Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Monday, July 20, 2015

Chapter 2: จดหมายส่งข่าว



“เฮอร์ไมโอนี่... “ เสียงนางเกรนเจอร์เรียกให้เธอตื่นนอน พร้อมกับเคาะประตู 2-3 ครั้ง “ตื่นได้แล้วลูก”

“ค่ะแม่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบรับด้วยเสียงงัวเงียเต็มที “เดี๋ยวหนูตามลงไปค่ะ”

เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รีบลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องรับประทาน
อาหารของครอบครัวเกรนเจอร์ ซึ่งก็แน่นอนว่าสะอาดหมดจด ไม่แพ้บ้านของพวกเดอร์สลีย์เลยทีเดียว
 เพราะทั้งพ่อและแม่ของเธอต่างก็เป็นหมอฟันกันทั้งคู่

“เฮอร์ไมโอนี่ เมื่อคืนลูกปิดหน้าต่างห้องนอนของหนูไว้ใช่มั้ย” นางเกรนเจอร์ถามขึ้นอย่างหงุดหงิด
ทันทีที่เห็นลูกสาวของตนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้สีขาวสะอาด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอาหารเช้า

เด็กสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามแม่ของเธอ “มีอะไรรึเปล่าคะแม่”

“มีแน่นอนลูกรัก... “ นางเกรนเจอร์ตอบเสียงขุ่นๆ ขอบตาคล้ำเป็นวง ราวกับอดนอนมาทั้งคืน
“เมื่อคืนมีนกฮูกมาส่งจดหมายที่ห้องของพ่อกับแม่ เพราะห้องลูกน่ะปิดหน้าต่างไว้

 นกฮูกก็เลยเข้าไปส่งจดหมายให้ลูกไม่ได้ -- มีจดหมาย 3 ฉบับ” เธอบอกลูกสาว
พร้อมกับยื่นจดหมายให้เฮอร์ไมโอนี่ 2 ฉบับ “ส่วนอีกฉบับ... “ แต่นางเกรนเจอร์ไม่สามารถพูด
ให้จบประโยคได้ เมื่อมีบางอย่าง กลมๆ เล็กๆ พุ่งเข้าใส่ศีรษะที่บรรจงหวีไว้ให้เรียบไว้เธอ

“พิก” เด็กสาวคราง แล้วรีบคว้ามันลงมาจากศีรษะของผู้เป็นแม่

“เจ้านกฮูกตัวนี้แหละ -- รู้มั้ยลูก... มันมาส่งจดหมายตั้งแต่ตีสอง แล้วก็ร้องเสียงดัง
 แถมยังบินพุ่งไปพุ่งมารอบห้อง จนแม่แทบจะไม่ได้นอนเลย” นางเกรนเจอร์สอดใส่พิก พลางลูบผมให้เรียบดังเดิม

“พ่อด้วย แทบจะไม่ได้นอนเลยล่ะ... เจ้าตัวนี้นะ มันบินพุ่งชนฝาผนังที แล้วพุ่งเข้าใส่พ่อที
 ฝาผนังที พ่อที โอย... ง่วงจะแย่” นายเกรนเจอร์ร่วมวงสวดพิกด้วย เขาเองก็เป็นหมีแพนด้าเช่นกัน

“แล้วลูกรู้มั้ย วันนี้พ่อนัดคนไข้ไว้ตั้ง 6 รายเชียวนะ... “ แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้ฟังต่อ
 ว่านายเกรนเจอร์ต่อว่าพิกว่าอะไรอีก เพราะเธอมัวแต่วุ่นวายทำให้พิกอยู่นิ่งๆ เพื่อเธอจะได้อ่านจดหมายซักที
ซึ่งเธอก็ทำได้ในที่สุด

เธอเปิดจดหมาย... ลายมือรอน ซึ่งปกติก็แทบจะอ่านไม่ออกอยู่แล้ว บัดนี้ เฮอร์ไมโอนี่ต้องแกะอักษรออก
มาอ่านทีละตัวทีเดียว เพราะเห็นได้ชัดว่าเขารีบเขียนเพียงใด

เฮอร์ไมโอนี่
ฉันจะมารับเธอไปบ้านโพรงกระต่าย วันพรุ่งนี้ 3 โมงเย็น เขียนคำตอบตกลง ส่งมากับพิกด่วนที่สุด
 แต่ถ้าพิกมาไม่ทัน ก็เปิดเตาพิงเอาไว้นะ พรุ่งนี้เจอกัน

