Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Sunday, September 14, 2014

Part II อดีตที่หวนคืน: Chap 8


“เอ้อ ก็งาน..”

“จริงสิ” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ขัดขึ้น “จินนี่รอพวกนายอยู่ที่หอแน่ะ นายควรจะรีบไปนะ
 เพราะเฟร็ดกับจอร์จก็อยู่ด้วย” 

“เอางั้นก็ได้ เฮอร์ไมโอนี่ แล้วเจอกัน” 

“งานเลี้ยงอะไรน่ะ เกรนเจอร์” มัลฟอยถามขึ้น เมื่อแฮร์รี่กับรอนออกจากห้องไปแล้ว

“ก็งานเลี้ยงคริสต์มาสไง”

“งั้นเธอก็ไปเถอะ ทิ้งฉันไว้ที่นี่แหละ” เพราะเขารู้ดีว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร
 ถึงแม้ว่ามันทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย

“ฉันจะไปหรือไม่ก็ตาม มันก็เป็นเรื่องของฉัน นายห้ามฉันไม่ได้หรอก”

“แต่ เกรนเจอร์..”

“นายไม่ต้องเถียงฉันเลย ถ้านายจะเถียงฉันต่อละก็..”

“งั้น ถ้าให้ฉันเดา มันเป็นงานเลี้ยงเต้นรำใช่มั้ยล่ะ” เขาถามแต่ไม่ได้รับคำตอบ “แล้วเธอจะไปกับใครล่ะ”

“นายรู้ได้ไงว่าเขาจัดงานเต้นรำกัน”

“ไม่เห็นยาก ก็ถ้าเขามีจัดงาน เกมกลผู้วิเศษ แล้วเกิดเหตุสัตว์ประหวาดอาละวาดไม่สามารถควบคุมได้ 
ทำให้งานต้องเลื่อนออกไป มันไม่แปลกหรอกนะที่จะมีกิจกรรมมาชดเชยน่ะ” 
เขาอธิบาย “แต่เธอจะไปกับใครล่ะ”

“เฮ่ย” เธอถอนหายใจ อย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้านายไม่หยุดพูด ฉันจะออกไปจากห้องนี้จนกว่านายจะหยุดคิดเรื่องนี้” 

“ไม่เอาน่า”

“ฉันไม่พูดกับนายแล้ว ไปดีกว่า” เธอเปิดประตู

“เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ เกรนเจอร์ ..เกรนเจอร์..นี่เธอ เอ่อ เฮอร์…” แล้วเสียงประตูก็ปิดลง

“เฮอร์ไมโอนี่…เฮอร์มี” เขาพึมพำอยู่คนเดียว พลางนึกถึงความฝัน ที่เขาฝันถึง
 เด็กหญิงวัยห้าขวบ ที่เขาเรียกเธอ ว่า เฮอร์มี..

“เฮอร์มี…เฮอร์ไมโอนี่…เฮอร์..”

“นี่นายจะเรียกชื่อฉันอีกนายมั้ยฮะ” เสียงของสาวน้อยเจ้าของชื่อดังขึ้น ทำให้เขาสะดุ้ง 

“เฮ้ย” เขาร้อง “ฉันนึกว่าเธอออกไปแล้วซะอีก”

“เปลี่ยนใจ ก็ฉันได้ยินนายเรียกฉันว่า เอ่อ อะไรนะ เฮอร์มี งั้นหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเบ้หน้า

“เอ่อ ก็ช่าย” เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เธอฟังยังไง จึงเล่าเรื่องความฝันให้เธอฟัง

“เฮอร์มี เนี่ยนะ” เธอพูดสีหน้าเหยเก “ถ้านายเรียกฉันอย่างนี้นะ มัลฟอย ฉันขอบอกเลย
 ฉันจะไม่คุยกับนายแน่ ชื่อพ่อแม่ตั้งให้ทั้งที ทำไมฉันต้องไปใช้ชื่ออื่นด้วยล่ะ” เธอว่า
 “แล้วอีกอย่าง เฮอร์มี มันเป็นชื่อที่คนพูดไม่ชัดเรียกมากกว่า หรือว่านายเรียกชื่อฉันไม่ถูกล่ะ”

“ฉันเรียกถูกน่า เฮอร์ไมโอนี่.. เฮอร์ไมโอนี่..เฮอร์ไมโอนี่ ชัดเจนมั้ย” เขาประชด “ว่าแต่เธอจะไปงานเลี้ยงกับใคร”

คำตอบที่เขาได้รับคือหมอนที่ถูกปามาอย่างแรง

“ถ้าฉันไป ฉันก็ไม่บอกนายหรอก เลิกถามได้แล้ว” 

? ? ? ? 

