Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Wednesday, September 10, 2014

13 The decision 6




“เราน่าจะไปเยี่ยมแฮกริดกันนะ”
รอนพูดกับเพื่อนทั้งสองขณะเอื้อมมือไปขยับตัวหมากรุกบนกระดานตรงหน้า เช้าวันนี้พวกเขาไม่มีวิชาเรียนจนกระทั่งบ่าย
 รอนกับแฮร์รี่จึงได้มานั่งเล่นหมากรุกด้วยกันโดยที่เฮอร์ไมโอนี่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง  ๆ - - นี่เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวัน
ของพวกเขาหลังจากเปิดเทอมมาได้เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว

“ดีเหมือนกัน” แฮร์รี่เห็นด้วย เขาเข้าใจที่รอนพูดถึงแฮกริดขึ้นมา รอนอาจจะอยากจะให้เขาได้คิดถึงเรื่องอื่นนอกจากซีเรียสบ้าง
และเขาก็ไม่ควรจะทำตัวอมทุกข์จนเพื่อนต้องเป็นห่วง
“เธอจะไปกับเราไหมล่ะ เฮอร์ไมโอนี่” รอนหันไปถามเด็กหญิงแต่กว่าเธอจะตอบมาได้ก็ใช้เวลาเรียกอยู่หลายครั้ง
“ฮื่อ ไปสิ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

รอนกับแฮร์รี่ส่ายศรีษะแล้วมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ พวกเขาคิดเหมือนกันคือเฮอร์ไมโอนี่มีอาการแปลก ๆ ตั้งแต่กลับบ้านไป
 - - ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจจะถาม แต่รู้ดีว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องตอบว่า “ไม่มีอะไร” เหมือนกับที่ผ่านมาแน่
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ” แฮร์รี่ยืนขึ้น

ระยะทางระหว่างโรงเรียนกับกระท่อมของแฮกริดไม่ไกลจากกันมากนัก ดังนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มเห็นแปลงปลูกผักหน้า
บ้านของแฮกริดซึ่งในเวลานี้มีพืชไม้เลื้อยหน้าตาเหมือนมะเขือเทศลูกใหญ่ กะหล่ำปลีอวบอ้วนและฟักทองที่กำลังออกดอกเต็ม
ต้นเพื่อที่จะมีผลทันงานฮัลโลวีนที่จะมาถึง สามสหายเคาะประตูสองสามครั้ง ไม่ช้าชายร่างยักษ์ก็เปิดประตูออกมาต้อนรับ

“หวัดดีครับ / ค่ะ แฮกริด” ทั้งสามคนทัก
“อ้าว พวกเธอนั่นเองเข้ามาสิ” แฮกริดเชิญ

แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่โต๊ะตัวใหญ่ในบ้าน รอนมองไปรอบ ๆ อย่างระแวงเพราะยังกลัวว่าแฮกริด
อาจจะเอาตัวอะไรประหลาดมาเลี้ยงไว้อีกแต่ก็มีเพียงเจ้าเขี้ยวสุนัขแสนรักของเขาที่นอนน้ำลายไหลยืดอยู่ตรงมุมห้อง
“มาได้จังหวะเหมาะเลย ฉันเพิ่งได้ชาดีมาจากคนรู้จัก” แฮกริดรินน้ำชาร้อน ๆ ในกาใส่แก้วแจกให้กับทุกคนก่อนจ
ะหันไปเปิดเตาอบหยิบเค้กผลไม้ออกมาแจกก่อนที่ตัวเขาจะเลื่อนเก้าอี้ลงนั่งบ้าง
“คุณสบายดีเหรอฮะ” แฮร์รี่ถาม

“โอ๊ย ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันสบายดีทุกอย่าง อาจจะต้องออกไปทำงานให้ดัมเบิลดอร์บ้างก็เท่านั้นแต่ไม่มีอะไรร้ายแรง” 
แฮกริดพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วชูแก้วชาของตัวเองขึ้น

“ปีที่แล้วเราหนักหนาสาหัสกันจริง ๆ แต่ฉันคิดว่าปีนี้เราต้องดีขึ้นแน่” แฮกริดยิ้มให้กับเด็กทั้งสามก่อนจะร่วมดื่ม
ชาอึกใหญ่ไปกับทุกคน 

“แต่พวกผู้เสพความตายอาจจะยังอยู่ข้างนอกกันเกลื่อนเมืองก็ได้นะครับ” รอนพูดอย่างห่วง ๆ  - - ข้างนอกที่เขาหมายถึง
ก็คือนอกอัซคาบัน
“พวกนั้นอาจจะก่อเรื่องอะไรอีกก็ได้”

“ฮอกวอตส์จะปกป้องเราทุกคนอย่างดี” แฮกริดบอกอย่างเชื่อมันก่อนจะหันไปพูดกับแฮร์รี่ที่ยังดูไม่แจ่มใสนัก
“เธออย่าคิดมากไปเลยนะแฮร์รี่ - - ฉันมั่นใจว่าซีเรียสยินดีที่ได้ปกป้องเธอ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน”