ป.ล.ฉันมีเรื่องจะเล่าให้เธอฟังเยอะแยะเลยล่ะ ไม่พูดมากหรอก เดี๋ยวเธอไม่ตื่นเต้น
รอน


“ถ้าฉันไม่เขียนตอบ เธอก็จะมารับฉันอยู่แล้วนี่นา” เฮอรไมโอนี่พึมพำ แล้วเงยหน้าขึ้นจากจดหมาย
“แม่คะ พ่อคะ พรุ่งนี้เพื่อนของหนู รอนน่ะค่ะ จะมารับหนูไปบ้านของเขาน่ะค่ะ
 พ่อกับแม่จะอนุญาตให้หนูไปได้มั้ยคะ”

“ลูกอยากไปรึเปล่าล่ะ” นางเกรนเจอร์ถามเหมือนทุกปีที่เฮอร์ไมโอนี่ขอไปบ้านโพรงกระต่าย

“อยากค่ะ” เธอตอบทันที แทบจะไม่ต้องใช้เศษเสี้ยวของสมองคิดเลย

“งั้นก็ไปสิ”

“ขอบคุณค่ะ”

“เดี๋ยวลูก... แล้วเพื่อนลูกจะมารับยังไงล่ะ ปีนี้”

“ก็เหมือนทุกปีแหละค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “ใช้เตาผิงน่ะค่ะ”

นางเกรนเจอร์พยักหน้ารับ ขณะที่นายเกรนเจอร์เดินออกไปโทรศัพท์เพื่อจะยกเลิกนัดคนไข้
 เพราะเขาง่วงนอนเกินกว่าจะมีสมาธิถอนฟันให้คนไข้ได้

เฮอร์ไมโอนี่รีบหาปากกาลูกลื่นและเศษกระดาษ เพื่อเขียนจดหมายตอบรอนทันที

รอน
พ่อกับแม่ฉันให้ไป พรุ่งนี้เจอกัน 3 โมงเย็น
เฮอร์ไมโอนี่

เธอผูกจดหมายติดเข้ากับขาของพิกได้อย่างยากลำบาก เพราะมันมัวแต่ดิ้นไปมาให้พ้นเงื้อมมือของเธอ
ในที่สุดเธอก็ปล่อยให้มันบินออกไปส่งจดหมายคืนเจ้านายของมันสำเร็จ

“เฮอร์ไมโอนี่ ลูกกินอาหารเช้าก่อนสิ” นางเกรนเจอร์บอกอย่างหัวเสีย

“โธ่ แม่คะ... หนูขออ่านจดหมายพวกนี้ก่อนละกันนะคะ นะคะ แม่” เธออ้อน ซึ่งก็ใช้ได้ผลทุกครั้ง

เมื่อเห็นว่านางเกรนเจอร์พยักหน้ารับอย่างอ่อนใจ เฮอร์ไมโอนี่ก็เปิดจดหมายของโรงเรียนฮอกวอตส์อ่านก่อน

ในซองมีกระดาษหนาๆอยู่ 3 แผ่น... แผ่นแรกเป็นจดหมายเตือนว่าโรงเรียนเปิดวันที่ 1 กันยายน แผ่นที่ 2
เตือนเธอว่า ถึงแม้จะมีอายุ 16 ปี และสามารถใช้เวทมนตร์คาถาได้นอกโรงเรียนแล้วก็ตาม(เฮอร์ไมโอนี่ลืมไปสนิท)
แต่ก็ห้ามใช้ทำร้ายมักเกิ้ล หรือ ให้มักเกิ้ลเห็นโดยเด็ดขาด ส่วนแผ่นสุดท้าย บอกว่าต้องใช้อะไรในปีนี้บ้าง

“มีหนังสือใหม่เล่มเดียวเองค่ะแม่ -- บทเรียนคาถามาตรฐานปี 6 “ เธอพึมพำบอกแม่ของเธอ
 แล้วก็สังเกตเห็นรายการสิ่งของที่ต้องเตรียมไป แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง “ชุดราตรี”

“เฮอร์ไมโอนี่” นางเกรนเตอร์เรียกอย่างตำหนิ เพราะเธอทำเสียงดัง

“ขอโทษค่ะ แม่” เธอร้อง แล้วคว้าจดหมายอีกฉบับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอมองดูซองจดหมาย
ช่างเป็นซองแบบที่เธอคุ้นเคยยิ่งนัก เพราะ...


