Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Tuesday, July 21, 2015

Chapter 25: ความจริงที่เปิดเผย

มัลฟอยรู้สึกตัวและพบว่าเขากำลังนอนอยู่ในห้องพยาบาล  เขารู้สึกปวดหัวตุบ ๆ มัลฟอยยันกายขึ้นจากที่นอนช้า ๆ เขาค่อย ๆ เรียบเรียงความทรงจำอย่างยากลำบาก  ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ในเมื่อเมื่อคืนเขากำลังจะไปที่หอดูดาวกับเฮอร์ไมโอนี่  เขาพยายามนึกแต่มันกลับทำให้เขาปวดหัวอย่างที่เขาไม่คาดคิด  มัลฟอยจำได้ว่าเขากลับไปเอาแหวนที่หอนอนและหลังจากนั้นเขาก็จะอะไรไม่ได้อีกเลย

มัลฟอยพยายามฝืนลุกขึ้นจากเตียง  แต่มาดามพรอมฟรีย์มาห้ามเขาไว้ก่อน

“เธอยังไปไหนไม่ได้นะ  มิสเตอร์มัลฟอย” เธอเตือน

“แต่ผมต้องไป” มัลฟอยเถียง

“ฉันสั่งว่าห้ามเธอลุกไปไหนทั้งนั้น  มิสเตอร์มัลฟอย” มาดามพรอมฟรีย์กล่าวอย่างอารมณ์เสีย

“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” มัลฟอยถามเธอ

“เธอ” มาดามพรอมฟรีย์อ้ำอึ้ง

“มีคนพบเธอถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน  มิสเตอร์มัลฟอย” เสียงอ่อนโยนดังขึ้น  มัลฟอยเงยหน้าไปมองและเขาก็พบกับชายชราเคราสีเงินยวงที่สวมแว่นรูปจันทร์เสี้ยว

“อาจารย์” มัลฟอยพึมพำ

“เราคาดว่าคงมีคนจงใจวางยานอนหลับเธอ  แต่ด้วยจุดประสงค์อะไรนั้นฉันมิอาจตอบได้” ดัมเบิลดอร์พูด “เกรนเจอร์อยู่ที่ไหน” มัลฟอยถามเสียงสั่น  ความกลัวที่สุดของเขาวิ่งเข้ามาจับที่ขั้วหัวใจ

“ฉันเกรงว่าฉันไม่อาจตอบเธอได้  มิสเตอร์มัลฟอย”  ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความกังวล “ไม่มีใครในฮอกวอตส์รู้ว่ามิสเกรนเจอร์อยู่ที่ไหน”

“อาจารย์หมายความว่ายังไง” มัลฟอยพูดเสียงสั่น

“เธอถูกจับตัวไปมิสเตอร์มัลฟอย” ดัมเบิลดอร์กล่าวเรียบ ๆ “ด้วยฝีมือของคนที่เราเรียกกันว่าผู้เสพความตาย”



เหมือนเสียงของดัมเบิลดอร์ก้องอยู่ในหัวของมัลฟอยอย่างไม่รู้จบสิ้น  ความกลัวที่สุดของเขาได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริงแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่ถูกผู้เสพความตายจับตัวไป  ส่วนสาเหตุเป็นอะไรนั้นเขาพอจะรู้ดี

ทุกอย่างเป็นเพราะเขา  มัลฟอยคิดเช่นนั้น

“ฉันเกรงว่าทุกอย่างมันจะไม่ได้เป็นอย่งาที่เธอคิดเสมอไปนะมิสเตอร์มัลฟอย” ดัมเบิลดอร์เอ่ย  จ้องมองเด็กหนุ่มด้วยแววตาสงบเยือกเย็น “ฉันคิดว่าฉันพอจะรู้ว่าทำไมผู้เสพความตายถึงได้จับตัวมิสเกรนเจอร์ไป”

“มันเป็นเพราะสิ่งนี้” ชายชราพูดยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขาดู  มันคือภาพถ่ายที่แฮร์รี่อุ้มเฮอร์ไมโอนี่ไว้เมื่อเทอมที่แล้ว ( อยู่ในภาค 1  ) โดยมีข้อความต่อท้ายว่า  ‘ แฮร์รี่  พอตเตอร์  หลงรักเลือดสีโคลน ’

