอย่างแผ่วเบา เด็กหญิงมองตามสายตาที่แสดงถึงความเคร่งเครียดและ
หวาดกลัวระคนกัน เธอค่อยๆหันไปและสบตากับเจ้างูนั่น อึดใจหนึ่งเธอสูดหายใจเอาออกซิเจนเข้าเต็มปอด
 แล้วผ่อนเอาออกด้วยเสียงกรีดร้องดังลั่น

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

“ทำอะไรสักอย่างสิ ด๊อบบี้” เด็กชายตะโกนบอกเอลฟ์ประจำบ้าน ที่ตอบสนองความต้องการของเขา
ทันเวลาพอดี.. เจ้างูตั้งท่าจะจู่โจม ทันใดแสงสีเหลืองดังสายฟ้าก็ตกลงตรงหน้างูตัวนั้น
 ชั่วพริบตามันก็หายไปในที่สุด

“เธอเป็นอะไรรึเปล่า” เด็กชายก้มลงถามเด็กหญิง ที่น้ำตาไหลพราก ตัวของเธอสั่นสะท้านและไม่ขยับ
 จนเด็กชายต้องเขย่าตัว

“เฮอร์ไมโอนี่ ลูกอยู่ไหนน่ะ เป็นอะไรไป” เสียงผู้เป็นพ่อของเด็กหญิงดังขึ้น

“นั่นพ่อเธอหรือ”เด็กชายถามแล้วเอื้อมมือไปฉุดเด็กหญิงที่พยักหน้าตอบให้ออกมาจากพุ่มไม้

“เฮอร์ไมโอนี่ ลูกอยู่ไหน เฮอร์ไมโอนี่” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

เด็กชายลุกขึ้นยืนมองกลับไปที่เอลฟ์ประจำบ้านที่บัดนี้หายไปแล้ว จากนั้นจึงมองหาเสียงเรียก
นั่นที่ดังขึ้นอีกครั้ง “เฮอร์ไมโอนี่ ลูกอยู่ไหน”

“อยู่นี่ฮะ เธออยู่ตรงนี้” เด็กชายตะโกนบอก



“เหอะ แค่งูตัวเดียวเธอก็ร้องซะเสียงดัง” เสียงของชายหนุ่มวัย สิบหก กล่าวกับสาวน้อยรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งสองกำลังมองดู อดีต ของตนผ่านพุ่มไม้หนาเตี้ยก่อเป็นโครงราวกับตั้งใจให้เป็นที่ลับสำหรับ
พักผ่อนของผู้รักความสงบ พื้นหญ้านิ่มสบาย แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี

“แล้วมันผิดตรงไหน ในเมื่อฉันตกใจจริงๆนี่” สาวน้อยโต้กลับ ขณะมองดู ผู้เป็นพ่ออุ้มตัวของเธอ
ในวัยเด็กแล้วปลอบขวัญเป็นการใหญ่



“เกิดอะไรขึ้น เฮอร์ไมโอนี่” นายเกรนเจอร์ถามลูกสาวตัวน้อยของเขาแต่ไม่ได้รับคำตอบจากเธอ
 จึงหันมาถามเด็กชายแทน “เกิดอะไรขึ้น“

“เอ้อ เธอเจองูเข้าน่ะฮะ”

“งูหรือ” ชายคนนั้นอุทานสีหน้าตื่นตกใจ “แล้วมันกัดลูกรึเปล่า”

เด็กหญิงส่ายหัว

“แล้วมันไปไหนแล้วล่ะ”

“เอ่อ” เด็กชายเริ่มอย่างกระอักกระอ่วน “ผม..ผมไล่มันไปแล้วฮะ”

“จริงหรือ ขอบใจเธอมาก ถ้าไม่ได้เธอคงจะแย่ เอ้อ เรากำลังปิกนิกกันอยู่ เธออยากไปร่วมด้วยมั้ย”

“เอ่อ จะดีหรือฮะ” เขายังไม่ได้พูดอะไร พ่อของเด็กหญิงก็จูงมือเขาแล้วพาไปยังโต๊ะกลางสวนที่บ้านของเขา



“ดีนะที่ฉันช่วยเธอไว้ได้ทัน” มัลฟอยกล่าวล้อเลียนหญิงสาว ที่มือทั้งสองกำแน่นด้วยความลุ้นระทึก

