Recommended sources of dramione fictions:
1. Tumblr: dramioneasks
2. Fanfiction: www.fanfiction.net
3. Hawthorn & Vine: http://dramione.org/

My recommended and favourited story so far: Isolation by Bex-chan
Contact me: pprraawwll@gmail.com
Line: Prawlnapa

Thursday, September 11, 2014

Part I เมืองบนฟ้า: Chap 2



“ขอบใจแต่ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการเรื่องนี้เองได้ อีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่อยู่แล้วนี่
 ฟังจากเสียงที่โวยวาย ไปล่ะ” พูดจบมัลฟอยก็เดินตรงไปยังประตูแต่เฮอร์ไมโอนี่ขวางเขาไว้

“ฉันไม่ให้นายไปไหนทั้งนั้น ฉันหมายความว่า ถ้านายจะไปนายต้องกลับมาที่นี่ก่อนอาหารเย็น
 ไม่งั้นนายจะทำให้ฉันเดือดร้อน” เฮอร์ไมโอนี่เพราะเธอรู้ว่าถ้าเธอขัดคำสั่งพ่อจะเป็นยังไง

“ทำไมล่ะ แต่ฉันชอบเห็นเธอเดือดร้อนนะ ยัยเลือดสีโคลนขี้โวยวาย ฉันไปล่ะ”

แต่เฮอร์ไมโอนี่เร็วกว่าเธอล็อกประตูไว้เรียบร้อย และถือกุญแจไว้ในมือที่โบกไปมา สีหน้าเคร่งเครียด

มัลฟอยเห็นดังนั้น เขาก็หัวเราะไม่หยุด

“ฮ่า ฮ่า เกรนเจอร์ เธอนี่ตลกชะมัด” มัลฟอยพูดแต่ยังหัวเราะไม่หยุด 
ให้ตายสิ เธอโวยวายแทบตายใส่โทรศัพท์นั่น  เพราะไม่อยากให้ฉันอยู่ แต่เธอกลับทำอะไรที่ตรงกันข้าม ฮ่า ฮ่า สงสัยเธอจะเป็นคนปากไม่ตรงกับใจแน่เลย”

“หัวเราะไปเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินไปเรียกครุกแชงค์ แมวขนสีส้มของเธอ 
“ครุกแชงค์ กินข้าวได้แล้ว” 
ไม่ต้องพูดอะไรมาก เจ้าแมวขนส้มมีหางเป็นพวง ก็ไปรออยู่ที่จานอาหารของมันเรียบร้อย หลังจากให้อาหารครุกแชงค์ไม่นาน เธอก็วิ่งวุ่นไปทั่วบ้านหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคา

ตุบ! ตึง! ตึง! โครม!

“ยัยเกรนเจอร์นี่ทำอะไรเสียงดังโครมครามไปทั่วบ้านเนี่ย” มัลฟอยที่นั่งดูโทรทัศน์อย่างเบื่อหน่ายพูดกับตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านบน

ตึง! ตุบ! ตุบ! โครม! เสียงนี้ดังขึ้นอีกครั้งจนทำให้เขาอดกลั้นความอยากรู้อย่างเห็นไม่ไหว
จึงลุกเดินขึ้นไปชั้นบน มองเห็นบันไดพับทำจากไม้ทอดลงมาจากประตูห้องใต้หลังคาที่อยู่ด้านบนเหนือศีรษะของเขา แต่ก่อนที่เขาจะก้าวขาขึ้นไป ลูกบอลกลมไม่เล็กและไม่ใหญ่กระเด้งผ่านประตูที่เปิดทิ้งไว้ มันตกลงบนหัวของเขาพอดี

“โอ๊ย” เขาร้องเบาๆ ก้มเก็บลูกบอลนั่น แล้วปีนบันไดขึ้นไป เกือบชนเข้ากับใบหน้าของเด็กสาวที่ก้มหน้าลงมามอง

“นายขึ้นมาทำอะไรน่ะ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“ขึ้นมาดูว่ายักษ์ที่ไหนกำลังจะพังบ้านตุ๊กตาหลังนี้” เขาตอบแล้วโยนลูกบอลให้เธอ “แล้วนี่เธอกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”

“แล้วนายคิดว่าฉันทำอะไรอยู่ล่ะ ถ้าไม่ใช่จัดเก็บของพวกนี้” เธอตอบด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ในขณะที่มัลฟอย มองไปรอบๆ ลังกล่องกระดาษต่างๆจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ยกเว้นของที่ถูกรื้อไว้ซึ่งกองรวมกันอยู่กลางห้อง รอให้เฮอร์ไมโอนี่เก็บลงกล่อง

