Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Wednesday, September 10, 2014

13 The decision 11


ก่อนการแข่งขันหนึ่งวันแอนเจลลิน่า จอห์นสันเรียกพบลูกทีมที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านซึ่งก็รวมทั้งแฮร์รี่และรอนซึ่งต่าง
คนต่างก็มีท่าทางกระวนกระวายกับการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศกับสลิธีรินในวันพรุ่งนี้ พวกเขากระวนกระวายมากถึง
ขนาดปฏิเสธโอกาสที่จะไปฮอกส์มี๊ดกับคนอื่น ๆ ที่เตรียมตัวกันตั้งแต่กลางคืน ทั้งเตรียมเสื้อกันหนาวหนา ๆ สีสดใส
 เขียนรายการของที่ตั้งใจจะซื้อ รวมถึงนัดกับเด็กชายหรือเด็กหญิงที่ตัวเองคิดว่าดูดีที่สุด

แฮร์รี่กับรอนตื่นแต่เช้า พวกเขาสวมชุดควิดดิชกันอย่างรวดเร็วพร้อมกับถือไม้กวาดลงมายังชั้นล่าง ตลอดทางทั้งสอง
สวนกับด็กหลายคนที่กำลังคุยถึงแผนการที่จะทำในวันนี้พร้อมกับหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นรู้
ตัวดีว่าเพื่อนทั้งสองต้องการอะไรจึงไม่ได้พูดถึงฮอกส์มี๊ดให้ได้ยิน - - น่าแปลกที่แฮร์รี่กับรอนไม่รู้สึกอิจฉาเด็กคนอื่น ๆ
 เลยสักนิด เพราะตอนนี้เส้นประสาทของพวกเขาเครียดเขม็งและสมองก็เต็มไปด้วยกลวิธีต่าง ๆ ที่จะแข่งขันในวันรุ่งขึ้น
 ยิ่งได้ยินข่าวเกี่ยวกับชัยชนะและการฝึกของสลิธีรินพวกเขาก็ยิ่งกดดันกันมากขึ้นกว่าเดิม

แต่แล้วแผนทุกอย่างก็เหมือนสลายไปต่อหน้าต่อตาเมื่อทั้งสองเห็นแอนเจลลิน่าจอห์นสันไม่ได้สวมชุดควิดดิชและ
ไม่ได้ถือไม้กวาดกำลังนั่งรอพวกเขาอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่นรวม - - ก่อนจะประกาศว่าวันนี้ไม่มีการซ้อมใด ๆ
 ทั้งสิ้น เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อน นักกีฬาคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเดินมาสมทบมีท่าทางไม่พอใจเพราะพวกเขาต้องการซ้อม
กันจนนาทีสุดท้าย เพื่อจะได้มั่นใจว่าจะสามารถถล่มทีมสลิธีรินได้อย่างย่อยยับ

“โอเค ฉันเข้าใจว่าทุกคนรู้สึกยังไง” แอนเจลลิน่ายกมือสองข้างขึ้นปรามทุกคนที่กำลังล้อมอยู่รอบตัวเธอ
 ก่อนจะกวาดตามองลูกทีมที่กำลังทำท่าเหมือนจะประท้วง

“แต่เราจำเป็นต้องพักก่อนแข่งหนึ่งวัน เพราะถ้าวันนี้ซ้อมกันหนักจนมีใครบาดเจ็บล่ะก็...ทุกอย่างจบ!”

“แต่เราจะแพ้ไม่ได้นะ!” เคตี้ เบลล์พูดขึ้น เป็นผลให้คนอื่น ๆ เริ่มกันบ้าง

“สลิธีรินแกล้งเด็กบ้านเราหลายคนแล้ว คนที่มีต้นหอมออกจากจมูกน่ะน้องชายฉันเอง - - ฉันจะแก้แค้น!”

แฮร์รี่กับรอนผสมโรงไปด้วย

“แล้วมัลฟอยก็จับลูกสนิชได้เร็วขึ้นแค่ไหนเธอรู้บ้างรึเปล่า!” แฮร์รี่โวย

“ฉันต้องฝึกท่าป้องกันอีกนะ!”