หลังจากนั้นแล้ว เวลาว่างที่เหลือของนักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็เฝ้ารอเวลาเริ่มงาน ผิดกับเขา
 มัลฟอย ผู้ที่เห็นอะไรก็กลายเป็นสิ่งที่หน้าเบื่อได้ในพริบตา เขาไม่ได้เฝ้ารอ
งานเลี้ยงวันคริสต์มาสแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เขารอนักรอหนา ก็คือวันที่เขาสามรถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
 เขายอมแรกกับของขวัญวันคริสต์มาส หรือทรัพย์สมบัติทุกๆชิ้นที่เขามี 

สำหรับเวลาช่วงบ่าย เขาได้แต่นอนกลางวันเท่านั้น ไม่มีอะไรที่น่าสนใจให้เขาทำ 
จนทำให้เขารู้สึกห่อเหี่ยวใจ ในเมื่อทุกคน มัวแต่ตื่นเต้นกับงานที่กำลังจะเริ่ม
 แต่เขากลับต้องมานอนซมอยู่บนเตียง 

เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆเขา จะชวนเขาคุยตลอดเมื่อเธอรู้ว่าเขาไม่ได้หลับ
 แต่เขากลับทำให้เธอหมดอารมณ์ เพราะเขาเอาแต่พูดกึ่งบังคับให้เธอไปงานโดยไม่มีเขา
 แต่เธอก็ไม่ยอม นั่นแหละที่ทำให้เขาหงุดหงิดที่สุด เขารู้ว่าเธออยากจะไปงาน
 และเขาก็ไม่อยากให้ใครมาดูแลหากว่าเธอผู้นั้นจะไม่เต็มใจ


. . . . . . . . . .

“เกรนเจอร์” เขาเรียก และลุกขึ้นมานั่ง “เกรนเจอร์”

ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่เขาแน่ใจได้เลยว่าเธอไม่ได้ออกจากห้องไปอย่างแน่นอน ..เขาไม่ได้ยินเสียงประตูนี่

“เกรนเจอร์.. เธออยู่รึเปล่าน่ะ หรือว่าหลับอยู่” เขาพูดกับตัวเองด้วยเสียงที่ดังตามปกติ
 แล้วคลำไปมาบนเตียงเพื่อหาไม้กายสิทธ์ แต่เขาก็ไม่เจอมันเลย”

“เกรน.. เฮอร์ไมโอนี่” จู่ๆเขาเปลี่ยนมาเรียกชื่อเธอ แล้วตะโกนให้ดังขึ้น “เฮอร์ไมโอนี่”

“เฮ้ เฮอร์มี่” เขาเรียกเธออีกครั้งเป็นการประชด และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา

“อะไร มัลฟอย” เสียงนี้ดูอยู่ห่างไกลเขาเหลือเกิน มันมาจากห้องน้ำ..

“เอ้อ” เขานึกสงสัยว่าเธอทำอะไรอยู่

“มีอะไร” คราวนี้เธอออกมาจากห้องน้ำแล้ว

“ฉันจะให้เธอช่วยหาไม้กายสิทธ์ให้ฉันหน่อย” แล้วเขาก็รับไม้กายสิทธ์มาจากเธอ
 “ขอบใจ อ้อ ขอน้ำสักแก้วด้วยก็ดี”

“ได้” แล้วเธอก็กลับมาพร้อมกับแก้วน้ำ แต่.. “ว้าย!!” 