เด็กหนุ่มหยิบอัลบัมรูปขึ้นมาเปิดดู มันเป็นอัลบัมที่เก็บรูปถ่ายเมื่อเยาว์วัยของเฮอร์ไมโอนี่ 

“นี่รูปเธอหรือ” เขาถาม เขาเคยเห็นใบหน้าของเด็กหญิงในรูปนี้จากที่ไหนมาก่อนแน่ๆ

“ใช่ แล้วถ้านายไม่ว่าอะไรช่วยลงไปนั่งดูโทรทัศน์ต่อด้วย” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แล้วคว้าอัลบัมนั่นไปจากมือ เขากำลังจะเปิดไปหน้าที่สองอยู่เชียว 

“โธ่ ทำอย่างกับฉันอยากขึ้นมาอยู่บนนี้นักนี่” เขาว่าก่อนลงบันไดไป แต่ไม่รู้ทำไมเขาอยากจะดูอัลบัมนั่นต่อซะจริง

จากนั้นไม่นานงานของเฮอร์ไมโอนี่ก็เสร็จ เธอกลับมาที่ห้องนั่งเล่นแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมเตรียมออกจากบ้าน

“จะไปไหนน่ะ เกรนเจอร์” เสียงของมัลฟอยดังขึ้น

“ไปหาอะไรกิน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

“ไม่คิดจะชวนกันมั่งหรือไง” เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบแต่ดูจากสีหน้าแล้ว “เอาน่าฉันไม่ทำให้เธอเดือดร้อนหรอก”

“สัญญานะ นายต้องกลับมาให้พ่อฉันเห็นหน้า”

“เออ ฉัน..สัญญา”


ทั้งสองไปทานอาหารที่ร้านอาหารใกล้ๆบ้าน ซึ่งแถวนั้นก็มีอยู่หลายร้านจึงทำให้ทั้งสองต้องถกเถียงกัน

“ไม่ ฉันไม่ไปร้านนั้น มันแพงไป” เฮอร์ไมโอนี่ค้านขึ้น

“แพงไปหรือว่าเธอไม่มีเงินจ่าย”

“ก็ฉันไม่ได้เอาเงินมามากขนาดนั้นนี่ พวกชอบใช้จ่ายเกินกว่าเหตุ”

“แล้วจะทำไม ก็ฉันอยากจะกินร้านนี้นี่ หรือว่าเธอคงรู้ตัวว่า เลือดสีโคลนอย่างเธอไม่เหมาะกับร้านอาหารหรูๆ”

“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนนาย แล้วนายน่ะรู้จักคิด รู้จักประหยัดบ้างมั้ย”

“นี่เธอหาว่าฉันไม่รู้จักคิดงั้นหรือ” ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าอารมณ์ของทั้งสองเป็นอย่างไร

“ก็แล้วแต่จะคิด”

“ดี ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน ฉันก็จะไม่กลับเจอหน้าพ่อเธอเย็นนี้หรอก ว่าไงจะไปมั้ย” มัลฟอยงัดไม้นี้ขึ้นมาใช้ เพราะเขาใช้เงินของมักเกิลไม่ค่อยถูกนี่ ไม่งั้นเขาคงจะไปตามทางของเขาไม่พ่วงเฮอร์ไมโอนี่มาด้วยหรอก 

“ฉัน…” เฮอร์ไมโอนี่กำลังครุ่นคิด เธอจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงดี เงินก็เอามาไม่พอ และต้องลากมัลฟอย 
กลับบ้านไปให้พ่อเธอเห็นหน้าอีก เธอคิดอยู่นาน จนมัลฟอยต้องจูงมือเธอเดินเข้าไป

แต่นั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าเธอเคยจับมือกับใครคนหนึ่ง... แต่ราวกับคนๆนั้นเลือนหายไปในความทรงจำที่เธอนึกไม่ออกซะที..ใครกันนะ

“ปล่อยนะ นายไม่ต้องลากฉันเข้าก็ได้นี่ ฉันเดินเองได้ ปล่อยสิ” เธอกลับมาออกมาจากความคิดแล้วเริ่มบ่น แต่เขายังไม่ปล่อยเธอ จนกระทั่งมาหยุดที่โต๊ะมุมหนึ่ง และรอพนักงานที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะอยู่ 
“นี่นายจะปล่อยมือฉันได้รึยัง”