“ฉันได้ยินมาว่ามอนทาคิววางแผนกับเวอร์ริงตันว่า...”

“หยุด - - หยุด - - หยุด !!!” 

แอนเจลลิน่ายกมือห้ามอีกเป็นครั้งที่สอง ทุกคนยอมเงียบลงเธอจึงพูดต่อ

“ฉันนึกแล้วว่าพวกเธอต้องไม่พอใจ แต่ฉันไม่ต้องการให้ใครได้รับอันตรายในวันนี้ทั้งนั้น 
ถ้าไม่กลัวบาดเจ็บก็ขอให้ค่อยเจ็บกันพรุ่งนี้....ฉันขอความร่วมมือจากทุกคน!"

ท้ายประโยคเด็กสาวย้ำหันไปย้ำกับแฮร์รี่และรอนที่ทำท่าเหมือนจะเถียงอะไรอีกยาวยืด
 สุดท้ายหลายคนก็ถอนใจแล้วก็แยกย้ายกันกลับไปเปลี่ยนชุด

“เกิดอะไรขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่ที่เดินลงมาจากฝั่งหอนอนหญิงถาม เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสบาย ๆ 
และมีเสื้อกันหนาวตัวใหญ่คล้องอยู่ที่แขน

“แอนเจลลิน่าให้เรางดซ้อมวันนี้”

“ทำไมล่ะ” เด็กหญิงเลิกคิ้วสงสัย

“เธอกลัวเราบาดเจ็บ...ไม่มีเหตุผลเลย สลิธีรินอาจจะนำหน้าเราไปได้” แฮร์รี่บ่นอย่างไม่พอใจ

รอนเห็นเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ที่แขนของเฮอร์ไมโอนี่จึงถามขึ้น

“เธอจะไปฮอกส์มี๊ดเหรอ”

“ใช่ ฉันจะไปกับ - -” เฮอร์ไมโอนี่พูดยังไม่ทันจบเนวิลล์ก็เดินมาหาทั้งสามคน แฮร์รี่ทักขึ้นก่อน

“นายจะไปฮอกส์มี๊ดกับเฮอร์ไมโอนี่เหรอ”

“ฮื่อ” เนวิลล์ตอบ

“ดีนไปไหนล่ะ” รอนถามเพราะปกติแล้วไม่ว่าจะยังไงเนวิลล์ต้องหาทางตามดีนไปให้ได้ทุกที

“ดีนโกรธฉัน” เนวิลล์พูดเสียงอ่อย

“ฉันทำพายตกใส่หัวเขาจากระเบียง ตอนที่เขากำลังชวนเด็กเรเวนคลอคนหนึ่งไปฮอกส์มี๊ดด้วยกัน”

“ฉันก็เลยจะไปเป็นเพื่อนเขาแทน”เฮอร์ไมโอนี่บอกรอน

“เราจะไปด้วย” รอนเน้นแล้วหันไปมองแฮร์รี่เหมือนจะถามว่า “ใช่ไหมแฮร์รี่” แฮร์รี่แอบยิ้ม - - เขารู้ว่ารอนคิด
อะไรและก็รู้อีกนั่นแหละว่ารอนงี่เง่าพอที่จะ “หึง” ได้แม้กระทั่งเนวิลล์

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพวกเขาทั้งสี่คนก็ร่วมเดินไปกับเด็กคนอื่น ๆ ที่ส่งเสียงพูดคุยเอะอะกันไปตลอดทาง - -
 ฮอกส์มี๊ดในวันนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสะอาด และยังมีอีกมากที่กำลังร่วงหล่นจากท้องฟ้าสีเทาเหนือศรีษะ 
เด็กหลายคนที่เดินเข้าออกร้านขนมส่วนใหญ่จะเป็นเด็กชั้นปีหนึ่งถึงปีสามและปีอื่น ๆ บ้างประปรายเพราะเดี๋ยว
นี้เด็กชั้นปีเดียวกับแฮร์รี่หลายคนรวมทั้งปาราวตีหรือลาเวนเดอร์ก็เลิกกินขนมไปหลายอย่างด้วยเหตุผลยอดฮิต
ของพวกเด็กผู้หญิงก็คือ “กลัวอ้วน”