“ผมไม่เข้าใจ” มัลฟอยกัดฟัน “อาจารย์คิดว่าพวกมันจะจับเกรนเจอร์ไปแค่เพราะประกาศอันเดียวเหรอ” มัลฟอยพูด

“ไม่  ฉันไม่คิดอย่างนั้น  มิสเตอร์มัลฟอย” ชายชราเอ่ยช้า ๆ “พวกมันไม่ได้ต้องการมิสเกรนเจอร์หรอก  เธอเป็นเพียง ‘ เหยื่อล่อ ’ ”

“เหยื่อล่อ” มัลฟอยทวนคำอย่างสงสัย

“ใช่แล้ว ‘ เหยื่อล่อ ‘ มิสเตอร์มัลฟอย  พวกมันต้องการล่อให้ใครบางคนออกมาช่วยมิสเกรนเจอร์”

“ฉันคิดว่าผู้เสพความตายคนใดคนหนึ่งคงเก็บประกาศนี้ได้จากบริเวณนี้  เอ้อ  ตอนที่มันบินว่อนไปทั่วโรงเรียนนั่นแหละ” ดัมเบิลดอร์กล่าว “และใครก็ตามที่อ่านประกาศนี้ก็ต้องคิดว่าแฮร์รี่หลงรักมิสเกรนเจอร์ใช่ไหม  พวกมันก็เคยคิดจะเอาเธอเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้แฮร์รี่ไปช่วยเธอ และพวกมันก็จะได้ตัวเขาอย่างง่ายดาย” ชายชราสรุป

“งั้นเราก็ต้องไปช่วยเกรนเจอร์”  มัลฟอยพูด

“ฉันเกรงว่าเราคงหุนหันพลันแล่นไม่ได้” ดัมเบิลดอร์เตือน

“แต่เกรนเจอร์กำลังตกอยู่ในอันตราย!” มัลฟอยเริ่มขึ้นเสียง

“เราต้องวางแผนก่อนมิสเตอร์มัลฟอย  เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะฉะนั้นเราจะประมาทไม่ได้” เขาพูด

“อาจารย์หมายความว่าอาจารย์จะไม่ทำอะไรเลยงั้นเหรอ” มัลฟอยตะโกน  ถ้าเขาไปช้าแค่ก้าวเดียวเฮอร์ไมโอนี่อาจจะเป็นอะไรไปก็ได้

“แล้วเธอคิดว่าฉันควรทำอย่างไรล่ะ  มิสเตอร์มัลฟอย” ชายชราเอ่ยด้วยเสียงที่ดูมีอำนาจจนมัลฟอยต้องชะงัก “เราไม่รู้แม้กระทั่งสถานที่ที่พวกมันจับมิสเกรนเจอร์ไป  ต่อให้เราค้นบ้านทุกหลังในลอนดอนก็ใช่ว่าจะได้ตัวพวกมัน” เขาพูด

“สงบใจบ้างมิสเตอร์มัลฟอย  เราต้องมาหารือกัน”

“จะให้ผมสงบได้ไงในเมื่อเกรนเจอร์…..” มัลฟอยตะโกน

“เมื่อมิสเกรนเจอร์ทำไมหรือ  ความจริงเธอเองก็ไม่ควรห่วงมิสเกรนเจอร์ถึงขนาดนี้นี่  เดรโก”  คำพูดของดัมเบิลดอร์ทำให้มัลฟอยชะงัก

“ผม” มัลฟอยอ้ำอึ้ง

“หรือว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อมิสเกรนเจอร์นั้นเปลี่ยนไปแล้วหรือ” เขาถาม  ส่วนมัลฟอยนั้นนิ่งเงียบไปซักครู่ “ครับ  มันเปลี่ยนไปแล้ว” มัลฟอยสารภาพกับเขา

“งั้นก็ดี  มิสเตอร์มัลฟอย” ชายชรากล่าวอย่างมีเลศนัย “ในตอนนี้ก็มีแต่เธอเท่านั้นที่จะช่วยมิสเกรนเจอร์ได้” เขาพูด