เขายกมือของเธอแล้วมองดูอยู่ครู่ก่อนจะปล่อยอย่างไม่ใส่ใจพอดีกับที่พนักงานคนนั้นเดินจากไป ทั้งสองนั่งลง แล้วเลือกรายการอาหาร ไม่สิ เฉพาะมัลฟอยที่เลือกรายการอาหาร ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ไม่แม้แต่จะมองรายการอาหารเลย มัลฟอยมองเห็นท่าทางของเธอ

“ไม่หิวรึไง”

“ถ้าฉันไม่หิว ฉันจะออกมาข้างนอกทำไม”

“อ้อ จริงสิฉันลืมไป เธอ เลือดสีโคลน ไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารในร้านนี้ ช่ายยย” 
น้ำเสียงเยาะหยันลอยผ่านหูเข้าไปในโสตประสาทของเฮอร์ไมโอนี่

เธอจ้องเขาอย่างเหลืออด แล้วคว้ามีดที่วางไว้บนโต๊ะ ตั้งท่าจะเขวี้ยงใส่เขา

“เออๆ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเธอก็ได้”

“ขอบใจมากย่ะ ไว้กลับบ้านแล้วฉันจะคืน” เธอกล่าวแล้ววางมีดไว้ที่เดิม

หลังจากทานอาหารเสร็จ มัลฟอยซึ่งใช้จ่ายเงินของมักเกิ้ลไม่ค่อยถูกจึงให้เฮอร์ไมโอนี่ช่วย
 หลังจากที่เธอแก้ตัวกับพนักงานว่า เขาสอบตกวิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่อายุ สิบเอ็ด และนั่นก็ทำให้มัลฟอยไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก เมื่อออกจากร้านอาหาร เฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องพยายามลากมัลฟอยไปซุปเปอร์มาเก็ต
 แต่ระยะทางที่เธอลากเขามานั้นห่างจากร้านอาหารไม่กี่คืบเอง

“เธอจะไปที่นั่นทำไม” มัลฟอยถาม พลางรั้งเฮอร์ไมโอนี่ไว้ด้วย 

“ฉันต้องซื้อของไปเตรียมอาหารเย็น ให้พ่อกับแม่ แล้วนายจะช่วยเดินดีๆได้มั้ย นี่ฉันเหนื่อยนะที่ต้องลากนายเนี่ย”

“เธอก็หยุดลากก่อนสิ ไม่กลัวใครมาเห็นรึไง”

“ใครจะมาเห็น จะเห็นไม่เห็น ฉันไม่สนหรอกน่า เร็วสิอย่าถ่วงเวลาน่า”

“ไม่สนแม้กระทั่ง พอตเตอร์กับวีสลีย์นะหรือ”

“ถ้านายจะสนก็เรื่องของนาย ไปได้แล้ว”

“โอเค ก็ได้ แต่ฉันว่าฉันเห็นสองคนนั่นแวบๆนะ อ้อนั่นไง เฮ้ พอตเตอร์ วีสลีย์”

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดทำให้เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองตามซึ่งเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ ถึงแม้ว่าเธอก็รู้ๆอยู่ว่าไม่มีทางเป็นไปได้

“นายอย่ามาล้อเล่นหน่อยเลย มัลฟอย” เธอว่าแล้วหันกลับมามองไปด้านหลังของเขา และเธอก็พบใครบางคนที่ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก ใครคนนั้นไม่ใช่แฮร์รี่และรอนแน่

“เป็นอะไรไป เกรนเจอร์” มัลฟอยถาม แล้วหันไปมองตามสายตาของเด็กสาว แล้วเขาก็เห็น กลุ่มของเด็กหนุ่มสามคนที่กำลังเดินมาทางเขา

“เรารีบไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วฉุดเขาเดินต่อ จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ปราศจากผู้คนเดินพลุกพล่าน

“ไง ไง จะไม่ทักทายกันหน่อยหรือ สาวน้อย” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง “ไม่ได้เจอกันนานนะ”

“ใครเขาอยากเจอพวกนายกันล่ะ” มัลฟอยได้ยินเฮอร์ไมโอนี่พึมพำ แต่ทั้งสองก็ยังไม่หยุดเดิน

จนกระทั่งหนึ่งในชายทั้งสามวิ่งมาขวางทางไว้ ทั้งสองจึงหยุดเดิน

“แย่จริงๆนะ ไม่ทักทายคนรู้จักนี่น่ะ” ชายคนเดิมพูด “อ้อ ฉันเห็นว่าเธอควงหนุ่มไปกินมื้อเที่ยงในร้านอาหารสุดหรูนั่นด้วยนี่”