“นั่น…” รอนชี้ไปที่คน ๆ หนึ่งซึ่งเดินปะปนอยู่กับเด็กคนอื่น ๆ ตรงหน้าแล้วพูด

“มัลฟอย - - วันนี้หมอนั่นไม่ต้องมีแครบกับกอยล์คอยประคองรึไง”

มัลฟอยเดินอยู่เพียงลำพังด้านหน้าพวกเขา เด็กชายสวมเสื้อโค้ตสีดำเนื้อหนายาวคลุมเกือบถึงเข่า
 สวมหมวกสีดำแบบเดียวกับที่พวกเขาเห็นกันจนคุ้นตา แต่มันจะเป็นตัวเดิมหรือไม่นั้นไม่มีใครรู้
 พวกเขารู้แต่ว่ามัลฟอยคงจะชอบสีดำมากเป็นพิเศษ - - และสีดำก็เหมาะกับเขามากเสียจนราวกับถูกสร้างขึ้นมา
เพื่อคู่กับ “เดรโก มัลฟอย”

“หมอนั่นมานี่แสดงว่าสลิธีรินไม่ซ้อม” แฮร์รี่พูด

เนวิลล์ที่รู้รายละเอียดอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟัง

“ไม่ซ้อมเป็นบางคน ฉันได้ยินมาว่ามอนทาคิวสั่งเพราะอยากจะถนอมมัลฟอยไว้โดยเฉพาะ - -
 ส่วนแครบกับกอยล์โดนกักตัวไว้ที่สนามตั้งแต่เช้า ไม้กวาดรับน้ำหนักสองคนนั่นจนงอเป็นเปลญวนแล้ว”

“พรุ่งนี้เราจะเอาชนะหมอนั่น” แฮร์รี่พูดอย่างมั่นใจ

“แต่มัลฟอยดูแปลกไปนะ มีคนบอกว่าหมอนั่นเล่นควิดดิชเก่งขึ้นตั้งเยอะ” เนวิลล์บอกด้วยน้ำเสียงกังวล

“แล้วคิดว่าเรากลัวรึไง - - อ๊ะ!บ้าชะมัด” รอนร้องออกมาอย่างไม่พอใจที่เห็นมัลฟอยที่เดินนำกลุ่มพวกเขาอยู่เลี้ยวเข้า
ร้านไม้กวาดสามอันไปเสียก่อน เขาหันมาพูดกับเพื่อนอีกสามคน

“เราไปร้านอื่นกันดีกว่า - - ปล่อยให้หมอนั่นอยู่ในนั้นไปเถอะอยากกินอะไรก็กินไป...อาหารมื้อสุดท้ายแล้ว”

“รอน” เฮอร์ไมโอนี่หลุดปากเรียกชื่อเขาออกไปเมื่อได้ยินที่เขาพูด รอนเลิกคิ้ว

“มื้อสุดท้ายก่อนแพ้ไง เธอเป็นอะไรน่ะเฮอร์ไมโอนี่”

“เปล่า...ขอโทษที” เด็กหญิงหลบตา

“เราไปร้านมาดามพุดดี้ฟุตกันดูใหม่ ฉันได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงกันเยอะ” เนวิลล์เสนอ

“ฉันไม่เคยไปเลย ลองไปดูหน่อยก็ดี” รอนบอก

แฮร์รี่ทำหน้าแหยง ๆ แต่ก็เดินตามเพื่อนไป - - ก็ร้านนั้นเขาเคยไปนั่งกับโช แชงและก็ได้ความประทับใจไม่รู้ลืม
มาแล้วแต่ก็คิดว่าน่าจะให้คนอื่น ๆ ได้ลองเข้าไปดูบ้าง เพราะคำอธิบายคงไม่มีผลเท่าเจอด้วยตัวเอง