“ครับ” แฮร์รี่รับคำก่อนที่พวกเขาจะฝืนตักเค้กผลไม้เข้าปาก มันเป็นการเสี่ยงพอสมควรถ้าจะกินอาหารฝีมือแฮกริด 
แต่แล้วทั้งสามก็ต้องแปลกใจที่รสชาติอร่อยกว่าทุกครั้ง
“ฉันเพิ่งได้สูตรขนมใหม่มาจากคนรู้จัก เขาว่าฉันน่าจะใส่น้ำตาลน้อยลงแล้วก็ปรับปรุงอีกนิดหน่อย” แฮกริดยิ้ม 
ทั้งสามคนเดาว่า “คนรู้จัก” คนนั้นของแฮกริดคงจะหมายถึงมาดามมักซีมแน่ ๆ 
“เออ นี่แน่ะ ตอนนี้ฉันมีคนมาอยู่ด้วยสักระยะ” แฮกริดเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้บรรยากาศเพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นานอย่างนี้เศร้าลงไป

“ใช่น้องชายคุณหรือเปล่าครับ” รอนพยายามบังคับหน้าแหยง ๆ ของตัวเองเป็นรอยยิ้มยินดี(แต่ว่าไม่เป็นผล) เขาได้ยินเรื่องกอรว์ป
จากแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่มาแล้ว

“ไม่ใช่หรอก น่าเสียดายฉันอยากแนะนำให้เธอรู้จักเหมือนกัน เขานิสัยดีมากเลยนะ แต่ว่าศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์แนะนำ
ให้ฉันพาเขาไปฝึกเรื่องการใช้ชีวิตกับคนของกระทรวงเวทมนตร์ระยะหนึ่งก่อนเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง”
แฮร์รี่กับรอนมองหน้ากัน - - และเพื่อให้คนอื่นปลอดภัยด้วย! พวกเขาเดาในใจได้อย่างไม่ยากเย็นว่าไปฝึกเรื่องการใช้ชีวิต
กับคนก็คือการฝึกให้กอรว์ปไม่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นเอง

“อีกอย่างก็คือระยะนี้ฉันอาจจะไม่ค่อยอยู่บ้านนะ ฉันอยากจะหาทางไปเยี่ยมกรอว์ปให้บ่อยที่สุด”
“ถ้างั้นคนที่จะมาอยู่กับคุณเขาเป็นใครครับ” แฮร์รี่ถาม
“เขาก็...”

ประตูด้านหน้าของแฮกริดเปิดออกพร้อมกับเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามา แขนเสื้อสีขาวที่เขาสวมอยู่ถูกพับขึ้นไปถึงข้อศอกและ
ชายกางเกงที่พับขึ้นก็เปียกน้ำไปหมด ทั้งสามคนแปลกใจ

“หวัดดีครับ” ยาช่าทักพร้อมกับยิ้มให้เมื่อเห็นพวกเขานั่งกันอยู่ ในมือของเด็กชายมีตาข่ายที่เหมือนห่อปลาตัวโตสองตัวมา
“นายไม่ไปโรงเรียนรึไง” รอนถามอย่างงง ๆ 

“โรงเรียนผมจมอยู่ใต้หิมะมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว พ่อมดจากหน่วยกู้ภัยบอกว่าต้องใช้เวลาเกือบเดือนถึงจะขุดเจอหลังคา”
 เขาอธิบายพลางหัวเราะแล้วยื่นตาข่ายให้แฮกริด
“ข่าวหิมะถล่มนั่นน่ะคือแถวโรงเรียนนายเองเหรอ”

“ครับผม ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เลยชวนผมมาอยู่กับแฮกริดพลาง ๆ ก่อน - - ผมเองก็อยากมาเพราะเขาชำนาญเรื่องสัตว์วิเศษ”
ร่างกายใหญ่ยักษ์ของแฮกริดดูพองขึ้นเกือบเท่าเมื่อได้ยินคำว่า “ชำนาญ”
“นายสนใจเรื่องสัตว์วิเศษเป็นพิเศษรึไง” รอนถาม

“เปล่าครับ แต่ถ้าพวกมันไม่เข้าใกล้ผม ๆ ก็ลำบาก”
“ทำไมพวกมันไม่กล้าเข้าใกล้นายล่ะ”

“เออ สัตว์เล็กบางชนิดก็ตื่นคน” แฮกริดรีบขัดขึ้น ดูเขารู้เรื่องยาช่าดีและดูเหมือนจะรู้ดีด้วยว่าแม้แต่สัตว์ขนาดสมองเล็กที่สุด
(หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้)อย่างหนอนฟลอบเบอร์ก็ยังกินผักกาดหอมแทบไม่ลงถ้าถูกยาช่าจับตัวเข้า 
(“มันน่าจะรู้นะว่าต่อให้ผมจะอดตายผมก็ไม่มีทางกินมันแน่” ยาช่าบอก)
“แล้วผมก็รู้เรื่องสัตว์วิเศษน้อยมาก” เด็กชายหมาป่าโกหกไปด้วย