“เขาไม่ใช่..มันไม่เกี่ยวกับนายซักหน่อย” เฮอร์ไมโอนี่ตอบแล้วปล่อยมือออกจากแขนของมัลฟอยที่คิ้วขมวดเข้าหากัน

 นี่มันเรื่องอะไรกันนะ

“นายเป็นใคร” มัลฟอยถามขึ้น เขาไม่ชอบหน้าเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะอายุเท่าเขาเลยแม้แต่นิด

“ถามแม่หวานใจของนายดูสิ” เขาตอบ

“นายต้องการอะไร ปาวโล” เฮอร์ไมโอนี่ถาม ซึ่งคำตอบที่เธอได้รับคือแขนที่พันผ้าพันแผลเอาไว้

“อย่าเวอร์ไปหน่อยเลย นั่นมันอุบัติเหตุ และมันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว”

“ใช่ แต่มันเป็นเครื่องช่วยจำของฉัน เพื่อที่จะได้ทำสิ่งที่ค้างคาให้เสร็จสิ้น” ชายที่ชื่อปาวโลตอบ 
แล้วชายที่เหลือสองคนก็ล้อมรอบทั้งสองไว้ และหนึ่งในสองสองคว้ามีดพับออกมาควงพักหนึ่งแล้วโยน
ให้ปาวโลไปควงต่อ

“ฉันไม่คิดว่า เขาจะปกป้องเธอได้หรอกนะ” ปาวโลพยักเพยิดไปทางมัลฟอย

“เฮอะ ใช่ว่าจะปกป้องไม่ได้ แต่ไม่อยากจะปกป้องมากกว่า” เฮอร์ไมโอนี่คิด

“หมายความว่าไง” มัลฟอยพูดท่าทางเอาเรื่อง จ้องหน้าปาวโลที่หยุดมีดเขม็ง 
“ยังไงก็แล้วแต่ ฉันไม่ให้นายทำอะไรยัยนี่แน่”

“นี่เขาพูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่คิด 

“งั้นหรือ งั้นก็เข้ามาเลยพ่อคนขี้ขลาด” ปาวโลพูด

แต่ต้องหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อเห็นว่ามัลฟอยล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม เธอรู้ว่าเขาจะหยิบอะไร ไม้กายสิทธิ์.. 

“เฮ้ นายจะใช้มันไม่ได้นะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ “นายลืมแล้วรึไง ห้ามใช้เวทมนต์ต่อหน้ามักเกิ้ล”

“แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง” มัลฟอยตอบ แต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบจากเฮอร์ไมโอนี่ 
เพราะปาวโลพุ่งตัวมาที่เธอโดยไม่ทันตั้งตัว มัลฟอยผลักเธอออกไป แต่กลับโดนคมมีดแทน ที่บริเวณต้นแขน

“มัลฟอย นายเป็นอะไรรึป่าว” เฮอร์ไมโอนี่ถาม จะเข้ามาหาเขาแต่มือที่ถือมีดของปาวโลชี้มาที่เฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งแล้วพุ่งเข้าหาเธอ แต่เธอหลบได้ เธอหมุนตัวมายืนข้างปาวโลและหันหลังให้เขามือของเธอจับมือของเขาไว้แล้วบิดอย่างแรง ทำให้มีดหลุดจากมือของเขา

“ร้ายนักนะเธอ” เขาพูดด้วยความเแค้น แล้วตรงเข้าล๊อกคอเธอจากด้านหลัง

“ปล่อยฉันนะ” เธอร้อง 

“ปล่อยเธอซะ” มัลฟอยพูดเสียงแหบ มือกุมแผลที่โดนบาดไว้ แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นร่างของปาวโลล้มลงกระแทกพื้น ส่วนเพื่อนอีกสองคนของเขานั้นหายไปแทบในทันที

“เลิกยุ่งกับฉันซะที” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้ววิ่งไปหามัลฟอยที่ยืนอ้าปากค้าง

“ไปเถอะน่า” เธอว่าแล้วฉุดเขาเดิน เธอพาเขากลับไปที่บ้าน 




“นี่มันเรื่องอะไรกันเกรนเจอร์” มัลฟอยถามขณะที่เธอทำแผลให้เขา “พวกนั้นมันเป็นใคร”