สิ่งที่เขารับรู้ต่อมาก็คือ คามเปียกของหยดน้ำจำนวนมากที่หกรดตัวเขา

“ตายจริง ฉันขอโทษน่ะ ไม่ได้ตั้งใจ” เธอกล่าวอย่างร้อนรน “นายไปเปลี่ยนเสื้อดีกว่า มัลฟอย”

“ไม่ต้องหรอกน่า ฉันไม่เป็นไร” เขาล่ะเซ็งกับความซุ่มซ่ามของเธอ 
แต่เขาก็หารู้ไม่ว่าเธอตั้งใจทำมันต่างหาก “เออนี่ เธอช่วยพาฉันไปหาด๊อบบี้ได้มั้ยคืนนี้น่ะ”

“ทำไมต้องคืนนี้ล่ะ” เธอพูดพลางเช็ดน้ำที่หก

“ฉันมีอะไรจะคุยกับมันหน่อย ที่แน่ๆห้องครัวมีของกินเยอะนี่ เธอจะได้ไปงานกับเพื่อนของเธอ
 แล้วจากนั้น เธอค่อยมารับฉันก็ได้”

“ไหนว่านายไม่ชอบให้ฉันเอาไปฝากชาวบ้านไม่ใช่หรอ”

“เอาน่า พาฉันไปนะ เฮอร์มี” เขาหยอกเธอ

“นี่นาย ถ้ายังเรียกฉันแบบนี้ ฉันจะบ่อยให้นายนอนจมที่นอนไปเลย”

“ตกลงเธอจะพาฉันไปใช่มั้ย”

“ใช่” เธอรับคำ “ฉันไม่ให้นายอยู่ที่นี่คนเดียวหรอกน่า ไปเปลี่ยนเสื้อซะ อาบน้ำไปเลยก็ดี”

แล้วเธอก็พาเขาไปห้องน้ำ พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำและเสื้อผ้าให้เรียบร้อย 

“เอ้อ ฉันลืมเอาไม้กายสิทธ์มาด้วย ไปเอาให้หน่อยสิ” มัลฟอยบอก

“ขี้ลืมจริงเลยนายนี่” เธอบ่น

 

เวลาผ่านไปไม่กี่นาที แต่ดูเหมือนสาวน้อยเฮอร์ไมโอนี่จะกระวนกระวายไม่น้อย 
เธอนั่งอยู่ไม่สุขบนเก้าอี้นวม พลางเปิดปิดหนังสือไปมา สายตาไม่ได้สัมผัสแม้แต่ตัวหนังสือใดๆ
 หากแต่จับจ้องอยู่ที่ประตูห้องน้ำอย่างเป็นกังวล

ไม่ช้าไม่นาน ผู้ที่อยู่หลังประตูก็ออกมา สองมือของชายร่างสูง อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปราศจากการติดกระดุม
 กำลังควานหาอะไรบางอย่างเพื่อจับต้อง เฮอร์ไมโอนี่ตรงไปหาเขาทันที

“เอ่อ ทำไมนายไม่ติดกระดุมเสื้อล่ะ มัลฟอย” เธอถามอย่างขัดเขิน 
เช่นเดียวกับอาการของเขาที่เฉมองไปทางอื่น ทั้งๆที่ไม่สามารถมองเห็น 

“ยังไงฉันก็ติดผิดๆถูกๆอยู่แล้วนี่ แล้วเธอก็ต้องติดให้ฉันใหม่อยู่ดี 
แล้วจะให้ฉันมาเสียเวลาหงุดหงิดทำไม” เขากล่าว 

เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง แล้วจัดเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อย พร้อมกับใส่เสื้อคลุมให้เขา

“ไปกันรึยัง” เขาถามเมื่อรู้สึกว่าเธอกำลังเดินไปทั่วห้อง 

“ไปสิ” แล้วเธอก็จูงมือเขาออกมาจากห้อง


. . . . . .