“ยังไง” มัลฟอยถามอย่างสงสัย

“มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะหาสถานที่ที่ไม่มีมือปราบมารคนไหนหาเจอได้  แม้ว่าจะต้องค้นบ้านทุกหลังในลอนดอนก็ตาม” ดัมเบิลดอร์กล่าว “เอาล่ะ  ฉันต้องไปประชุมกับพวกอาจารย์เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้  อ้อ  มาดามพรอมฟรีย์ช่วยไปบอกศาสตราจารย์เสนปด้วยว่าเขาเองก็ต้องเข้าประชุมเช่นกัน”

“ได้ค่ะอาจารย์ใหญ่” มาดามพรอมฟรีย์รับคำพลางเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอเพื่อเขียนโน๊ต

“ยังไงช่วยวานเธอไปส่งโน๊ตให้ศาสตราจารย์เสนปด้วยและกันนะ  มิสเตอร์มัลฟอย” ดัมเบิลดอร์วาน

“ได้ครับอาจารย์” มัลฟอนรับคำพร้อม ๆ กับรับโน๊ตมาจากมาดามพรอมฟรีย์ที่เพิ่งเดินกลับมา

และเมื่อเขากำลังจะเดินออกไปจากห้อง “อย่าลืมที่ฉันพูดล่ะเดรโก  มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น” ชายชราพูดส่วนมัลฟอยนั้นรับคำและรีบเดินออกจากห้องพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว

“ทำอย่างนี้จะดีหรือคะอาจารย์ใหญ่” มาดามพรอมฟรีย์กล่าว

“นี่เป็นทางเดียวที่จะหามิสเกรนเจอร์พบมาดามพรอมฟรีย์” ชายชราเอ่ย “ผมจะสั่ง่ให้มือปราบมารสะกดรอยตามเขาไป”



มัลฟอยเดินไปตามทางเดินอย่างรวดเร็วและเมื่อเขาถึงคุกใต้ดินมัลฟอยก็ยื่นโน๊ตให้กับเสนปอย่างรีบร้อน “อาจารย์ใหญ่เรียกประชุมงั้นรึ” เสนปเอ่ย

“ครับ  เขาบอกว่าอาจารย์ควรรีบไป” มัลฟอยพูด

“อ้อ  งั้นขอบใจนะมิสเตอร์มัลฟอย” เสนปกล่าวและกำลังจะเดินออกจากคุกใต้ดิน

“อาจารย์ครับ  จะว่าอะไรไหมครับถ้าผมจะขอยืมใช้เตาผิงของอาจารย์” มัลฟอยรวบรวมความกล้าถามเขา “เธอต้องการเดินทางหรือ  มิสเตอร์มัลฟอย” เสนปถาม

“ครับ  ผม  เอ้อ  ผมจะกลับบ้านครับ” มัลฟอยพูด

“เธอต้องการกลับบ้าน  ด้วยเหตุผลอะไรมิสเตอร์มัลฟอย” เสนปถาม  แววตาสีดำหรี่ลงอย่างสงสัย

“แม่ผมป่วยครับ” เขาโกหก “ผมเพิ่งได้รับนกฮูกเมื่อเช้านี้”

“ฉันไม่ได้ยินเลยว่ามิสซิสมัลฟอยป่วย” เสนปถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ผมเองก็เพิ่งรู้ครับ” มัลฟอยแก้ตัว “ผมสัญญาว่าจะกลับมาภายในวันนี้  ได้โปรดเถอะครับอาจารย์”

“เอ้า  ก็ได้  ยังไงก็ฝากเยี่ยมแม่ของเธอด้วยนะ” เสนปกล่าว

“ขอบคุณครับอาจารย์” มัลฟอยพูดด้วยท่าทีที่ปกปิดความดีใจเอาไว้ไม่อยู่  เขารีบตรงไปที่เตาผิงในห้องทำงานของเสนปทันที  มัลฟอยหยิบผงฟลูขึ้นมากำมือหนึ่ง  และโยนมันลงไปในเตา