“ใครว่านายช่วยฉันกัน เห็นๆอยู่ว่าเป็นฝีมือของด๊อบบี้” เธอแย้ง แล้วหันกลับมาสนใจเหตุการณ์ตรง
หน้าราวกับกำลังนั่งชมภาพยนต์

“แหงสิ ตอนนั้นฉันยังไม่มีไม้กายสิทธิ์นี่” เขากล่าวประชดอย่างน้อยใจ แล้วเบนหน้าหนีไปทางอื่น

“ถึงยังไงฉันก็จำได้ว่านายช่วยฉันอยู่ดีนั่นแหละ ขอบใจนะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวพร้อมกับตบบ่าชายหนุ่มเบาๆ
แล้วยิ้มให้เขาก่อนจะหันกลับไปยังเหตุการณ์ตรงหน้า ละสายตายจากใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยิ้มน้อยๆ ตอบกลับมา

“เราเข้าไปใกล้กว่านี้กันดีกว่า มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวแล้วดึงมือเขา แต่เขากลับไม่ขยับเขยื้อน “เป็นอะไรไป”

“เอ่อ ฉัน..ฉันไม่..ฉันไม่คิดว่า.. ฉันอยากจะจำอดีตได้” เขากล่าวอย่างลังเล

“… ทำไมล่ะ”

“ก็ถ้าจำได้ แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา หรือถ้าเราจะมาเปลี่ยนแปลงอะไรที่นี่ ที่มันเคยเกิดขึ้นกับเรา
 มัน..อาจจะเปลี่ยนช่วงเวลาหลังจากนั้นด้วยเหมือนกัน.. บางทีเธอกับฉัน อาจจะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้.. ด้วยกัน”

“มัลฟอย เราไม่ได้มาที่เพื่อที่จะแก้ไขมันซักหน่อย” เฮอร์ไมโอนี่กล่าว ยังไม่ปล่อยมือไปจากเขาแต่
จับเขาไว้แน่น “เรามาที่นี่ เพราะ..”

“ยัย รีแอน กับ รีอาส่งเรามา” เขากล่าวแค่นหัวเราะอย่างปลงๆ

“ใช่ ยังไง เราก็หาทางกลับไปไม่ได้นี่ แล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ ถ้าเราจะได้รู้อะไรที่ถูกลบเลือนหายไปน่ะ”

บางทีมันอาจจะมีประโยชน์อะไรในอนาคตก็ได้”

“แล้วมันคืออะไรล่ะ”

“นี่ฉันไม่ใช่ผู้หยั่งรู้อนาคตนะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับ “ไปกันเถอะ เข้าไปใกล้กว่านี้กัน”

“ฉันไม่เข้าใจเลย ทำไมเราต้องมาหลบอยู่อย่างนี้ด้วย” เขาพูดขณะเดินตามเด็กสาวไป
 “พวกเขาจำเราไม่ได้หรอกน่า เกรนเจอร์”

“อาจจะใช่ แต่กันไว้ดีกว่าแก้ มันผิดนักรึไง”

ทั้งสองขยับไปตามแนวพุ่มไม้ ให้ใกล้พอได้ยินบทสนทนา



“เธอชื่ออะไรจ๊ะ” ผู้เป็นแม่ของสาวน้อยถามเด็กชาย หลังจากได้ยินเรื่องเล่าจากสามีของเธอ

“ เดรโกฮะ เดรโก มัลฟอย” เด็กชายกล่าวด้วยท่าทางเขินอาย “ยินดีที่ได้รู้จักฮะ เอ่อคุณ..”

“เกรนเจอร์จ้า” เธอตอบมองไปที่ลูกสาวที่ได้รับการปลอบโยนจากหลานชายของเธอ
และกำลังหัวเราะร่า ”นั่นเฮอร์ไมโอนี่ ลูกสาวฉัน และจัสติน ลูกพี่ลูกน้องของเฮอร์ไมโอนี่ เอาล่ะ
เธออยากจะทานอะไร”

เด็กชายยังไม่ทันตอบ คุณนายเกรนเจอร์ก็จัดแจงตักอาหารเรียบร้อย

“สวัสดีอีกครั้ง” เด็กหญิงทักทายเด็กชาย ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ “นายชื่ออะไร”

“เดรโก” เขาตอบ “แล้วเธอล่ะ”

“เฮอร์ไมโอนี่”

“เฮอร์..อะไรนะ” เด็กชายขมวดคิ้ว

“เฮอร์ไมโอนี่” เธอตอบ

“เฮอร์อายโมนี่”