“เออ อีกอย่างหนึ่งถ้ายังไงพวกเธอสามคนจะช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมระหว่างที่ฉันอาจจะไม่อยู่ ออกมาข้างนอกกันหน่อยสิ” 
แฮกริดลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินนำแฮร์รี่กับรอนออกไปส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นอาสาล้างถ้วยชาและจานเค้กทั้งหมดให้
เมื่อทั้งสามคนออกไปแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ชะเง้อมองเข้าไปในบ้านเหมือนหาใครอีกคน ยาช่าหัวเราะ

“กาเบรียลเขาไม่มากับผมหรอกเขาต้องไปโรงเรียนนะฮะ”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มฝืน ๆ แล้วพยักหน้า เด็กชายพูดต่อ
 “ว่าแต่คุณเถอะ - - เขาสบายดีเหรอฮะ” 

ประโยคนั้นเหมือนหินก้อนใหญ่ที่ทุ่มลงมาใส่ศีรษะ ประสาทเครียดเขม็งของเฮอร์ไมโอนี่ขาดสะบั้นลงในวินาทีนั้นนั่นเอง

...ภาพของมัลฟอยและทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมเข้ามาในความคิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอต้องอดทนไม่ให้ร้องไห้มากเกินไป
เพราะกลัวบรรดาสมาชิกที่บ้านโพรงกระต่ายหรือแม้แต่แฮร์รี่และรอนจะจับได้ แต่ในวันนี้เธอต้องการร้อง...ร้องไห้ให้
เต็มที่กับใครสักคน

ยาช่าตกใจเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ถลามากอดเขาไว้แน่นและร้องไห้ราวกับคนเสียสติ เด็กหญิงแนบหน้ากรีดร้องกับอกของอีกฝ่าย
และตะกุยตะกายเสื้อผ้าของเขา 

ฉันรักเธอ - - ยายเลือดสีโคลน

“มัล...ฟอย…” เธอเรียกชื่อคนที่เธอคิดถึงมาตลอด ยาช่าอ้าปากค้างแต่เมื่อได้ยินชื่อ “มัลฟอย” เด็กชายก็ปล่อยให้เธอขยุ้มเสื้อของเขา
ฉันไม่สำคัญกับเธอเลยสักนิดรึไง!

“ไม่ ไม่!” เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศรีษะราวกับไม่ต้องการให้สมองคิดถึงมัลฟอย - - คิดถึงคำพูดที่ผ่านมาของเขา
ฉันรักเธอ - - เดรโก
ดีมาก เด็กดี

เด็กหญิงกดริมฝีปากกับอกของอีกฝ่ายแน่นขึ้นเพื่อไม่ให้เสียงกรีดร้องพราะความเจ็บปวดในใจที่เธอเก็บเอาไว้ดังออกมา
ให้เพื่อนรักทั้งสองที่อยู่ภายนอกได้ยิน ยาช่ากัดฟันเมื่อเล็บของเด็กหญิงเกร็งกดลงมาบนผิวของเขา กระทั่งเวลาผ่าน
ไปเป็นครู่ยาช่าถึงรู้สึกตัวว่าเธอค่อยสงบลง

“ฉัน...จะทำยังไงดี” เด็กหญิงสะอื้นฮัก ๆ และขยับหน้าออกห่างจากอีกฝ่าย
ยาช่าพาเธอไปนั่งที่โต๊ะ ยื่นผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าให้ก่อนจะฟังเรื่องราวทั้งหมด ความจริงเขาก็ได้อ่าน
ข่าวจากเดลี่พรอเพ็ดมาบ้างแล้วแต่ไม่อยากเชื่อว่ารายชื่อหนึ่งในผู้ที่ต้องเข้าไปอยู่ในอัซคาบันที่ชื่อ “ลูเซียส มัลฟอย” 
นั้นคือพ่อของมัลฟอยจริง ๆ

“ขอโทษถ้าผมจะพูดแรงไปนะ แต่เขามันงี่เง่า” เด็กชายหมาป่าถอนหายใจ
“ฉันคงต้องทำเหมือนที่เขาทำ พยายามลืมเรื่องทั้งหมด” เฮอร์ไมโอนี่เช็ดน้ำตาแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเข้มแข็งขึ้น
ยาช่ามองสีหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก เขาพูดประโยคเดิมด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
“เขามันงี่เง่าจริง ๆ”

ทั้งสองคนเงียบกันไปชั่วขณะกระทั่งเสียงรอนตะโกนเรียกมาจากหน้าบ้าน

To be continued!!


No comments:

Post a Comment