ภายในร้านไม้กวาดสามอันที่ทั้งสี่คนไม่ได้เข้าไปเวลานี้เต็มไปด้วยนักเรียนฮอกวอตส์ที่กำลังนั่งจับกลุ่มคุยกัน
อยู่หลายโต๊ะ แต่ก็มีลูกค้าอื่น ๆ ปะปนอยู่ด้วย บางคนก็มีท่าทางไม่พอใจกับเสียงจอแจของเด็ก ๆ สังเกตได้จาก
พ่อมดท่าทางอันธพาลที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ในร้านนี้เอาแต่ส่งสายตาตำหนิเด็กผู้หญิงที่กำลังหัวเราะคิกคักแบ่ง
กันดูของในถุงที่เพิ่งซื้อมา 

มัลฟอยเผลอหันซ้ายหันขวามองหาใครอีกคนที่เขาคิดว่าอาจจะนั่งอยู่ในนี้ - - ถึงแม้ว่าเป็นไปได้ที่จะเจอแต่เขาก็รู้
อยู่แก่ใจดีว่าความหวังนั้นถึงจะเป็นจริงขึ้นมาก็ไม่มีผลอะไรถ้าเธอนั่งอยู่กับศัตรูของเขา...เจ้าพอตเตอร์กับวิสลีย์

หญิงร่างสูงใหญ่สวมเสื้อโค้ทหนังมังกรที่ยืนอยู่ตรงเคานท์เตอร์ภายในร้านหันมาเห็นเขา เธอยิ้มกว้างให้เด็ก
ชายอย่างคุ้นเคยแล้วทัก

“ไงจ๊ะ เดรโก”

“คุณนายเคนท์” มัลฟอยมองเธอด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ เธอคือคุณนายเคนท์ มัวร์ที่เขาและเฮอร์ไมโอนี่เคย
ไปพักอยู่ด้วยเมื่อครั้งไปโฮมเสตย์ ถึงแม้ที่ถูกต้องควรจะเรียกเธอว่า “คุณนายมัวร์” แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะพอใจให้
ใครต่อใครเรียกว่า “คุณนายเคนท์” เสียมากกว่า

“ไม่รู้มาก่อนว่าคุณนายชอบมาฮอกส์มี๊ด” เขาเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

“ที่โปรดของหลานฉันเลยล่ะจ้ะ” เธอยิ้มแล้วตบถุงผ้าใบใหญ่ข้างตัวบนเคานท์เตอร์ที่ดูเหมือนจะบรรจุของฝาก
ไว้จนเต็มแล้วถาม

“เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ”

“เขา...” มัลฟอยหรุบตาลงแล้วไม่พูดอะไรอีก เพียงเท่านี้คุณนายเคนท์ก็เข้าใจ เธอมองหน้าอีกฝ่ายแล้วถอนใจเบา ๆ
 เหมือนกับเบื่อที่เห็นเด็กทะเลาะกันไม่รู้จักจบ

“นั่งดื่มกับฉันหน่อยไหม ถ้าเธอว่างฉันก็พอมีเวลานิดหน่อย” เธอชี้ไปที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้านที่ไม่มีใครนั่งอยู่ 
มัลฟอยพยักหน้ารับ

“บัตเตอร์เบียร์นะ อยากเลี้ยงอย่างอื่นที่แรงกว่านี้เหมือนกัน แต่คิดว่าที่นี่คงมีกฎห้ามเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะดื่ม”
 เธอยิ้มหยอกขณะเลื่อนเก้าอี้ลงนั่งพร้อมกับเด็กชาย ไม่ช้าบัตเตอร์เบียร์ร้อน ๆ สองแก้วก็ถูกยกมาเสิร์ฟ

“ถ้าเธอยินดีจะเล่า ฉันก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะฟังนะ”

“พ่อผมอยู่ที่อัซคาบันเพราะเขา” มัลฟอยเริ่มห้วน ๆ 

คุณนายเคนท์ตาเบิกกว้างขึ้นนิดหนึ่งมองอีกฝ่ายยกแก้วขึ้นดื่มอึกใหญ่จนเกือบหมดแก้ว - - เป็นครั้งแรกที่คนซึ่ง
ไม่สนใจกฎเกณฑ์ข้อบังคับอย่างคุณนายเคนท์รู้สึกขอบคุณกฎหมายในโลกเวทมนต์อยู่ในใจที่ห้ามเด็กยังไม่
บรรลุนิติภาวะดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์