“ไม่ใช่ๆ นี่ๆ จัสติน สอนเขาหน่อยสิ” เฮอร์ไมโอนี่หันไปเรียกญาติของเธอที่นั่งฟังอยู่

“อ้า แต่ก่อนฉันก็เคยสอนเฮอร์ไมโอนี่ ให้เรียกชื่อตัวเองเหมือนกัน” จัสตินเริ่ม “เฮอร์-ไม-โอ-นี่”

“เฮอร์ ..เฮ้อ” เดรโกพยายามพูดตาม “..มายโอนี่”

“ใกล้แล้ว” เสียงนายเกรนเจอร์เอ่ยขึ้น “ลองอีกครั้งซิ”

“เฮอร์ไมโอนี่” เดรโกพูดแล้วจึงโพล่งออกมาว่า “เฮอร์มี่“

“ไม่ใช่ๆ อันแรกอะถูกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ว่า

“ก็จะเรียก เฮอร์มี่ ง่ายกว่าเยอะ” เด็กชายเถียง

“เฮอร์ไมโอนี่” เด็กหญิงหน้ามุ่ยไม่พอใจ

“เฮอร์มี่”

“เฮอร์ไมโอนี่”

“เฮอร์มี่ แล้วทำไมคุณต้องตั้งชื่อเธอซะยาวด้วยล่ะฮะ” เดรโกหันไปถามผู้ที่มีอายุมากกว่าเขา
 ซึ่งได้รับแต่เสียงหัวเราะและปราศจากคำตอบ

atvsb

“ชื่อฉันมันเรียกยากขนาดนั้นเลยหรือไง” สาวน้อยกล่าวอย่างไม่พอใจ
ในขณะที่คนข้างกายหัวเราะน้อยและไม่ตอบอะไร

q

“ว่าแต่เธออยู่บ้านหลังนั้นนานแล้วเหรอ ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย เดรโก” นายเกรนเจอร์ถาม

“นั่นบ้านป้าผมครับ พ่อกับแม่ไม่ค่อยมีเวลาเลยให้ผมมาอยู่กับป้า แต่ดูเหมือนป้าก็ไม่
ค่อยมีเวลาเท่าไหร่” เดรโกพูดเสียงเศร้า “ผมจะแวะมาที่นี่บ่อยๆได้มั๊ยฮะ”

“ได้สิจ๊ะ เฮอร์ไมโอนี่จะได้มีเพื่อนเล่น” นางเกรนเจอร์ตอบอย่างอารมณ์ดี

“ใช่ๆ เดรโก เฮอร์ไมโอนี่ จะได้มีเพื่อเล่น” เด็กหญิงเน้นชื่อตัวเองและยิ้มร่าให้เขาที่ยิ้มตอบ

“ขอบคุณมากฮะ”




“นี่ฉันมีป้าที่มีบ้านอยู่ในเขตมักเกิ้ลด้วยเมื่อไหร่กัน” ชายหนุ่มมุ่นคิ้วกล่าวกับตัวเองเบาๆ
ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังบ้านที่อยู่ถัดไป “แล้วป้าคนไหนล่ะ”

“ฉันคงจะรู้หรอกนะ จำได้แต่ว่า อีกไม่นาน มันก็กลายเป็นบ้านร้างอย่างกับบ้านผีสิงอย่างนั้นแหละ”

เฮอร์ไมโอนี่กล่าว “นายไม่ได้สังเกตตอนที่ไปบ้านฉันหรอกเหรอ เมื่อปิดเทอมหน้าร้อนที่แล้วน่ะ”

“เปล่า” นั่นคือคำตอบที่เธอคาดว่าจะได้รับและก็ได้มาจริงๆ

“โอ๊ย!!!” มัลฟอยแผดเสียงดังลั่น ส่งผลให้เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอยู่ข้างตกใจด้วยเช่นกัน

“อะไรของนาย..” เสียงของเธอขากไปเมื่อลูกบอลสีทองตกลงมาตรงหน้าเธอ “แค่นี้ต้องร้องเสียงดังด้วยรึไง”

“แล้วเป็นเธอ ไม่ตกใจรึไง” เขากล่าวแล้วลูบศีรษะตัวเองเบา และเพ่งมองไปยังทิศทางที่ลูกบอลพุ่งมา “..แย่ล่ะสิ”


TBC




No comments:

Post a Comment