เฮอร์ไมโอนี่ตกใจเล็กน้อยที่เห็นซิลเวียอยู่ที่นี่แทนที่จะเป็นมาดามพินซ์ แล้วเธอก็ดันมาเห็นเฮอร์ไมโอนี่ในสภาพแบบนี้อีก เฮอร์ไมโอนี่รีบผละออกจากอ้อมกอดของไรอันและลุกขึ้นโดยที่เธอพยายามที่จะไม่เหยียบหนังสือที่หล่นลงมาจากชั้น
“เกรนเจอร์กับครัม” ซิลเวียพึมพำมองทั้งสองด้วยสายตาดูแคลน
“อรุณสวัสดิ์ครับ มิสเดอ เวซอง” ไรอันทักเธอตามมารยาท ส่วนซิลเวียนั้นทำหน้าเหมือนกับว่าไม่อยากเสวนากับพวกเขาทั้งสองเท่าไรนัก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ครัม” เธอทักอย่างเสียไม่ได้ “อ้อ คุณด้วยนะคะ มิสเกรนเจอร์” ซิลเวียพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มเสแสร้งมาให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังพยายามทำสีหน้าเรียบเฉยอยู่
“เหมือนกันค่ะ มิสเดอ เวซอง” ตอบเธอตามมารยาทเช่นเดียวกับที่ซิลเวียตอบไรอัน ทั้งสองต่างจ้องตากันอยู่เนิ่นนานโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย จนไรอันกลัวว่ามันจะเกิดสงครามเย็นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“เอ่อ คุณมาที่นี่บ่อยไหมครับ” ไรอันถามซิลเวียเพื่อต้องการกำจัดความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ไปซะ แต่ดูเหมือนมันจะให้ผลเป็นตรงข้าม
“ก็บ่อยเหมือนกันค่ะ แต่ฉันก็ไม่นึกว่าจะเจอพวกคุณสองคนที่นี่” ซิลเวียพูดจงใจเน้นคำว่า ‘ พวกคุณสองคน ’ ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน และส่งสายตาที่มีความหมายว่า ‘ ฉันเห็นนะว่าพวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่ ’ มาให้เธอ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งต้องใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ และไรอันก็รู้เรื่องนี้ดี เขาจึงพยายามหาเรื่องมาพูดเพื่อที่จะดับไฟสงครามที่กำลังปะทุอยู่ในขณะนี้
“เอ่อ แล้วคุณมาหาหนังสืออ่านที่นี่เหรอครับ” ไรอันถามซิลเวียอีกครั้งแต่เขากลับได้คำตอบที่ทำให้เขาคิดว่าเขาไม่ควรถามอะไรเธอเลย
“ค่ะ แล้วคุณคิดว่าฉันจะมาห้องสมุดทำไมกันล่ะคะ” ซิลเวียตอบเรียบ ๆ
“แปลกนะคะที่ฉันมักจะเห็นพวกคุณอยู่ด้วยกัน” เสียงของเธอขาดห้วงไปเธอกวาดสายตาไปมองที่ไรอันก่อนที่จะมาหยุดที่เฮอร์ไมโอนี่ “เสมอ” ซิลเวียตบท้าย
“แต่ก็แปลกเหมือนกันนะคะที่ฉันไม่เห็นคุณอยู่กับใครเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาในที่สุด เธอคิดว่าหมดความอดทนของเธอได้หมดลง และไม่อยากที่จะเงียบเฉยอีกต่อไปแล้ว
“หรืออาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีใครอยากคบกับคุณหรือเปล่าคะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อจนจบ ส่วนซิลเวียนั้นเมื่อได้ยินที่เฮอร์ไมโอนี่พูดรอยยิ้มบนหน้าของเธอก็หายไป
“ความจริงฉันคิดว่าคุณน่าจะเห็นนะคะว่าฉันชอบอยู่กับใคร” ซิลเวียทำหน้าตามปกติของเธออีกครั้ง และเธอก็ไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มร้ายกาจมาให้เฮอร์ไมโอนี่เช่นเคย