“ทำไมมันรู้สึกวุ่นวายจัง” มัลฟอยเอ่ยถาม รอบตัวเขารู้สึกถึงเหล่านักเรียนที่เดินกันไปมาเต็มไปหมด
 พร้อมกับเสียงกระซิบ พูดคุยอย่างไม่หยุดหย่อน 

“งานเลี้ยงเต้นรำก็อย่างนี้แหละ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “ทางซ้าย ไม่ๆ อีกสามก้าวนายกำลังจะชนกำแพง 
ถ้านายไม่อยากจมูกแบนนะ” 

“เฮ้ นี่เธอเดินดูทางหน่อยสิ มันออกจะกว้างไม่เห็นต้องเดินมาชนเขาเลย”
 เธอกล่าวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาชนมัลฟอยเข้าอย่างจัง 

“ขอโทษค่ะ เฮอร์ไมโอนี่” เด็กหญิงตะโกนตอบกลับมา

“แย่จริงๆ คนเยอะไปหมด” เธอบ่น

“แล้วนี่เมื่อไหร่จะถึงล่ะ” มัลฟอยถาม

“อ๊ะ เดรโก” เสียงแจ๋นๆของใครคนหนึ่งทักขึ้น มัลฟอยรู้สึกถึงเสียงของรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นหินเป็นจังหวะ
 “เดรโก เป็นยังไงมั่ง”

“ก็ดี แล้วนี่เธอยังไม่เข้าไปในงานหรือ แพนซี่” เขาถาม ออกจะรำคาญเล็กน้อยกับมือเล็กๆที่มาเกาะแขนเขา

“กำลังจะไปนี่แหละแล้วเห็นนายซะก่อน” เธอว่า พร้อมกับเสียงลมหายใจที่พ่นออกมาจากจมูกของเฮอร์ไมโอนี่

“เข้าไปในงานกับฉันนะ เดรโก” แพนซี่อ้อน แล้วหันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่หยาบกระด้างกับเฮอร์ไมโอนี่ 
“ปล่อยมือเขาได้แล้ว ยัยเลือดสีโคลน”

“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่เข้าไปกับเธอแน่ แพนซี่ เธอต่างหากที่ควรจะปล่อยฉัน” เขาพูดเพิ่มอารมณ์ในน้ำเสียง

“แต่ เดรโก..”

“ปล่อยฉันก่อนที่ฉันจะใช้ไม้กายสิทธ์จิ้มตาเธอ” เขาขู่ พลางโบกไม้กายสิทธ์ในมือ 
แล้วกระชับมือของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ เขารู้สึกได้ว่ามือของแพนซี่นั้นออกไปจากแขนของเขาแล้ว
 “พาฉันไปจากที่นี่ เกรนเจอร์”

“แต่ มัลฟอยนายควรจะได้พูดคุย สนทนากับเพื่อนของนายบ้างนะ” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง
 โดยไม่สนใจสีหน้าของแพนซี่แม้แต่นิด

“พาฉันไปก่อนที่ฉันจะทำให้ใครตาบอดอีกคน” เขาขบฟันคำราม

“เอ่อ ก็ได้” แล้วพวกเขาก็ปล่อยให้แพนซี่ยืนกระฟัดกระเฟียดใส่บุคคลที่โชคร้ายแถวนั้น

“นี่เธอจะพาฉันไปไหน” เขาถามเมื่อรู้ว่าจำนวนประชากรเริ่มจะเยอะขึ้นในบริเวณนั้น

“ก็ที่ที่มีอาหาร ให้นายกินน่ะสิ”

“ถ้ามันเป็นทางไปห้องครัวนะ ฉันว่ามันน่าจะเงียบกว่า แล้วอีกอย่างเสียงพูดคุยพวกเนี่ย น่ารำคาญชะมัด”

“ใครบอกนายกันว่าฉันจะพานายไปห้องครัวน่ะ” เธอกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม 
ทว่าเขาไม่สามารถมองเห็น นอกจากรับรู้ได้ในน้ำเสียงของเธอ

“ก็เธอรับปากฉันเอง” 

“ฉันไม่ได้รับปากนายสักหน่อยว่าจะพาไปห้องครัว” เธอหัวเราะน้อย แล้วดึงมือเขาให้เดินตาม
 “มาเถอะ อาหารในห้องโถงก็ไม่ต่างกับในห้องครัวหรอกน่า”

“แล้วเธอนัดใครไว้รึเปล่า เอ่อ ฉันหมายถึงคู่ของเธอน่ะ พอตเตอร์ หรือวีสลีย์ล่ะ”