“ก็คนแถวนี้แหละ” เธอตอบ

“แล้วเธอไปมีเรื่องอะไรกับพวกมัน”

“มันเป็นอุบัติเหตุ คือฉันหมายความว่า พวกนั้นก็มาหาเรื่องฉัน เหมือนครั้งนี้ และเหมือนที่นายเคยทำกับพวกฉันที่ฮอกวอตส์นั่นแหละ”

“แล้วไง” มัลฟอยพูดขึ้นหลังจากเงียบไปพัก

“แล้วแบบว่า เกิดอุบัตเหตุมีดลอยไปเฉือนเนื้อ..คือฉันจะเขวี้ยงมีดจากมือเจ้าของทิ้งแม่ดันเฉียดไปโดน
 ปาวโลเข้าน่ะ..” เธอพูด “เสร็จแล้ว นายนอนพักก่อนก็ได้ ฉันจะออกไปซื้อของ”

“แล้วเธอจับเจ้านั่นทุ่มลงกับพื้นได้ยังไงล่ะ” เขาถามต่อ เฮอร์ไมโอนี่โบกมือเขาแล้วใส่เสื้อคลุม 
“เฮ้ แล้วถ้าเจอเธอพวกนั้นอีกล่ะ”

แต่เฮอร์ไมโอนี่ปิดประตูเสียงดังแทนคำตอบ

œ š . . . . . . 

“มื้อเย็นฉันต้องกินอาหารฝีมือเธอเนี่ยนะ”มัลฟอยถามขณะตามเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาในห้องครัว
 ที่บัดนี้เต็มไปด้วยเครื่องมือ เครื่องปรุงต่างๆ

“คงงั้น”

“จะกินได้มั๊ยเนี่ย”

“ฉันไม่ได้ขอนายกิน แต่ฉันขอให้นายอยู่”

“นั่นไม่ได้บังคับฉันเลย เกรนเจอร์” มัลฟอยประชด พูดจบเขาก็ออกไปดูโทรทัศน์
 เขานั่งลงข้างครุกแชงค์ที่กำลังจ้องมาที่เขา

เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจัดโต๊ะอาหาร เธอก็เหลือบเห็นมัลฟอยกำลังผูกมิตรกับครุกแชงค์
 มันเป็นภาพที่แปลกสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยผู้มีสายเลือดอันบริสุทธิ์กำลังนั่งคุยกับแมว 
กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูกเขาพร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะจากเฮอร์ไมโอนี่ เขาก็เลยพูดกับครุกแชงค์ว่า

“ไม่ยักรู้ว่านายแกทำอาหารกลิ่นหอมน่าทาน”

“เมี้ยว”

“แต่ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นยังไง”

“ครุกแชงค์จัดการ” เฮอร์ไมโอนี่สั่ง

ครุกแชงค์กระโดดลงมาอยู่ข้างเท้าของมัลฟอยก่อนที่จะใช้หางของมันจั๊กจี้ฝ่าเท้าของเจ้าของขาคู่นั้น

“ไม่เอาน่า นั่นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” มัลฟอยพูดปนหัวเราะ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็เริ่มรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา “เธอนี่ชอบเล่นอะไรปัญญาอ่อน”

“ชั้นไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ” แล้วเฮอร์ไมโอนี่สั่งด้วยเสียงที่ร้ายกว่าเดิม “ครุกแชงค์แผนสอง”

ครุกแชงค์กระโดดขึ้นมานั่งบนตักของมัลฟอย แล้วใช้หางพวงสีส้มปัดไปมาบนใบหน้าอันซีดเซียวที่เริ่มจะมีเลือดฝาด  และนั่นทำให้เขาจามไม่หยุด

“โอ้ ตายจริงฉันลืมอาบน้ำให้ครุกแชงค์หลังจากที่มันขึ้นไปทำความสะอาดบนหัวตู้เก็บของที่เต็มไปด้วยฝุ่น  แน่ละมันใช้หางทำความสะอาด”

“ฮัดเช้ย”เขาจามและผลักเจ้าแมวนั่นออกไป แต่มันก็ยังจะเข้าไปหาเขาอีก “ฮัดเช้ย”

“อา พอแล้วครุกแชงค์ ดีมากเลย มานี่มา เราไปอาบน้ำกันดีกว่า” แล้วเธอก็อุ้มครุกแชงค์และหายไป

“ฮัดเช้ย!! เฮ้อ” มัลฟอยทำเสียงไม่พอใจ


TBC

No comments:

Post a Comment