“คฤหาสน์มัลฟอย” เขาตะโกนก้อง



เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวขึ้น  เธอพยายามลืมตาอย่างยากลำบากเพราะหนังตาหนัก  ๆ ของเธอไม่ยอมลืมขึ้นซะที  และสักครู่เฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องใต้ดินที่ไหนซักแห่งหนึ่ง  ที่ดูอับชื้น  และสกปรก  เธอมองไปรอบ  ๆก็พบคบไฟส่องแสงวูบวาบสะท้อนไปมา  เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่เต็มไปด้วยตู้ใส่ของประหลาด ๆ และโหลดองเต็มไปหมด  แวบแรกเธอนึกว่าที่นี่คือคุกใต้ดินของเสนป  แต่มันไม่ใช่เพราะที่นี่กว้างกว่ามากและมีตู้เก็บของประหลาดและโหลดองจำนวนมากกว่าที่เสนปมีหลายเท่านัก

เฮอร์ไมโอนี่พยายามขยับตัว  และเธอก็รู้ว่าทีโซ่เส้นใหญ่พันธนาการแขนทั้งสองข้างของเธอไว้อย่างหนาแน่น  เฮอร์ไมโอนี่พยายามขยับแขนที่อยู่เหนือหัว  แต่ก็ไม่เป็นผล

ที่นี่มันที่ไหนกันนะ  แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน  เฮอร์ไมโอนี่คิดพยายามเรียบเรียงความทรงจำในหัวของเธอ  แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น  ก็มีร่าง ๆ หนึ่งเดินเข้ามาเสียก่อน  ร่างนั้นสวมชุดคลุมสีดำยาวกรอมเท้า  และมีฮู้ดปิดศีรษะอยู่  มันกำลังตรงมาหาเฮอร์ไมโอนี่!

ร่างนั้นก้าวเดินอย่างเชื่องช้ามาหาเธอ  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นรนให้หลุดจากโซ่ที่พันธนาการเธอไว้แต่ก็ไร้ประโยชน์  ร่าง ๆ นั้นค่อย ๆ ใกล้เธอเข้ามาเรื่อย ๆ

”ดิ้นไปก็เปล่าประโยชน์” เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อม ๆ กับที่ร่างนั้นถอดฮู้ดลงเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง  ซิลเวีย  เดอ  เวซอง  นั่นเอง

“เธอ!” เฮอร์ไมโอนี่อุทาน

“ก็ฉันน่ะสิ  ไม่ใช่ใครทีไหนหรอก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

“เธอทำแบบนี้ทำไม  แล้วที่นี่มันที่ไหน” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ที่ ๆ ไม่มีใครหาเจอไงล่ะ” ซิลเวียเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

“เธอต้องการอะไรกันแน่  แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น  มัลฟอยอยู่ที่ไหน” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“แกยังกล้าเรียกชื่อนั้นอีกรึ” ซิลเวียพูด “แกกล้าเรียกชื่อเดรโกด้วยริมฝีปากเปื้อนโคลนของแกงั้นเหรอเกรนเจอร์” เธอพูดอย่างเกรี้ยวกราด  แต่เฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่แสดงท่าทีกลัวเกรงเธอแม้แต่น้อย

“ถ้าแกอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นฉันจะบอกแกเองก็ได้  ว่าที่แกเจอเมื่อคืนน่ะไม่ใช่เดรโกแต่เป็นฉันต่างหาก”

“อะไรนะ”

“ฉันบอกว่าที่แกเจอเมื่อคืนที่ห้องเรียนนั่นน่ะไม่ใช่เดรโกแต่เป็นฉัน  แค่เห็นว่าเป็นเดรโกก็เชื่อเสียสนิทใจ  เลยโดนฉันวางยานอนหลับเอาง่าย ๆ ” เธอพูดแค่นหัวเราะออกมา

“งั้นตอนที่จูบฉันเธอก็เอายานอนหลับให้ฉันกินงั้นสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้ทัน

“ฉลาดนี่เกรนเจอร์” ซิลเวียเอ่ยยิ้ม ๆ “ฉันรู้ว่าถ้าเป็นเดรโกแล้วล่ะก็เธอจะต้องยอมตามไปดี ๆ แน่”

“เธอใช้น้ำยาสรรพรสสินะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “แล้วเธอก็เอามัลฟอยไปซ่อนไว้ที่ไหนซักแห่ง”