“หรือว่าคุณแกล้งทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อยากยอมรับความจริงกันแน่คะ มิสเกรนเจอร์” ซิลเวียพูดแทงใจดำของเฮอร์ไมโอนี่เข้าอย่างจัง และเธอก็รู้ว่าคนที่ซิลเวียชอบอยู่ด้วยนั้นคือใคร ซิลเวียกำลังพูดถึงมัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่นั้นอึ้งไปสักพักหนึ่ง เธอรู้จริง ๆ แล้วว่าผู้หญิงคนนี้นั้นร้ายกาจอย่างที่มัลฟอยพูดเอาไว้แน่ ๆ และยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้อ้าปากเถียงอะไรซิลเวียก็เดินก้าวข้ามกองหนังสือที่ตกอยู่มายืนอยู่ตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่ข้าง ๆ ชั้นหนังสือ เธอกระซิบเบา ๆ เข้าที่ข้างหูของเฮอร์ไมโอนี่
“เธอคงคิดสินะว่าฉันตั้งใจจะขโมยคนรักของเธอ แต่ขอให้คิดใหม่ได้เลยนะเพราะว่าเดรโกน่ะไม่ได้เป็นของเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่อึ้งกับคำพูดของวิลเวีย ตอนนี้เธอในอกของเธอนั้นราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดออกมา เฮอร์ไมโอนี่นั้นโกรธจนแทบจะสาปซิลเวียให้กลายเป็นกิ้งกือหรือไส้เดือนได้ด้วยซ้ำ แต่ในใจของเธอนั้นก็กลับเต็มไปด้วยความสับสน
แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไร ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะหยิบไม้กายสิทธ์ขึ้นมาร่ายคาถาใด ๆ ใส่ซิลเวีย มาดามพินซ์ก็โผล่มาจากมุมชั้นหนังสือซะก่อน
“พวกเธอทำอะไรกัน ตายแล้ว พระเจ้าช่วย” มาดามพินซ์อุทานออกมาพลางเอามือทาบบนอก
“นี่พวกเธอทำอะไรกันถึงได้ระเนระนาดกันอย่างนี้” เธอหันมาดุพวกเขาทั้งสาม ( รวมซิลเวียด้วย )
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ใครพอจะบอกฉันได้บ้าง” มาดามพินซ์นั้นดูตกอกตกใจเป็นอย่างมากกับการที่เธอได้เห็นหนังสือที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นลงมากองอยู่ที่พื้น
“คือ หนูขอโทษจริงค่ะมาดามพินซ์” เสียงของซิลเวียดังขึ้นก่อนที่ไรอันและเฮอร์ไมโอนี่จะนึกออกว่าจะพูดอะไรด้วยซ้ำ
“ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง” ซิลเวียตอบด้วยหน้าที่มีร่องรอยความสำนึกผิดอยู่ แต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นคิดว่าเธอดูออกว่ามันเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง
“ฉันไม่นึกเลยนะว่าเธอจะเป็นคนทำ มิสเดอ เวซอง” มาดามพินซ์พูดด้วยเสียงอ่อนโยน
“ไหนลองเล่ามาซิมิสเดอ เวซอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” มาดามพินซ์พูดกับซิลเวียพลางมองไปที่กองหนังสือที่อยู่บนพื้นและกรอกตา
“คือหนูขอโทษค่ะ เป็นเพราะหนูแท้ ๆ ” ซิลเวียเอ่ยเสียงสั่นเครือ ก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
“ฉันรู้ แต่ที่ฉันต้องการคือมันเกิดอะไรขึ้น” มาดามพินซ์ปลอบเธอโดยตบเธอที่บ่าเบา ๆ อย่างปลอบโยน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่และไรอันนั้นยังงง ๆ อยู่ว่าคราวนี้ซิลเวียจะมาไม้ไหนอีก ( เนี่ย )