“ไม่ใช่พวกเขาหรอกน่า นั่งลงได้” เธอว่าแล้วกดไหล่เขา 

“แล้วใครล่ะ” 

“นายอยากกินอะไร มาเดี๋ยวฉันอ่านเมนูให้ฟัง” เธอกล่าวโดยไม่สนใจเขา

ไม่นานเสียงดนตรีก็เริ่มบรรเลง บรรยากาศรอบตัวพวกเขามีแต่ความครื้นเครง 
นักเรียนทุกคนเข้ามารวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ ที่จัดไว้อย่างสวยงาม 
ส่วนใหญ่จะคล้ายกับเมื่องานตอนปีสี่ แต่แค่ยกเว้นลักษณะการตกแต่งเท่านั้น

และที่เพิ่มขึ้นมา คือมุมหนึ่งของห้อง โต๊ะขนาดใหญ่วางของแปลกๆไว้มากมาย
 พร้อมกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่รุมล้อมกันอยู่รอบโต๊ะนั้น โดยมีจุดสนใจอยู่ที่
 ชายผู้มีเส้นผมเป็นสีแดงเพลิงรวมทั้งหน้าตาที่เหมือนกันสองคน
 ฝาแฝดวีสลีย์นั่นเอง พวกเขากำลังโปรโมตสินค้าของร้าน เกมกลวิเศษวีสลีย์กันอยู่

“ไง เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ทักเธอ “นั่งด้วยคนได้มั้ย”

“ตามสบายแฮร์รี่ แล้วรอนล่ะ”

“ไปเอาเครื่องดื่มน่ะ นั่นไงมาแล้ว” เขาชี้ไปทางหนุ่มผมสีแดงเพลิง ถือถาดที่มีบัตเตอร์เบียร์มาด้วย

“คนเยอะเป็นบ้าเลย” เขาบ่นแล้วส่งบัตเตอร์เบียร์ให้เธอ “นี่ของนายแน่ะ มัลฟอย”

“ขอบใจ”

“ว่าแต่เธอมากลับใครน่ะ เฮอร์ไมโอนี่” รอนถาม

“มัลฟอยไง” 

“ไม่ใช่ฉันหมายถึง คู่ของเธอน่ะ”

“ฉันมากับใคร ก็คนนั้นแหละคู่ฉัน” เธอกล่าวแล้วดื่มบัตเตอร์เบียร์แก้เขิน
 พยายามไม่มองไปทางบุคคลที่มากับเธอ แน่นอน เขากำลังมองมาตามเสียงของเธอ 

“งั้นเหรอ ไม่ยักรู้ว่าเธอจะพาเขามาด้วย” แฮร์รี่พูด 

“แล้วจะให้ฉันปล่อยเขาอยู่คนเดียวในห้องอย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง” เธอตำหนิ 
“ว่าแต่พวกนายเถอะ ฉันยังไม่เห็นคู่ของนายเลย”

“ฉันมากับใคร ก็คนนั้นแหละคู่ฉัน” รอนเอาคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่มาตอบ ทำเอาเธอสำลักน้ำ
 กลบเสียงหัวเราะน้อยๆของมัลฟอยแต่ไม่สามารถกลบเสียงของแฮร์รี่และรอนได้เลย

“แฮร์รี่น่ะหรอ นายต้องเพี้ยนแน่”

“ฉันไม่ได้มากับเขาซักหน่อย” แฮร์รี่กล่าว

“แล้วใคร โชหรือไง อ้อนี่ปีสุดท้ายของเขานี่ เขาคงจะ..”