“เธอเองก็ฉลาดไม่เบานี่เกรนเจอร์  น่าเสียดายนะที่เป็นเลือดสีโคลน” เธอยิ้มเยาะ

“แล้วเธอก็เป็นคนขโมยของจากห้องทำงานของเสนปเพื่อเอาไปปรุงยา” เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อไป

“ใช่  ฉันเป็นคนขโมยเอง” เธอพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“และเธอก็วางยาสั่งใจไรอัน  และเป็นเข้าไปขโมยต้นไม้ของศาสตราจารย์เสปราต์” เธอพูด

“ถูกต้องต้องเกรนเจอร์  ฉันเป็นคนทำหมดทุกอย่างรวมถึงเรื่องที่เกิดตอนแข่งควิดดิชด้วย” ซิลเวียพูด

“เธอ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง “เธอทำเพื่ออะไรกัน”

“ก็เพื่อดึงดูดความสนใจไปที่สนามควิดดิชส่วนตัวฉันก็จะได้เข้าไปที่คุกใต้ดินได้สบาย ๆ น่ะสิ” เธอพูด “เพราะว่าวันนั้นกริฟฟินดอร์แข่งกับสลิธีรินไม่มีทางอยู่แล้วที่เสนปจะไม่ไปดูนักเรียนบ้านตัวเองแข่ง” ซิลเวียพูดต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่เฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่รู้ว่าจะพูดว่าอย่างไรดี  เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้  ซิลเวียเปรียบเสมือนงูพิษดี ๆ นี่เอง

“เธอนี่มัน” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“เธอจะว่าฉันชั่วร้ายงั้นสิเกรนเจอร์” ซิลเวียพูดด้วยรีอยยิ้มเยือกเย็น “แต่ฉันไม่สนเรื่องนั้นหรอก  ฉเนต้องได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ  แม้ว่าจะต้องใช้วธีสกปรกเท่าใดก็ตาม”

“เธอมันมารร้ายชัด ๆ เธอเป็นตัวการทุกเรื่อง” เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันอย่างเคียดแค้น

“ใช่  ฉันเป็นตัวการทุกเรื่อง อ้อ  รวมทั้งเรื่องข่าวลือเรื่องเธอกับครัมด้วยนะเกรนเจอร์  เรื่องนั้นก็เป็นฝีมือฉัน” ซิลเวียพูดหน้าระรื่น

“เธอ!” เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันแน่น “แล้วที่เธอจับฉันมาอย่างนี้  เธอต้องการอะไร”

“ความต้องการของฉันก็คือ  ได้เป็นเจ้าของเดรโกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” ซิลเวียกระซิบ “แต่ฉันเกรงว่าคนอื่นจะไม่คิดอย่างนั้น” เธอพูด

“คนอื่น” เฮอร์ไมโอนี่ทวนคำด้วยท่าทีงงงวย “คนอื่นนี่ใคร”

“ฉันคิดว่าเะอจะฉลาดกว่านี้นะเกรนเจอร์” ซิลเวียหัวเราะ “เธอว่าฉันจะจับตัวเธอมาเพื่ออะไรกัน” ซิลเวียมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่มีเลศนัย  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถตีความแววตานั้นออกได้

“เธอคิดว่าเธอได้ข่าวอะไรบ้างไหม  ช่วงก่อนหน้านี้น่ะ” ซิลเวียพูด

ข่าว  ข่าว  งั้นเหรอ เฮอร์ไมโอนี่คิด  หรือว่าข่าวนั้น

“เธอหมายถึงเรื่องผู้เสพความตาย….” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก

“ที่หนีออกมาจากอัซคาบัน” ซิลเวียต่อให้  และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเช่นนั้นเธอก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ  ขณะที่ซิลเวียค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอช้า ๆ

“หรือ  เธอจะเป็น….” เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก

“เคยได้ยินชื่อเบลลาทริกซ์  เลสแสตรงค์  ไหมล่ะ”  ซิลเวียเอ่ย  และเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ว่าเธอหมายถึงใคร  เบลลาทริกซ์  เลสแสตรงค์  คือผู้เสพความตายที่ทรมานพ่อและแม่ของเนวิลล์ด้วยคาถากรีดแทงจนทั้งสองเสียสติ

“เธอเป็นแม่ของฉันเอง” ซิลเวียพูด


TBC

No comments:

Post a Comment