“เขากับพวกเพื่อน ๆ เฮงซวยของเขา”

“เขาคงสะใจใช่ไหม” คุณนายเคนท์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ เหมือนเคย มัลฟอยเงยหน้าขึ้นแล้วปฏิเสธเพื่อปกป้อง
เฮอร์ไมโอนี่โดยไม่รู้ตัว

“เขาไม่…” พูดได้เพียงเท่านี้เด็กชายก็เม้มริมฝีปาก

“ถ้าอย่างนั้นเขาก็เสียใจสินะ” คุณนายยิ้มกว้างดักคำพูดของอีกฝ่าย

“เขาไม่รู้สึกอะไรต่างหาก - - เขาไม่ได้เสียใจเลยสักนิดที่ทำให้พ่อผมเดือดร้อน ไม่รู้ทำไมเขาต้องอยู่ฝ่ายตรง
ข้ามผมตลอด! ถ้าเขารักผมเขาก็ต้องเข้าข้างผมสิ!” คำพูดเริ่มพรั่งพรูออกมาจากปากของมัลฟอยราวกับหยุดไม่ได้ 
ที่ผ่านมาเขาไม่มีใคร...ไม่มีใครเลยที่จะรับฟังเรื่องภายในใจที่ราวกับจะฆ่าเขาให้ตายอยู่แทบทุกคืนวัน

“แล้วทำไมเธอไม่ก้าวข้ามฝั่งไปหาเขาก่อนล่ะ” คุณนายเคนท์ยิ้มอีก...ในที่สุดเธอก็รู้ความคืบหน้าของ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้

มัลฟอยเงียบไป ทั้งที่ในใจสับสนแทบบ้า

"แต่พ่อของผม..."

"พ่อเธอมาเกี่ยวตั้งแต่เมื่อไหร่" คุณนายเลิกคิ้ว

"พ่อผมก็สำคัญกับผมเหมือนกัน" มัลฟอยเถียง

"ถ้าเธอเลือกเฮอร์ไมโอนี่เท่ากับเธอเองก็เลือกจะดื้อกับพ่อเธอตั้งแต่แรกแล้วล่ะ" คุณนายเคนท์ยิ้มกว้าง

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก คุณนายเคนท์สนอกสนใจกับการแข่งขันควิดดิช
ที่มัลฟอยยกขึ้นมาพูดถึงมากเป็นพิเศษ

“ควิดดิชนัดชิงชนะเลิศพรุ่งนี้เหรอ” เธอถามอย่างสนใจ

“ผมเอาชนะได้แน่” เด็กชายยกแก้วขึ้นดื่มอีก

คุณนายเคนท์หัวเราะเบา ๆ กับความมั่นใจของอีกฝ่ายก่อนจะยกนาฬิกาในกระเป๋าขึ้นมาดู

“ได้เวลาซะแล้ว พอดีฉันนัดลูกชายเอาไว้ให้มารับด้านหลังฮอกส์มี๊ด คงต้องไปก่อน” เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้และยืน
ยันว่าจะเป็นคนจ่ายค่าบัตเตอร์เบียร์ทั้งสองแก้ว แต่มัลฟอยก็เดินตามออกมาที่หน้าร้าน เวลานี้เขารู้สึกอยากลับ
ไปที่หอมากกว่านั่งอยู่ที่นี่คนเดียว คุณนายเคนท์เอาถุงผ้าใบใหญ่ขึ้นพาดบ่า

“เอาไว้เจอกันนะจ๊ะ ฉันหวังว่าพบกันคราวหน้าฉันจะเห็นเธอสองคนยืนอยู่ด้วยกันที่หน้าบ้านฉัน” เธอพูดจบ
ก็ยิ้มให้กับเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโบกมือให้กับมัลฟอยแล้วเดินจากไป

“คุณนายเคนท์คะ” 

เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังมัลฟอย เมื่อเขาหันไปก็เห็นเฮอร์ไมโอนี่กำลังเดินตรงมาที่เขา 
ตามเนื้อตัวมีเศษกระดาษระยิบระยับสีชมพูและสีเงินติดอยู่เต็มตัวและค้างอยู่บนเส้นผมหลายแผ่นและเธอก็กำ
ลังพยายามปัดมันออกไปให้มากที่สุด

“มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่หยุดยืนห่างจากเขาไปหลายก้าว แก้มของเด็กหญิงร้อนซู่ขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์
ครั้งสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะเลิกมองหน้ากันไป และความรู้สึกทั้งโกรธและอายของเธอนั้นยังคงอยู่ครบถ้วน

ทั้งสองสบตากัน มัลฟอยกวาดตามองเฮอร์ไมโอนี่ทั้งตัวนั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าแม้แต่เสื้อกันหนาวเนื้อหน
าที่สวมอยู่ตอนนี้ยังบางเกินไปสำหรับสายตาที่เคยเห็นผิวเนื้อของเธอแม้จะเป็นเพียงส่วนน้อยก็ตาม - -
 มัลฟอยละสายตาไปมองคุณนายเคนท์ซึ่งตอนนี้เดินปะปนกับผู้คนและไกลออกไปมากแล้ว

“เขาไม่ได้ยินแล้วล่ะ” เด็กชายหันกลับมามองหน้าเฮอร์ไมโอนี่แล้วพูด

“เกรนเจอร์ ฉัน...มีอะไรอยากพูดกับเธอหน่อย…”

เฮอร์ไมโอนี่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย เธอยังลังเลที่จะให้โอกาสเขาแต่ขาทั้งสองข้างก็ไม่ขยับหนี มัลฟอยจึงพูดต่อ

“บางทีฉันอาจจะ...”

“เฮ้! นายจะทำอะไรน่ะ”

รอนตะโกนขึ้นขัดพร้อมกับแฮร์รี่และเนวิลล์เดินตามหลังมา ทุกคนเพิ่งออกจากร้านมาดามพุดดี้ฟุตและ
อยู่ในสภาพเดียวกันคือมีแต่เศษกระดาษสีชมพูติดทั่วตัว และกลิ่นหอมชวนปวดหัวติดตามเสื้อผ้า 
รอนเดินเข้ามาประชิดตัวเฮอร์ไมโอนี่และแสดงท่าทางปกป้องอย่างเห็นได้ชัด (แม้เวลานี้เขาจะดูไม่ค่อยเหมาะนักเพรา
ะมีแต่เศษกระดาษเต็มผมไปหมด)

“นายคิดจะทำอะไร!” เขาถามเสียงดัง

มัลฟอยหรี่ตามองรอนที่เวลานี้แฮร์รี่และเนวิลล์เดินมาสมทบข้างหลัง

“ฉันไม่เสียแรงเปล่าหรอก - - เพราะฉันจะทำกับพวกแกพรุ่งนี้ แกสองคนเตรียมใส่เฝือกคอได้เลย 
หรือไม่ก็ลงมาโหม่งพื้นสนาม” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวและถลึงตาใส่รอนและแฮร์รี่เหมือนจะข่มขู่

“แล้วนายก็จะแพ้เหมือนทุกปีน่ะแหละ!” รอนเยาะ

มัลฟอยกวาดตามองหน้าแฮร์รี่ รอนรวมทั้งเนวิลล์ก่อนจะมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนสุดท้าย
 เธอยังมองเขาด้วยสายตารอคอยว่าเมื่อสักครู่เขาอยากจะพูดอะไร และดูเหมือนว่ามัลฟอยจะเข้าใจความหมายนั้น
 - - แต่...

“รักกันดีนี่ - - คงไม่ต้องแล้วมั้ง” พูดจบเด็กชายผมบลอนด์ก็เดินหันหลังกลับไปพร้อมกับไฟในใจที่ลุกแรง

พรุ่งนี้มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี - - และเขาจะต้องเอาชนะให้ได้!!

To be continued!!

No comments:

Post a Comment