“ไม่ใช่แน่ๆ ฉันมากับลูน่าน่ะ แต่ตอนนี้เธออยู่กับเพื่อนน่ะ” 

“นี่ เฮอร์ไมโอนี่ ตอนเช้าดัมเบิลดอร์เรียกเธอไปพบเรื่องอะไร” รอนถาม

“ก็เรื่องในงานนี่แหละ อีกเดี๋ยวนายก็คงรู้” เธอพูดแล้วเหล่ไปทางมัลฟอย

“รอน พี่อยู่นี่เองฉันตามหาแทบแย่” จินนี่นั่นเอง เธอมองมาที่มัลฟอยก่อนตวัดสายตาเป็นเชิงถามเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเธอก็ยักไหล่ตอบกลับมา

“มีอะไรหรอจินนี่” รอนถาม

“เปล่าหรอก ฉันแค่อยากรู้ว่าพี่จะไม่ไปดูเฟร็ดกับจอร์จหน่อยหรือ”

“พวกเขาจัดการเองได้น่า จินนี่ เฮ้ย นั่นมันบัตเตอร์เบียร์ของฉันนะ” เขาโวยเมื่อจินนี่ฉวยแก้วมาจากมือของเขา 

“แล้วมันจะเป็นไรมั้ย ถ้าจะแบ่งให้น้องดื่มหน่อย ฉันอุตส่าห์ฝ่าฝูงชนออกมาหาพี่นะ” 
จินนี่ชี้ไปทางซุ้มเกมกลวิเศษวีสลีย์ 

“ฉันไม่ได้ขอ..”

“เอาน่า จินนี่เต้นรำกันสักเพลงมั้ย” แฮร์รี่แทรกขึ้นเป็นการห้ามทัพก่อนที่พี่น้องคู่นี่จะเฉือนกันตายคางานเลี้ยง

“เอ้อ เอาสิ ดีเลย” เธอตอบอย่างเก้อเขิน แล้วเดินออกไปกับแฮร์รี่ 
ไม่สนใจเสียงประชดของรอนที่พาดพิงถึงเธอและแฮร์รี่

“เฮ้ ลูน่า ทางนี้” รอนกวักมือเรียก เมื่อเห็นเธอกำลังมองหาใครบางคนอยู่

“เอ้อ เห็นแฮร์รี่บางมั้ย” เธอถาม

“นั่นไงเต้นรำกับจินนี่อยู่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

“งั้นหรอ ฉันกำลังอยากเต้นมั่งจัง นายไปกับฉันหน่อยสิ” เธอพูดอย่างเลื่อนลอยกับรอน

“เอ้อ คือฉัน..”

“ไปสิ รอน” เฮอร์ไมโอนี่ขยั้นคะยอ จนในที่สุดเขาก็ต้องไป

“เฮ่ย ไปได้สักที ห่วงฉันไม่เข้าเรื่อง” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ
 แต่เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะของมัลฟอยกลับมา “หยุดเลยนะนายน่ะ”

“ท่าทางวีสลีย์จะแก้ไม่หาย แน่ๆ” เขากล่าว

“ของขวัญคริสต์มาสนายอยากได้อะไร” เธอเปลี่ยนเรื่อง

“เธอจะให้ฉันหรือไง”

“ใช่ อยากได้อะไรบอกมา”

“..ตาฉันไง ฉันอยากมองเห็น” เขากล่าวเสียงเรียบเจือความเศร้าไว้ในน้ำเสียง
 “นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุด และเธอคงจะหาให้ฉันไม่ได้”

“แล้วถ้าฉันทำได้ล่ะ” 

“เธออย่ามาล้อเล่นหน่อยเลย”

“ฉันทำได้แน่ๆ แค่เพียงนายออกไปเต้นรำกับฉัน”

“เธอต้องบ้าแน่ๆ ให้ฉันออกไปเดินสะดุดหน้าทิ่มต่อหน้าคนทั้งงานเนี่ยนะ 
ไม่มีทาง อีกอย่างเธออยากจะเต้นรำกับฉันหรือไง”

“ก็ใช่น่ะสิ แต่ถ้านายไม่อยาก..” เธอพูดแล้วคว้าข้อมือเขา “ฉันจะลากนายไปเอง”

“เฮ้ เบาๆสิ นี่เธอ” เขาว่า “แต่ถ้าฉันทำเธอขายหน้า อย่ามาโทษฉันนะ”

“ไม่หรอกน่า” เธอยิ้มอย่างดีใจ และพาเขาเดินไป 

แต่ระหว่างนั้น - - เขาก็ได้พบกับสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง - - 

เสียงดังหวีดหวิว เกิดขึ้นทั่วทั้งห้องทำให้ทุกเสียงเงียบลง 


TBC


No comments:

Post a Comment