เฮอร์มายโอนนี่

สบายดีมั้ย ฉันน่ะสบายดีนะ เอาเรื่องของฉันก่อนละกัน

นี่! รู้มั้ย... ตอนนี้ฉันจบจากเดิร์มสแตรงก์แล้วนะ ฉันหางานทำอยู่ล่ะ
งานที่มันมั่นคงกว่าเป็นนักกีฬาควิดดิชน่ะ แต่ก็ยังหาไม่ได้หรอกนะ
เธอคงสงสัยใช่มั้ยที่เห็น ชุดราตรี อยู่ในรายการที่ต้องเอาไปฮอกวอตส์น่ะ
 ฉันจะบอกเธอให้ก็ได้นะ (แต่ถ้ายังไม่อยากรู้ก็เอามือปิดประโยคข้างล่างนะ)

‘คือ... ปีนี้จะมีงานเลี้ยงเต้นรำคริสต์มาตร์อีกครั้งน่ะ เพราะจากที่ ศาสตราจารย์เบียทริส บอกนะ
 (อาจารย์ใหญ่คนใหม่ของเดิร์มสแตรงก์ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับ ศาสตราจารย์ดัม เบิลดอร์)
ว่าศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ และ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ อยากให้คนต่างชาติสานสัมพันธ์มิตรกัน
ก็เลยให้โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ และ โรงเรียนโบส์บาตง มาฮอกวอตส์อีกครั้ง แต่แค่อาทิตย์เดียว
ฉันล่ะอยากไปจริงๆเลย’

หวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วๆนี้นะ เฮอร์มายโอนนี่

รัก
วิกเตอร์ ครัม

“งานเลี้ยงเต้นรำ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตื่นเต้น

นางเกรนเจอร์จุ๊ปาก แล้วเดินออกไปจากห้องทานอาหาร แต่ไม่วาย หันมาเตือนเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง

“กินอาหารเช้าด้วยเฮอร์ไมโอนี่” แล้วเธอก็เดินออกไป

เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ แต่ลงมือทานอาหารด้วยความเร็วสูงสุด เท่าที่คุณจะนึกได้
 แล้วรีบพุ่งขึ้นบันได ตรงเข้าห้องนอนของเธอทันที คว้าสมุดและปากกาขนนก แล้วทิ้งตัวลงในเตียง

แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อไม่แน่ใจว่าเฟเร็ตจะตื่นรึยัง ...

ในขณะเดียวกัน ทอลดี้ เอลฟ์ประจำบ้านของตระกูลมัลฟอย ซึ่งได้รับคำสั่งจาก
นาร์ซิสซาร์ มัลฟอย แม่ของเดรโก นั่นเองให้มาปลุก เดรโก

“นายน้อยครับ” ทอลดี้เรียกอย่างหวาดๆ “นายน้อยมัลฟอย ต้องตื่นแล้วครับ”

มัลฟอยพลิกตัวไปมาบนเตียงนุ่มๆ 4 เสาอย่างหรูของเขา พลางพึมพำจับใจความไม่ได้เมื่อถูกปลุก

“นายน้อยต้องตื่นแล้วครับ นายหญิงของนายน้อยสั่งให้ทอลดี้มาปลุกเขา”

มัลฟอยพลิกตัว แล้วคว้าคอเอลฟ์ไว้แน่น

“หยุดพล่ามได้แล้ว รำคาญ” เขาคำราม ตัวทอลดี้ดูเหมือนจะหดเล็กลงไปต่อหน้าต่อตา

“ตะ แต่นายหญิง -- “

“เงียบ” เขาคำรามอีกครั้ง มือที่คว้าคอของเอลฟ์กระชับแน่นขึ้น

“นะ นายน้อย -- ” เอลฟ์ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาเท่าลูกมะเขือเทศขนาดย่อมๆลื่นด้วยน้ำตา

แล้วตัวหนังสือก็ผุดขึ้นมาให้ภาพความทรงจำของเด็กชาย

‘นี่เธอรู้มั้ย เอลฟ์ประจำบ้านน่ะนะ ถูกกระทำอย่างโหดร้ายที่สุดเลย ไม่ได้ค่าจ้าง
ไม่มีวันหยุด ไม่มีความเป็นธรรมให้เอลฟ์เลย’

เด็กชายมองดูทอลดี้ที่ตัวสั่นเทา ความรู้ผิดเล็กๆก่อตัวขึ้น แต่คนอย่างเดรโก มัลฟอยน่ะหรือ
 จะทำดีกับเอลฟ์ประจำบ้านที่แสนจะน่าสมเพจ