“ถ้าหนูไม่พูดอย่างนั้นกับเกรนเจอร์มันก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอกค่ะ” ซิลเวียละล่ำละลัก ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังทำหน้างงงวยเมื่อมีชื่อเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซิลเวียนั้นต้องพาดพิงถึงเธอแน่
“เธอพูดอะไรกับมิสเกรนเจอร์ มิสเดอ เวซอง” มาดามพินซ์ถามเธอขณะที่น้ำเสียงของซิลเวียเริ่มเหมือนคนเสียขวัญเข้าไปทุกที
“หนูแค่พูดให้เธอไม่พอใจ แล้วเกรนเจอร์ก็โมโหหนูจนพังชั้นหนังสือลงมาอย่างที่คุณเห็นนี่แหละค่ะ” ซิลเวียตอบด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่แสร้งทำ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นถึงกับอ้าปากค้าง
“ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ ฉันยังไม่ได้…” เฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะเถียงแต่เธอกลับถูกขัดจังหวะด้วยสายตาดุดันของมาดามพินซ์
“เธอทำอย่างนั้นจริงเหรอเกรนเจอร์” มาดามพินซ์หันมาถามเธอ
“หนูเปล่านะคะ มันก็เป็นแค่ แค่อุบัติเหตุ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา เธอไม่นึกเลยว่าซิลเวียจะร้ายกาจขนาดนี้ และก็ไม่นึกเลยว่ามาดามพินซ์จะสงสัยเธอ
“ไม่มันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันเป็นฝีมือเธอ เกรนเจอร์” ซิลเวียพูดมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่ “ทำไมเธอต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย กับแค่..” เสียงของซิลเวียขาดห้วงไป
“เธอจะพูดอะไร มิสเดอ เวซอง” มาดามพินซ์ถามเธอ ส่วนซิลเวียนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตามาดามพินซ์ด้วยสายตาอันแสนเสแสร้งก่อนที่จะมาส่งสายตามุ่งร้ายให้เฮอร์ไมโอนี่
“แค่ฉันล้อเธอเรื่องครัม” ซิลเวียพูดออกมาในที่สุด ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นแทบจะสติแตกไปเลย ตอนนี้เธอไม่คิดแล้วว่าในฮอกวอตส์จะมีใครที่เสแสร้งแล้วก็โกหกหน้าตายได้เก่งเท่ากับ ซิลเวีย เดอ เวซอง คนนี้ เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดเรื่องพวกนี้มาได้ยังไง หรือมันสมองของเธอทำด้วยอะไรถึงได้แต่คิดเรื่องร้ายกาจอย่างนี้ แต่เท่าที่เธอรู้การกระทำของเธอนั้นจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตกที่นั่งลำบาก
“มิสเกรนเจอร์ ฉันคิดว่าครั้งนี้เธอทำรุนแรงไปนะ” มาดามพินซ์กล่าว เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามาดามพินซ์จะพูดกับเธอ ‘ อย่างนี้ ’
“แต่หนูไม่ได้ทำนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา
“ครับ ผมเป็นพยานได้” ไรอันออกปากปกป้องเธอ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“แล้วสิ่งที่ฉันเห็นล่ะ เธอจะอธิบายอย่างไร มิสเตอร์ครัม” มาดามพินซ์ตอบเสียงเรียบ ซึ่งคำพูดของเธอนั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอเชื่อคำโกหกของซิลเวียไปเรียบร้อยแล้ว
“มันเป็นอุบัติเหตุครับ” ไรอันพยายามจะอธิบาย
“พอได้แล้วมิสเตอร์ครัม ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น และจากที่ฉันเห็นฉันคิดว่ามิสเกรนเจอร์เป็นฝ่ายผิด” มาดามพินซ์พูด
“แต่..”