“แกไปได้แล้ว -- “ มัลฟอยตะคอกใส่เอลฟ์ พลางคลายมือออกจากคอของมัน
 “แล้วบอกแม่ด้วย ว่าฉันจะตามลงไป เร็วซิ... ขืนชักช้าเดี๋ยวฉันก็เปลี่ยนใจ ฆ่าแกตรงนี้หรอก”

ทอลดี้งงสุดขีดกับอาการของมัลฟอยในเช้านี้ เพราะปกติแล้ว ถ้ามันมาปลุกมัลฟอยเมื่อไหร่
เป็นได้เลือดตก ยางออกทุกครั้งไป แต่เช้านี้ไม่เป็นเช่นนั้น มันรีบออกไปจากห้องอย่างเร็วที่สุด

มัลฟอยมองไปรอบๆห้อง เขายังรู้สึกง่วงนอนอยู่เลย แต่ก่อนที่เขาจะล้มตัวลงบนนอนบนเตียงก็สะดุดกับบางอย่างเข้า...

เด็กชายคว้าไม้กายสิทธิ์ออกมาจากใต้หมอน

“เอ็กซีโอ สมุด” สมุดเล่มหนาสีฟ้าพุ่งมาหาเขา

“อะไรเนี่ย” เขาพึมพำ เมื่อเห็นว่าสมุดแปล่งแสงสีฟ้าออกมา เขาเปิดสมุด แล้วก็ทันเห็น...

‘เฟเร็ต ตื่นรึยังน่ะ... ถ้ายังไม่ตื่นก็ไม่เป็นไร ฉันแค่จะบอกอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง... งั้นฉันไปล่ะ’
เฮอร์ไมโอนี่ง้างสมุดจะปิด เพราะรอมานานพอควรแล้ว แต่เธอก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อมัลฟอยเขียนตอบกลับมา

‘ฉันตื่นแล้ว’

“ดีจริง” เธออุทาน ก่อนจะเขียนกลับไป

‘นี่เฟเร็ต ฉันมีอะไรจะบอกเธอล่ะ แต่ไม่รู้เธอรู้รึยัง’

‘อะไรล่ะ อะไรที่ว่าน่ะ’

‘คือปีนี้จะมีงานเลี้ยงเต้นรำอีกแล้วล่ะ’ เธอเขียนอย่างตื่นเต้น จนลายมือขยุกขยุย

‘ดีนี่’ เด็กชายโกหก เขาเบ้ปาก เมื่อคิดถึงงานเลี้ยงเต้นรำเมื่อปี 4 ที่เขาต้องจำใจไปกับแพนซี่
 พาร์กินสัน เพราะไม่งั้น เขาก็ต้องกลายเป็นตัวตลกให้ทุกคนแน่ ถ้าไม่มีคู่ไป โดยเฉพาะกับ แฮร์รี่ และรอน

‘เมื่อปี 4 เธอไปงานกับใครล่ะ’

‘ไม่บอก... เดี๋ยวเธอก็เดาถูกสิ’

“แหม ไม่เปิดช่องว่างเลยนะ” เธอพึมพำอย่างเหลืออด

‘แล้วเมื่อปี 4 เธอไปกับใคร’

‘เชอะ... นายไม่บอก ฉันก็ไม่บอกเหมือนกันแหละ’

เด็กชายถอนหายใจอย่างหน่ายๆ แล้วความคิดบางอย่างก็แวบเข้ามาในสมอง

‘เธอไปงานกับฉันมั้ยล่ะ’

เด็กหญิงอึ้ง ไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร

‘จะได้เป็นการเผยตัวจริงไงล่ะ’

‘ดีเลย... ฉันอยากเห็นตัวจริงของนายใจจะขาด’

‘งั้นเป็นอันตกลงนะ’

‘ตกลง’ เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ ช่างเป็นการชวนไปงานที่กะทันหันเหลือเกิน

‘นี่เหรอเรื่องที่เธอจะบอกฉันน่ะ’

‘ใช่’

“โธ่ ตื่นเต้นกับเรื่องแค่นี้น่ะนะ” มัลฟอยพึมพำอย่างเบื่อหน่าย “ผู้หญิง”

‘นายเพิ่งตื่นใช่มั้ยล่ะ’

‘ใช่... ทำไมถึงรู้ล่ะ’

‘แหม ก็เดาน่ะสิ’ เด็กหญิงตอบ ‘งั้นเธอรีบไปทานอาหารเช้าเถอะ’

‘อืม’ เด็กชายรับคำ ‘งั้นฉันไปนะ’

‘บาย’

‘บาย’

ทั้งสองปิดสมุดพร้อมกันอีกครั้ง



TBC



No comments:

Post a Comment