“ไม่มีคำว่าแต่มิสเกรนเจอร์” มาดามพินซ์มองหน้าเธอด้วยสายตาราวกับว่าเธอเพิ่งทำผิดอย่างร้ายแรงมา “หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนนโทษฐานก่อความวุ่นวายในห้องสมุดและฉันจำเป็นต้องกักบริเวณเธอ มิสเกรนเจอร์” เธอพูด
“พรุ่งนี้ทุ่มตรงมาหาฉันที่ห้องสมุด แล้วฉันคิดว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างวันนี้อีกนะ” พอมาดามพินซ์พูด
“เอาล่ะ แล้วฉันขอเชิญพวกเธอออกไปจากตรงนี้ก่อนนะ เพราะฉันจำเป็นต้องจัดเรียงหนังสือใหม่” และเมื่อเธอพูดจนจบเฮอร์ไมโอนี่ก็แทบจะวิ่งออกไปทันทีที่สิ้นเสียงของมาดามพินซ์ เธอไม่ต้องการทนอยู่ใกล้ ๆ ซิลเวียอีกต่อไป เพราะถ้าหากเธอทำอย่างนั้นบ้านกริฟฟินดอร์อาจจะเสียคะแนนเพิ่มเนื่องจากเธอร่ายคำสาปใส่ซิลเวียเข้า
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดอารมณ์ออกมากับไรอันเมื่อเธอเดินออกมาจากห้องสมุดแล้ว
“เธอก็รู้นี่ ฉันหมายถึงเธอก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน “ฉันไม่คิดเลยว่ายัยนั่นจะชั่วร้ายแบบนี้” และอีกสารพัดที่เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา เธอด่าว่าซิลเวียต่าง ๆ นานา ส่วนไรอันนั้นก็ยืนพังเธอโดยที่ไม่พูดอะไรเลย
“ไม่ยุติธรรมเลย” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนออกมาในตอนท้ายและเธอก็เหลือบไปเห็นไรอันที่ฟังเธออยู่อย่างเงียบ ๆ เฮอร์ไมโอนี่เลยเริ่มรู้สึกว่าเธอทำไม่ถูกที่มาระบายอารมณ์กับไรอัน
“เอ่อ ฉันขอโทษ ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกัก เธอไม่น่าทำอย่างนี้เลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ว่าคุณหรอก” ไรอันตอบด้วยไปหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับของเขา “แต่ผมเห็นใจคุณมากกว่า” เขาตบท้ายส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นนิ่งเงียบ
“คุณจะปล่อยไว้อย่างนี้เหรอครับ” ไรอันถามเธอ “ผมหมายถึงเรื่อง…” แต่ไม่ต้องให้เจาพูดเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าไรอันจะพูดถึงอะไร
“ฉันเองก็ไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงเศร้า เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำอย่างไรดี ทั้งเรื่องครอบครัวมัลฟอย และเรื่องซิลเวีย ดูเหมือนตอนนี้จะมีเรื่องต่าง ๆ มาให้เธอได้ปวดหัวได้ไม่เว้นแต่ละวัน
“ถ้าคุณมีเรื่องกลุ้มใจอะไร หรือมีอะไรที่คุณไม่สบายใจก็บอกผมได้นะครับ” ไรอันพูด มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็เข้าใจมันดี
“ทำไมเธอถึงดีกับฉันนัก” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา “ฉันหมายถึง เธอคอยเป็นห่วงฉันและยังช่วยฉันตั้งหลายเรื่องอีก”
“นั่นก็เพราะ…” ไรอันจะพูดอะไรออกมา เฮอร์ไมโอนี่มองตาเขา แต่ก็ดูเหมือนกับว่าเขาเลือกที่จะเก็บสิ่งที่เขาจะพูดไว้ในใจมากกว่า
“ไม่มีอะไรครับ” เขาตอบยิ้ม ๆ “ผมว่าเรากลับกันดีกว่า เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”
“อืม” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า และทั้งสองก็เดินไปตามระเบียงทางเดินมุ่งสู่หอกริฟฟินดอร์
TBC
No comments:
Post a Comment